หน้า 1 จากทั้งหมด 1
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 31, 2005 3:24 pm
โดย thaistock2005
ส่วนตัวผมเท่าที่รุ้นะ
น้ำมันใช้และหมดไปถ้าใช้ในจำนวนนี้ 40 ปีก็หมด
เพราะฉะนั้นจึงคิดว่าถ้าเป็นนไปตามอุปสงอุปทานปกติ
ก็คือของที่จะขายมันจะน้อย ลงเรื่อย ๆ
ราคาจึงตอนนี้จึงอาจทรงตัวในระดับสูงไปเรือย ๆ
แต่ถ้ามองทางด้านผู้ประกอบการ
เมื่อเห็นตรงจุดนี้
ก็ต้องมองหาทางเลือกอื่น ๆ
ที่มันจะช่วยลดต้นทุน
ส่วนตัวผมตอนนี้คิดว่าน้ำมันอาจจะทรงตัวในระดับสูงต่อไป
เพราะตอนนี้ยังหาทางเลือกอื่น ๆ อยู่
้ถ้าเจอเราก็คงจะไปใช้ทางเลือกใหม่
เพราะยังไงซะน้ำมันก็ต้องหมดจากโลกไปอยู่ดี
ส่วนตัวผมก็เลย ลุ้น ๆ อยู่ว่าต่อไปนี้เราจะใช้อะไรแทนน้ำมัน
เพราะคนเราเชื่อว่าเราบินได้เราก็บินได้แม้จะไม่มีปีกเหมือนนก
เราดำน้ำได้มากกว่าปลาทั้งที่ไม่มีเหงือก
ผมเชื่อว่าตอนนี้คนเริ่มคิดแล้วว่าจะต้องมีพลังงานอื่น ที่ถูกกว่าน้ำมัน
และผมเชื่อว่าคนเราก็ต้องทำได้ แต่จะใช้เวลาเท่าไหร่ เราไม่รู้
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 31, 2005 3:28 pm
โดย Oatarm
FORBS บอกว่าปีหน้า 35 ดอล/บาร์เรล ดู econ9 เมื่อวาน
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 31, 2005 3:33 pm
โดย CK
40 ปีนี่ เฉพาะหลุมที่มีปัจจุบัน และคิดอัตราการเติบโตเศรษฐกิจโลกคงที่
แต่ในความเป็นจริง น้ำมันแพงเกินไป เศรษฐกิจโลกก็จะโตช้าลง
และจะมีการสำรวจและขุดหลุมใหม่ เพิ่ม reserve ขึ้นในอนาคตอันใกล้
แต่อาจจะไม่ใกล้มาก
แถมยังมีแหล่งพลังงานทดแทนอื่น ที่จะผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด
และสำคัญสุด คือทรายน้ำมันในแคนาดา ซึ่งที่ราคา $80/บาเรล
จะเป็นทางออกที่น่าสนใจมาก
reserve ของ tar sand ใน ontario ยังมากกว่า reserve รวมของน้ำมัน
ทั้งโลกด้วยซ้ำ
คาดกันว่า ถ้าเทคโนโลยีพัฒนาไปมากๆ อาจจะสามารถผลิตน้ำมันดิบ
จาก tar sand ในแคนาดาได้กว่า 200 ปี
ส่วนปีหน้า น้ำมัน $35 ก็ฟังหูไว้หู อาจจะจริงก็ได้ แต่ไม่ใช่เรื่องแน่นอน
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 31, 2005 3:42 pm
โดย woody
เมื่อวานดู CNBC เค้าบอกว่ามีบริษัทสามารถกลั่นน้ำมันจากถ่านหินได้ด้วยต้นทุน 35 US$/barrel ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 31, 2005 7:10 pm
โดย naris
โอ้.พระเจ้าจอร์ต แล้วมีข้อจำกัดอะไรเหรอคุณบิ๊ก ทำไมไม่ผลิตเลยหล่ะ
หรือกลัวน้ำมันจะต่ำกว่า35เหรียญ
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 31, 2005 9:56 pm
โดย woody
คุณ Big??? ฮิฮิ พี่ naris ติดใจพี่ Big หรือครับ ...อืมผมว่าก็คงเริ่มกระตุ้นให้เกิดการลงทุนกันบ้างแล้วหล่ะครับที่ผ่านมาคิดว่าไม่คุ้มกันแต่พอราคาน้ำมันสูงขนาดนี้มันก็เย้ายวนพอสมควร อย่างไรก็ตามคงต้องดูทางเทคนิคอีกทีว่าจะใช้แทนกันได้ 100% เลยหรือไม่
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 31, 2005 10:08 pm
โดย CK
อืมม์ น่าสนใจมากครับ ไปลอง search หาใน google ดู
มีอย่างน้อยสองวิธีที่ทำได้แล้ว คือ Fischer-Tropsch Technology
กับของที่ Brian Schweitzer ดัดแปลง
ต้นทุนก็ดูเหมือนจะถูกจริงๆ ครับ พูดกันถึง 15 - 25 เหรียญสรอ.เอง
ของ Sasol ทำได้ตั้งแต่ปี 1955 แล้ว ส่วนของ Schweitzer ซึ่งดัดแปลง
มาจากเทคนิกของ Nazi เหมือนกันเพิ่งจะเริ่มไม่นานมานี้
แล้วข้อจำกัดมันอยู่ไหนนะ
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 31, 2005 10:08 pm
โดย naris
โทษทีคุณwoodyดูไปดูมาตามันลาย
แบบว่าเริ่มแก่แล้ว โหสิ.โหสิ.
:lovl:
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 31, 2005 10:13 pm
โดย CK
ได้ข่าวว่าจีนจ้าง Sasol ตั้งโรงงานผลิตน้ำมันสังเคราะห์จากถ่านหินไปสองโรงงาน
ลงทุนไปตั้งหกพันล้านเหรียญในปีที่แล้ว ไม่รู้ว่าเป็นไงบ้าง
ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ สามารถเอาถ่านหินไปสังเคราะห์เป็นแก๊สธรรมชาติก็ได้
หรือจะสังเคราะห์เป็นไฮโดรเจนสำหรับ Fuel Cell ก็ยังได้
น่าสนใจมากเลย
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 31, 2005 10:16 pm
โดย woody
CK เขียน:ได้ข่าวว่าจีนจ้าง Sasol ตั้งโรงงานผลิตน้ำมันสังเคราะห์จากถ่านหินไปสองโรงงาน
ลงทุนไปตั้งหกพันล้านเหรียญในปีที่แล้ว ไม่รู้ว่าเป็นไงบ้าง
ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ สามารถเอาถ่านหินไปสังเคราะห์เป็นแก๊สธรรมชาติก็ได้
หรือจะสังเคราะห์เป็นไฮโดรเจนสำหรับ Fuel Cell ก็ยังได้
น่าสนใจมากเลย
อ่านหนังสือจากเรื่อง The oil factor การทำดังกล่าวสามารถทำได้ครับ แค่ขอให้มันคุ้มค่าก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาในการลงทุน ยิ่งราคาน้ำมันสูงๆ อย่างนี้ เสียดายประเทศไทยไม่มีหุ้นที่มีเทคโนโลยีแบบนี้ไม่งั้นจะได้ศึกษาหน่อยว่าทำอย่างไร
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 31, 2005 10:38 pm
โดย CK
ไลเซ้นส์มาได้ครับ woody บริษัท Sasol เขารับจ้างตั้งโรงงานผลิตได้
แต่ไทยไม่มีแหล่งถ่านหินเป็นของตัวเองครับ ทำไปก็ขาดทุนเปล่าๆ
แต่ผมรู้แล้วล่ะครับ ว่าทำไมเกิดยาก
1. ค่าใช้จ่ายในการตั้งโรงงานสูงมาก ของ Sasol เองก็ผลิตได้เพียง
150,000 barel ต่อวันเท่านั้นเอง
ส่วนของจีน สองโรงรวมกัน จะผลิตได้ประมาณ 440 ล้านบาเรล/ปี
ก็ 1 ล้านกว่าๆ บาเรลต่อวันทีเดียว แต่ลงทุนครั้งแรกก็ 6 พันล้านเหรียญแล้ว
ส่วนต้นทุนการผลิตคือราวๆ $20 ต่อบาเรล ในขณะที่ต้นทุนการเจาะน้ำมัน
อยู่ที่ $5 ต่อบาเรล
แปลว่าถ้าราคาน้ำมันดิบร่วงต่ำกว่า $20 ต่อบาเรลเมื่อไหร่ โรงงานนี่จะ
ขาดทุนมหาศาลเลย
2. ต้องแข่งกับการ extract น้ำมันจาก tar sands ซึ่งปริมาณ reserve
สูงถึง 250,000 ล้านบาเรล ณ ตอนนี้ และต้นทุนการผลิตก็ต่ำกว่า $20 ด้วย
ซึ่งดูๆ ไป ประเทศที่จะทำได้ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. มีแหล่งถ่านหินมหาศาลในประเทศ
2. นำเข้าน้ำมันเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
3. มีเงินลงทุนมหาศาล
4. สามารถควบคุมราคาน้ำมันในประเทศตัวเองได้
(คือยอมใช้น้ำมันแพง ถ้าราคาน้ำมันในตลาดโลก
ลดต่ำกว่า $25/barel)
ซึ่งดูๆ ไป ก็มีแต่จีนกับสหรัฐฯเท่านั้น ที่เข้าข่ายนี้
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2005 7:54 am
โดย โป้ง
คุณ CK น้ำมันจาก tar sands เมื่อสกัดออกมาแล้วมีคุณภาพแบบเดียวกับน้ำมันดิบหรือเปล่า ครับ
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2005 9:35 am
โดย woody
เหมือนได้ยินว่ามีมลภาวะมากกว่านะครับ แต่ว่าไม่รู้มีเทคโนโลยีที่จะมาช่วยจัดการในส่วนนี้หรือยัง
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2005 9:41 am
โดย CK
คุณภาพสุดท้ายหลังจากสกัดแล้วคงไม่ต่างกันครับ
แต่ปริมาณน้ำมันที่สกัดได้จาก tar sands (recovery rate) ยังไม่สูงมากนัก
ทำให้ oil reserve ใน Canada ยังถือว่าน้อยอยู่ครับ
แต่ก็เป็นรองเพียงซาอุดิอารเบียเพียงประเทศเดียวในโลก
ถ้า recover ได้มากขึ้น Canada อาจจะขยับขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกครับ
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2005 3:00 pm
โดย thaistock2005
ความเห็นผมนะ
จริง ๆ คนดันราคาน้ำมันขึ้นไปสูงตอนนี้ก็กลัว
เพราะถ้าฟันธงมาเลยว่าน้ำมันแพงแน่ ๆ
คนจะมองหาทางเลือกอื่น ๆ
ง่าย ๆ รถโดยสารประจำทางหันมาใช้ ngv
พอเปลี่ยนระบบไปแล้วก็ต้องใช้ ngv ต่อไป
ไม่ใช้น้ำมันแล้ว เพราะเปลี่ยนระบบทีเสียตังเยอะเหมือนกัน
ก็เลยต้องใช้วิธีนี้ ให้ความหวังว่าน้ำมันอาจจะลง
เพื่อกั๊กให้คนลังเลที่จะเปลี่ยน
แต่เมื่อทุกวันนี้กลายเป็นว่า ทน ๆ ใช้ไปก่อน
ก็ปั่นขึ้นต่อไปได้เพราะคนยังจำเป็นต้องใช้
แต่ในความคิดผมนะถ้าทรงตัวระดับสูงไปเรื่อย ๆ
ถ้าผมเป็นผู้ประกอบการรถโดยสาร ผมก็คงต้องหันมาใช้ก๊าซ ngv
แต่เมื่อหันมาใช้ก๊าซแล้วก็คงไม่กลับมาใช้น้ำมัน
เพราะฉะนั้นความต้องการใช้ก็ลดลง
อุปสงค์น้ำมันส่วนนี้ก็ลดลงแน่
และต่อไปคนที่ซื้อรถคงใช้ระบบก๊าซแต่แรกเลย
อุปสงค์ก็จะลดลงอีก
ตอนนี้ส่วนตัวผมเป็นช่วงวัดใจมากกว่า
ถ้าน้ำมันเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จริง ๆ
ถ้าผมเป็นผู้ประกอบการ ย่อมต้องมองหาทางเลือก อื่น ๆ
ถ้าเจอที่มีประสิทธิภาพ และราคาถูกกว่า
ก็คงต้องเปลี่ยนมาใช้อันนี้น สุดท้าย น้ำมันก็ต้องลงมาเอง
ก้คงต้องลุ้นกันครับว่าตอนนี้
จะมีอะไรมาให้เป็นทางเลือก เพื่อฉุดราคาน้ำมันลงมา
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2005 3:08 pm
โดย CK
ตอนนี้ในต่างประเทศ ต้นทุนแก๊ส NGV สูงกว่าต้นทุนน้ำมันเสียอีกครับ
เทียบกับที่ให้พลังงานเท่ากัน
มีประเทศไทยแหละครับ ที่ NGV ราคาถูกกว่าน้ำมัน
อาจจะเป็นเพราะเรามีหลุมแก๊สของตัวเอง เลยไม่อิงราคาตลาดโลก
ในความเป็นจริง NGV มีคุณค่ามากกว่าน้ำมันดิบมากนะครับ
เอามาเผาเป็นพลังงาน.... น่าเสียดายครับ
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2005 3:20 pm
โดย Knott
ในความเป็นจริง NGV มีคุณค่ามากกว่าน้ำมันดิบมากนะครับ
เอามาเผาเป็นพลังงาน.... น่าเสียดายครับ
มีอะไรที่น่าสนใจกว่าการเอามาใช้เป็นพลังงานบ้างหรือครับ :roll:
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2005 4:13 pm
โดย CK
วัตถุดิบต้นน้ำของ petro chemical products หลายตัวเลยครับ คุณ knott
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 02, 2005 3:30 pm
โดย thaistock2005
CK เขียน:ตอนนี้ในต่างประเทศ ต้นทุนแก๊ส NGV สูงกว่าต้นทุนน้ำมันเสียอีกครับ
เทียบกับที่ให้พลังงานเท่ากัน
มีประเทศไทยแหละครับ ที่ NGV ราคาถูกกว่าน้ำมัน
อาจจะเป็นเพราะเรามีหลุมแก๊สของตัวเอง เลยไม่อิงราคาตลาดโลก
ในความเป็นจริง NGV มีคุณค่ามากกว่าน้ำมันดิบมากนะครับ
เอามาเผาเป็นพลังงาน.... น่าเสียดายครับ
ต่างจิตต่างใจครับ
ผมไม่รู้ว่าถ้าเอา ngv ไปขายต่างประเทศขายได้ไหม
ถ้าขายได้ก็น่าจะเอาไปขาย แล้วเอามาซื้อน้ำมัน
ถ้ามันแพงกว่านะครับ
แต่ถ้ามันขายไม่ได้ ก็เอามาใช้น่าจะดีครับ
ดีกว่าเก็บไว้เฉย ๆ ในภาวะน้ำมันแพงกระฉูดขนาดนี้ครับ
ผมไม่รู้รายละเอียดมาก ออกความเห็นแบบคนนอกครับ
ส่วนตัวผมคิดว่า เรากำลังรอทางเลือกอื่นอยู่
เพราะยังไงซะนำมันก็ต้องหมดไปจากโลกอยู่ดี
ทางเลือกที่จะมีต้นทุนถูกกว่าน้ำมัน
เพราะเมื่อก่อนที่เราไม่สนใจเพราะน้ำมันมันถูก
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 02, 2005 10:55 pm
โดย Jeng
แก้ปลายเหตุกันทั้งนั้น
ทำไมไม่แก้ที่ต้นเหตุ
คือแก้ให้การเดินทางมันน้อยลงหละ
ไปได้ไกลขึ้นแต่เดินทางน้อยลง
อืม
ทำได้ไงนี่
ก็ผ่านเน็ตไง
เปิดคอมที่บ้านเหมือนไปห้องสมุดมารวย ประมาณนั้น โดยที่ตัวเราไม่ต้องไป
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 02, 2005 10:59 pm
โดย Jeng
อีกหน่อยก็รับทำบัญชี ผ่านเน็ต รายวัน รายเดือน ปิดงบดุล งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด จ่ายเงินสรรพากร ผ่านเน็ต จ่าย โอนเงินให้พนักงานผ่านเน็ต จะมีอะไรอีก อ๋อ ทวงเงินผ่านเน็ต โดยมีทนายความ รับผิดชอบ ใครไม่เปิดเน็ต รับการทวงเงิน ก็ให้ปิดกิจการไปเลย เป็นต้น
การเดินทาง
จะมีไว้เพื่อ สันทนาการ และความบันเทิงเท่านั้น เน้นใกล้บ้าน และไกลบ้านบางครั้ง
เราสูญเสียเงินทองมากมายกับการเดินทางเพื่อธุรกิจ
ผมเองรับสมัครพนักงาน จุดเน้นอันดับหนึ่ง ต้องใกล้สำนักงานครับ
ช่วยชาติ ประหยัดน้ำมัน
วันนี้ฝนตก พนักงาน ขับมอเตอร์ไซด์ ไปเก็บผ้า แล้วกลับออฟฟิต ในเวลา ไม่เกิน 10 นาที จริงๆ น่าจะ 5 นาที
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 02, 2005 11:08 pm
โดย Jeng
สมัยก่อน การจ่ายเงินพนักงาน วุ่นวายมาก
1. ไปถอนเงิน เอาเงินมานับ แล้วใส่ซอง พนักงานเดินทางมารับ ( กรณีที่อยู่ไกล )
2. ปัจจุบัน กดโอนเลย โดยไม่ต้องไปทำเรื่องขออนุญาติที่แบงค์ มีบัญชีอะไร ก็โอนได้ทั้งนั้น
พนักงานแบงค์ก็ลดลง พนักงานแบงค์เดินทางไปแบงค์ก็น้อยลง พนักงานที่จะมารับเงินเดือนก็น้อยลง สรุป ค่ารถ ค่าน้ำมันก็ลดลง
ชีวิตสุขสบายขึ้น มีเวลามากขึ้น
แบงค์ได้ค่าธรรมเนียม เพราะต้องลงทุนกับคอมพิวเตอร์
ผมคิดว่านี่แหละ คือทางประหยัดสุดๆ
สำหรับยุควิกฤตน้ำมัน
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 07, 2005 4:05 pm
โดย thaistock2005
เห็นด้วยนะครับเรื่องนี้
อย่างรถแท็กซี่ที่ต้องตะเวนหาผู้โดยสารสินเปลืองพลังเงานเท่าไหร่
ทำไมไม่จัดระบบให้มันดี
การจัดระบบต่าง ๆ ผมว่าก็น่าจะมีส่วนช่วยได้ครับ
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 08, 2005 5:26 am
โดย bigshow
ที่หุ้นน้ำมันรูดก็เพราะป๋าหรั่งสั่งถอยทัพกลับหลังหันให้หุ้นหมวดนี้หลซีครับท่านผู้ชม ค่ายCLSAหรือเครดิตลียองแนส์เจ้าเก่าออกบทวิจัยชี้ว่า ให้หลีกเลี่ยงการไล่ซื้อหุ้นในกลุ่มน้ำมัน รวมถึงกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์(ถ้าในตลาดหุ้นบ้านเราก็คือกลุ่มเคมีภัณฑ์และพลาสติก)ในตลาดหุ้นย่านภูมิภาคเอเชียได้แล้วโยม เนื่องจากว่าราคาน้ำมันดิบที่พุ่งทะยานมาทำสถิติสูงสุดเกินกว่า70ดอลลาร์ต่อบาร์เรลนั้น มีแววว่าจะตกหนักรุนแรงได้ภายในสิ้นปีนี้***
***สาเหตุที่ป๋าหรั่งเชื่อน้ำมนต์บทวิจัยของCLSAมากนั้นก็เพราะว่าพะยี่ห้อคนวิจัยชื่อนายคริสโตเฟอร์ วู้ด ซึ่งมีดีกรีเป็นนักวิเคราะห์การลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเบอร์1ซึ่งได้รับการโหวตจากผู้จัดการกองทุนสถาบันต่างชาติ โดยวู้ดฟันธงว่าราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะเกิดการตกปรับฐานครั้งใหญ่ก่อนสิ้นปีนี้ และมีสิทธิ์เปลี่ยนเป็นขาลง ฟันธงได้ว่ามีสิทธิ์ลงมาถึง40ดอลลาร์ต่อบาร์เรลฉะนั้นขอให้มีการขายช็อตเซลส์หุ้นน้ำมันและโภคภัณฑ์ออกมาซะดีกว่า***
***พอนักวิเคราะห์เบอร์1ของวงการออกมาฟันธงแล้ว บรรดาเดี่ยวมือสองก็แห่กันออกมาฟันธงไปในทางเดียวกันเดี๊ยะๆ ไม่ว่าจะเป็นค่ายโกลด์แมนซาคส์,เครดิตสวิสเฟิร์ส บอสตัน(CSFB) เป็นต้น***
***เดี่ยวมือ1ของวงการคือนายวู้ดกล่าวถึงตลาดหุ้นไทยแลนด์ว่า ถ้าราคาน้ำมันร่วงลงอย่างที่เขาฟันธง จะเกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจของไทยเป็นอย่างมากที่สุด เพราะที่ผ่านมาก็อ่วมที่สุดกับผลกระทบจากราคาน้ำมันแพง
เพื่อน ๆ คิดว่าราคาน้ำมันจะเป็นไงต่อ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 08, 2005 3:21 pm
โดย thaistock2005
เมื่อกี้อ่านข่าวเขาว่าร่วงต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์
แต่ถ้าถามผม ผมก็ว่า demand ก็ยังคงมีอยู่
ถ้าร่วงก็คงลงไปก็คงมี demand รับอยู่เหมือนกัน