Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมกำลังหาโรงเรียนให้ลูก (ป1) เเละกำลังสับสนว่าจะเป็นโรงเรียน ประเภทใดดี ?

1.โรงเรียนวัด (ตอนเด็กผมก็เรียนโรงเรียนวัด)
2.โรงเรียนเอกชนภาษาเดียว (ภาษาไทย)
3.โรงเรียนเอกชนสองภาษา (ภาษาไทย + อังกฤษ)
4. International School (มหาเเพง บางโรงเรียนปีเเรกต้องจ่าย 1 ล้านบาท)

ในใจผมเลือกกลาง ๆ คือ 3 เพราะต้องการปูพื้นฐานภาษาอังกฤษทางด้าน ฟัง เเละ พูด เเต่มีหลายคนบอกว่าวิชาการจะด้อยกว่าโรงเรียนภาษาเดียว เพราะใช้หลักสูตรไม่เหมือนกัน เเละอาจจะมีปัญหาในการสอบ Entrance เข้ามหาวิทยาลัย

ขอถามความคิดเห็นเพื่อน
1. ในด้านความคุ้มกับเงินที่เสียไป ?
2. ในด้านวิชาการ (ยกเว้นภาษาอังกฤษ)
3. ในด้านภาษาอังกฤษ (เน้น ฟัง เเละ พูด)
4. ในด้านการเเสดงออก เช่น การ Presentation, มนุษยสัมพันธ์, EQ, etcs.
5. ข้อสรุปของทั้ง 4 ด้าน
6. ต้องเป็นโรงเรียนดัง ๆ หรือไม่ ?
7. เเนะนำโรงเรียนด้วยครับ (ผมอยู่เเถว ถ.รามอินทรา กม.1)

ขอบคุณครับ

โรงเรียนที่สอนวิชาการน้อยๆ สอนมนุษย์สัมพันธ์มากๆ มีมั๊ย

หลานผมเรียนที่ใต้หวัน แยกอยู่ห้องต่างหากเปงห้องอัจฉริยะ โรงเรียนที่หลานเรียนน่าจะเปงโรงเรียนธรรมดา เพราะพี่สาวมะได้อยู่ไทเป พี่สาวอยู่ซินจู๋ ซึ่งอยู่อีกซีกหนึ่งของเกาะใต้หวัน

โรงเรียนของหลาน แยกห้องไว้ เพราะเด็กห้องนี้เรียนเก่งมาก

ผ่านไประยะหนึ่ง คุณครูสังเกตุว่าเด็ก แข่งกันเรียนเกินไป โตมาจะมีปัญหา

คุณครู ก็เลยให้นักเรียนทุกคน เรียนแค่ ครึ่งหนึ่งของเวลา เวลาส่วนที่เหลือ ให้เอาไปเล่นกีฬา และดนตรี

ตอนนี้หลานผมคนนี้กำลังเรียนแพทย์อยู่ที่ใต้หวัน ประมาณ ปี 2

ผมอยากให้บ้านเรามีแบบนี้มั่งจัง

ทำไมต้องไปอัดเรียนอะไรกันเยอะแยะตอนเด็กๆ

พัฒนาการจะเสียนะผมว่า

และการที่คุณเคยเรียนโรงเรียนวัดมาก่อน คุณว่าดีมั๊ยหละ การใด้เรียนรู้การต่อสู้ตั้งแต่เด็กๆ แบบนั้น ผมว่าดีนะ ผมก็ศิษย์ วัดราชสิงขร + วัดสุทธิวราราม

ข้อดีอย่างหนึ่งของโรงเรียนวัด คือผมได้เรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์

เลือกยากนะ ตอนนี้หลานผมก็จะเข้าอนุบาล ก็มีการคุยกัน

ผมว่าให้เค้าได้เจอสิ่งแวดล้อมที่อยากให้เป็น ให้เจอ ตั้งแต่เด็กเลยดีกว่า มาเจอตอนโต จะทำให้ปรับตัวยากได้นะ

ผมว่าต้องคำนึงถึงกำลังทรัพย์เราด้วยนะครับถ้ามีเหลือเฟือก้อให้เข้าที่ดีๆแพงๆเถอะครับ เราต้องยอมรับว่าสังคมมันดีกว่าจริงๆ ตอนเด็กๆเพื่อนจะสนิทกันมากกว่าครับแต่ถ้ามีไม่มากก็เลือกที่กลางๆหน่อยไม่งั้นเด็กจะมีปัญหามากครับ ประมาณว่าเพื่อนมีทำไมเราไม่มี ความภูมิใจในตัวเองสำคัญมากๆครับ

ปล.ผมก็เด็กวัดครับแต่มองสังคมพักหลังว่าแย่ลงมากๆครับ

ลงทุนในการศึกษาก็เหมือนลงทุนในหุ้นแหละครับ เลือกตัวที่เหมาะกันเราที่สุดละกัน

เข้าไปดู  การเรียนการสอน  สภาพแวดล้อม  ของโรงเรียนและคุณครู  ด้วยตัวเองอย่างไม่เป็นทางการจะดีสุดครับ

พาลูกไปดูด้วยจะดีมาก

อย่าเชื่อคำบอกเล่า  นโยบายที่สวยหรู  

ตรวจสอบให้มากที่สุด  

การเลือกโรงเรียนให้ลูก เป็นสิ่งสำคัญกว่าการเลือกหุ้นมากนัก

ผมว่าสิ่งสำคัญกว่าการเรียนภาษาอังกฤษ คือ การสอนให้เขาเอาตัวรอดได้ในสังคมมากกว่า แล้วที่สำคัญอย่าลืมสอนการเงินให้ลูกด้วยละ ไม่มีโรงเรียนไหนสอนหรอก

ผมเรียนแบบไหนก็จะให้ลูกเรียนแบบนั้นละครับ
ไม่งั้นมันโตขึ้นมันอาจไม่ใช่ลูกเราก็ได้ :lol: ว่าไปนั่น

ผมชอบชีวิตวัยเรียนผมนะ ถ้ามีลูกคงให้เข้า รร ที่ผมเคยเรียน
ตอนเรียนมหาลัยผมเรียนหลักสูตร นานาชาติ ผทคงให้ลูกเรียน หลักสูตร นานาชาติที่ รร เก่าผม ผมคงเลือก ข้อ 3 ครับ

ตอนเอนท์ผมก็คงให้เข้าหลักสูตรนานาชาติที่มหาลัยที่ผมเคยเรียน เห็นเริ่มเปิดกันหลายโปรแกรมแล้ว

เรียน  สวนกุหลาบวิทยาลัย คร้าบบบบบบบบบบ

ผมได้หลายอย่างจากสถานที่แห่งนี้ครับ

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ผมเป็นได้อย่างทุกวันนี่ก็   เพราะสวนกุหลาบ  

คุณเป็นหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตผม  ผมรักคุณ(สวนกุหลาบ)  

มันคือสิ่งที่หล่อหลอมผมมาครับ

คิดถึงโรงเรียนจังอ่ะครับ

ปล. พี่ๆๆอย่ารำคาญหรือหมั่นไส้นะครับ  ผมคิดแบบนี้จริงๆๆ

ผมกำลังหาโรงเรียนให้ลูก (ป1) เเละกำลังสับสนว่าจะเป็นโรงเรียน ประเภทใดดี ?

ขออภัยครับ  ผมอ่านไม่ละเอียดเองครับ    

ถ้าเป็น ม.1 ผมขอตอบแบบ  reply เมื่อกี้นะครับ

คิดๆดูสมัยประถม ผมมีความสุขมาก เพราะเดินไปโรงเรียนตั้งแต่ ป.1
พอ ป.4 หัดนั่งรถเมล์เอง ไปไหนต่อไหนเอง ไม่หลง ภาษาอังกฤษไม่เก่ง
ภาษาจีนใช้การไม่ได้ ...แต่เวลาเหลือเฟือ เลิกเรียนไปรับของที่ตลาดมหานาค
มาเปิดร้านขนมหลอกเด็ก(ด้วยกันเอง)ได้ ทำจนเจ๊งเพราะขายไปแอบกินเองไป ฮ่าๆ หลังจากนั้นเิรียนไกลบ้าน เลยไม่ได้หลอกใครอีกเลย

มาเห็นเด็กหลายคน ตื่นตีห้า กินข้าว แต่งตัวในรถ ไปถึงโรงเรียนตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมง เพราะพ่อต้องรีบไปทำงานอีกทาง
เิลิกเีรียนทำการบ้านเสร็จที่โรงเรียน เพราะต้องรอจนค่ำ
พ่อขับรถฝ่ารถติดมารับลูกแล้วกลับถึงบ้านสองทุ่ม
ต้องรีบนอนเพราะพรุ่งนี้ตื่นตีห้าอีก

เห็นแล้วรู้สึกสงสารทั้งพ่อแม่และลูกน้อย

ผมไม่ชอบให้ลูกเรียนโรงเรียนที่เป็นชายล้วน หรือ หญิงล้วน

เพราะผมมีเพื่อนหลายคนที่มาจากโรงเรียนแบบนี้ แล้วปรับตัวกับเพื่อนต่างเพศได้ไม่ค่อยดีนัก แต่พอได้แฟนปุ๊บ ก็คล่องเลย

เห็นใครๆก็มักจะอยากให้ลูกตัวเองเรียนโรงเรียนที่ตัวเองเรียนจบมา

เพื่อนๆของผมก็เป็น

แต่ทำไมผมถึงไม่อยากให้ลูกเรียน  ถ้าเรียนได้ ( ผมมีลูกสาว  แต่ผมจบจากโรงเรียนชายล้วน)

เพราะผมมีอดีตที่ไม่ประทับใจตอนยังเรียนอยู่  ช่วงเย็นวันอาทิตย์  และเช้าวันเสาร์  จะมีความรู้สึกที่แย่มาก  เศร้ามาก  แต่มีความสุขเมื่อเย็นวันอาทิตย์

ผมไม่อยากให้ลูกมีความรู้สึกแบบนั้น  

อีกทั้งโรงเรียนเดิม  มีนักเรียนตั้ง 60 คนต่อ ครู 1 คน  ครูไม่มีเวลาให้แก่เด็กได้ทั่วถึง  

แถมมีแต่วิชาการ  แทบไม่มี  กีฬา  ดนตรี  ศิลปะ  เลย

ลูกไม่จำเป็นต้องเก่งวิชาการ  แต่อยากให้ลูกรู้จักตัวเอง  รู้ว่าตัวเองชอบอะไร  และมีความสุขที่ได้เรียนครับ

เพราะผมมีเพื่อนหลายคนที่มาจากโรงเรียนแบบนี้ แล้วปรับตัวกับเพื่อนต่างเพศได้ไม่ค่อยดีนัก

ผมจบมาจาก รร ชายล้วน
พอเข้ามหาลัย จน บัดนี้ มีเพื่อนสนิทเป็นผู้หญิง มาตลอดเลยครับ ก่อนมีแฟนซะอีก แฟนเลยต้องรับได้ครับ

เคยคุยกับคุณนิติภูมิ นวรัตน์ ติวเตอร์หมู เรื่องการเรียนของเด็ก เขาบอกว่าลูกเขาทุกคนตอนเด็กจะส่งไปเรียนโรงเรียนประถมต่างจังหวัด (มีผู้ใหญ่ญาติพี่น้องดูแล) เพื่อให้เด็กมีสมาธิ เพราะจะเห็นทะเล ภูเขา ป่าไม้ ซึ่งก็อยู่อย่างนั้นชั่วนาตาปี จะทำให้เด็กมีสมาธิยาวขึ้น ในกรุงเทพฯจะเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง สิ่งล่อใจ สิ่งเร้าต่างๆ สำหรับเด็กมากมาย เด็กจะสมาธิสั้นลง ไม่เป็นผลดี พอเรียนจบ ป.6 ค่อยเข้าเรียนต่อในกรุงเทพ จบมัธยมก็จะหาทุนต่างๆ ที่มีอยู่มากมายทั่วโลก แต่คนไทยไม่ค่อยรู้ ส่งไปเรียนเมืองนอก

ลองพิจารณาดูครับอาจเป็นประโยชน์

วันนี้ได้ดูหนังเรื่องแพทช์ อดัม (Patch Adam)อีกครั้งหนึ่ง
หนังเกี่ยวกับนักศึกษาแพทย์คนหนึ่งที่ให้ความสำคัญในการรักษาใจคนใข้มากกว่ารักษากาย

ดูไปแล้วผมจึงได้นึกถึงการศึกษาของไทย
อะไรทำให้การศึกษาของต่างชาติไปได้ไกล

เป็นเพราะหลักสูตรหรือ
เป็นเพราะการวิธีการสอนหรือ
เป็นเพราะคุณภาพของอุปกรณ์ที่ใช้หรือ
สิ่งเหล่านี้เมืองไทยมีหลายๆ โรงเรียนในเมืองไทย
อาจจะมีเหนือกว่าเมืองนอกด้วยซ้ำ

...แต่ดินที่นวดไว้ไม่ดี ไหนเลยจะปั้นได้สวยงาม ...

เด็กไทยถูกปลูกฝังอย่างไร
เด็กไทยถูกสอนให้มองคุณค่าของตนต่อสังคมอย่างไร
เด็กไทยถูกตีค่าการกระทำในสังคมอย่างไร

ความคิดที่พ่อแม่ปลูกฝัง
ความต้องการของพ่อแม่ที่คาดหวังต่อเด็ก
กรอบที่สังคมขีดให้เดิน  

สิ่งเหล่านี้ สามารถนวดดินให้ดีได้แค่ไหน

ดินที่ดี สามารถปั้น(ตัวเอง)ให้แตกต่าง
รูปปั้นที่ดี ต้องแตกต่าง มีเอกลักษณ์ประจำตัว
รูปปั้นที่ดี ตัวดินจะปั้นตัวเอง หาใช่ถูกใครบังคับให้เป็นไม่

ขณะดูหนัง ผมพยายามเขียนสิ่งที่อยู่ในตัวของนักศักษาแพทย์แพทช์ อดัม ... ดินที่ปั้นได้รูปที่แตกต่าง
...จุดมุ่งหมายในชีวิต
...ความฝันของตนเอง
...ความทะเยอทะยาน

...ความมุ่งมั่น
...การค้นหา
...พยายามค้นคว้า

...ความคำนึงถึงคนอื่น

...ความเป็นตัวของตัวเอง
...กล้ากบฏต่อคำสอน
...กล้าท้าทายความคิดเก่า
...ความกล้าที่จะแสดงถึงจุดยืนของตน  

...อื่นๆ ช่วยกันเติมแล้วกัน

ดินที่ดี จะปั้นตัวเอง ไปตามธรรมชาติของเขา
จนมีรูปร่างที่สวยงาม ตามพลังที่อยู่ภายใน
 
เราคงต้องช่วยกันนวดดินให้เหมาะแก่การปั้น
แต่ไม่ควรปั้นให้เป็นตามใจเรา
ไม่เช่นนั้นเราก็จะไม่มีโอกาสได้เห็นสิ่งที่เติบโตและแตกต่าง
ถอยออกมาดูห่างๆ แล้วจะเห็นรูปปั้นที่สวยงาม กำลังเติบโต

... ดูหนังแล้วฟุ้งซ่านแฮะ ...  :twisted:

โรงเรียนไหนที่ ...............

ทําให้เด็กเก่ง +ดี+มีความสุข ................

อันนั้นน่าจะสุดยอดแล้ว   ครบเครื่อง ...............

เห็นส่วนมากเน้นที่ " เก่ง"  .............

อัดวิชาการกันบาน  เด็กหิ้วกระเป๋ากันไหล่เอียงเลยนะ ...............

เก่งแต่ไม่ดี  มันก็นําไปสู่ " เก่งแต่โกง"  " เก่งแต่เห็นแก่ตัว" และเก่งแต่.......อีกสารพัด   ในวัยที่เขาโตขึ้น

และสังคมเราก็จะเห็นมันเป็นไปแบบที่เราปั้นเด็กของเรา ..........

ขอบคุณครับ สำหรับคำเเนะนำ

ส่งน้องเรียนน รร นานาชาติเอกมัย ห้องเรียน 20 คน
มีล๊อกเกอร์ให้ ไม่ต้องแบกกระเป๋า แป้นบาสมากกว่า 10 แป้น สนามบอล สนามเทนนิส เข้าเรียน 7 โมงเช้า เลิกเรียนบ่าย 2 จะได้กลับก่อนรถจะติด ปิดเทอมหน้าฝน
หนังสือเรียนยืมจากโรงเรียนใช้เหมือนอเมริกา

เมื่อไรโรงเรียนทุกแห่งจะปิดเทอมฤดูฝนซักทีนะ

โรงเรียนใกล้บ้าน ... ดี?

http://radio.mcot.net/fm965/__viewboard ... 46&Qroom=0

อนุบาลและประถม ผมเรียนโรงเรียนใกล้บ้านครับ (ต่างจังหวัด)
ไม่ต้องรีบตื่น หรือกลับถึงบ้านค่ำ
มีเวลาเตะบอล ทำการบ้าน
มัธยมค่อยเข้ากรุงเทพฯ
ผมเรียนที่ สวนกุหลาบฯ เหมือนคุณ PaZZaHut ครับ
และก็บอกได้ใจความเดียวกันเป๊ะครับ
สวนกุหลาบฯ ให้อะไรหลายๆอย่างที่ผมไม่มีวันลืม
ทั้งวิชาการ ความเป็นครูอาจารย์ ความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง เพื่อน กีฬา ฯลฯ
เสียดาย ถ้าลูกผมโต คงไม่สามารถเรียนที่นี่ได้ เพราะเป็นลูกสาวน่ะครับ

ปล. คุณ PaZZaHut รุ่นเท่าไหร่ครับ ผม OSK112
(นอกประเด็นกระทู้ไปเยอะ ขออภัยด้วยครับทุกท่าน)

รร. วัดเลย เพ่ ประหยัด ได้เอาเงินมาลงทุนต่อยอดได้อีก ^_^" ที่สำคัญเลือกใกล้ๆบ้านไว้ จะได้ประหยัดค่าเดินทางอีก
เอิ๊กๆ
เห็นผลที่ไม่เลือก เอกชน ไม่ใช่เพราะแพงนะ เพราะว่าสังคมใน รร มากกว่า มันค่อยข้างจะแย่ เพราะเด็กใน รร เอกชน ส่วนใหญ่ๆ (คงไม่ใช่ทุกคน) ล้วนเห็นแก่ตัวและยิ่งไปกว่านั้น คือ ชอบดูถูกคน ชอบทำตัวหลูหลาเกินความจำเป็น อาจทำให้ลูกเพ่ติดเชื้อตั้งแต่เด็ก ทีนี้ก็ลำบาก ควรเลือกสังคมที่ดีให้เค้าดีกว่า
เพราะที่บ้าน ตอนแรกน้องก็เรียน รร เอกชน แห่งหนึ่ง เพราะเห็นว่าดี + ดัง แต่พอไปๆมา ที่บ้านไปรับไปส่งก็ได้ นร รร นั้นพูดคุยกัน อวดนั้นอวดนี้ กันเลยให้ ออก กลัวเสียคน เลยมาเรียน รร รัฐ แทน ส่วน ภาษา มี รร สอนภาษา เยอะแยะไป ไม่ก็จ้างฝรั่งมาสอนที่บ้าน เลยดีกว่า เพราะ ว่าจะได้สำเนียงด้วย
ส่วนปัญหาในการสอบ เข้ามหาวิทยาลัย อยู่ที่ตัวเด็กมากกว่า ว่าจะขนขวายหาความรู้ มากแค่ไหนขยันมากแค่ไหน ไม่ได้อยู่ที่ รร เพราะ ตอนนี้ หนังสือ คู่มือสอบ มีออกมามากมาย อ่านๆเข้าไป เดี๋ยวก็สอบได้เอง
แล้วก็เห็นด้วยกับ พี่ Loso ^o^

สมัยนี้ต้องคิดเผื่อสังคมของลูกในอนาคตด้วยครับ ไม่เพียงแต่ดูโรงเรียนเท่านั้น การดึงให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมช่วยกันดูแลลูกๆทั้งของตัวเองและเพื่อนๆของลูกที่ร่วมเรียนในห้องเดียวกัน ความใกล้ชิดระหว่างผู้ปกครองจะเป็นวัคซีนอย่างดีสำหรับลูกในอนาคต

ถ้ามีกำลังทรัพย์พอ ผมขอให้ตัดข้อ1.ทิ้งไปก่อน ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างบน....ถ้าไม่เชื่อลองเดินเข้าไปในรร.ตามข้อ1ดู  จะเห็นเด็กเล่นกันในบางครั้งจะได้ยินเด็กๆตะโกนแจกของกันไปมาทั้งๆที่เค้าก็ไม่เข้าใจความหมายของการพูดแบบนั้น(อาจจะไม่ทุกแห่ง...ถ้าไม่มีก็ถือว่าค่อนข้างปลอดภัย) สาเหตุมาจากการดูแลที่ไม่เหมาะสม ถ้าลูกคุณเข้าไปเรียนแล้วซึมซับมาด้วยก็คงน่าเศร้าสำหรับอนาคตที่อาจจะมีมากกว่านั้นอีกครับ....มันหมื่นเหม่ระหว่างความแกร่งที่เค้าจะได้รับหรือการรับรู้ลอกเลียนในสิ่งที่เด็กไม่สมควรจะได้รับ

ลองเข้าไปอ่านที่เวบบอร์ดนี้ดูครับ  ชื่อหัวข้อว่า  "เรื่องเล่าจากพ่อลูกสาม - สถิติโรงเรียนบางอย่างที่น่าสนใจสำหรับพ่อแม่" อาจจะได้ไอเดียเพิ่มขึ้น

http://202.183.214.244/webboard/topic.php?id=125700

เป็นกระทู้ที่ยาวที่สุดของเวบบอร์ดนั้น  เขาบันทึกเป็นสถิติว่า  ถ้าเอามาพิมพ์ลงบนกระดาษ A4 จะยาวประมาณเกือบ 400 หน้า   ปัจจุบันมีคนเข้ามาอ่านมากกว่า 12,400 ครั้งแล้ว  และมีการพูดคุยกันกว่า 510 กระทู้   ได้รับการชมเชยว่าให้ข้อมูลเรื่องโรงเรียนแบบเจาะลึกได้น่าสนใจ

ข้างในจะมีสถิติข้อมูลของโรงเรียนต่างๆ ในระบบการศึกษาไทย  ที่หาอ่านได้ยาก  และมีรายชื่อโรงเรียนแนะนำระดับประถม  ระดับมัธยมต้น  ระดับมัธยมปลาย  ของกทม. และต่างจังหวัด   โดยใช้ข้อมูลจากหลายแหล่งมาประกอบกัน

ในนั้นจะมีการให้ link ไปยังกระทู้อื่นที่ให้ข้อมูลเกี่ยวข้องกับเรื่องการตัดสินใจเรื่องโรงเรียนประเภทต่างๆ ด้วย  ซึ่งอาจจะตรงกับความต้องการมากขึ้น

ลองเข้าไปอ่านเอาเองนะ

แต่ควรใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง  เพราะข้อมูลเยอะมากจนต้องใช้เวลาดาวน์โหลดนานกว่าปกติ
[/url]

มีที่ให้ให้ข้อมูลจัดอันดับโรงเรียนที่เด็กนักเรียนเรียนแล้วมีความสุข  รู้จักตัวเอง  รู้จักโลก รู้จักการใช้ชีวิตตามหลักพุทธศาสนาบ้างครับ

พ่อแม่แทบทุกยุคทุกสมัย  มีแต่อยากให้ลูกเก่งวิชาการ  สอบติดมหาวิทยาลัยดีๆ  คณะดีๆ

โรงเรียนที่อยู่ในข่ายการสอนให้เป็นคนเก่ง  และดี  ที่มีกระบวนการจัดการเป็นรูปธรรมตามที่คุณ chatchai กล่าวถึง   ที่ในกระทู้ดังกล่าวบอกไว้  คือ  โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์  (ศาลายา)  ซึ่งเป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดของประเทศในระดับมัธยมปลาย ประเภทอยู่ประจำทุกคน  เรียนฟรีทุกคน   ที่ถือว่ามีนโยบายเน้นการเป็นคนดีของสังคมอย่างเป็นกระบวนการ

แต่สอบเข้ายากเอาการ

ส่วนโรงเรียนอื่นๆ  ก็มีการกล่าวเป็นนโยบาย  แต่ยังแปรเป็นรูปธรรมไม่ชัดเจน

สำหรับโรงเรียนระดับอนุบาลและประถม ที่เน้นประเภทนี้ชัดเจน  ก้มีโรงเรียนวิถีพุทธ  แต่ไม่รู้ได้ผลแค่ไหน

อย่างไรก็ตาม  ครอบครัวต้องมีส่วนสำคัญทำเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น  และศรัทธาตาม    ถ้าทำได้เอง  ก็ไม่ต้องไปขึ้นกับโรงเรียนมากนัก

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดี ๆ โดยเฉพาะคุณ New Analyst ที่ให้ link เรื่อง "เรื่องเล่าจากพ่อลูกสาม - สถิติโรงเรียนบางอย่างที่น่าสนใจสำหรับพ่อแม่" ซึ่งให้ข้อมูลการสอบเข้าในโรงเรียน เเละมหาวิทยาลัยดัง ๆ มากมาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะใช้ในการเลือกโรงเรียน

เป้าหมายของผมเพียงเเค่ต้องการปูพื้นฐาน ให้เด็กรุ่นใหม่ มีความรู้ดี มีความคิด เเละเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ที่มีความสุข มีอิสรภาพทางด้านเวลา เเละทางการเงิน
ผมขอเพียงเเค่นี้เองครับ !