หน้า 1 จากทั้งหมด 2

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 17, 2005 9:25 pm
โดย CK
ตามข้อเสนอของท่านพี่เจ๋ง

เรามาช่วยกันเลือกหุ้น 10x10x10 กันหน่อยครับ เสนอเข้ามาได้เลย
พร้อมเหตุผลประกอบ

เป้าหมายคือ การหาหุ้น 10 ตัว ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า 10 เท่า
ภายในระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี!

หรือตกปีละ > 26% โดยเฉลี่ย

ส่วนการวัดผลตอบแทน ก็เสนอเข้ามาได้ครับ ว่าจะวัดจาก
ราคาหุ้น ปันผล ผลประกอบการ หรือ ROI ของการถือหุ้นแบบ
reinvested dividend

แล้วอีก 10 ปี เรามาดูกันว่า หุ้นที่เราเลือกเหล่านี้
สามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับผู้ถือหุ้นหรือไม่

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 17, 2005 9:34 pm
โดย ลูกอิสาน
10 เด้ง :shock: เลยเหรอท่านพี่ :lol:

-น่าจะเป็นหุ้นขนาดเล็ก
-อยู่ในระยะเติบโต อุตสาหกรรมที่ขยายตัวอย่างมาก
-หรือกำลังเกิดจุดเปลี่ยนกับธุรกิจ

ขอไปคิด(และซื้อ)ก่อนครับ :lol:

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 17, 2005 9:36 pm
โดย Jeng
>>> PCC

อืม บริษัทพี่เอง

อะ

ล้อเล่น ขอไปคิดก่อนนะ

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 17, 2005 9:41 pm
โดย qingwen
Jeng เขียน:>>> PCC

อืม บริษัทพี่เอง

อะ

ล้อเล่น ขอไปคิดก่อนนะ
PCC นี่บริษัทคุณกบหรือเปล่า

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 17, 2005 9:52 pm
โดย jiras
เสนอ HMPRO ครับวัดกันที่ราคาหุ้นครับ
วันนี้ 7.65 อีก 10 ปี 76.50 :idea:

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 19, 2005 9:32 pm
โดย booklover
ticon พอไหวไหมครับ ปันผล 10% growth สัก 15-20%  :P

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 20, 2005 10:12 am
โดย songpon.s
SE-ED ครับ  ( หวังว่า  )
 เหตุผล ก็ ดูในร้อยคนร้อยหุ้นได้เลยครับ  :D

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 20, 2005 12:42 pm
โดย 007s
ลูกอิสาน เขียน:10 เด้ง :shock: เลยเหรอท่านพี่ :lol:

-น่าจะเป็นหุ้นขนาดเล็ก
-อยู่ในระยะเติบโต อุตสาหกรรมที่ขยายตัวอย่างมาก
-หรือกำลังเกิดจุดเปลี่ยนกับธุรกิจ
อ่านตอนแรก กะเตรียมมาลอกเต็มที่ :oops:  :oops:  :oops:


[/quote]ขอไปคิด(และซื้อ)ก่อนครับ

อ่านบรรทัดสุดท้าย เลยต้องรีบไปคิด(และซื้อ)ก่อนเอง มั่ง  :wall:  :wall:  :wall:

..

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 20, 2005 12:44 pm
โดย 007s
โอ้ยอาย ทำQuote ผิดอีกแว้ว :wall:

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 20, 2005 1:18 pm
โดย ลูกอิสาน
007s เขียน:
อ่านตอนแรก กะเตรียมมาลอกเต็มที่ :oops:

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 20, 2005 1:39 pm
โดย 007s
[quote="ลูกอิสาน"][quote="007s"][quote="ลูกอิสาน"]10 เด้ง :shock: เลยเหรอท่านพี่ :lol:

-น่าจะเป็นหุ้นขนาดเล็ก
-อยู่ในระยะเติบโต อุตสาหกรรมที่ขยายตัวอย่างมาก
-หรือกำลังเกิดจุดเปลี่ยนกับธุรกิจ


:D

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 20, 2005 2:10 pm
โดย ลูกอิสาน
ผมหมายถึงทั่วๆไปครับ :D  ไม่ได้เจาะจงหุ้นตัวใดตัวนึง

-หุ้นขนาดเล็ก มีโอกาสที่จะเติบโตมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ เราจะคาดหวังให้ยอดขาย ptt advance bbl เติบโต 10 เท่า ภายใน 10 ปี มีโอกาสน้อยมากครับ

-หุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต เช่น ยานยนต์ เครื่องปรับอากาศ ฮาร์ดดิสก์ ท่องเที่ยว ค้าปลีก น่าจะมีโอกาสที่กำไร-ยอดขายจะสูงขึ้น มากกว่าหุ้นในอุตสาหกรรมดาวร่วง เช่น กุ้งแช่แข็ง สิ่งทอ รองเท้า เครื่องหนัง

-หุ้นที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ อาจเกิดจากตัวกิจการเอง หรือวัฎจักรของอุตสาหกรรม




ส่วนหุ้นที่ผมพูดถึง อย่าเพิ่งเดานะครับ
ขอให้ผมไปทบทวน ทำการบ้านก่อน
มันอาจจะไม่ดีอย่างที่คาดหวังไว้ก็ได้

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 20, 2005 2:13 pm
โดย 007s
:D

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 20, 2005 11:09 pm
โดย thaistock2005
หุ้น super stock ในมือผมคือ tr
ติดที่บริษัทเขาจ่ายปันผลน้อยมาก

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 20, 2005 11:54 pm
โดย qingwen
ผมเสนอ s2y เข้าประกวดครับ
ราคาสูงสุด 10.10 วันเข้าตลาด น่าจะมีโอกาสเหลือ 1 บาทหรือต่ำกว่า
เผลอๆ 20 เท่าเอานะครับ ถ้าซื้อตอนต่ำสุดแล้วรอมันวิ่งกลับไปใหม่

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 21, 2005 10:27 am
โดย CK
qingwen เขียน:ผมเสนอ s2y เข้าประกวดครับ
ราคาสูงสุด 10.10 วันเข้าตลาด น่าจะมีโอกาสเหลือ 1 บาทหรือต่ำกว่า
เผลอๆ 20 เท่าเอานะครับ ถ้าซื้อตอนต่ำสุดแล้วรอมันวิ่งกลับไปใหม่
หรือไม่ก็โดนดีลิสต์ไปเลยครับ :lol:

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 21, 2005 12:35 pm
โดย ลูกอิสาน
ส่วนตัวผมคิดว่าหุ้นที่มีศักยภาพ
ที่จะให้ผลตอบแทน 1,000 % ภายใน 10 ปี
คือ SCNYL หรือ ไทยพานิชญ์นิวยอร์คไลท์ครับ

ต้องยกเครดิตให้คุณ worapong ครับ ที่ทำให้ผมรู้จักบริษัทนี้ :D



ที่ว่าน่าสนใจ ประเด็นหลักๆ เป็นดังนี้ครับ

1.ธุรกิจกำลังถึงจุดเปลี่ยน อย่างหน้ามือเป็นหลังเท้า

2.เบี้ยประกันสำรองที่นำไปลงทุน ซึ่งเป็นที่มาของรายได้จะเพิ่มจาก 13,000 ล้านบ. สิ้นปีนี้ เป็นประมาณ 146,000 ล้านบ. ในปี 2558

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 21, 2005 12:46 pm
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

2.เบี้ยประกันสำรองที่นำไปลงทุน ซึ่งเป็นที่มาของรายได้จะเพิ่มจาก 13,000 ล้านบ. สิ้นปีนี้ เป็นประมาณ 146,000 ล้านบ. ในปี 2558
:shock:  :shock:  :shock:

เปงไปได้ไง

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 21, 2005 2:07 pm
โดย ลูกอิสาน
ขอขยายความนะครับ ว่าจะเป็นไปได้อย่างไร
และผมเชื่อตามข้อสมมุติฐานนะ
ซึ่งอาจจะเป็นหรือไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้
ดังนั้นฟังหูไว้หูนะครับ

คุณ worapong หรือเพื่อนๆท่านใดมีความรู้ด้านนี้และต้องการเสริมหรือแย้ง
ก็ยินดีมากครับ


SCNYL เป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์(ไม่แน่ใจนะ) เกิดจากการร่วมทุนระหว่างธนาคารไทยพานิชย์และกลุ่มนิวยอร์คไลท์ บริษัทประกันชีวิตกลุ่มที่ใหญที่สุดในสหรัฐอเมริกา

1.ธุรกิจถึงจุดเปลี่ยน ทุกท่านอาจจะทราบนะครับ ในอดีตธุรกิจประกันชีวิตต้องแข่งขันกันที่ทีมขาย พนักงานขาย ใครจะเข้ามาในธุรกิจนี้ ต้องมีการทุ่มเงินดึงทีมขายเก่งๆ เข้ามา ทำให้คนขายหรือทีมขายเก่งๆ ได้รับผลตอบแทนสูงมาก เช่นคุณ กฤษณะ    หรือของ AIA ก็จะมีทัพและภาคต่างๆมากมาย

แต่ปีที่แล้วเกิดจุดเปลี่ยน เพราะหลังจากธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาติให้ธนาคารพานิชย์ สามารถทำธุรกรรมเป็นนายหน้าขายประกันได้ เรียกว่า Bancassurance เพื่อให้ธนาคารเป็น universal banking อย่างแท้จริง หลายธนาคารก็เริ่มทำธุรกิจนี้ แต่ธนาคารที่เอาจริงเอาจังที่สุด คือธนาคารไทยพานิชย์ และทำได้ดีอย่างเหลือเชื่อ สร้างความตกตะลึงให้วงการประกันชีวิต โดยในปีที่แล้ว SCNYL สามารถทำเบี้ยประกันชีวิตปีแรกได้ประมาณ 4,300 ล้านบ. (โดย 90% เป็นเบี้ยที่ขายผ่านสาขาธนาคาร) กระโดดขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ทันที เป็นรองแค่ AIA และไทยประกันชีวิตเท่านั้น ทั้งที่เพิ่งเริ่มธุรกิจนี้ได้ 1-2 ปีเท่านั้น

มีหลายสาเหตุที่ทำให้ Bancassurance ประสบความสำเร็จ

1. ไม่ต้องสร้างทีมขายหรือทุ่มเงินดึงนักขายเก่งๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากที่สุดในธุรกิจประกัน แต่ได้พนักงานขายซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารทันทีนับหมื่นคน

2.พนักงานเหล่านี้ไม่ต้องวิ่งหาลูกค้า แต่มีลูกค้าเข้ามาหาทุกวัน วันละหลายหมื่นคนผ่านสาขาธนาคารทั้งประเทศ สาขาเหล่านี้เปลี่ยนเป็นสำนักงานขายทันทีกว่า 600 แห่ง

3.ฐานลูกค้าจากธนาคารจำนวนมาก ที่เป็นกลุ่มเป้มหมายในการขายประกัน เช่นฐานลูกค้าเงินฝาก ฐานลูกค้าสินเชื่อรายใหญ่ ฐานลูกค้าสินเชื่อรายย่อย ,ฐานลูกค้าผ่อนบ้าน (ลูกค้าต้องซื้อประกันการผ่อนบ้านหรือที่เรียกว่า credit life)นอกจากนี้ไทยพานิชย์ ยังมีฐานลูกค้าผ่านผู้ถือหุ้น เช่น บริษัทปูนซิเมนต์ไทย  ฐานลูกค้าผ่อนรถ(SPL auto) ของสยามพานิชย์ลิสซิ่ง  ไทยพานิชย์มีฐานลูกค้าสินเชื่อซื้อบ้านใหญ่ที่สุดในประเทศ (ไม่รวมธ.อ.ส.) และเน้นขยายสาขาถึงประมาณ 60% ต่อปี เพื่อเข้าถึงรายย่อยให้มากที่สุด

4.ความน่าเชื่อถือ ไม่เหมือนธุรกิจประกันภัย ที่แข่งขันกันที่เบี้ยประกันว่าใครเสนอราคาต่ำ แต่ธุรกิจประกันชีวิต เป็นการฝากอนาคตในระยะยาว ดังนั้นความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งที่สำคัญ และไทยพานิชย์ซึ่งเป็นธนาคารที่แข่งแกร่งที่สุดในประเทศ ก็คือความได้เปรียบ นอกจากนั้นหากมีปัญหาอะไร ก็สามารถไปติดต่อชำระค่าเบี้ยประกันได้ทันทีที่สาขาธนาคาร  ไม่เหมือนการซื้อประกันจากตัวแทน ที่ชำระเบี้ยได้ 1-2 ปี ตัวแทนก็หายคือเลิกทำไปซะแล้ว

5.การเป็นพันธมิตรร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งมีพอร์ตลูกค้าผ่อนบ้านใหญ่ที่สุดในประเทศขายประกันชีวิต credit life
..

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 21, 2005 2:17 pm
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

Code: 
2.เบี้ยประกันสำรองที่นำไปลงทุน ซึ่งเป็นที่มาของรายได้จะเพิ่มจาก 13,000 ล้านบ. สิ้นปีนี้ เป็นประมาณ 146,000 ล้านบ. ในปี 2558 


     

เปงไปได้ไง
ถามต่ออีกรอบ 146,000 ล้านบ. ในปี 2558 คำนวณอย่างไร

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 21, 2005 4:05 pm
โดย ลูกอิสาน
ประเภทของเบี้ยประกันหลักๆ

1.เบี้ยประกันสามัญ ที่เราคุ้นเคยกันดี ทั้งแบบสะสมทรัพย์และไม่สะสมทรัพย์ เป็นเบี้ยที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายเบี้ยทุกปีตามเงื่อนใข อาจจะเป็น 7 ปี 10 หรือ 20 ปี เบี้ยประเภทนี้บริษัทต้องการมาก ถึงมากที่สุด เพราะผูกมัดให้ผู้ประกันตนต้องชำระเบี้ยทุกปี  ดังนั้นหากมีเบี้ยประเภทนี้ปีแรก 4,000 ล้าน เท่ากับว่าผู้ประกันต้องชำระเบี้ยอย่างต่ำ 28,000 ล้าน (สมมุติว่าชำระเบี้ยแค่ 7 ปี)  ดังนั้นหากบริษัทประกันมีเบี้ยประกันปีแรก 4,000 ล้าน ติดต่อกันแค่ 10 ปี จะมีรายได้เข้ามาถึง 280,000 ล้าน ตลอดช่วงเวลาการชำระเบี้ย  (เบี้ยประกันรวมจะทบขึ้นทุกปีเพราะรับทั้งเบี้ยใหม่และเบี้ยเก่าในปีก่อนๆ)

2.เบี้ยประกันชำระครั้งเดียวหรือ single premium เป็นการชำระเบี้ยครั้งเดียว และคุ้มครองตลอดอายุกรรมธรรม์ หากเป็นประกันคุ้มครองการผ่อนบ้านเรียกว่า credit life  นอกจากนั้นยังมีประกันคุ้มครองการผ่อนรถด้วย

ปีที่แล้ว SCNYL มีเบี้ยปีแรก 4,300 ล้าน เป็นเบี้ยสามัญประมาณ 65% และเบี้ยชำระครั้งเดียวประมาณ 35%  ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีเบี้ยปีแรกประมาณ 4,500 ล้าน แบ่งเป็นเบี้ยสามัญ และเบี้ยชำระครั้งเดียว 50: 50

ส่วนปีต่อๆไปเราสมมุติให้ SCNYL มีเบี้ยปีแรก 4,000 ล้านทุกปี และสัดส่วนเบี้ยประกันอย่างละ 50:50

เบี้ยรับทั้งหมด(ทั้งปีแรก+ปีก่อนๆ)รวมเรียกว่าเบี้ยประกันรวม ซึ่งยังไม่หักค่าใช้จ่าย ดังนั้นต้องหักออกก่อน ถึงจะได้รับเบี้ยสุทธิที่จะนำไปลงทุน ซึ่งเป็นรายได้หลักของธุรกิจประกัน

จะไปดูกันว่าธุรกิจประกันชีวิตมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง :D

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 21, 2005 4:54 pm
โดย อองตวน
10% ของเบี้ยthaire ก็เป็นประกันชีวิตฮะ

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 21, 2005 7:41 pm
โดย jiras
การจะได้ 4,000 ล้านทุกปีไม่ง่ายนะครับ เพื่อนผมอยู่ไทยพาณิชย์เล่าให้ฟังเรื่องให้พนักงานช่วยขายประกัน มันคงได้แค่ปีแรกๆเท่านั้น ปีต่อๆไปคงต้องหาช่องทางอื่นเพิ่มแล้วบริษัทอื่นเค้าจะไม่ปกป้องมาร์เก็ตแชร์เหรอครับ :idea:

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 21, 2005 8:15 pm
โดย ลูกอิสาน
ตัวเลข 140,000 ล.แต่คิดแบบอนุรักษ์นิยมขอลดเป็น 130,000 ล้าน
โดยที่ 130,000 ล้าน เป็นตัวเลขสุทธิที่หักค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงินแล้ว ไม่ใช่เบี้ยรับรวมซึ่งจะสูงกว่ามาก

ค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงินในธุรกิจประกัน

1.ค่าคอมมิสชั่น คิดปีแรก 30% ของเบี้ยและคิด 20% 10% และ 5% ในปีที่ 4 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่ต้องจ่ายค่าคอม

2.อัตราการจ่ายสินไหมทดแทน รวมถึงการจ่ายปันผล ประมาณ 30% ของเบี้ยรับแต่ละปี

3.ค่าใช้จ่ายในการประกัน กรณี AIA ประมาณ 5% ของเบี้ยรับ แต่ SCNYL มีขนาดเล็กกว่าคิดที่ 8% ของเบี้ยรับ

นอกจากนั้นยังมีอัตราส่วนที่จะทำให้เบี้ยประกันรับลดลง คืออัตราการต่อประกัน เนื่องจากจะมีลูกค้าบางส่วนที่ไม่ส่งเบี้ยประกันในปีถัดไป ตัวเลขส่งประกันเฉลี่ยทั่วไปของบริษัทประกันชีวิตคือ 90% ดังนั้นหากคิดลดด้วยอัตราการต่อประกัน (renewal) ทุกปี ในปีที่ 7 จะมีลูกค้าที่ส่งครบ 7 ปีประมาณ 53 คนจาก 100 คนในปีแรก


ทุกบริษัทประกันชีวิตขาดทุนจากกิจกรรมประกันชีวิต แต่มีรายได้หลักจากการนำเบี้ยประกันที่ยังไม่ถึงกำหนดทดแทนสินใหม-ชำระคืน ไปหาดอกผล ส่วนใหญ่จะนำไปลงทุนในพันธบัตร หุ้นกู้เอกชน และส่วนน้อยในหุ้น  จากตัวเลขเฉลี่ยบริษัทประกันชีวิตจะมีกำไรสุทธิเป็น 50% ของรายได้จากกิจกรรมการลงทุน หาก SCNYL มีเงินทุน 130,000 นำไปลงทุนได้ดอกเบี้ย 5% หรือ 6,500 ล้านบาท (ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น 1% ทำให้รายได้เพิ่ม 1,300 ล้าน) ดังนั้นจะมีกำไรประมาณ 3,300 ล้าน

บริษัทมีหุ้น 66 ล้านหุ้น จะได้กำไรต่อหุ้นเท่ากับ 50 บาท
ให้ เทรดที่พีอี 10 เท่าเพื่อสะท้อนความแข็งแกร่ง จะได้ราคาหุ้นในปี 2558 ประมาณ 500 บ./หุ้น หรือ 10 เท่าตัวจากวันนี้



เดี๋ยวไปดูความเสี่ยง...

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 21, 2005 9:11 pm
โดย ลูกอิสาน
ไม่มีหุ้นตัวใดในโลก ไม่มีความเสี่ยง
มากน้อยแตกต่างกันไปตัวนี้ก็เช่นกัน

1.ความเสี่ยงของเบี้ยประกันรับปีแรก ซึ่งจะกำหนดเบี้ยในปีต่อๆไป ต้องยอมรับว่าเบี้ยปีแรก 4,000 ล้าน เป็นปริมาณที่สูงมาก ติด 1 ใน 4 ทั้งที่บริษัทเพิ่งเริ่มธุรกิจไม่นาน เปรียบเทียบกับเจ้าตลาดที่ทำตลาดมาก่อนหลายสิบปี

ประเด็นที่ทำให้เบี้ยปีแรกลด..
-ฐานลูกค้าขายประกันลดลง คือที่มีอยู่ก็ซื้อประกันไปหมดแล้ว ประเด็นนี้เป็นเรื่องจริงแน่นอน แต่ผมคิดว่าในระยะยาว เบี้ยประกันปีแรกปีละ 2-3 พันล้าน ก็นับว่าสูงอยู่ดี
-ธนาคารแลนแอนด์เฮ้า จะแย่งลูกค้าไปบางส่วน เพราะปัจจุบันลูกค้า LH ผ่อนกับ SCB เป็นส่วนใหญ่
-ธนาคารอื่นๆ เริ่มรุกธุรกิจ Bancassurance ทำให้แย่งลูกค้าที่เปิดบัญชีหลายธนาคาร
-ดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้ประกันแบบสะสมทรัพย์ขายได้ยากขึ้น

โอกาสเพิ่มเบี้ย...
-การเร่งเข้าหาลูกค้ารายย่อยของ SCB โดยโหมขยายสาขาถึงปีละ 60 สาขาต่อปี (ไม่ใช่ 60% พิมพ์ด้านบนผิดครับ) ทำให้ได้ลูกค้าใหม่ๆ ทั้งลูกค้าผ่อนบ้านและลูกค้าประกันสามัญ
-การรุกขายประกันในฐานลูกค้าใหม่ๆ เช่นลูกค้า sME ที่ยังไม่ได้ทำ ลูกค้าผ่อนรถยนต์ของ SPL ลูกค้าจากธนาคารอาคารสังเคราะห์
-ลูกค้าที่เปิดบัญชีเงินฝาก เพิ่มขึ้นทุกปี

2.การคำนวณเบี้ยประกันผิดพลาด ทำให้เกิดการขาดทุนในระยะยาว มีความเป็นไปได้แต่ น้อย เพราะมีประกันหลายรูปแบบ และความรู้ด้านการคำนวณคณิตศาตร์ประกันภัยของกลุ่มนิวยอร์คไลฟ์

3.ข้อนี้สำคัญที่สุด คือหากเกิดอะไรก็ตามที่ทำให้ผู้ประกันตนเสียชีวิตเป็นจำนวนมากๆ อาจจะทำให้บริษัทต้องจ่ายสินใหมจำนวนมาก จนทำให้บริษัทขาดทุนจนเจ๊งได้ แม้ในอดีตความเสี่ยงนี้จะน้อยถึงน้อยมาก แต่ก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ ทั้งภัยพิบัติที่ไม่คาดคิด หรือโรคระบาด   แต่ผมคาดว่าหากเกิดขึ้นนี้ขึ้นจริงๆ บริษัทประกันทั้งหมดอาจจะบอกปฏิเสธการจ่ายสินใหม โดยอ้างเหตุสุดวิสัย เหมือนเหตุสงครามหรือจลาจล

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 21, 2005 9:25 pm
โดย ลูกอิสาน
ผมมองว่าตลาดกำลังประเมิน SCNYL ต่ำหรือน้อยกว่าความเป็นจริง แม้ว่าราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นมาแล้วนับ 100% ในปีนี้..

1.ตลาดประเมินศักยภาพของ Bancassurance น้อยเกินไป บริษัทเพิ่งรุกตลาดด้านนี้แค่ 1-2 ปี

2.ตลาดยังไม่รับรู้ว่า SCNYL ขาดทุนในปีที่แล้ว เพราะต้องจ่ายค่าคอมมิสชั่นปีแรกจำนวนมากๆ ซึ่งเป็นปกติของธุรกิจนี้

3.ตลาดยังไม่รับรู้ว่าเบี้ยประกันรวมจะเพิ่มแบบก้าวกระโดดในปีต่อๆไป จากผลของการทบของเบี้ยประกันในปีก่อนๆหน้า

4.ค่าใช้จ่ายประกันชีวิตผ่านธนาคาร น่าจะมีต้นทุนโดยรวมต่ำกว่าผ่านตัวแทน




สรุปว่าเหตุผลประกอบของผมอาจจะยืดยาวไปหน่อย
ท่านใดจะนำไปต่อยอด ทาบกิ่ง ติดตา ก็เชิญนะครับ
เพราะผมก็ต่อยอดมากจากคุณ worapong เช่นกัน

ท่านใดมีความรู้ด้านนี้ก็เสริมด้วยนะครับ ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ

หากถามผมว่า มีผลประโยชน์กับหุ้นตัวนี้หรือเปล่า
ผมไม่ขอตอบ แต่ขออ้างคำพูดของวอร์เรน ที่ว่า..

''ผมกินในสิ่งที่ผมปรุงเอง''

:D  :D

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 21, 2005 9:49 pm
โดย jiras
ขึ้นมาเยอะเหมือนกันนะคุณลูกอีสานจากแถวๆ 15 บาท
วันนี้ 55 บาท :?:

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 21, 2005 9:57 pm
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

Code: 
Code: 
2.เบี้ยประกันสำรองที่นำไปลงทุน ซึ่งเป็นที่มาของรายได้จะเพิ่มจาก 13,000 ล้านบ. สิ้นปีนี้ เป็นประมาณ 146,000 ล้านบ. ในปี 2558 


     

เปงไปได้ไง 


ถามต่ออีกรอบ 146,000 ล้านบ. ในปี 2558 คำนวณอย่างไร
ขอถามอีกรอบ ไทยประกันเปิดมากี่ปี ปัจจุบันมี 146,000 ล้านแล้วหรือยัง

AIA เปิดมาอีกปี ปัจจุบัน มี 146,000 แล้วหรือยัง

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 21, 2005 10:06 pm
โดย Hero_man
ตอนนี้ในตลาดมีบริษัทไหนเป็นประกันชีวิตล้วน ๆ บ้างครับ  :(

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2005 1:27 am
โดย adi
ผมไม่มีความรู้เรื่องบริษัทประกัน แต่ผมรู้สึกว่าตัวเลข 130000 แทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับผม เลยอยากขอถามดังนี้ครับ

1. ตัวเลข 30% ของ claim/premium นี่เป็นปกติของอุตสาหกรรมประกันชีวิตใช่ไหมครับ แล้วตัวเลขนี้รวม benefits ที่จะคืนลูกค้ารึยังครับ น่าใช่ก็น่าจะโอเค

2. ในสมมุติฐานคิดรวมตอนที่ตัด  reserve ทิ้งตอนครบอายุประกัน (เรียกยังงี้เปล่าหว่า) รึยังครับ พอดีอ่านแล้วยังงงๆครับ

3. การได้เบี้ยประกันปีแรก 4000 ล้านทุกปีนี่เป็นไปได้ขนาดไหนครับ