ของถูกเกลื่อนตลาด
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 27, 2005 7:23 pm
-หุ้นราคาถูกเกลื่อนกระดาน
ความซบเซาของตลาดหุ้นที่กินเวลาเกือบ 11 เดือนนั้น จากการรวบรวมของ"ฐานเศรษฐกิจ" ถึงความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ(ไม่รวมตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ) พบว่าจากจำนวนบริษัทจดทะเบียน 433 บริษัท ( ณ วันที่ 23 พ.ย.48)มีหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชี หรือบุ๊คแวรูถึง 195 บริษัท หรือคิดเป็น 45 %ของจำนวนหุ้นทั้งตลาด
พบว่าในจำนวนดังกล่าวมีจำนวนไม่น้อยที่เป็นบริษัทที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ดี อาทิ บริษัท ศรีตรังแอโกร อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (บมจ.)ที่ราคาหุ้นปิดที่ 9.85 บาท ขณะที่ราคาตามบุ๊คแวรูอยู่ที่ 21.59 บาท และให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 11.73 %
บมจ.ห้องเย็นโชติวัฒน์หาดใหญ่ ราคาหุ้นปิดที่ 88 บาท ขณะที่ราคาตามบุ๊คแวรูอยู่ที่ 137.05 บาท และให้อัตราเงินปันผล 8.86 %,บมจ.ยูไนเต็ด เปเปอร์ ราคาหุ้นปิดที่ 4.38 บาท ส่วนราคาตามบุ๊คแวรูอยู่ที่ 8.38 บาท และให้อัตราเงินปันผลสูงถึง 11.42 % ,บมจ.แปซิฟิกไพพ์ ราคาหุ้นปิดที่ 16.40 บาท ราคาตามบุ๊คแวรูอยู่ที่ 23.05 บาท ขณะที่ให้อัตราเงินปันผลสูงถึง 13.95 %
บมจ.ควอลิตี้ คอนสตรัคชั่น ราคาปิดที่ 2.6 บาท ส่วนบุ๊คแวรูอยู่ที่ 3.68 บาท ขณะที่ให้อัตราเงินปันผลที่ 9.62 %ไม่เว้นกระทั่งบมจ.ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส ซึ่งถือหุ้นใหญ่โดยตระกูลมหากิจศิริ ที่พบว่าราคาหุ้น ณ วันที่ 23 พ.ย.ปิดที่ 7.30 บาท ขณะที่ราคาตามบุ๊คแวรูอยู่ที่ 12.93 บาท แถมยังเป็นหุ้นที่มีอัตราเงินปันผลจ่ายถึง 9.53 % เป็นต้น
-บจ.ดิ้นใช้เครื่องมือพยุงราคา
จากความตกต่ำของราคาหุ้นพบว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ได้มีการใช้เครื่องมือพยุงราคาและสร้างเสถียรภาพให้ราคาหุ้นทั้งการดำเนินการโดยบริษัทเอง อาทิ การรับซื้อหุ้นคืน และการสร้างแรงจูงใจเรื่องเงินปันผล อีกทั้งเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นใหญ่บางรายจะใช้พอร์ตส่วนตัวพยุงราคาหุ้น
ความซบเซาของตลาดหุ้นที่กินเวลาเกือบ 11 เดือนนั้น จากการรวบรวมของ"ฐานเศรษฐกิจ" ถึงความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ(ไม่รวมตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ) พบว่าจากจำนวนบริษัทจดทะเบียน 433 บริษัท ( ณ วันที่ 23 พ.ย.48)มีหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชี หรือบุ๊คแวรูถึง 195 บริษัท หรือคิดเป็น 45 %ของจำนวนหุ้นทั้งตลาด
พบว่าในจำนวนดังกล่าวมีจำนวนไม่น้อยที่เป็นบริษัทที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ดี อาทิ บริษัท ศรีตรังแอโกร อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (บมจ.)ที่ราคาหุ้นปิดที่ 9.85 บาท ขณะที่ราคาตามบุ๊คแวรูอยู่ที่ 21.59 บาท และให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 11.73 %
บมจ.ห้องเย็นโชติวัฒน์หาดใหญ่ ราคาหุ้นปิดที่ 88 บาท ขณะที่ราคาตามบุ๊คแวรูอยู่ที่ 137.05 บาท และให้อัตราเงินปันผล 8.86 %,บมจ.ยูไนเต็ด เปเปอร์ ราคาหุ้นปิดที่ 4.38 บาท ส่วนราคาตามบุ๊คแวรูอยู่ที่ 8.38 บาท และให้อัตราเงินปันผลสูงถึง 11.42 % ,บมจ.แปซิฟิกไพพ์ ราคาหุ้นปิดที่ 16.40 บาท ราคาตามบุ๊คแวรูอยู่ที่ 23.05 บาท ขณะที่ให้อัตราเงินปันผลสูงถึง 13.95 %
บมจ.ควอลิตี้ คอนสตรัคชั่น ราคาปิดที่ 2.6 บาท ส่วนบุ๊คแวรูอยู่ที่ 3.68 บาท ขณะที่ให้อัตราเงินปันผลที่ 9.62 %ไม่เว้นกระทั่งบมจ.ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส ซึ่งถือหุ้นใหญ่โดยตระกูลมหากิจศิริ ที่พบว่าราคาหุ้น ณ วันที่ 23 พ.ย.ปิดที่ 7.30 บาท ขณะที่ราคาตามบุ๊คแวรูอยู่ที่ 12.93 บาท แถมยังเป็นหุ้นที่มีอัตราเงินปันผลจ่ายถึง 9.53 % เป็นต้น
-บจ.ดิ้นใช้เครื่องมือพยุงราคา
จากความตกต่ำของราคาหุ้นพบว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ได้มีการใช้เครื่องมือพยุงราคาและสร้างเสถียรภาพให้ราคาหุ้นทั้งการดำเนินการโดยบริษัทเอง อาทิ การรับซื้อหุ้นคืน และการสร้างแรงจูงใจเรื่องเงินปันผล อีกทั้งเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นใหญ่บางรายจะใช้พอร์ตส่วนตัวพยุงราคาหุ้น