หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 05, 2005 11:50 pm
โดย ManInBlack
หลังจากที่ข้าพเจ้าได้ศึกษาคัมภีร์ KKR และเฝ้าติดตาม search ผลงานของท่านผู้เฒ่าคลายเครียด หรือที่ใช้ฉายาอื่นใน Web board อื่น(ท่านผู้เฒ่าบอกเองว่าเสพติด Web board ) ใช้เวลาครุ่นคิด ค้นหา "เคล็ดวิชา"ของสำนัก Temple Boxing
          บัดนี้ข้าพเจ้าค้นพบความลับนั้นแล้ว

        ขออธิบายเพิ่มเติม "เคล็ดวิชาคือแก่น ส่วนที่เหลือทั้งหมดเป็นเพียงส่วนขยายเท่านั้น"

         ผลของความลับนี้ช่างเหลือเชื่อ (มันวิเศษมากเลย จอร์จ)เช่นเดียวกับที่ไอสะตายเคยอุทานตอนพบว่า ช้าง=หนู*แมว*แมว         "หลังการค้นพบนี้ โลกในมุมมองของคุณจะไม่มีวันเหมือนเดิม"

         "ลิขิตฟ้ามิอาจแพ่งพาย"   หากท่านผู้เฒ่าคลายเคลียดยอมรับข้าพเจ้าเป็น หลานศิษย์ และอนุญาตให้เผยความลับสวรรค์ ข้าพเจ้าจะมา Reply เฉลย

        ท่านอื่นๆหากเห็นว่าข้าพเจ้าผายลมโปรดอ่านแล้วผ่านเลย หากสนใจความลับนี้ โปรดช่วยลงชื่อเพื่อส่งเสริมข้าพเจ้าคุกเข่าขอร้องท่านเจ้าสำนัก Temple Boxing ด้วยจักเป็นพระคุณยิ่ง

        ปล.พี่ Jeng ผมนับพี่ไว้หนึ่งในคนที่ต้องเฉลยแล้วครับ เพราะพี่เริ่มต้น ผมจึงมาถึงผลสรุป

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 06, 2005 12:19 am
โดย CK
ท่านจอมยุทธเฮ็กอินนั้ง

เคล็ดวิชานั้น หาใช่สิ่งสำคัญไม่

ต่อให้มีเคล็ดวิชาสุดยอดอยู่กับตัว
แต่มิอาจฝึกฝนใช้ออกได้
ย่อมมิบังเกิดผลใดๆ

เหมือนเด็กสามขวบถือดาบง้าวกวนอู
ย่อมมิอาจทำอันตรายผู้คนได้
เพียงทำร้ายตนเองเท่านั้น

สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าเคล็ดวิชา คือจิตใจ
หากเฮ็กไต้เฮียบมิอาจจะควบคุมลมปราณร้อนเย็น
คือความโลภความกลัวได้สำเร็จ
พึงระวังธาตุไฟเข้าแทรก

และเคล็ดวิชาอันร้ายกาจ
จะกลายเป็นอาวุธ
กลับมาทำร้ายตัวท่านเอง

แต่หากท่านสามารถควบคุมลมปราณตนเองได้
ต่อให้เป็นเพียงเคล็ดวิชาแมวสามขา
ท่านก็สามารถพกกระบี่คู่ชีพเข้าสูยุทธภพแล้ว

ท่านเจ้าสำนักคลายเครียดสามารถท่องยุทธจักรได้ยี่สิบปี
โดยไม่เคยเพลี่ยงพล้ำพ่ายแพ้ถึงแก่ชีวิต
หาใช่เพราะเคล็ดวิชาอันใดไม่

"รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครา"

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 06, 2005 2:54 am
โดย wizard
:D  :D  :D ชอบ
จะหวังโชคแบบองค์ชายต้วน
เรียนรู้ยอดวิชากระบี่หกชีพพจร
แต่ไม่อาจใช้ได้ดั่งใจ
หรือแบบเล่งฮู้ช่งเรียนรู้เก้ากระบี่เดียวดาย
ถึงแม้ไร้กำลังก็สามารถโค่นยอดฝีมือได้
แต่เป็นแบบเซียวฮือยี้
ไม่เรียนรู้ยอดวิชาสามารถท่องทั่วหล้า
แถมมีเมียสวยตั้ง7คน(ใช่ป่าว  :|  :?: )
แต่ที่แน่ๆไม่ขอเป็นเอี้ยก้วย  :lol:  :lol:
-------------------------------------------------------
กระบี่อยู่ในใจได้ชื่อว่าเป็นกระบี่
ถ้าเป็นผู้ใช้กระบี่ต้องไร้กระบี่
-------------------------------------------------------

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 06, 2005 3:19 am
โดย wizard
ขอแก้
    ชอบ
จะหวังโชคแบบองค์ชายต้วน
เรียนรู้ยอดวิชากระบี่หกชีพพจร
แต่ไม่อาจใช้ได้ดั่งใจ
หรือแบบเล่งฮู้ช่งเรียนรู้เก้ากระบี่เดียวดาย
ถึงแม้ไร้กำลังก็สามารถโค่นยอดฝีมือได้
แต่เป็นแบบvอุยเซี่ยวป้อ (จำผิดไม่ใช้เซียวฮือยี้)
ไม่เรียนรู้ยอดวิชาสามารถท่องทั่วหล้า
แถมมีเมียสวยตั้ง7คน(ใช่ป่าว)
แต่ที่แน่ๆไม่ขอเป็นเอี้ยก้วย    
-------------------------------------------------------
กระบี่อยู่ในใจได้ชื่อว่าเป็นกระบี่
ถ้าเป็นผู้ใช้กระบี่ต้องไร้กระบี่
-------------------------------------------------------

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 06, 2005 9:25 am
โดย Onokung
อิม(หยิน) คือ ขั้วลบ ผู้หญิง กลางคืน พระจันทร์ ความมืด สีดำ น้ำ ความนิ่ง ความเล็ก ตลาดหมี หุ้นตก แรงขาย ความกลัว
เอี้ยง(หยาง) คือ ขั้วบวก ผู้ชาย กลางวัน พระอาทิตย์ สว่าง สีขาว ภูเขา การเคลื่อนไหว ความใหญ่ ตลาดกระทิง หุ้นขึ้น แรงซื้อ ความโลภ

เดิมทีจักรวาลนั้นว่างเปล่า อู๋จี๋ (Ou Chi) "หุ้นตัวนั้นยังไม่มีใครสนใจ"
ต่อมาจึงมีสิ่งที่ตามมาภายหลังความว่างเปล่าเรียกว่า ไท่จี๋ (Tai Chi) "หุ้นตัวนั้นเริ่มมีคนสนใจแต่ยังไม่ไปใหน แรงซื้อ=แรงขาย"
แล้วจึงเกิดการแบ่งแยกเป็นหยิน หยิน (YIN) และ หยาง (YANG) "แสดงทิศทางว่าขึ้นหรือลง แรงขายไม่เท่ากับแรงซื้อ"
เป็นขั้วซึ่งกำหนดขอบเขตของวัฏจักรแห่งการเปลี่ยน
แปลง เมื่อขั้วหนึ่งถึงจุดสูงสุดก็ต้องถอยให้กับอีกขั้วหนึ่ง จะเป็นเช่นนี้เสมอไป
"ที่สุดของภาวะหมีคือภาวะกระทิง ที่สุดของภาวะกระทิงก็คือภาวะหมี"
"ในภาวะหมีมีภาวะกระทิง ในภาวะกระทิงมีภาวะหมี"
"ที่สุดของแรงซื้อก็คือแรงขาย ที่สุดของแรงขายก็คือแรงซื้อ"
"ในแรงซื้อมีแรงขาย ในแรงขายมีแรงซื้อ"
"การดำรงอยู่อย่างเป็นสุขต้องทำตนให้สอดคล้องกับจักรวาล คือหลักสมดุลแห่งหยินหยาง"
"การเล่นหุ้นได้กำไรและมีความสุข ต้องเข้าออกอย่างสอดคล้องกับแรงขายและแรงซื้อของรายใหญ่"
ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนใหว ใช้ความอ่อนพิชิตความแข็ง ใช้ความช้าพิชิตความเร็ว
นิ่มอ่อน ผ่อนคลาย ลีลาเชื่องช้า มั่นคง พร้อมดูดซับพลังปรปักษ์แล้วโต้กลับได้ทุกเมื่อ
ที่สุดของหยินก็คือหยางอันกล้าแข็งอย่างยิ่ง
นี่คือหลักการใช้หยินพิชิตหยางในคัมภีร์เก้าอิมที่อาจนำเอามาใช้ในการเอาชนะตลาดหุ้นได้โดยไม่ยาก
"ทำตัวเป็นเหาฉลามแล้วจะเล่นหุ้นได้กำไรไม่ค่อยขาดทุน ทำตัวเป็นนักเลงหุ้นอาจต้องขาดทุนไม่ค่อยได้กำไร"

ไม่มีใครในโลกนี้ที่ไม่เคยสมหวังและไม่มีใครในโลกนี้ที่ไม่เคยผิดหวัง ตลอดไป แต่สุดท้ายแล้วทั้งหมด ที่ได้มาและไม่ได้มา เราก็ต้องทิ้งสิ่งเหล่านั้นไปทั้งหมด แล้วท่านจะปล่อยให้ชีวิตของท่านเจ็บปวดทุกข์ทรมานอยู่อย่างนี้หรือ..ถ้าท่านเบื่อระอามันแล้ว...ต่อแต่นี้ไปยามหุ้นขึ้นท่านจงอย่าดีใจ เมื่อเห็นหุ้นตกจงอย่าเสียใจ จงยิ้มเข้าสู่ภายในผ่อนคลายตลอดร่าง ทำใจให้สงบ ลมปรานโคจรสม่ำเสมอ ใช้สติปัญญามองให้เห็นว่ามันเป็นความไม่เที่ยงของสมมุติ แล้วเข้าซื้อหรือขายหุ้นตามแนวโน้ม อย่างผู้ที่ไม่มีความโลภและความกลัว

การทุบหุ้นของรายใหญ่ ผู้ที่เสียหายเยอะสุดสุดก็คือรายใหญ่และผู้ถือหุ้นใหญ่กับเจ้าของบริษัท ดังนั้นจึง ควรใช้หลักวิชาของมวยไท้เก็ก อันว่าด้วยการอ่อนตามและเกาะติด แล้วจึงโต้กลับด้วกระบวนท่าอันไร้กระบวนท่า ไร้กำลังแต่เปี่ยมด้วยแรง ไร้สภาวะแต่ดำรงอยู่ หยิน-หยางไม่ปรากฏ พร้อมเข้าตีปรปักษ์ได้ทุกเมื่อ อย่างไร้ตัวตน โดยอาศัยแรงของปรปักษ์ในการทำร้ายปรปักษ์

ไร้กระบวนท่าจึงเป็นสุดยอดกระบวนท่า
ไร้กำลังจึงมีแรง
ไร้ตัวตนจึงไร้พ่าย

ธรรมดาทั่วไปแล้ว
ผู้มีกำลังมากย่อมชนะผู้มีกำลังน้อย
ผู้ที่ว่องไวย่อมชนะผู้ที่เชื่องช้า
แต่
ด้วยหลักอ่อนหยุ่นพิชิตแกร่งกร้าว(สี่ตำลึงเหวี่ยงฟาดพันชั่ง)
นิ่งสงบสยบความเคลื่อนใหว
ลงมือทีหลังแต่ถึงก่อน
ดังนี้
ผู้มีกำลังน้อยย่อมชนะผู้มีกำลังมาก
ผู้ที่เชื่องช้าย่อมชนะผู้ที่ว่องไว
ได้โดยง่ายดาย
อย่าซื้อหุ้นในขณะที่แรงขายยังไม่หมด
รอให้แรงขายหมดแล้วจึงค่อยเข้าซื้อ
เมื่อไม่มีผู้รอซื้อรายใหญ่ย่อมซื้อกลับคืนรายย่อยจึงมีกำไร

รู้จักผู้อื่น ......... เป็นความฉลาด
รู้จักตัวเอง...... เป็นการรู้แจ้ง
ควบคุมผู้อื่น... ใช้กำลัง
ควบคุมตัวเอง .. ใช้ความเข้มแข็ง
คนที่รู้จักพอ..... เป็นคนร่ำรวย
ความบากบั่น ... เป็นเครื่องหมายของพลังจิต
มนุษย์ไปได้ไกล.... เท่าที่เขามีความอดทน
การตาย... โดยไม่สูญสิ้น ... เป็นการอยู่ชั่วนิรันดร์

ตำราทั่วไปมัก แบ่งแยกหุ้นดีกับหุ้นไม่ดี
แต่สำหรับข้า หาได้แบ่งแยกเช่นนั้นไม่
ข้ารู้จักแต่ หุ้นวิ่งกับหุ้นไม่วิ่งเท่านั้น
เพื่อการได้กำไรมากสุดในเวลาอันสั้นสุด
แล้วก็ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายด้วย
ข้ารู้ว่าเมื่อใดมันจะวิ่งเมื่อใดมันจะหยุดวิ่ง
และเมื่อใดมันจะวิ่งต่อ ด้วยการศึกษานิสัยของมัน

...เกมส์ของความกลัวและความอยาก...ใช้ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหว....อย่ามองเพียงด้านเดียวจงมองให้รอบด้าน....เก็บเกี่ยวข้อมูลให้มากแต่จงตัดสินใจเอง...
ผิดพลาดไม่ต้องโทษใครให้เสียกำลังใจจงแก้ตัวใหม่อย่าท้อถอย....ความสำเร็จรอคอยพวกเราอยู่แล้วข้างหน้า...

เมื่อฝึกเคล็ดวิชาขั้นต้นสำเร็จและช่ำชองดีแล้ว จึงค่อยฝึกขั้นที่สอง

เคล็ดวิชาไร้พ่ายขั้นที่ 2

"ไร้ตนไร้พ่าย"

เมื่อไร้ตนย่อมไม่มีตนที่จะรับคำด่า คำว่ากล่าวเสียดสีของผู้คน
เมื่อไร้ตนย่อมไม่มีความยินดียินร้าย ในนินทาและสรรญเสริญ
เพราะไม่มีตนที่จะรับหรือจะยินดี ยินร้ายในสิ่งใดๆ
จึงเป็นผู้อยู่เหนือโลกธรรม
เพราะเข้าใจธรรมและแทงตลอดในธรรม จึงไร้ทุกข์ไร้สุข เข้าถึงสภาวะไร้ตนไร้พ่าย ซึ่งเป็นเคล็ดวิชาชั้นสูงของสำนักไร้พ่ายได้


ขายทำกำไรถอนทุนออกมาเหลือแต่กำไรเอาไว้ในพอร์ตหลังจากนั้นก็ถือลืม
ไปเป็นปีจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแนวโน้มใหญ่ระดับปี จึงค่อยขายทิ้งทั้งหมด
การที่ในพอร์ตมีแต่กำไรไม่มีต้นทุนย่อมสามารถถือลืมได้โดยไม่มีวันขาดทุน
มีแต่กำไรนอนมา การที่จะทำได้ดังนี้
ต้องหาทางลดต้นทุนของหุ้นแต่ละตัวในพอร์ตลงมาจนต้นทุนเท่ากับหรือต่ำกว่า 0
นี่คือหลักแห่งการดำรงอยู่อย่างไร้ตัวตนในเคล็ดวิชา"ไร้พ่าย"

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 06, 2005 9:26 am
โดย Onokung
มิจฉาอาชีพ 5 ประเภท ที่ไม่ควรทำ
นั่นคือ...
1. ค้าอาวุธ
2. ขายสิ่งมีชีวิต (อรรถกาอธิบายว่า ขายมนุษย์)
3. ขายเนื้อสัตว์ (เลี้ยงไว้ฆ่า เลี้ยงไว้ฆ่าขาย)
4. ขายสุรา ยาเสพติด
5. ขายยาพิษ

ฉะนั้น หุ้นที่เกี่ยวข้อง 5 อย่างนี้ไม่ควรซื้อ

อันนี้เอาไว้ใช้ในยามคับขัน

กลยุทธ์ที่ 36 ซึ่งเป็นกลยุทธ์สุดท้ายใน 36 กลยุทธ์แห่งชัยชนะ ในการสัปประยุทธ์ทุกปริมณฑล

" หนีคือยอดกลยุทธ์ "

" หลบศึกทั้งกองทัพ ถอยหนีมิผิด เป็นวิสัยซึ่งสงคราม "

"ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่เป็นผลดี จะต้องหลีกเลี่ยงกับการสู้รบขั้นแตกหักกับข้าศึก
ทางออกจึงมีอยู่ 3 ทางคือ
- ยอมจำนน
- เจรจาสงบศึก
- ถอยหนี

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว

การยอมจำนนคือการพ่ายแพ้อย่างถึงที่สุด

การขอเจรจาสงบศึกคือการพ่ายแพ้ครึ่งหนึ่ง

ถอยหนีกลับอาจแปรเปลี่ยนมาเป็นชัยชนะได้

ถอยหนีพึงถอยเลี่ยงอย่างมีแผน(ตามหลักการในเคล็ดวิชาไร้พ่าย)
มิใช่แต่หนีอย่างไม่ลืมหูลืมตา เมื่อทัพอ่อนเผชิญทัพแข็ง
มักจะใช้วิธีการหนี เพื่อกระจายกำลังข้าศึก เพื่อสร้างโอกาสกลับมาสู่ชัยชนะนั่นเอง

รู้เขา รู้เรา ร้อยศึกมิพ่าย

ปลดปล่อยพลังแห่งความเมตตาทำลายความเป็นศัตรูแทนการสู้รบจึงไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ

ชัยชนะอันยอดเยี่ยมคือชัยชนะที่ได้มาโดยไม่ต้องรบ
สุดยอดแห่งชัยชนะคือการชนะใจตนเอง

มุ่งปิดจุดอ่อนของตนในทุกจุด ดีกว่ามุ่งทำลายจุดอ่อนของผู้อื่น
หากไร้จุดอ่อนย่อมได้ชัยชนะเหนือปรปักษ์ได้โดยไม่ต้องลงทุนมาก

ไร้ตนจึงไร้พ่าย
-------------------------------------------------------------------------------------------
ผมขอลอกเอาของ ท่าน จู บอร์ดกรีนบูลมาเลย อ่านแล้วชอบจังครับ

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 06, 2005 11:09 am
โดย คลายเครียด
คุณบุรุษชุดดำ
ผมกลายเป็นจอมยุทธไปได้ไงหว่า
ขอบคุณในความหวังดี  
แต่ไม่ขอรับครับ

ใครมายกให้เป็นอาจารย์  
ผมไม่ยอมรับ
ผมชอบให้ใครๆเรียกเฮีย เรียกพี่มากกว่า  
(แต่ไม่อยากให้อัพเกรดเป็นลุง)

กลัวเดี๋ยวจะเหมือนน้องแหม่ม  
โซ่เกียรติยศเจ้าหญิงผู้แสนดี เส้นเบ้อเริ่มคล้องคอเอาไว้
กว่าจะยอมรับว่าป่องเหมือนสาวชาวบ้านทั่วไป
ก็เมื่อประจำเดือนไม่มา ๕ เดือนไปแล้ว !!!!!!!!!!!!!!!!

ถ้าคุณบุรุษชุดดำ
คิดอะไรต่อยอดต่อไปได้  
ก็ช่วยเฉลยด้วยครับ
(เผื่อจะได้ช่วยปึงป็อเง็กสู้กับบุรุษชุดขาวจากเกาะบูรพา)

ผมชอบคำพูดของอัลแบร์ กามูร์

"อย่าเดินนำหน้า  เพราะว่าฉันจะไม่ตาม
และก็อย่าเดินตาม  เพราะว่าฉันจะไม่นำ
จงเดินเคียงข้างฉัน  แล้วก้าวเดินไป(เจ๊งหุ้น)พร้อมกัน"

ในวงเล็บผมเติมเอาเอง   :lol:  :lol:  :lol:  :lol:
ผมรู้เท่าที่ผมโพสจริงๆ  ไม่ได้กั๊กอะไรไว้เลย

และที่ผู้พันซิกกี้พูดมา  ถูกต้องที่สุดเลยครับ

ความจริง
ชื่อสำนักภาคภาษาปะกิต
ศิษย์น้องร่วมสำนัก
คุณหมอรินนี่  ศรีโพธารามเป็นคนแปลให้แบบเสนกๆฟิชๆ
ชือก็บอกอยู่ทนโท่

สำนักมวยวัด   :wink:  :wink:  :wink:  :wink:


อยากบอกว่า
ผมชอบสองกระทู้ข้างล่างมากนี่มากๆเลยครับ
ขนาดคิดแบบรับประทานด่วนนะเนี่ย

http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 69236.html

http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 68933.html

มันแสดงความหมายที่ผมอยากแสดงมากที่สุดว่า
ผมเป็นได้แค่มนุษย์หุ้นเท่านั้น
ทำยังไงก็ไม่สามารถเป็นเซียนหุ้นได้

ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่า
ในกระทู้ของผม  
ผมมักจะให้ความสำคัญกับ  

ต้นทุนทางสังคม
ที่วัดด้วยมาตรฐานทางเศรษฐศาสตร์ไม่ได้
บางครั้ง
ต้นทุนทางสังคมสำคัญกว่าต้นทุนเรื่องเงินๆทองๆซะอีก
เอาแค่ภรรยาผมไม่เคยเข้ามายุ่งเรื่องหุ้นแม้แต่นิดเดียว
ก็ถือเป็นต้นทุนทางสังคมที่สูงมากๆแล้ว :wink:  :cry:  :cry:  :cry:

ไม่มีนักวิเคราะห์หุ้นคนไหน  
ไม่มีหนังสือสอนให้รวยด้วยหุ้นเล่มไหน
พูดถึงต้นทุนทางสังคม
เพราะมันไม่อินเทรนด์  :oops:  :oops:  :oops:

