สำนัก Temple Boxing บทที่ 1 : KKR คัมภีร์ละลายความเครียด
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 09, 2005 3:16 pm
ขอบคุณท่านเจ้าสำนัก ที่ชี้แนะ เมื่อท่านมิได้ทักท้วง ข้าพเจ้าก็ขอรับการชี้แนะกระบวนท่าต่อไป
-------------------------------------------------------------------------
จากบทนำตอนที่แล้ว คาดว่าคงมีหลายท่านอ่านจบแล้วอุทานว่า
โถ ..ไอ้สร พูดให้หรูใครก็พูดได้ ทิ้งท้ายไว้ให้ทดลองปฏิบัติ แต่ไม่บอกวิธีการ โม้นี่นา :lol: :lol: :lol:
______________________________________________
เซียนโกะเมืองไทยท่านกล่าวไว้ว่า "ชนะได้เพราะไม่คิดจะเอาชนะ"
ท่านเจ้าสำนักได้ให้คำชี้แนะไว้ในบทนำแล้ว
" เหตุแห่งความพ่ายแพ้ เพราะมุ่งเน้นที่ราคาหุ้น "
สำนัก VI มุ่งเน้นการลงทุนกับบริษัท คาดเดาผลประกอบการ
สำนัก VS มุ่งเน้นการอ่านกราฟ คาดเดาจิตวิทยามวลชน
สำนัก DSM ไม่มุ่งเน้นผลกำไร มุ่งเน้นจำนวนหุ้นในพอร์ต
สำนัก Temple Boxing มุ่งเน้นอะไร :?: :?: :?:
คำตอบมิได้ลอยอยู่ในสายลม หากแต่อยู่บทนำ
สำนัก Temple Boxing มุ่งเน้น "คลายเครียด"
ไม่มุ่งเน้นที่ราคาหุ้น หากมุ่งเน้นที่ "คลายเครียด"
เพราะเมื่อ "ไม่เครียด" คือเหตุและกำไรคือผล
"ใจเสีย"คือเหตุและขาดทุนคือผล
ศิษย์สำนัก Temple Boxing จึง " ฝึกฝน KKR มุ่งหมาย"คลายเครียด""
KKR คัมภีร์ละลายความเครียด เล่มนี้สามารถอ่านฉบับสมบูรณ์ได้ที่เวปนี้ (ขออภัยท่านเจ้าสำนัก ข้าพเจ้าทำ Link ไม่เป็น ท่านที่สามารถโปรดทำ Link ไปยังที่เก็บคัมภีร์ KKR ให้ด้วยจักเป็นพระคุณยิ่ง)
กล่าวสรุปสำหรับแนวทางที่ท่านเจ้าสำนักได้ชี้แนะไว้ในคัมภีร์ดังนี้
คลายเครียดเรโชจุลภาค
คือการขายหุ้นที่ซื้อมา
เพื่อชักเอาส่วนทุนของเราขึ้นมาก่อน
และเก็บเอาส่วนเกินทุนที่คาดว่าจะได้จากผู้อื่น
เอามาเล่นเกมล่าส่วนเกินทุนต่อไปอย่างสบายใจ
เป็นการลดความเครียดจากการต้องติดตามหุ้นตัวนั้นได้
ยิ่งขายตอนค่าคลายเครียดเรโชสูงมากเท่าไร
ความเครียดจากหุ้นตัวนั้นจะยิ่งน้อยลงเท่านั้น
และพัฒนาไปสู่คลายเครียดเรโชมหภาค คือพอร์ตที่เล่นมีแต่เงินจากกำไรล้วนๆ ฮา ฮา ฮา (สำคัญมาก ตรง 5 5 5 นี่แหละครับ)
หลังจากข้าพเจ้า ศึกษาตีความคัมภีร์ KKRอยู่หลายตลบ ก็ได้พบแนวทางดังนี้ (จากตรงนี้ หากข้าพเจ้าตีความผิด ท่านเจ้าสำนักโปรดชี้แนะด้วย)
=========================================
โจทย์กำหนดให้ ซื้อหุ้น XXX ที่ราคา 5 บาท 10,000 หุ้น
ครั้งแรก ข้าพเจ้าตีความ คลายเครียดเรโชจุลภาค ว่า เมื่อราคาหุ้นขึ้นไปถึง 10 บาทก็ให้ขายออกไป 5,000 หุ้นเพื่อชักทุนก่อน ผลการตีความอย่างนี้ก็ "ติดหุ้น" เฝ้าแต่รอลุ้นว่าเมื่อไหร่"ราคาหุ้น"จะ 10 บาทซะที
