หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ดุลการค้าเดือนก.ค. ขาดดุลลดลงเหลือแค่ 85 ล้านดอลลาร์
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 22, 2005 11:17 am
โดย tummeng
'สมคิด' เผย ดุลการค้าเดือนก.ค. ขาดดุลลดลงเหลือแค่ 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิด
เผยถึงตัวเลขดุลการค้าของเดือนก.ค. 2548 ว่า อยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้น ซึ่งเดือนนี้ตัวเลขดุลการ
ค้าขาดดุลเหลือเพียง 85 ล้านเหรียญสหรัฐ จากในช่วงเดือนพ.ค.- มิ.ย. ที่ขาดดุลถึง 1.7 และ
1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ นายสมคิด กล่าวว่า ดุลการค้าเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยได้สั่งให้ 3 กรมหลัก
ของกระทรวงพาณิชย์ คือ กรมการค้าต่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก และกรมเจรจาการค้า
ระหว่างประเทศ จากนี้ต้องร่วมกันทำงาน โดยเฉพาะดูแลในเรื่องการส่งออกและนำเข้า พร้อมกับ
กำชับให้ทั้ง 3 กรม เข้าพบปะภาคเอกชนมากขึ้น
ดุลการค้าเดือนก.ค. ขาดดุลลดลงเหลือแค่ 85 ล้านดอลลาร์
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 22, 2005 11:17 am
โดย tummeng
'สมคิด' เผย ก.ค. ส่งออกมีมูลค่ากว่า 9.5 พันล้านดอลล์ โต 18% นำเข้า 9.60 พันล้านดอลล์ โต 20%
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
พาณิชย์
ดุลการค้าเดือนก.ค. ขาดดุลลดลงเหลือแค่ 85 ล้านดอลลาร์
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 22, 2005 12:25 pm
โดย คัดท้าย
ถือเป็นข่าวดีมากๆครับ ... เพราะว่าช่วงเดือน พฤษภาคม เห็นเลขขาดดุลแล้วสะดุ้งเลยครับ กค ทำได้ขนาดนี้ ถือว่าเก่งมาก
ดุลการค้าเดือนก.ค. ขาดดุลลดลงเหลือแค่ 85 ล้านดอลลาร์
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 22, 2005 12:29 pm
โดย tom
:mrgreen:
ดุลการค้าเดือนก.ค. ขาดดุลลดลงเหลือแค่ 85 ล้านดอลลาร์
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 22, 2005 12:35 pm
โดย CK
ข่าวดีครับ แต่ยังวางใจไม่ได้ครับ
ดูเหมือนที่ พ.ค.-มิ.ย. นำเข้าสูงมาก คล้ายกับเป็นการสต๊อคสินค้าล่วงหน้า
(พวกโลหะกับน้ำมันดิบ) ส่วนก.ค.ที่ลดลง อาจจะเป็นเพราะยอดการสั่งซื้อ
ในประเทศชะลอตัวลง ประกอบกับมาตรการคุมเข้มการนำเข้า ทำให้มีการ
ใช้สต๊อคเก่ามากกว่า
ต้องดูเดือน ส.ค. กับ ก.ย. ว่า สามารถกลับมาเป็นบวกได้หรือไม่ ถ้าได้
ปลายปีนี้คงไม่แย่อย่างที่คาด
เอาใจช่วยท่านสมคิดครับ
ดุลการค้าเดือนก.ค. ขาดดุลลดลงเหลือแค่ 85 ล้านดอลลาร์
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 22, 2005 1:37 pm
โดย nanchan
ไม่รู้กลุ่มไหนส่งออกมาขึ้นครับ
ถ้าลองเดา
น่าจะเกษตร ยานยนต์ อิเล็คโทรนิคส์ รึเปล่า
ดุลการค้าเดือนก.ค. ขาดดุลลดลงเหลือแค่ 85 ล้านดอลลาร์
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 22, 2005 1:56 pm
โดย CK
น่าจะเป็นตามนั้นนะครับ ท่านนัน
ดุลการค้าเดือนก.ค. ขาดดุลลดลงเหลือแค่ 85 ล้านดอลลาร์
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 22, 2005 2:31 pm
โดย tummeng
ไทยขาดดุลการค้าเดือนก.ค.84ล้านดอลลาร์ พาณิชย์บอกมาตรการแจ๋ว
22 สิงหาคม 2548 14:01 น.
พาณิชย์เผยตัวเลขดุลการค้าเดือนก.ค. ลดฮวบเหลือเพียง 84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดุลการค้า 7 เดือนแรกของปีนี้ ขาดดุล 8,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมส่งเสริมการส่งออก กรมการค้าต่างประเทศ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน เพื่อหารือถึงการจัดทำยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2548 ว่า ได้มอบหมายให้นายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ประชุมจัดทำแผนดังกล่าวใน 3 หน่วยงาน ของกระทรวงพาณิชย์ก่อน และภายในเดือนตุลาคมนี้ เมื่อแผนยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศครึ่งปีหลังมีความสมบูรณ์แล้ว จะประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แผนดังกล่าวมีความชัดเจนและเดินหน้าได้อย่างเต็มที่
จากการที่ภาครัฐได้ร่วมกับภาคเอกชนดูแลดุลการค้าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ปรากฏว่า ตัวเลขการส่งออกและนำเข้าเดือนกรกฎาคม มีตัวเลขที่น่าพอใจ จากการที่ประเทศไทยขาดดุลการค้าในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ โดยเฉลี่ยต่อเดือน 1,300-1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่หลังจากภาครัฐใช้มาตรการดูแลการนำเข้าสินค้าอย่างมีระบบ ทำให้ดุลการค้าเดือนกรกฎาคม ขาดดุลเพียง 84.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงอย่างน่าพอใจและดีมาก
โดยตัวเลขการส่งออกเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ 9,520.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีอัตราการเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 18% ส่วนการนำเข้าเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ 9,604.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัว 20% ทำให้ดุลการค้าเฉพาะเดือนกรกฎาคม ขาดดุล 84.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนการส่งออกช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่า 61,348.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.7% ขณะที่การนำเข้าช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ 69,587 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 30.2% ทำให้ดุลการค้าช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ขาดดุล 8,232 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะพยายามทำให้ดุลการค้าขาดดุลน้อยกว่าประเมินไว้ที่ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องดุลการค้ายังต้องให้กรมการค้าต่างประเทศที่ดูนโยบายการนำเข้ามีการติดตามเพื่อให้
ดุลการค้าไม่ติดลบและเกิดความสมดุล ซึ่งขณะนี้หากดูตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนกรกฎาคม น่าจะเป็นบวกเกิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ต้องขอดูตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดชัดเจนที่จะมีการประกาศในเร็ว ๆ นี้อีกครั้ง ซึ่งโดยส่วนตัวรู้สึกพอใจกับตัวเลขดุลการค้าเดือนกรกฎาคม ที่ลดลงจากที่เคยติดลบในเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน ถึง 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่เดือนกรกฎาคม ดุลการค้าติดลบเพียง 84.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าน้อย จึงจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ดุลการค้ามีความสมดุล และเกินดุลในอนาคตให้ได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
นายสมคิด กล่าวด้วยว่า จากการที่ได้รับความร่วมมือของกลุ่มผู้ประกอบการ เช่น กลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิง กลุ่มสินค้าเหล็กและทองคำ ให้นำเข้าสินค้าดังกล่าวตามความจำเป็น โดยไม่ให้มีการเก็งกำไร ในเดือนกรกฎาคม ตัวเลขกลุ่มสินค้าน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงถึง 20% น้ำมันดิบมีสัดส่วนลดลง 22% เหล็กลดลง 16% จึงเชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกันทำงานและช่วยกันผลักดันการส่งออก ตัวเลขที่ตั้งเป้าหมายในปีนี้ว่าจะส่งออกขยายตัวให้ได้ 20% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 117,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะทำได้อย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน จากการหารือกับนายกรัฐมนตรี ได้กำหนดแผนเชิญนักธุรกิจรายใหญ่จากต่างประเทศ เช่น กลุ่มยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ มาหารือกัน เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศให้มากขึ้น
ด้านนางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า ตามแผนยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศในช่วงครึ่งปีหลังที่ได้มีการหารือร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบรายใหญ่ คาดว่าตัวเลขส่งออก 5 เดือน หลังจากนี้ จะส่งออกได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหากเฉลี่ยต่อเดือนก็น่าจะเกิน 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และหากดูตลาดหลัก เช่น ตลาดสหรัฐ กรมฯ มีการตั้งเป้าหมายว่าจะส่งออกได้ 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยช่วง 7 เดือนแรกปีนี้ สามารถส่งออกได้ 9,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดสหภาพยุโรป (อียู) ตั้งเป้าจะส่งออก 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่สามารถส่งออกได้แล้ว 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดออสเตรเลียตั้งเป้าส่งออก 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ส่งออกได้แล้ว 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดอินเดีย ตั้งเป้าไว้กว่า 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งออกได้ 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงเชื่อมั่นว่าจากแนวทางและมาตรการตามแผนยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศครึ่งปีหลัง จะทำให้การส่งออกของไทยในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานนโยบายการนำเข้า กล่าวว่า การนำเข้าสินค้าในช่วงเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา มีมูลค่าลดลง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเหล็ก น้ำมัน ซึ่งจากการหารือร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการสินค้าเหล็ก น้ำมันเชื้อเพลิงและทองคำในช่วงที่ผ่านมา โดยกำหนดว่าในส่วนของน้ำมันควรนำเข้าเฉลี่ย 850,000 บาร์เรลต่อวัน ส่วนทองคำเฉลี่ยต่อเดือนนำเข้า 6-7 ตันต่อเดือน และเหล็กนำเข้าเฉลี่ยต่อเดือน 1.3 ล้านตัน ซึ่งในส่วนของเหล็กและน้ำมันลดลงอย่างชัดเจน
โดยกลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง 20% และเหล็กลดลง 16% ยกเว้นทองคำ ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น 56% คิดเป็นมูลค่า 84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะต้องดูเหตุผลว่าการนำเข้าทองคำสูงขึ้นเพราะอะไร โดยสัปดาห์นี้ จะเชิญผู้ประกอบการทองคำมาหารือเพื่อดูสาเหตุที่แท้จริงต่อไป อย่างไรก็ตาม ตามคาดการณ์เฉลี่ยการนำเข้าทั้งปีในแต่ละกลุ่มสินค้า กลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิง คาดว่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 59% สินค้าทุนขยายตัว 24%
กลุ่มสินค้าวัสดุขยายตัว 20% อุปกรณ์ขยายตัว 10% ยานพาหนะและชิ้นส่วนขยายตัว 10% ทำให้ตัวเลขประมาณการนำเข้าทั้งปี จะอยู่ที่ 119,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทำให้ไทยขาดดุลการค้า 2,500-3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่เชื่อว่าจากมาตรการขอความร่วมมือผู้นำเข้าและการติดตามความเคลื่อนไหวของการนำเข้าสินค้าแต่ละรายการ จะทำให้ดุลการค้าทั้งปีไม่ขาดดุลมาก
ดุลการค้าเดือนก.ค. ขาดดุลลดลงเหลือแค่ 85 ล้านดอลลาร์
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 22, 2005 3:10 pm
โดย nanchan
ไม่ว่าจะกลุ่มไหนขยายตัว
ทางกระผม ก็ต้องกล่าวขอบพระคุณ
ลูกค้าที่มีอุปการะคุณทุกท่านที่ใช้บริการะนะครับ
ในนามผู้ถือหุ้นรายย่อยคนหนึ่ง :lovl:
ดุลการค้าเดือนก.ค. ขาดดุลลดลงเหลือแค่ 85 ล้านดอลลาร์
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 22, 2005 8:41 pm
โดย chatchai
ตัวเลขดุลการค้าช่วงเดือน พ.ค. ถึง ก.ค. คงเปรียบเทียบอะไรมากไม่ได้ครับ
เพราะตัวเลขนำเข้าน้ำมันดิบนั้น มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกครับ ทำให้ตัวเลขผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง
จากในอดีต เวลานำเข้าน้ำมันดิบจะบันทึกเมื่อมีการแจ้ง ซึ่งผู้นำเข้าจะแจ้งช้ากว่าเวลานำเข้าจริงประมาณ 1 เดือน
เช่นถ้านำเข้ามาเดือน มี.ค. แต่ยังไม่มีการนำออกมาใช้ก็ยังไม่แจ้ง ซึ่งเวลานำมาใช้จะเป็นเดือน เม.ย. ดังนั้นตัวเลขก็จะช้าไป 1 เดือน
แต่เมื่อในช่วงเดือน พ.ค. และ มิ.ย. มีการปรับวิธีการแจ้งยอดใหม่ คือแจ้งเมื่อมีการนำเข้าจริง
ดังนั้นยอดตัวเลขของเดือน พ.ค. จะมีทั้งยอดนำเข้าจากเดือน เม.ย. แต่ยังไม่แจ้ง และยอดนำเข้าใหม่ของเดือน พ.ค. อีก
ซึ่งก็กระทบตัวเลขในเดือน มิ.ย. ลักษณะเดียวกัน
ทำให้ยอดนำเข้าน้ำมันดิบสูงกว่าความเป็นจริง ซึ่งก็ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อไปยังดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัด
พอเดือน ก.ค. ซึ่งมีการปรับตัวเลขเข้าที่แล้ว ตัวเลขนำเข้าน้ำมันดิบก็จะมีแต่ยอดของเดือน ก.ค. เท่านั้น
เมื่อเปรียบเทียบตัวเลขนำเข้าน้ำมันดิบ ก.ค. กับ มิ.ย. จึงดูลดลงมากกว่าความเป็นจริง
ดุลการค้าเดือนก.ค. ขาดดุลลดลงเหลือแค่ 85 ล้านดอลลาร์
โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 23, 2005 11:47 pm
โดย miracle
สังเกตว่า ดุลบริการ เพิ่มขึ้น เป็น +แล้ว
ดุลการค้า - แต่ลบน้อย
แต่ไม่กล่าวถึงอีกตัวอ่ะ
ดุลการลงทุนอ่ะ
ดุลบัญชีเดินสะพัดมันมีสามตัวไม่ใช่หรือ
แล้วไม่ยอมกล่าวถึงตัวสุดท้ายได้ไงล่ะ
ดุลการค้าเดือนก.ค. ขาดดุลลดลงเหลือแค่ 85 ล้านดอลลาร์
โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 23, 2005 11:53 pm
โดย ปรัชญา
ผมเห็นว่าเพียงลดข่าวร้าย
แต่ยังไม่เห็นข่าวดี
เรื่องบ/ช