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 06, 2005 8:36 pm
โดย por_jai
8) สวัสดีครับเฮีย

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 06, 2005 9:19 pm
โดย Dr.T
อืม ผมเป็นมนุษย์หุ้น  :lol:  8)

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 06, 2005 9:53 pm
โดย por_jai
8) ผมก็ตามไปอ่านในพันทิพอยู่เนืองๆนะครับ
    ท้ายสุดก็เรื่องโซ่เกียรติยศ
    ผมแนะนำทุกคนที่มีลูกเลยว่าต้องหาอ่านให้ได้
    ว่าแต่ว่าไอ้หนุ่มของเฮียเอ็นโด้ มาถึงตอนนี้ได้เข้าวงกะเขาหรือเปล่าครับ...

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 07, 2005 12:21 am
โดย ManInBlack
นับถือ ท่าน CK นับถือยิ่งนัก :bow:  :bow:  :bow:
เพราะเคล็ดวิชาของสำนัก Temple Boxing ที่ข้าพเจ้าค้นพบก็คือ.....

ชื่อของท่านเจ้าสำนักนั้นเอง "คลายเครียด" :lovl:

สืบเนื่องจากการพยายามต่อยอดความคิดของพี่ Jeng ที่ว่า "จังหวะสำคัญที่สุด"
ข้าพเจ้าได้เฝ้าครุ่นคิดและค้นคว้าเรื่องจังหวะ จนมาถึงคัมภีร์ KKR
หลังจากติดตามผลงานที่ท่านเจ้าสำนักได้เอื้อเฟื้อไว้ตาม Web Board ต่างๆ ก็ได้ข้อสรุปว่า

เคล็ดวิชาของสำนักนี้คือ ใจสำคัญที่สุด

ข้าพเจ้าเริ่มเล่นหุ้นมาได้ 9 เดือนแล้ว เมื่อได้ลองทบทวนผลงานของตัวเองที่ผ่านมา พบว่าในสองเดือนแรกกำไร 10 % แต่หลังจากนั้น ก็ผิดพลาดมาตลอดจนมาวันนี้ขาดทุนไปแล้ว 10 % :'O  :'O

หรือว่าจังหวะของเราไม่ดี ????หรือว่าสภาวะตลาดที่ผันผวน???? หรือว่าวิธีการที่ใช้ไม่ถูกต้อง ???? เฝ้าแต่ครุ่นคิดและค้นคว้า???????????? :wall:  :wall:  :wall:

จนเมื่ออ่านเจอว่า "เฮีย"คลายเครียด (ศิษย์ที่ดีย่อมไม่ขัดใจอาจารย์อยู่แล้ว คำเรียกนั้นสำคัญไฉน เมื่อใจเราจะยกให้เป็นอาจารย์ซะอย่าง)กำไรเจ้าสังกะสีไป 30 % (จำตัวเลขไม่ได้แล้วครับ จำได้แต่ความอิจฉาตาร้อน) เมื่อความอิจฉาตาร้อนเบาบางลง ความคิดก็บังเกิด
ด้วยว่าหุ้นสังกะสีตัวนี้ข้าพเจ้าก็เล็งแล้วเล็งอีกที่ราคาเดียวกัน ด้วยเหตุผลจากข่าวสารเดียวกัน แต่กลับไม่ได้ซื้อ ทำไม ทำไม ทำไม ???

หรือว่าจังหวะของเราไม่ดี ????หรือว่าสภาวะตลาดที่ผันผวน???? หรือว่าวิธีการที่ใช้ไม่ถูกต้อง ???? เฝ้าแต่ครุ่นคิดและค้นคว้า???????????? :wall:  :wall:  :wall:

พลันคิดได้ตกในที่สุด  :idea: (เกือบถึงเนื้อแล้วครับทุกท่าน)

ธงมิได้เคลื่อนไหว ลมก็มิได้เคลื่อนไหว ที่เคลื่อนไหวคือใจของเราเอง (นิทานเซน เล่มไหนก็จำไม่ได้แล้วครับ) :ohno:  :ohno:  :ohno:

ไม่ใช่เพราะจังหวะผิดพลาด ไม่ใช่เพราะสภาวะตลาด ไม่ใช่เพราะวิธีการ...เป็นเพราะใจเราเองที่ผิดพลาด
เมื่อเริ่มเล่นหุ้นใหม่ๆ แหล่งข้อมูลก็น้อย Web Board ไม่รู้จัก วิธีการเทคนิคต่างๆ DSM , CK(Cut loss) , ซื้อขายแบบปิรามิด ฯลฯ ไม่รู้จักเลย ทำไมยังกำไรได้ โชคดีของมือใหม่????????  :?:  :?: ไม่น่าจะเป็นคำอธิบายที่เป็นเหตุเป็นผล
สาเหตุที่เริ่มเล่นหุ้นใหม่ๆแล้วกำไร เพราะใจยังคงเชื่อมั่น แต่เมื่อเริ่มผิดพลาดใจเริ่มแกว่ง ทั้งอยากเอาคืน ทั้งโทษโน้นโทษนี่ มีอาการ "เมาหมัด"แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆคือ "ใจเสีย" ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ ที่แน่ๆคือ "ใจเสีย"
"เซียวลี้ปวยตอมิเคยพลาดเป้า ทั้งนี้เพราะทั้งผู้ขว้างมีดและผู้ถูกขว้างยอมรับอยู่แล้วว่ามีดนั้นไม่พลาดเป้า"
เช่นกัน เราจะกำไรได้อย่างไรเมื่อ "ใจเสีย"ไปแล้ว เมื่อลึกๆในใจเราไม่มั่นใจเหมือนเดิม
ข้อมูล ข่าวสารใดๆ การตัดสินใจต่างๆย่อมผิดพลาดในที่สุด

เมื่อวันหนึ่งได้อ่าน มังกรคู่สู้สิบทิศ อีกรอบเพื่อคลายเครียดจากการขาดทุน ก็พบประโยคนี้ (เด็ดไม่แพ้ "กำไรเกิดเมื่อซื้อ" ของสำนัก DSM)

หลังดาบที่แปด ดาบสวรรค์กลับผู้วิเศษกำจายว่า
"ประเสริฐ หากมิใช่เมื่อครู่ท่านสามารถคำนวณระดับความเร็วของเพลงดาบเรา ทั้งมีจิตใจเข้าสู่ "ขอบเขตปลอดโปร่งพิสุทธิ์ใส"คงจบชีวิตในดาบที่แปดของเราแล้ว"

ประโยคนี้เองที่ข้าพเจ้าค้นพบ
ในการเล่นหุ้น (ไม่ว่ากันนะครับที่ไม่เรียกว่า ลงทุนในหุ้น ) ข้อมูลข่าวสารมากมาย สถานะการที่วุ่นวาย ไม่แน่นอน ท่านเจ้าสำนัก Temple Boxing กลับสามารถใช้จิตใจที่เข้าสู่ "ขอบเขตปลอดโปร่งพิสุทธิ์ใส"ทำกำไรจากเจ้าสังกะสีไปได้ :bow:  :bow:  :bow:

สรุปลงได้ซะทีว่า

เคล็ดวิชาของสำนัก Temple Boxing คือ ........................
"ห้ามเครียดเด็ดขาด มีแต่จิตใจที่เบิกบานเชื่อมั่นเท่านั้นจึงจะกำไรในที่สุด"

แถมอีกนิด
"ขอบเขตปลอดโปร่งพิสุทธิ์ใส"เป็นขั้นสุดยอดของสำนัก
ขั้นที่หนึ่งมีชื่อว่า "จันทร์ในบ่อ"
รายละเอียดของ"จันทร์ในบ่อ" หากท่านเจ้าสำนักไม่ขัดข้องวันหลังจะมาเล่าให้ฟังครับ

ที่สุดสำคัญที่ใจ

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 07, 2005 8:37 am
โดย Dech
ผมไม่รู้หรอก ยิ่งอ่านยิ่งงง

เอาเป็นว่าลงทุนแล้วไม่เครียด กินข้าวได้ นอนหลับสบาย
ไม่ต้องดูหุ้นใน port ได้ ดีที่สุด

แต่เชิญต่อเลยนะครับ เฮียคงไม่ว่าอะไรหรอกครับ จะมาตามอ่านต่อไปครับ

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 07, 2005 9:41 am
โดย Onokung
เคล็ดวิชาของสำนัก Temple Boxing คือ ........................
"ห้ามเครียดเด็ดขาด มีแต่จิตใจที่เบิกบานเชื่อมั่นเท่านั้นจึงจะกำไรในที่สุด"
:bow:  :bow:  :bow:

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 07, 2005 12:21 pm
โดย คลายเครียด
คุณพอใจ

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 07, 2005 12:37 pm
โดย ต.หยวนเปียว
ตามมาอ่านครับ ขอบคุณครับ  :D
วิชาปิดสวิชความเครียด
แล้วยังมีสุดยอดวิชา "เจี๋ยะยิกเต่าม้วย" :mrgreen:

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 07, 2005 2:06 pm
โดย ปรัชญา
:mrgreen:

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 07, 2005 2:27 pm
โดย คลายเครียด
อาเฮียเตวี่  
จั่งจ้าคือเจียะไหล่
หอเจ๊าะอ่า  
ฮวยเอียบ แก่แก๋  
เคี๊ยกๆๆๆๆๆ


:cheers:  :cheers:  :cheers:  :cheers:  :cheers:  :cheers:

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 07, 2005 2:30 pm
โดย ต.หยวนเปียว
เคี๊ยกๆๆๆๆๆ  :)
อาตั่วเฮียเคลี่
เค้าแป๋  อั่วเตี่ยเถ่งแกไก่ไป่
เจี่ยหอเจี๊ยะ เคี๊ยกๆๆๆ แฮกๆๆๆ  :(

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 07, 2005 2:33 pm
โดย คลายเครียด
:rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 07, 2005 3:40 pm
โดย สามัญชน
:man:

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 07, 2005 5:01 pm
โดย moo
อาเฮียคลายเครียด
คื่อเจี๊ยะ    สี่ เจี่ยะ ยิก เต้า ม๊วย    สี อื่ม สี :mrgreen:

อาเฮียเต่าหยวนเปียว
เตี่ยะ เถง ไก่ ไป่        เตี่ยะ ไจ ถี่ ห่วง ฮ่วย เอียบ :mrgreen:

วันนี้ไปพันทิพก่อน  ตามมาอ่านครับ :D

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 07, 2005 6:30 pm
โดย สุเกียง
ขอบคุณค่ะ

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 08, 2005 3:35 am
โดย ManInBlack
ตอบคุณCopyWriterครับ ผมมาอ่านที่ตัวเองเขียนอีกครั้งก็รู้สึกจะน้ำเยอะไปจริงๆครับ :oops:  เพราะเป็นแบบคิดไปเขียนไป คืออาศัยการเขียนช่วยเรียบเรียงความคิดครับ

ขอบคุณท่านเจ้าสำนักที่ชี้แนะ:bow:  :bow:  :bow:
ขอถือโอกาสนี้ ให้ท่านเจ้าสำนักชี้แนะเพิ่มเติม

ขออนุญาตแตกกระทู้ใหม่ เรื่องความเครียดกับการเล่นหุ้น นะครับ :arrow:  :arrow:  :arrow:

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 09, 2005 9:58 am
โดย โค่วจื่อหลิง
ศิษย์รุ่นน้องขอคารวะท่านผู้อาวุโสทั้งหลาย ตอนนี้ลืมคิดถึงกำไรแล้วครับ(ขาดทุนสะสม) แต่กระบวนยุทธนี้ไร้พ่ายจริงๆ ตอนนี้รอวันชนะในสงครามกองโจรอยู่ครับ
ท่านMan In Black อ่านมังกรคู่ฯจบไปกี่รอบแล้วครับ ผมค้างที่เล่ม4 ภาคสมบูรณ์อยู่เลย

เปิดเผยความลับ สำนัก Temple Boxing

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 09, 2005 10:52 pm
โดย ManInBlack
คุณโค่วจื่อหลิง
ผมอ่านจบไป 3 รอบเองครับ ต้องหาโอกาศว่างจริงๆสักหลายวันว่าจะอ่านอีกสักรอบ
ผมว่า มังกรคู่ฯ เป็นนิยายที่แฝงข้อคิดมากมี่สุดเท่าที่เคยอ่านมาเลยครับ เรียกว่าให้อะไรมากกว่าสามก๊กหลายเท่า
อ่านรอบแรกก็เอาสนุกไว้ก่อนเถอะครับ อย่างไปคิดอะไรมาก แต่ถ้ามีเวลาอยากให้อ่านรอบสอง แล้วกรองสิ่งดีๆไว้ครับ

บทความข้างต้น ขอตั้งชื่อว่า บทการค้นพบ ครับ ค่อนข้างวกวนหน่อย เป็นทฤษฎีไปหน่อย บทต่อไปชื่อว่า

สำนัก Temple Boxing บทนำ : ความเครียดกับการเล่นหุ้น เป็นการอธิบายเคล็ดวิชา

สำนัก Temple Boxing บทที่1 : KKR คัมภีร์ละลายความเครียด เป็นวิธีการนำไปปฏิบัติจริงครับ

ตั้งใจว่าจะเขียนไปเรื่อยๆสักพัก ผมชอบเรียบเรียงความคิดด้วยการเขียนครับ