ครั้งที่สองข้าพเจ้าตีความ คลายเครียดเรโชจุลภาค ว่า เมื่อราคาหุ้นขึ้นไปถึง 5.10 บาทก็ให้ขายออกไป 9,800 หุ้นเพื่อชักทุนก่อน 200 หุ้นที่เหลือเป็นกำไรถือต่อ ผลการตีความอย่างนี้ก็ "ติดโลภ" คืออยากได้มากกว่า 200 หุ้น เฝ้าแต่รอลุ้นว่าเมื่อไหร่"ราคาหุ้น"จะ 5.55 บาทซะทีจะได้กำไร 1,000 หุ้น
ครั้งนี้ข้าพเจ้าตีความ คลายเครียดเรโชจุลภาค ว่า เมื่อราคาหุ้นขึ้นไปถึง 5.50 บาทก็ให้ขายออกไป 5,000 หุ้น เท่ากับอีก 5,000 หุ้นที่ถืออยู่มีต้นทุนที่ 4.50 บาท (ไม่คิดน้ำจิ้มค่าโบรกนะครับ) ซึ่งลดโอกาสที่ราคาตลาดจะต่ำกว่าราคาต้นทุนลงได้ ผลการตีความอย่างนี้ :arrow: :arrow:
"ไม่เครียด"เพราะไม่ได้ยึดติดกับ"ราคาหุ้น" พอใจจะขายที่ 5.20 บาทก็ได้ เท่ากับว่าต้นทุนอยู่ที่ 4.80 บาท
และจากการทดลองผลการตีความครั้งนี้ "ไม่โลภ"เพราะไม่ได้มุ่งเน้นผลกำไร แต่มุ่งเน้นที่ ลดความเครียดว่าราคาตลาดจะต่ำกว่าราคาต้นทุน
เท่านี้ก่อนนะครับ ไว้จะมาต่อเรื่อง ก็แล้วถ้าซื้อแล้วมันตก จะทำอย่างไร
__________________________________________________
ท่านทั้งหลาย เชิญชี้แนะ
--------------------------------------------------------------------------------
ก็อย่างที่ว่าละครับ ชื่อนั้นสำคัญไฉน
ถ้า"เฮีย"คลายเครียด เปลี่ยนชื่อไปซะก่อน ผมคงไม่มีวันค้นพบความลับใหญ่หลวงของสำนัก Temple Boxing อยู่ที่ ชื่อเจ้าสำนักนี่เอง :oops: :oops:
-------------------------------------------------------------------------
จากบทนำตอนที่แล้ว คาดว่าคงมีหลายท่านอ่านจบแล้วอุทานว่า
โถ ..ไอ้สร พูดให้หรูใครก็พูดได้ ทิ้งท้ายไว้ให้ทดลองปฏิบัติ แต่ไม่บอกวิธีการ โม้นี่นา :lol: :lol: :lol:
______________________________________________
เซียนโกะเมืองไทยท่านกล่าวไว้ว่า "ชนะได้เพราะไม่คิดจะเอาชนะ"
ท่านเจ้าสำนักได้ให้คำชี้แนะไว้ในบทนำแล้ว
" เหตุแห่งความพ่ายแพ้ เพราะมุ่งเน้นที่ราคาหุ้น "
สำนัก VI มุ่งเน้นการลงทุนกับบริษัท คาดเดาผลประกอบการ
สำนัก VS มุ่งเน้นการอ่านกราฟ คาดเดาจิตวิทยามวลชน
สำนัก DSM ไม่มุ่งเน้นผลกำไร มุ่งเน้นจำนวนหุ้นในพอร์ต
สำนัก Temple Boxing มุ่งเน้นอะไร :?: :?: :?:
คำตอบมิได้ลอยอยู่ในสายลม หากแต่อยู่บทนำ
สำนัก Temple Boxing มุ่งเน้น "คลายเครียด"
ไม่มุ่งเน้นที่ราคาหุ้น หากมุ่งเน้นที่ "คลายเครียด"
เพราะเมื่อ "ไม่เครียด" คือเหตุและกำไรคือผล
"ใจเสีย"คือเหตุและขาดทุนคือผล
ศิษย์สำนัก Temple Boxing จึง " ฝึกฝน KKR มุ่งหมาย"คลายเครียด""
