Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

หลายท่านคงได้ยินข่าวเรื่องขาซิ่งส่งจดหมายถึงรมต.พัฒนาฯกันมาแล้วบ้าง ซึ่งโดนวิจารณ์เป็นอย่างมาก คิดกันยังไงบ้างครับ แต่สำหรับผมมีมุมมองในมุมกลับนะ

ประเด็นคือ การที่จะให้พวกขาซิ่งไปทำอย่างอื่น บอกได้เลยยากมากๆ แต่ผมกำลังมองว่าไหนๆไอ้พวกขาซิ่งมันชอบซิ่งทำไมไม่ให้พวกนี้เอาดีสุดๆทางด้านนี้ไปเลย ถ้าอ่านถึงแค่นี้หลายคงคงเริ่มด่าผมแล้วละว่าบ้า ใช่ครับ ถ้าให้ซิ่งกันบนทางหลวงแล้วเดือดร้อนชาวบ้านอันนี้ไม่ดีแน่ แต่เราทำอย่างไรละให้มีสถานที่สำหรับแข่ง แต่มีข้อแม้ว่า พวกนี้ต้องเข้าอบรมหลักสูตรอย่างใดอย่างนึงดังนี้ 1.การขับรถสำหรับแข่งขัน 2.เทคนิกการพัฒนาและซ่อมบำรุงรถ คือง่ายๆแต่ละแก็งต้องเข้ามาแข่งขันเป็นทีมโดยต้องประกอบไปด้วยนักแข่งและช่างเทคนิก เพื่อให้การแข่งขันมีกฎ กติกา และมารยาทที่ชัดเจน
มาถึงตรงนี้หลายคนก็คงบ่นอุบในใจว่า แล้วการสนับสนุนแบบนี้ประเทศชาติจะได้อะไร ประเด็นนี้จะมาโยงสู่การเป็น Detroit of Asia ก่อนจะเข้าสู่ประเด็นต่อไป ผมว่าหลายๆท่านน่าจะรู้จัก Brabus, Lorense,r Prodive, AMG, ฯลฯ สำหรับท่านที่ไม่รู้จักชื่อเหล่านี้ผมจะบอกให้ว่ามันคือสำนักแต่งรถ อย่างเจ้า AMG ผู้ที่ทำให้รถเบนซ์จากราคาล้านเป็นหลักสิบล้าน ซึ่งสำนักเหล่านี้ไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากนำรถมาดัดแปลงให้แรงขึ้นแล้วแปะโลโก้ใหม่

ซึ่งประเด็นที่ว่าเจ้าขาซิ่งขาโจ๋ทั้งหลายมันจะมาเกี่ยวข้องกับการเป็น Detroit of Asia ได้อย่างไร ผมกำลังจะบอกว่าการเป็นDOAคือการเป็นแค่OEMของรถประเทศอื่นๆ หรือการพัฒนายานยนต์แห่งชาติขึ้น หากเรามองในเชิงยุทธศาสตร์แล้ว การพัฒนารถแห่งชาติให้ได้รับการยอมรับจากตลาดจะเริ่มจากการเป็นรถประป๋อง หรือเริ่มจากการเป็นสำนักแต่งจะได้รับการยอมรับจากตลาดมากกว่า อย่างHondaที่ก้าวมาผงาดในตลาดยานยนต์ได้ก็เพราะส่งรถเข้าแข่งขันมิใช่หรือ และจริงๆแล้วระบบต่างๆสมัยใหม่ไม่ว่าจะเป็น ABS FSI ECE Supercharger Turbo และ โลหะวิทยาต่างๆ ล้วนเป็นเทคนิคที่ได้จากสนามแข่งทั้งสิ้น

ลองจินตนาการดูซิครับถ้าขาโจ๋พวกนี้ได้รับการmanageอย่างถูกที่ถูกทางและเป็นระบบ พวกนี้แหละครับจะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างประเทศไทยให้เป็น Detroit of Asia อย่างแท้จริง แล้วประเทศไทยจะไม่เป็นเพียงฐานOEMของอุตสาหกรรมยานยนต์อีกต่อไป

หมายเหตุข้างบนนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว  

คนมีสมอง ไม่เอาชีวิตมาเสี่ยงบนถนน

แค่ขับขี่ธรรมดาก็อันตรายพอแล้ว

อย่าเอางบประมาณไปส่งพวกนี้เลย เสียดาย

ความเห็นส่วนตัวครับ

โดยธรรมชาติเมื่อวัยรุ่นมีโอกาสได้มั่วสุมกันนั่นคือ บ่อเกิดของอาชญากรรม

ขอเสนอให้เอกชน สร้างสนามแข่งรถแบบมาตรฐาน
ในกลางทุ่งไกลบ้านคน แต่ใกล้ตัวเมือง ทุกจังหวัด

ให้เด็กวัยรุ่นที่ชอบความเร็ว ชอบความหวาดเสียว
ได้ไประบายออก ได้ไปแสดงออกโชว์ความสามารถ กันทุกคน
จัดแข็งขันทัวนาเมนทั้งปี ให้พวกวัยรุ่นนักซิ่ง ชิงชนะเลิศทั่วประเทศ
ประเทศเราอาจได้สร้างนักแข่งรถ ระดับโลก แชมเปียนโลก ก็ได้นะ  :lol:

ความคิดไม่เลวเลยพี่ยีน

ขอเสนอให้เอกชน สร้างสนามแข่งรถแบบมาตรฐาน
ในกลางทุ่งไกลบ้านคน แต่ใกล้ตัวเมือง ทุกจังหวัด

ให้เด็กวัยรุ่นที่ชอบความเร็ว ชอบความหวาดเสียว
ได้ไประบายออก ได้ไปแสดงออกโชว์ความสามารถ กันทุกคน
จัดแข็งขันทัวนาเมนทั้งปี ให้พวกวัยรุ่นนักซิ่ง ชิงชนะเลิศทั่วประเทศ
ประเทศเราอาจได้สร้างนักแข่งรถ ระดับโลก แชมเปียนโลก ก็ได้นะ  

   :roll:  :roll: เห็นด้วยน่ะครับ  เราควรจะจัดสร้างสนามให้เขาได้แสดงออกในทางที่ถูก  แม้จะเป็นแก้ปัญหาได้บางส่วนก้อตาม ไม่มีทางแก้ได้หมดสิ้นหรอก ส่งเสริมให้เป็นมอเตอสปอร์ตอย่างในต่างประเทศมีสนามแข่งมาตราฐานมากมายให้ใช้ ไม่ใช่จะสร้างสนามก้อบอกสิ้นเปลือง กีดกันทุกทาง ยิ่งปิดกั้นเค้ามากเท่าไร  เหมือนยิ่งยุ ได้แต่พูดให้ดูดี ว่าให้ไปแก้ที่ ครอบครัว ที่ต้นเหตุนาๆๆประการ ใครไปแก้ได้บ้างอยากรู้ ควรจะไปปลูกฝังกะเด็กรุ่นหลังไปเพิ่มเติมมากกว่าจะไปเปลี่ยนแปลง   แต่การใช้ถนนไม่ควรเท่าไร

แล้วแน่ใจหรือครับว่า "พวกเค้า" จะไปแข่งในสนามที่สร้างให้ และลดการซิ่งตามท้องถนนลงได้?

บนถนนหลวงก็คงมีบ้าง ก็ปราบกันไปตามกฎหมาย ให้ขับตามกฏจารจร

แต่มีสนามให้ประลองความเร็ว ก็จะช่วยลดแรงดันของพลังหนุ่ม
ให้เด็กรุ่นได้ระบายพลังหนุ่ม
ไม่มีที่ให้เขาระบายออกเป็นที่เป็นทาง
เขาก็ไประบายเปลอะไปหมดไม่เลือกที่

เหมือนไม่มีส้วม ไม่มีโถฉี่ ให้ฉี่ มันก็ฉี่ไม่เป็นที่เป็นทาง
จะไปห้ามคนไม่ให้ฉี่ก็ไม่ได้

ทำอย่างท่าน genie บอกก็ไม่ใช่จะถูกๆ
รัฐต้องทุมเงินลงไปหลายล้านในด้านบริหารและอุปกรณ์ เพราะนักซิ่งพวกนี้ใช่ว่าจะรวยทุกคน (ส่วนใหญ่จน)
และเมื่อได้เงินไปก็ใช่ว่าจะรับผิดชอบกันได้ (เอาไปกินเหล้าหมด)
ความยาวของสนามอย่างต่ำก็1กิโล(ระยะปกติ) ในกรุงเทพหาไม่ใช่ง่ายๆ
และต้องสร้างหลายๆสนามไม่ใช่ 1-2 สนามก็พอ (ต้องมีความหลากหลาย จะไม่น่าเบื่อ)
ส่วนเรื่องความปลอดภัยนักซิ่งพวกนี้คิดเป็นอันดับสุดท้ายครับ
(ง่ายๆเช่นหมวกกันน็อก ใครใส่แปลว่าปอดแหก)
แล้วเวลาที่ไปกลับสนามใครเล่าจะแบกอุปกรณ์ไปกลับ ก็ต้องเปลี่ยนที่บ้านมาทั้งนั้น ฉะนั้นเวลาไปเวลากลับเสียงดังรบกวนชาวบ้านอยู่ดี

ส่วนเรื่องพลังหนุ่ม ที่ท่านครรชิต ว่ามา
ผมว่าไม่จำเป็นต้องระบายด้วยวิธีนี้ครับ
ยังมีอีกหลายทางเลือกที่ดีกว่านี้
แล้วถ้าไม่ระบายล่ะจะได้ไหม มีจิตยับยั้งชั่งใจน่าจะดีกว่าน่ะผมว่า

ของอย่างนี้มันบอกยาก

แต่ผมมองว่า เอาเงิน เอาสมอง ไปทำให้คนดี คนเก่ง ได้รับโอกาสดีกว่า เอาเงิน เอาสมอง ไปทำให้กับคนเฮงซวยพวกนี้

ตอนนี้คนล้นโลก ทำลายทรัพยากรโลกกันมากมาย ตายๆกันไปได้ก็ดีนะ ธรรมชาติเริ่มจะเอาคืนแล้ว ไม่รู้ตัวรึงัย  :evil:

ผมเห็นด้วยนะ คนเหล่านี้น่าจะได้รับการพัฒนา เอาความสามารถมาใช้ในทางที่ถูกที่ควร มีการคัดเลือก พาไปแข่งให้เป็นที่เป็นทาง ไปถึงระดับโลกก็เป็นการสร้างชื่อเสียงได้ อย่างที่คุณครรชิตบอก

แต่ผมไม่ชอบเลยที่รัฐลืมคนเก่งด้านอื่น ๆ ไป ทำไมต้องไปโอ๋พวกทำผิดกฎหมาย ไม่เข้าใจ
เวลาคนพวกนี้ซิ่งกัน มันอันตรายต่อคนอื่น ๆ
และมันหนวกหูด้วย นอนอยู่ดี ๆ ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะเสียงเครื่องยนต์มันกรีดหู เฮ้อ

ในจังหวัดผมเค้ามีสนามแข่งให้ใช้ฟรี แต่ก็ยังมีพวกนี้ซิ่งแข่งตามท้องถนน
ไม่เห็นต้องโอ๋เลย น่าเบื่อจริง ๆ

ปล. จำชื่อนกม.ต้นเหตุเรื่องนี้ไม่ได้ แต่ก็ดี ไม่อยากจำ  :mrgreen:
คนอะไรก็ไม่รู้

[quote="ครรชิต ไพศาล"]ขอเสนอให้เอกชน สร้างสนามแข่งรถแบบมาตรฐาน
ในกลางทุ่งไกลบ้านคน แต่ใกล้ตัวเมือง ทุกจังหวัด

ให้เด็กวัยรุ่นที่ชอบความเร็ว ชอบความหวาดเสียว
ได้ไประบายออก ได้ไปแสดงออกโชว์ความสามารถ กันทุกคน
จัดแข็งขันทัวนาเมนทั้งปี ให้พวกวัยรุ่นนักซิ่ง ชิงชนะเลิศทั่วประเทศ
ประเทศเราอาจได้สร้างนักแข่งรถ ระดับโลก แชมเปียนโลก ก็ได้นะ

ถึงสร้างสนามแข่งก็ไม่มีคนมาแข่งมากนักหรอกครับ

พวกที่แข่งส่วนมากมักคิดว่าเท่ห์  เพราะเย้ยตำรวจได้  ทำผิดกฎหมายได้

สิ่งเหล่านี้  คงเป็นเพราะช่วงหนึ่งมักจะมีหนังฮ่องกงที่พระเอกเป็นนักเลงแก๊งซิ่งนะครับ

วัยรุ่นบ้านเรามันเลยคิดว่าเท่ห์  อยากเป็นแบบพระเอกในเรื่อง

ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายภาพยนต์คิดแต่รายได้และกำไร  ไม่เคยคิดถึงผลกระทบต่อสังคมเลย

หนังฮ่องกงมีแต่เรื่องเกี่ยวกับนักเลง  เป็ฯเซียนพนันบ้าง  เซียนหุ้นบ้าง  แก๊งนักซิ่ง  เจ้ายาเสพติด  ค้าของเถื่อน  มีแต่อยาบมุขและความรุนแรง

[quote="chatchai"]ถึงสร้างสนามแข่งก็ไม่มีคนมาแข่งมากนักหรอกครับ

พวกที่แข่งส่วนมากมักคิดว่าเท่ห์

[quote]
สิ่งเหล่านี้

[quote="harry"]ตอนนี้คนล้นโลก ทำลายทรัพยากรโลกกันมากมาย ตายๆกันไปได้ก็ดีนะ ธรรมชาติเริ่มจะเอาคืนแล้ว ไม่รู้ตัวรึงัย

ถ้ามองประเด็นในเชิงงบประมาณ ถามว่าจำเป็นมั๊ยที่ต้องใช้งบประเทศ รัฐทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพหรือผู้ดำเนินการก็พอ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายต้องดึงจากสปอนเซ่อร์สิครับ โดยมุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาด้านAutosportและวิทยาการด้านยานยนต์ และในขณะเดียวกันกฎหมายก็ต้องแข็งและเข้มงวดยิ่งขึ้น ในเมื่อจัดสรรแล้วยังก่อเรื่องไอ้แบบนี้ต้องจัดการแบบเด็ดขาด สำหรับงบลงทุนในเชิงสถานที่ ในกรุงเทพและบริเวณโดยรอบตัดทิ้งได้เลยครับ เพราะเป็นเขตชุมชน เว้นแต่ เขตที่ไม่รู้จักหลับนอนเช่นเมืองพัทยา จัดเป็นการแข่งขันเหมือนในต่างประเทศซะ มีการกั้นรั้วและให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ในด้านการอบรม เราเองมี รยสท ซิ่งจัดการแข่งขันอยู่ประจำ ทำไมรัฐไม่ดึงมาเป็นแนวร่วมละครับ สำหรับในเชิงการสิ้นเปลืองพลังงานเราต้องคิดในลักษณะmultiplierหรือได้ลบเสีย จริงอยู่อาจสิ้นเปลืองพลังงานเพิ่มขึ้นแต่คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่สร้างโอกาสในเชิงพัฒนาวิทยาการทางยานยนต์ของชาติ การที่สร้างทางเลือกในเยาวชนบางส่วนที่สังคมปฏิเสธ(ซึ่งจริงๆแล้วถ้ามีทางเลือกที่จะทำให้เขาเหล่านั้นได้รับการยอมรับจากสังคมทำไมจะไม่ทำ ยิ่งถ้าอ่านในเนื้อหาจดหมายที่ส่งถึงรัฐมนตรีดีๆ จะเห็นได้ว่ามีความตั้งใจบางอย่างที่จะทำให้อยู่ร่วมกับสังคมได้ เช่น การลดเสียง และพยายามเลือกสถานที่ที่"คิดว่า"ไกลชุมชน แต่อาจจะอ่อนในเรื่องการนำเสนอและข้อมูลสนับสนุน) หากบวกลบคูณหารดูแล้วก็น่าจะเห็นภาพนะครับ ว่าสร้างDOAกับประหยัดพลังงาน มันเป็นเรื่องที่ต้อง Trade-off อยู่แล้ว "ของฟรีไม่มีในโลก"

หมายเหตุเป็นความคิดเห็นส่วนตัว

[quote="harry"]ของอย่างนี้มันบอกยาก

แต่ผมมองว่า เอาเงิน เอาสมอง ไปทำให้คนดี คนเก่ง ได้รับโอกาสดีกว่า เอาเงิน เอาสมอง ไปทำให้กับคนเฮงซวยพวกนี้

ตอนนี้คนล้นโลก ทำลายทรัพยากรโลกกันมากมาย ตายๆกันไปได้ก็ดีนะ ธรรมชาติเริ่มจะเอาคืนแล้ว ไม่รู้ตัวรึงัย

เอาเงินไปช่วยคนยากจนดีกว่า
ถ้าเป็นผมจะสั่งให้ตำรวจตรวจเข้มเข้าไปอีก สนใหนมีแข่งย้ายหัวหน้าสน.นั้นเลย

จะให้ขอทานสักบาท ยังต้องดูหน้าตาท่าทางว่าน่าสงสาร

จะให้ทุนการศึกษา นักศึกษา ยังต้องมีสัมภาษณ์

จะสร้างสนามแข่งใหญ่โต จะส่งไปอบรมให้เป็น DOA ...ให้พวกซิ่งกวนเมือง

ท่านที่อยากสนับสนุน ท่านรู้จักพวกนี้กี่คนครับ ถึงอยากจะไปส่งเสริมพวกนั้น

ลองคุยกับคนจริงๆดูก่อน ก่อนจะไปคิดเรื่องสนับสนุน อาจจะเปลี่ยนความคิดครับ

ท่าน genie ขาซิ่งเค้ายื่นข้อเสนอให้ทำในกรุงเทพหรือใกล้เคียงน่ะครับ
ที่พัทยามีสนามแข่ง แต่ไม่ไปเพราะกลัวโดนสิบล้อเหยีบบ + ค่าน้ำมัน + เสียเวลา

ถ้ามองประเด็นในเชิงงบประมาณ ถามว่าจำเป็นมั๊ยที่ต้องใช้งบประเทศ รัฐทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพหรือผู้ดำเนินการก็พอ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายต้องดึงจากสปอนเซ่อร์สิครับ

ก็น่าสนนะ ให้เอกชนลงทุน รัฐไม่ต้องควักเงินจ่าย วางกฎ-ความปลอดภัย ไม่มีการเดิมพัน-การพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง
แต่กิจกรรมที่มีกฎมีกรอบแบบนี้ คงไม่น่าสนใจสำหรับนักบิดข้างถนน

ผมคิดว่า พวกนี้เขาไม่สนหรอกนะ ที่จะให้เลิกบิดบนท้องถนนไปบิดในสนาม
ที่มีกฎ มีกรอบ ไร้ความรุนแรง ไร้ซึ่งการเดิมพัน-การพนัน

P' Chatchai wrote

คงเป็นเพราะช่วงหนึ่งมักจะมีหนังฮ่องกงที่พระเอกเป็นนักเลงแก๊งซิ่งนะครับ

วัยรุ่นบ้านเรามันเลยคิดว่าเท่ห์  อยากเป็นแบบพระเอกในเรื่อง

ใช่เลยพี่ ภาพพี่หลิว ในเรื่องผู้หญิงข้าฯ ยังติดตา
พานางเอกไปแต่งงาน แอบขี่รถหนี ขี่ไปเลือดออกจมูกไป เท่ห์ซ้า

สำหรับเรื่องนี้ ผมฟังครูยุ่นในรายการ ถึงลูกถึงคนของคุณสรยุทธ์
ครูยุ่นพูดก็มีประเด็น แกว่ามีหลายคนหลายกลุ่มที่แกคลุกคลี
แล้วก็เปลี่ยนพฤติกรรม ไปเล่นดนตรี เล่นฟุตบอล ก็มี
แกว่า เด็กเหล่านี้ บางส่วน (น่าจะส่วนมาก) ก็เป็น เหยื่อความเหงา ความคะนองตามวัย
แต่สังคมไม่ค่อยมีทางออกอื่นๆให้เลือก

ผมเห็นด้วยนะ
ผมอยากเตะบอลที หาสนามกันแทบตาย ขนาดสนามเช่าก็ได้นะ
2-3 ปีหลังนี่เริ่มดีหน่อย มีคนทำสนามเยอะขึ้น แม้หลายๆที่จะแพงทีเดียว บางที่ นัดละ 5000

ยิ่งเรื่องดนตรี ศิลปะ ละครเวที พวกนี้ยิ่งหายาก
สมัยก่อน เพื่อนผมบ้าดนตรี จะตั้งวงๆ ก็หลายคน
แล้วก็เห็นไปเช่าห้องซ้อมเล่นกันอยู่พักนึง แล้วก็เงียบ
มันเหมือนต้องคนสนใจ และสรรหาจริงๆ

ไม่เห็นเหมือนร้านเหล้า ร้านอ่างเลย มาหาถึงหน้าบ้าน
เพื่อนผม(น่าจะ)เป็น แชมป์ ไปก็หลายคน  :lovl:  :lovl:

หนังฮ่องกงมีแต่เรื่องเกี่ยวกับนักเลง  เป็ฯเซียนพนันบ้าง  เซียนหุ้นบ้าง  แก๊งนักซิ่ง  เจ้ายาเสพติด  ค้าของเถื่อน  มีแต่อยาบมุขและความรุนแรง

ดูกันหรือยังครับ หนังเรื่องเจ้าพ่อตลาดหุ้นนะครับ ถ่ายทำที่ประเทศไทยด้วยนะ
ตอนที่เงินบาทโดนถล่มอะ

พวกแกงซิ่งนี่ส่วนใหญ่ไม่มีเงินหรอกครับ เรืองสนามแข่งเลิกไปเลย
เพราะชุดแข่งตก 30000 กว่าบาท ยังมีหมวกกันนอกแบบ แข่งขันอีกครับ
เด็กๆ พวกนี้ไม่มีตังจ่ายหรอก

ถ้าเขาอยากแข่งจริงทำไมไม่แข่ง ที่ลานปากช้าละคับ  แถวนั้นเงียบเกินไป