เราอยู่ภายใต้ภาวะวิกฤติน้ำมันจริงหรือ?
-
- Verified User
- โพสต์: 1474
- ผู้ติดตาม: 0
เราอยู่ภายใต้ภาวะวิกฤติน้ำมันจริงหรือ?
โพสต์ที่ 1
จากการที่ราคาน้ำมันในบ้านเราและในตลาดโลกมีราคาเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว ทำให้หลายฝ่ายวิตกกันว่าขณะนี้เรากำลังอยู่ภายใต้ภาวะวิกฤติน้ำมันเหมือนสมัยเมื่อช่วง '70 ซึ่งในความเป็นจริงทั้งสาเหตุและการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงปีนี้กับช่วง '70 มีปัจจัยและผลกระทบที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ในประเด็นแรก สาเหตุการปรับราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้เกิดจากอุปสงค์(Demand)ผลักดัน ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นโดยเฉพาะการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในแถบภูมิภาคAsiaที่มีการเจริญเติบโตสูงมากโดยเฉพาะประเทศจีนที่มีอัตราการเจริญเติบโตประมาณ10%ต่อเนื่องกันหลายปี และทำให้อุปสงค์น้ำมันของโลกเพิ่มขึ้นกว่า 30% ซึ่งขณะที่กำลังการผลิตยังไม่ขยายตัวมากนัก ดังนั้นราคาที่ถีบตัวขึ้นไปจึงเป็นไปตามกลไกตลาดเป็นหลัก ในขณะที่ช่วง'70กลับเป็นภาวะ Supply Shock คือเกิดปัญหาสงครามรบพุ่งในแถบตะวันออกกลางโดยเฉพาะสงครามอิรัค-อิหร่านที่มีการต่อสู้ยาวนานทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกขาดแคลนใน ขณะที่เศรษฐกิจโลกมิได้เจริญเติบโตมากนัก จึงทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ทั้งใน Real Price และ Current Price ซึ่งถ้าจะเปรียบไปแล้วภาวะในปัจจุบันเสมือนเด็กที่โตเร็วแต่กินไม่อิ่มในขณะที่ช่วง'70กลับเสมือนเด็กขาดอาหาร คงจะเห็นภาพนะครับว่า"หิว"ต่างกันยังไง
ประเด็นถัดมาคือราคาที่แท้จริง*(Real Price)ของน้ำมันในช่วงปีนี้เทียบไม่ได้เลยกับช่วง'70ซึ่งมีการปรับราคาแท้จริงเพิ่มขึ้นกว่าปัจจุบันประมาณ2-3เท่าเลยทีเดียวซึ่งถ้าเทียบที่ราคาปี 1990 ราคาน้ำมันดิบ(APSP)ในช่วงปัจจุบันอยู่ระหว่าง US$30-50 ในขณะที่ช่วง'70 อยู่ที่ US$50-80 เลยทีเดียว
และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น จากข้อมูลIMFประมาณการณ์ไว้ว่าGDPในปีนี้จะมีอัตราการเจริญเติบโตอยู่ที่ 4.3% หรืลดลงจากค่าประมาณการณ์เดิม 0.8% ที่ 5.1% ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าส่งผลกระทบไม่มากนักและเศรษฐกิจก็ยังอยู่ในแดนบวก ซึ่งผลกระทบโดยมากมาจากการชะลอการตัดสินใจลงทุนและบริโภคจาก"ความผันผวน"ของราคาน้ำมันที่ยังไม่นิ่งมากกว่าเหตุจากการ"เพิ่มขึ้น"ของราคาน้ำมัน
จากเหตุปัจจัยทั้งหมดผมว่าเราอาจต้องทบทวนกันใหม่ว่าเรากำลังเผชิญกับวิกฤติน้ำมันจริงหรือ?
*ราคาที่แท้จริงคือการปรับค่าราคาให้เป็นราคาเดียวกัน ณ ปีใดปีหนึ่ง เพื่อขัดภาพลวงตาจากเงินเฟ้อ โดยจากข้อมูลIMFใช้ราคา ณ ปี1990เป็นปีฐาน
ในประเด็นแรก สาเหตุการปรับราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้เกิดจากอุปสงค์(Demand)ผลักดัน ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นโดยเฉพาะการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในแถบภูมิภาคAsiaที่มีการเจริญเติบโตสูงมากโดยเฉพาะประเทศจีนที่มีอัตราการเจริญเติบโตประมาณ10%ต่อเนื่องกันหลายปี และทำให้อุปสงค์น้ำมันของโลกเพิ่มขึ้นกว่า 30% ซึ่งขณะที่กำลังการผลิตยังไม่ขยายตัวมากนัก ดังนั้นราคาที่ถีบตัวขึ้นไปจึงเป็นไปตามกลไกตลาดเป็นหลัก ในขณะที่ช่วง'70กลับเป็นภาวะ Supply Shock คือเกิดปัญหาสงครามรบพุ่งในแถบตะวันออกกลางโดยเฉพาะสงครามอิรัค-อิหร่านที่มีการต่อสู้ยาวนานทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกขาดแคลนใน ขณะที่เศรษฐกิจโลกมิได้เจริญเติบโตมากนัก จึงทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ทั้งใน Real Price และ Current Price ซึ่งถ้าจะเปรียบไปแล้วภาวะในปัจจุบันเสมือนเด็กที่โตเร็วแต่กินไม่อิ่มในขณะที่ช่วง'70กลับเสมือนเด็กขาดอาหาร คงจะเห็นภาพนะครับว่า"หิว"ต่างกันยังไง
ประเด็นถัดมาคือราคาที่แท้จริง*(Real Price)ของน้ำมันในช่วงปีนี้เทียบไม่ได้เลยกับช่วง'70ซึ่งมีการปรับราคาแท้จริงเพิ่มขึ้นกว่าปัจจุบันประมาณ2-3เท่าเลยทีเดียวซึ่งถ้าเทียบที่ราคาปี 1990 ราคาน้ำมันดิบ(APSP)ในช่วงปัจจุบันอยู่ระหว่าง US$30-50 ในขณะที่ช่วง'70 อยู่ที่ US$50-80 เลยทีเดียว
และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น จากข้อมูลIMFประมาณการณ์ไว้ว่าGDPในปีนี้จะมีอัตราการเจริญเติบโตอยู่ที่ 4.3% หรืลดลงจากค่าประมาณการณ์เดิม 0.8% ที่ 5.1% ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าส่งผลกระทบไม่มากนักและเศรษฐกิจก็ยังอยู่ในแดนบวก ซึ่งผลกระทบโดยมากมาจากการชะลอการตัดสินใจลงทุนและบริโภคจาก"ความผันผวน"ของราคาน้ำมันที่ยังไม่นิ่งมากกว่าเหตุจากการ"เพิ่มขึ้น"ของราคาน้ำมัน
จากเหตุปัจจัยทั้งหมดผมว่าเราอาจต้องทบทวนกันใหม่ว่าเรากำลังเผชิญกับวิกฤติน้ำมันจริงหรือ?
*ราคาที่แท้จริงคือการปรับค่าราคาให้เป็นราคาเดียวกัน ณ ปีใดปีหนึ่ง เพื่อขัดภาพลวงตาจากเงินเฟ้อ โดยจากข้อมูลIMFใช้ราคา ณ ปี1990เป็นปีฐาน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
เราอยู่ภายใต้ภาวะวิกฤติน้ำมันจริงหรือ?
โพสต์ที่ 2
ธุรกิจอื่นเปงไงไม่รู้ แต่ธุรกิจแม่บ้านที่ผมทำอยู่ ไม่ได้กระทบเรื่องน้ำมันครับ
อาจจะเป็นเพราะแม่บ้านส่วนใหญ่ก็นั่งรถเมล์กันอยู่แล้ว
รถเมล์ขึ้นราคา ก็เป็นจำนวนบาทที่เพิ่มขึ้น ยังไม่ถึงกับตายไปเลย
ส่วนข้าวของที่แพงขึ้นก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะไม่ได้ซื้ออยู่แล้ว
อาจจะเป็นเพราะแม่บ้านส่วนใหญ่ก็นั่งรถเมล์กันอยู่แล้ว
รถเมล์ขึ้นราคา ก็เป็นจำนวนบาทที่เพิ่มขึ้น ยังไม่ถึงกับตายไปเลย
ส่วนข้าวของที่แพงขึ้นก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะไม่ได้ซื้ออยู่แล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 1474
- ผู้ติดตาม: 0
เราอยู่ภายใต้ภาวะวิกฤติน้ำมันจริงหรือ?
โพสต์ที่ 4
เงินเฟ้อขึ้น ข้าวของแพงขึ้น อันนี้จริงครับ แต่ถ้าเทียบกับ ข้าวของถูก แต่คนตกงานเป็นแพ แลเปิดท้ายขายของ ผมว่าอันหลังแย่กว่านา.... เป็นธรรมดาที่ Trade off กันระหว่าง เงินเฟ้อกับการว่างงาน ประเทศที่มีเงินเฟ้อต่ำ(กว่าปกติ)อัตราว่างงานจะสูง เช่นในสหภาพยูโร ที่มีอัตราว่างงานประมาณ 8.6%โดยเฉลี่ย ในขณะที่บ้านเรามีอัตราว่างงานแค่ 1.4%เท่านั้นเอง มันคงต้องเลือกเอานะระหว่างของแพงแต่มีงานทำ กับ ของถูกแต่ตกงาน :drink:
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4886
- ผู้ติดตาม: 0
เราอยู่ภายใต้ภาวะวิกฤติน้ำมันจริงหรือ?
โพสต์ที่ 7
ค่า ไฟปรับขึ้นไง พี่เจ๋ง
8) ค่า ft จะกระทบแม่บ้านของพี่ใหม
ครับ 555+ เพราะพวกเค้าเช่าห้องอยู่ พวกพอพักปกติก็คิดค่าไฟแพงอยู่ยิ่ง ขึ้นคงกระทบ นี่ ยิ่งถ้านั่ง รถตู้ ตอนนี้บางสาย ปรับขึ้น 2-5บาท
ผมมีเรื่องจะถามว่า ทําไมราคา น้ำมัน ถึงต้อง อิงราคาตลาด สิงค์โปร
ทั้งๆที่ สิงค์โปรก็ซื้อจาก พวก แขก ทําไมบ้านเราไม่อิงกับ พวกแขกเลย :?:
ผู้รู้ตอบทีเด๊ออออ
8) ค่า ft จะกระทบแม่บ้านของพี่ใหม
ครับ 555+ เพราะพวกเค้าเช่าห้องอยู่ พวกพอพักปกติก็คิดค่าไฟแพงอยู่ยิ่ง ขึ้นคงกระทบ นี่ ยิ่งถ้านั่ง รถตู้ ตอนนี้บางสาย ปรับขึ้น 2-5บาท
ผมมีเรื่องจะถามว่า ทําไมราคา น้ำมัน ถึงต้อง อิงราคาตลาด สิงค์โปร
ทั้งๆที่ สิงค์โปรก็ซื้อจาก พวก แขก ทําไมบ้านเราไม่อิงกับ พวกแขกเลย :?:
ผู้รู้ตอบทีเด๊ออออ
-
- Verified User
- โพสต์: 1474
- ผู้ติดตาม: 0
เราอยู่ภายใต้ภาวะวิกฤติน้ำมันจริงหรือ?