KKR คัมภีร์ละลายความเครียด เล่มนี้สามารถอ่านฉบับสมบูรณ์ได้ที่เวปนี้ (ขออภัยท่านเจ้าสำนัก ข้าพเจ้าทำ Link ไม่เป็น ท่านที่สามารถโปรดทำ Link ไปยังที่เก็บคัมภีร์ KKR ให้ด้วยจักเป็นพระคุณยิ่ง)
กล่าวสรุปสำหรับแนวทางที่ท่านเจ้าสำนักได้ชี้แนะไว้ในคัมภีร์ดังนี้
คลายเครียดเรโชจุลภาค
คือการขายหุ้นที่ซื้อมา
เพื่อชักเอาส่วนทุนของเราขึ้นมาก่อน
และเก็บเอาส่วนเกินทุนที่คาดว่าจะได้จากผู้อื่น
เอามาเล่นเกมล่าส่วนเกินทุนต่อไปอย่างสบายใจ
เป็นการลดความเครียดจากการต้องติดตามหุ้นตัวนั้นได้
ยิ่งขายตอนค่าคลายเครียดเรโชสูงมากเท่าไร
ความเครียดจากหุ้นตัวนั้นจะยิ่งน้อยลงเท่านั้น
และพัฒนาไปสู่คลายเครียดเรโชมหภาค คือพอร์ตที่เล่นมีแต่เงินจากกำไรล้วนๆ ฮา ฮา ฮา (สำคัญมาก ตรง 5 5 5 นี่แหละครับ)
หลังจากข้าพเจ้า ศึกษาตีความคัมภีร์ KKRอยู่หลายตลบ ก็ได้พบแนวทางดังนี้ (จากตรงนี้ หากข้าพเจ้าตีความผิด ท่านเจ้าสำนักโปรดชี้แนะด้วย)
=========================================
โจทย์กำหนดให้ ซื้อหุ้น XXX ที่ราคา 5 บาท 10,000 หุ้น
ครั้งแรก ข้าพเจ้าตีความ คลายเครียดเรโชจุลภาค ว่า เมื่อราคาหุ้นขึ้นไปถึง 10 บาทก็ให้ขายออกไป 5,000 หุ้นเพื่อชักทุนก่อน ผลการตีความอย่างนี้ก็ "ติดหุ้น" เฝ้าแต่รอลุ้นว่าเมื่อไหร่"ราคาหุ้น"จะ 10 บาทซะที
ครั้งที่สองข้าพเจ้าตีความ คลายเครียดเรโชจุลภาค ว่า เมื่อราคาหุ้นขึ้นไปถึง 5.10 บาทก็ให้ขายออกไป 9,800 หุ้นเพื่อชักทุนก่อน 200 หุ้นที่เหลือเป็นกำไรถือต่อ ผลการตีความอย่างนี้ก็ "ติดโลภ" คืออยากได้มากกว่า 200 หุ้น เฝ้าแต่รอลุ้นว่าเมื่อไหร่"ราคาหุ้น"จะ 5.55 บาทซะทีจะได้กำไร 1,000 หุ้น
ครั้งนี้ข้าพเจ้าตีความ คลายเครียดเรโชจุลภาค ว่า เมื่อราคาหุ้นขึ้นไปถึง 5.50 บาทก็ให้ขายออกไป 5,000 หุ้น เท่ากับอีก 5,000 หุ้นที่ถืออยู่มีต้นทุนที่ 4.50 บาท (ไม่คิดน้ำจิ้มค่าโบรกนะครับ) ซึ่งลดโอกาสที่ราคาตลาดจะต่ำกว่าราคาต้นทุนลงได้ ผลการตีความอย่างนี้ :arrow: :arrow:
"ไม่เครียด"เพราะไม่ได้ยึดติดกับ"ราคาหุ้น" พอใจจะขายที่ 5.20 บาทก็ได้ เท่ากับว่าต้นทุนอยู่ที่ 4.80 บาท
และจากการทดลองผลการตีความครั้งนี้ "ไม่โลภ"เพราะไม่ได้มุ่งเน้นผลกำไร แต่มุ่งเน้นที่ ลดความเครียดว่าราคาตลาดจะต่ำกว่าราคาต้นทุน
เท่านี้ก่อนนะครับ ไว้จะมาต่อเรื่อง ก็แล้วถ้าซื้อแล้วมันตก จะทำอย่างไร
__________________________________________________
ท่านทั้งหลาย เชิญชี้แนะ
--------------------------------------------------------------------------------
ก็อย่างที่ว่าละครับ ชื่อนั้นสำคัญไฉน
ถ้า"เฮีย"คลายเครียด เปลี่ยนชื่อไปซะก่อน ผมคงไม่มีวันค้นพบความลับใหญ่หลวงของสำนัก Temple Boxing อยู่ที่ ชื่อเจ้าสำนักนี่เอง :oops: :oops: