หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2005 3:03 pm
โดย tt
ใครถือมาตั้งแต่ 19 บาท จนมันไป 35 แล้วกลับมา 24 ยังไม่ขายอีก
รู้สึกยังไงมั่ง และจะถือไปถึงไหน
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2005 3:17 pm
โดย สุมาอี้
ซื้อมา 20.9 ยังไม่ได้ขายครับ
ตอนแรกว่าจะไม่ขาย แต่วันนี้เห็นข่าวอัดงบสร้างโรงงานแห่งที่ 3 เริ่มชักลังเลซะแล้ว
ปล.เห็นข่าวนี้แล้วอยากซื้อ CPN ตรงคำสัมภาษณ์ของคุณตันที่บอกว่า "ธุรกิจร้านอาหารโตได้ไม่มากแล้ว เพราะที่ดีๆ ถูกจับจองไปหมดแล้ว"
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2005 3:27 pm
โดย คัดท้าย
สุมาอี้ เขียน:ซื้อมา 20.9 ยังไม่ได้ขายครับ
ตอนแรกว่าจะไม่ขาย แต่วันนี้เห็นข่าวอัดงบสร้างโรงงานแห่งที่ 3 เริ่มชักลังเลซะแล้ว
ปล.เห็นข่าวนี้แล้วอยากซื้อ CPN ตรงคำสัมภาษณ์ของคุณตันที่บอกว่า "ธุรกิจร้านอาหารโตได้ไม่มากแล้ว เพราะที่ดีๆ ถูกจับจองไปหมดแล้ว"
http://www.manager.co.th/Business/ViewN ... 0000165988
ตันงัดพันล.ปักธงเครื่องดื่มวอเตอร์พลัส แผ่วธุรกิจอาหาร-บุกก.พาณิชย์ยื่นเอกสาร
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 ธันวาคม 2548 09:18 น.
ตัน เจ้าพ่อชาเขียวชูนโยบายขยายธุรกิจเครื่องดื่มแทนกลุ่มอาหารอิ่มตัว ทุ่ม 1,000 ล้านบาท ผุดโรงงานแห่งที่ 3 พื้นที่ 100 ไร่ ปั้นเครื่องดื่มแนวเพื่อสุขภาพเพิ่ม ล่าสุดทุ่ม 70 ล้านบาท ดันเครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมวิตามิน อะมิโน โอเคแจ้งเกิดทดแทนตลาดชาเขียวซบ ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 1,200 ล้านบาท เร่งแจงก.พาณิชย์ เตรียมยื่นเอกสารดีเดย์ภายหลังวันที่ 2 ธ.ค.นี้
นางสุนิสา สุขพันธุ์ถาวร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ เปิดเผยว่า นโยบายการตลาดในช่วง 2-3 ปีจากนี้ บริษัทฯได้วางทิศทางขยายธุรกิจกลุ่มเครื่องดื่มในเชิงรุกมากขึ้น โดยวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้กลุ่มเครื่องดื่มจากปัจจุบัน 75% เป็น 90% ส่วนรายได้จากธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นและเบเกอรี่จาก 25% จะเหลือ 10%
ทั้งนี้เป็นเพราะตลาดเครื่องดื่มมีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับธุรกิจร้านอาหารเริ่มมีข้อจำกัดด้านพื้นที่ในการขยายสาขาภายในกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีร้านอาหารในเครือ 80 สาขา และตั้งเป้าจะขยายเพิ่มในช่วง 2-3 ปีนี้ครบ 120 แห่งเท่านั้น โดยปีหน้าเปิด 10 แห่ง ใช้งบลงทุน 100 ล้านบาท
ขณะนี้บริษัทฯกำลังศึกษาเพื่อสร้างโรงงานแห่งที่ 3 ขนาดพื้นที่ 100 ไร่ โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายไลน์โปรดักส์ใหม่ในแนวเพื่อสุขภาพ รวมทั้งการเติบโตกลุ่มเครื่องดื่มชาเขียวและเครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมวิตามิน อะมิโน โอเค ซึ่งเพิ่งเปิดตัวในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี้ และการขยายตลาดต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันส่งออกชาเขียว 12 ประเทศ และอะมิโน โอเค 2 ประเทศ ในลาวและเขมร โดยหากกำลังการผลิตใช้ถึง 75% ก็จำเป็นต้องหาโรงงานแห่งใหม่ จากปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตเครื่องดื่ม 2 แห่ง มีกำลังการผลิตรวม 45 ล้านขวดต่อเดือน แบ่งเป็น โรงงานอมตะนครมีกำลังการผลิต 15 ล้านขวดต่อเดือน และโรงงานนวนคร 30 ล้านขวดต่อเดือน
นายตัน ภาสกรนที ประธานกรรมการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังจากวันที่ 1-2 ธันวาคม นี้ ทางโออิชิได้เตรียมเอกสารยื่นต่อกระทรวงพาณิชย์ จากที่ผ่านมาทางกระทรวงฯได้วางแนวทางเร่งจัดทำรายละเอียดของสินค้าเครื่องดื่มชาเขียวสำเร็จรูปพร้อมดื่ม เพื่อส่งเรื่องไปยังกรมสรรพสามิตให้พิจารณาสินค้าชาเขียวเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่ต้องเสียภาษี เพราะที่ผ่านมาเครื่องดื่มชาเขียวได้รับการยกเว้นภาษี เพราะถือว่าเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในการรับซื้อใบชา
ทั้งนี้โออิชิออกมายืนยันว่าที่ผ่านมาชาเขียวโออิชิ ใช้วัตถุดิบในการผลิตโดยเฉพาะใบชาเป็นวัตถุดิบจากประเทศไทย 100% มาตั้งแต่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว
กรณีราคาชาเขียวพร้อมดื่มเราอยากชี้แจงว่า ปัจจุบันโออิชิจำหน่ายในราคาขวดละ 16-17 บาท ผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยราคาดังกล่าวยังรวมค่าแวท 7% ส่วนในร้านค้าสะดวกซื้อที่ต้องขายแพงคือ 18-20 บาท เพราะต้องเสียค่าแรกเข้า ค่าไฟ ตู้แช่ โดยปัจจุบันราคาหน้าโรงงานราคา 12 บาทเท่านั้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีกระแสข่าวลบมาโดยตลอด แต่ผลประกอบการโออิชิยังคงมีอัตราการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมานี้
ล่าสุดทุ่มงบ 70 ล้านบาท เปิดตัวเครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมวิตามิน อะมิโน โอเค โดยจะเป็นสินค้าหลักที่บริษัทฯเน้นทำตลาดในปีหน้า เพื่อแจ้งเกิดในตลาดภายหลังจากที่ตลาดชาเขียวเริ่มมีอัตราการเติบโตที่ลดลง ในขณะที่แนวโน้มตลาด วอเตอร์พลัส จะเป็นกระแสที่มาแรงในประเทศไทย ซึ่งเป็นกระแสที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับญี่ปุ่นและไต้หวันโดยวอเตอร์พลัส ถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองหรือสามรองจากชาเขียวพร้อมดื่มซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของตลาด โดยในช่วงแรกของการทำตลาดบริษัทฯจะเน้นใช้อะโบฟเดอะไลน์ 60 ล้านบาท และบีโลว์เดอะไลน์ 10 ล้านบาท เพราะต้องการสร้างการรับรู้และให้ข้อมูลกับกลุ่มเป้าหมายอายุ 18-35 ปี
โพซิชันนิ่งของ อะมิโน โอเค เราวางไว้เป็นเครื่องดื่มที่ดื่มแทนน้ำ ทำให้ไปชนกับคู่แข่งทางอ้อมหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น น้ำอัดลม น้ำเปล่า ไอเฟิร์ม รวมทั้งตลาดน้ำผลไม้ที่เหมือนจะเป็นคู่หลักมากกว่า ซึ่งแนวโน้มตลาดน้ำผลไม้มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 1-2% จากมูลค่า 1,300 ล้านบาทเท่านั้น เพราะตลาดน้ำผลไม้ 25-40% ไม่โตมาก ส่วนตลาดน้ำผลไม้พรีเมียมเติบโตสูง สำหรับในช่วงแรกบริษัทฯได้แจกสินค้าตัวอย่างตามโรงเรียน สถาบันกวดวิชา จตุจักร ฯลฯ เพื่อกระตุ้นการทดลองดื่ม ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายในปีแรก 1,000-1,200 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดเครื่องดื่มจะแยกเป็นเซกเมนต์ชัดเจนว่า ต้องการดื่มเพื่อประโยชน์ด้านใด โดยจากนี้ไปจะเห็นเครื่องดื่มแนววอเตอร์พลัสมากขึ้น ทั้งนี้เพราะพฤติกรรมของคนไทยต้องการเครื่องดื่มที่ตอบสนองความต้องการได้เพิ่มขึ้น โดยมองว่าการดื่มน้ำผลไม้จะไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย และคนไทยจะไม่ได้ดื่มน้ำเพื่อต้องการความอร่อยแต่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป โดยคาดว่าภายใน 2-3 ปีนี้พฤติกรรมของคนไทยจะเริ่มเปลี่ยนแปลงและเห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามเครื่องดื่มกลุ่มวอเตอร์ พลัส ในญี่ปุ่นมีอีกหลายประเภทที่น่าสนใจ อาทิ ไฟเบอร์ โอลิโกะ แลคติก เป็นต้น
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2005 4:22 pm
โดย CK
ยังไม่ได้ขายครับ...เพราะไม่เคยซื้อ
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2005 4:25 pm
โดย tt
นับถือคุณสุมอี้ หัวใจแกร่งจริงๆ ส่วนผมไม่เอาแล้ว
ซื้อมา 19 ขายไป 30 เข้าไปใหม่ 28 เจ็บตัวนิดหน่อย
เบื่อมันจริงๆ มีแต่ข่าวแย่ๆตลอด จะว่าไปตัวนี้ก็ช่วย port ผมในปีนี้
ไม่น้อยเหมือนกัน
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2005 4:37 pm
โดย สุมาอี้
อย่างว่าแหละครับ ถึงราคาจะลงมาขนาดนี้ แต่ปีนี้ OISHI ก็ยังเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นอันดับต้นๆ ของตลาดอยู่ดี เพราะปีนี้ตลาดแย่มาก หุ้นส่วนใหญ่จึงให้ผลตอบแทนติดลบ หุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกน้อยๆ จึงกลายเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่ดี
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2005 5:10 pm
โดย Suysak
อย่างนี้เท่ากับว่า OISHI เสียความเป็นตัวเองไปรึเปล่าครับ เพราะถ้าพูดถึง OISHI จะรู้สึกถึง อาหารบุฟเฟต์ญี่ปุ่น อร่อยๆ แล้วก็ชาเขียว แต่ อะมิโนโอเค นี่สื่อถึงความเป็นญี่ปุ่นตรงไหนครับ
ดูอย่างฟูจิ ทำอาหารญีปุ่นเหมือนกัน เมื่อก่อนมีไม่กี่สาขา เดี๋ยวนี้ไปที่ไหนก็เจอ คนเข้าคิวรอกันยาวเหยียด ไม่เคยเห็นเขาคิดไปออกผลิตภัณฑ์อะไรแปลกๆ นอกจากขยายสาขา ร้านอาหาร 8)
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2005 5:31 pm
โดย kmlmsrt
ชาเขียวมาร์จิ้นสูงมากครับอย่างที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งข้อสังเกต คุณตันไม่อยากกลับลุยบุฟเฟต์อย่างเดิมหรอกครับ ทั้งเหนื่อยและมาร์จิ้นต่ำครับ ขายน้ำหวานผสมสีกำไรเยอะกว่าครับ...
:twisted: [/b][/quote]
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2005 5:54 pm
โดย harry
ถ้าเป็นผมนะ
ผมจะสั่งปิดโรงงาน เลิกทำชาเขียวเลย และปลดคนงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
แล้วให้ไปประท้วงรัฐบาลเอาเอง ถ้าไม่พอใจ
เพราะผมเป็นนักธุรกิจ ค้าขายต้องมีกำไร ผมทำถูกต้อง(ถ้าถูกจริงนะ) มัยต้องใช้อำนาจรัฐกลั่นแกล้ง
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2005 7:08 pm
โดย hot
เห็นบางเจ้าใช้ราคา15 บาท เป็นจุดขายน่าดู
เหมือนกันคับ
เป็นผม ขายสิทธิ์ชาเขียวให้ประมูลไปเลย
แล้วเอาเงินไปลุยสินค้าตัวใหม่แทน
เพราะอย่างลืมชาเขียวดังได้
เพราะผู้บริหารไม่ไช่หรือ
ไม่ใช่เพราะ เป็นชาเขียว
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2005 8:23 pm
โดย booklover
ผมถือตั้งแต่ ipo ตกก็ซื้อเพิ่มครับ แต่พอช่วงปลายๆโปรโมชั่นเริ่มเห็นคนกินน้อยลงมาก ไปกินอาหารคนก็น้อยเลยเริ่มขายออกครับ
ตอนนี้รอดูกระแสอยู่ว่าจะผ่านได้ไหม กับอะมิโนว่าจะรุ่งเหมือนที่ญี่ปุ่นไหมถ้าเห็นเด็กวัยรุ้นซื้อกันเยอะๆก็ว่าจะลุยอีกรอบครับ
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2005 10:58 pm
โดย ปรัชญา
หลังจากขายตอนจะหมดฝาล้านแล้ว
นัดเจอกันราคาเท่าไหร่ดี
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2005 11:18 pm
โดย Suysak
จะซื้อ โออิชินี่ต้องดูตามถังขยะ ครับ ถ้ามีขวดของโออิชิมากละก็ ซื้อโลด :shock: ตอนเข้าใหม่ๆ ผมยังสงสัยหุ้นดีทำไมตำจอง ดูตามถังขยะเจอแต่ขวดชาเขียว พวก pepsi coke นี่ลืมไปเลย แต่ตอนนี้ลองมองๆดูไม่เจอซักขวด :P
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2005 11:36 pm
โดย redvdox
อย่างน้อยมูลค่าของแบรนด์ก็มีค่ามหาศาล
ผมก็เล็งๆตัวนี้ไว้อยู่ครับแต่เกี่ยงเรื่องราคา