โพสต์ที่ 8
นายrocker ถ้าเอ็งจะอิงราคาน้ำมันที่ราคาแขกเอ็งเทเลพ๊อตน้ำมันมาหรือไงท่าน อย่าลืมดิขนน้ำมันมามีทั้งค่าดำเนินการ+ขนส่งด้วย ส่วนที่ต้องอิงกับราคาที่สิงค์โปรเพราะสิงคโปรเป็นตลาดกลางซื้อขาย commodity product เหมือนตลาดเงินนะแหละ ถ้าโซนตะวันตกจะใช้ LIBOR(London Inter Bank Offered Rate) แต่ตะวันออกใช้ SIBOR(Singapore Inter Bank Offered Rate) ไง
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4886
- ผู้ติดตาม: 0
เราอยู่ภายใต้ภาวะวิกฤติน้ำมันจริงหรือ?
โพสต์ที่ 9
อ้าวไม่ใช่ เพราะ singapore เป็นตลาดที่ปั่นราคาน้ำมันเหรอครับพี่ :?:
เพราะผู้บริหารบอกว่าซื้อล่วงหน้ากันราคาปรับขึ้น 2-3เดือน ฉะนั้นต้นทุนของคงเหลือก็น่าจะเป็นของ 2-3เดือนที่แล้ว ๆถึงราคาปรับขึ้น ก็ไม่น่าจะปรับขึ้นทันที
ทําไมพอราคาปรับขึ้น เค้าปรับขึ้นตาม
แล้วส่วนต่างของก่อนหน้าที่ซื้อมาหายไปใหน ไม่ทราบครับท่าน :?:
อีกอย่างเวลาเค้าบันทึก fifoในบัญชีเค้าบันทึกต้นทุนยังไงครับ
อิงราคาปัจจุบันเหรอครับ หรือ อิงราคาที่เค้าซื้อมากันไว้ครับ
เพราะผู้บริหารบอกว่าซื้อล่วงหน้ากันราคาปรับขึ้น 2-3เดือน ฉะนั้นต้นทุนของคงเหลือก็น่าจะเป็นของ 2-3เดือนที่แล้ว ๆถึงราคาปรับขึ้น ก็ไม่น่าจะปรับขึ้นทันที
ทําไมพอราคาปรับขึ้น เค้าปรับขึ้นตาม
แล้วส่วนต่างของก่อนหน้าที่ซื้อมาหายไปใหน ไม่ทราบครับท่าน :?:
อีกอย่างเวลาเค้าบันทึก fifoในบัญชีเค้าบันทึกต้นทุนยังไงครับ
อิงราคาปัจจุบันเหรอครับ หรือ อิงราคาที่เค้าซื้อมากันไว้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1474
- ผู้ติดตาม: 0
เราอยู่ภายใต้ภาวะวิกฤติน้ำมันจริงหรือ?
โพสต์ที่ 10
สมกับเป็นนักบัญชีจริงๆนายแบงค์ แต่...สินค้าประเภทcommodityที่ไหนเขาบันทึกแบบ FIFO ครับ ถ้าบันทึกแบบนี้ก็ไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงสิ ส่วนราคาน้ำมันที่ใช้เป็นราคากลางเขาจะใช้ที่ Spot price ครับไม่ใช่ Future Price โอเช๋.... ดังนั้นอย่าได้สับสนระหว่าง Future price กับ Spot price อีกอย่างการจะเก็งกำไรก็จะต้องเก็งบนแนวโน้มพื้นฐานอยู่ดี ซึ่งอาจจะคาดการณ์แนวโน้มปริมาณการบริโภค/ปริมาณการผลิต วงจรการบริโภค ฯลฯ เพราะถ้าไม่มีการอิงปัจจัยหรือแนวโน้มใดๆ อย่าว่าแต่เรียกว่าเก็งกำไรเลย ไอ้อย่างนี้เขาเรียกว่า เสี่ยงโชคแล้วครับท่าน :lol: