หน้า 1 จากทั้งหมด 2

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 19, 2005 9:23 pm
โดย Stock Broker
ช่วงหลังๆ ผมรู้สึกว่ากระทู้ที่ผมอ่านเจอในเว็บนี้ที่เข้าตามากๆ ส่วนใหญ่จะเป็นความเห็นของท่านสุมาอี้ครับ

เลยมาตั้งกระทู้ขอคารวะ และแนะนำเพื่อนๆ ท่านอื่นๆ ให้ลองสังเกตดูครับ รับรองว่าได้ความรู้ดีๆ เพียบเลย (เผลอๆ จะได้ตังค์ด้วยนะ)

ข้าน้อยขอคารวะ หนึ่งจอก  :cheers:  :bow:

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 19, 2005 9:52 pm
โดย ปรัชญา
เอาเป็นว่า  ตั้งใจได้ตังค์

หากเผลอๆเดี๋ยวหมดตังค์  อิอิ

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 19, 2005 10:13 pm
โดย harry
:bow:   :bow:  :bow:


ด้วยครับ ได้ความรู้เยอะเลย

Re: มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 20, 2005 12:06 am
โดย Penguins
[quote="Financial Engineer"]ช่วงหลังๆ ผมรู้สึกว่ากระทู้ที่ผมอ่านเจอในเว็บนี้ที่เข้าตามากๆ ส่วนใหญ่จะเป็นความเห็นของท่านสุมาอี้ครับ

เลยมาตั้งกระทู้ขอคารวะ และแนะนำเพื่อนๆ ท่านอื่นๆ ให้ลองสังเกตดูครับ รับรองว่าได้ความรู้ดีๆ เพียบเลย (เผลอๆ จะได้ตังค์ด้วยนะ)

ข้าน้อยขอคารวะ หนึ่งจอก

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 20, 2005 9:33 am
โดย hed
เช่นเดียวกันครับ
ผมชอบมุมมอง แนวทางความคิดของคุณ สุมาอี้ ครับ

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 20, 2005 10:14 am
โดย por_jai
8) ท่านแม่ทัพ ไม่ธรรมดา จริงๆ

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 20, 2005 2:39 pm
โดย little shark
น้องใหม่ ขอคาราวะ ด้วยคนครับ ท่านแม่ทัพ

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 20, 2005 4:14 pm
โดย สุมาอี้
ขอบคุณมากครับที่อุตส่าห์เข้ามาชม

ผมชอบคิดเสียงดังครับ กระดานเสวนาเลยเป็นที่ระบายความคิด แต่ผมเป็นคนขวานผ่าซากนะครับ คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น อันไหนใครฟังแล้วไม่เข้าหูก็ต้องขออภัยด้วย

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 20, 2005 4:23 pm
โดย CK
งั้นผมเป็นซาก..... :D

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 20, 2005 5:28 pm
โดย Jeng
พอจับใจความได้ว่า คุณสุมาอี้ จะเน้นหุ้นที่เติบโตสูง pe สูงก็ไม่เป็นไร ใช่หรือไม่ครับ คุณสุมาอี้

เออ น้อง FE ช่วยสรุปแนวทางคุณสุมาอี้หน่อยดิ เอาเป็น 1 2 3 ว่า มีหลักอย่างไร

ไหนๆก็มาชมแล้วช่วยสรุปเป็นวิทยาทาน หน่อย

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 20, 2005 6:08 pm
โดย อองตวน
ผมเป็นแฟนคลับ คุณสุมาอี้ กับ คุณลูกอีสาน ครับ ถ้าเห็นโพสท์ทีไรต้องแวะเข้าไปขอความรู้ มุมมอง ประดับสมอง

ท่านอื่นๆก็มีประเด็นดีมากๆคับ สมควรโหวตเป็นเว็บคุณภาพ

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 20, 2005 6:13 pm
โดย Jeng
Investment strategy
Buffett is a patient investor and a superb capital allocator. While he's willing to buy average businesses at low prices, he prefers to buy wonderful businesses at fair prices. He generally isn't a trader -- his favorite holding period is forever. While he has bought REITs for his personal portfolio, he generally avoids real estate, saying, "Why should I buy real estate when the stock market is so easy?"

ของคุณสุมาอี้คงเปงเหมือน Buffet มั๊งครับ

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 21, 2005 9:20 pm
โดย สุมาอี้
นั่งสรุปหลักการลงทุนที่ผมยึดถือมาให้อ่านกันแล้วครับ นึกได้แค่ 10 ข้อก่อน ที่จริงอยากเรียกว่า personal biases มากกว่า ไม่อยากเรียกว่าหลักการลงทุนเท่าไร



1. ซื้อก็ต่อเมื่อได้วิเคราะห์ข้อมูลจนมั่นใจว่ามูลค่าตลาดของหุ้นตัวนั้นต่ำกว่ามูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดในอนาคตทั้งหมดที่คาดหวังได้ของบริษัทเท่านั้น ซึ่งถ้ามันเป็นเช่นนั้นจริง ซื้อมาแล้วไม่ต้องขายเลยก็ยังกำไร (กฎข้อนี้สำคัญมากห้ามผ่าฝืนเด็ดขาด)

2. ทิศทางของราคาหุ้นเป็นสิ่งที่ไม่มีทางทำนายได้ อย่าพยายามทำกำไรด้วยการ BLASH การเทรดหุ้นทุกวันเปรียบเสมือนการกระโจนเข้าใส่เครื่องบดเนื้อ

3. ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์บริษัทและอุตสาหกรรมให้มากที่สุด ไม่ต้องให้ความสำคัญกับการทำนายทิศทางเศรษฐกิจมหภาค เรือทุกลำต้องเผชิญพายุเหมือนกันหมด จงพยายามเลือกเรือลำที่ดีที่สุดแทนที่จะพยายามคาดเดาว่าพายุจะมาเมื่อไร

4. ราคาหุ้นไม่มีความสัมพันธ์กับกำไรในปัจจุบันแต่จะวิ่งไปตามความเชื่อของตลาดว่าพรุ่งนี้กำไรของบริษัทจะเป็นเท่าไร หุ้นที่ขึ้นไม่ใช่หุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานดี แต่หุ้นที่ขึ้นคือหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานไม่ดีในวันนี้แต่กำลังจะดีขึ้นวันหน้าหรือหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานดีอยู่แล้วและจะดีขึ้นไปอีก

5. หุ้นบูลชิพที่เติบโตช้า แม้ downside จะต่ำ -20% แต่ upside ก็ต่ำด้วย +20% หุ้นเติบโตสูงจึงน่าลงทุนมากกว่าเพราะแม้ว่า downside ของมันอาจจะมากถึง -100% แต่ upside ของมันไม่มีขีดจำกัด (อาจเป็น 200% 500% 1000%...) พอร์ตที่มีหุ้นเติบโตสูงหลายๆ ตัวแม้จะผันผวนมากกว่าแต่จะวิ่งได้ไกลกว่าพอร์ตที่เต็มไปด้วยหุ้นบูลชิพในระยะยาวๆ

6. อย่าให้ความสำคัญกับ dividend yield มากนัก เพราะไม่มีกฎว่าบริษัทต้องจ่ายเงินปันผลเท่าเดิมทุกปี จงสนใจว่าบริษัทเอา retained earnings ไปลงทุนทำอะไรมากกว่า มูลค่าของบริษัทจะเพิ่มขึ้นได้ก็ต่อเมื่อบริษัทลงทุนในโครงการที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าเท่านั้น

7. หุ้นเป็นหลักทรัพย์ที่มีผลตอบแทนคุ้มค่ากับการเสี่ยงมากที่สุด อย่าเสียเวลาคิดว่าควรแบ่งเงินไปลงตราสารหนี้เท่าไรหุ้นเท่าไร เงินส่วนใหญ่ของคุณควรอยู่ในหุ้นกับเงินสดตลอดเวลา อย่ากลัว market crash เพราะในระยะยาวๆ ไม่มีตลาดหุ้นไหนในโลกที่ไม่สามารถกลับมาสูงกว่าจุดสูงสุดเดิมได้ เพราะเศรษฐกิจในระบอบทุนนิยมโตต้องขึ้นเรื่อยๆ

8. จงละเลยหุ้นที่มีประวัติเรื่องเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อย หรือมีพฤติกรรมดูแลราคาหุ้นแม้แต่ครั้งเดียว ราวกับว่าบริษัทเหล่านั้นมิได้ซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์

9. โอกาสในตลาดหุ้นไม่ได้มีมากขนาดหาได้ทุกวันมิฉะนั้นผู้คนคงเลิกทำงานประจำ บริษัทคงเลิกนำเงินไปลงทุนนอกตลาด ในบรรดาหุ้น 20 ตัวที่คุณอยากซื้อในหนึ่งปี จงใช้เงินทั้งหมดที่มีอยู่ซื้อแค่ 1-2 ตัวที่คุณคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่สุดใน 20 ตัวนั้น คุณจะพบว่าคุณจะได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าการแบ่งเงินออกเป็น 20 ส่วนเพื่อซื้อทั้ง 20 ตัว

10. นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จร้อยทั้งร้อยมีความคิดที่เป็นอิสระ ถ้าคุณจอดรอไฟแดงอยู่ที่สี่แยกที่ไม่มีรถวิ่งอยู่ แต่รถคันหลังรุมกดดันคุณด้วยการบีบแตรไล่ให้คุณวิ่งออกไปเลย ถ้าคุณไม่สนใจแรงกดดันนั้นและรอจนไฟเขียวจึงค่อยไป คุณมีแนวโน้มที่จะเล่นหุ้นแล้วประสบความสำเร็จครับ  


ขอให้โชคดีทุกคน

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 21, 2005 9:30 pm
โดย Saran
สุดยอดจริงๆ ครับ ท่านแม่ทัพ

ขอ save หน้านี้เก็บไว้เลยละกัน  :bow:  :bow:  :bow:

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 21, 2005 9:32 pm
โดย Stock Broker
สุมาอี้ เขียน: 4. ราคาหุ้นไม่มีความสัมพันธ์กับกำไรในปัจจุบันแต่จะวิ่งไปตามความเชื่อของตลาดว่าพรุ่งนี้กำไรของบริษัทจะเป็นเท่าไร หุ้นที่ขึ้นไม่ใช่หุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานดี แต่หุ้นที่ขึ้นคือหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานไม่ดีในวันนี้แต่กำลังจะดีขึ้นวันหน้าหรือหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานดีอยู่แล้วและจะดีขึ้นไปอีก
เห็นด้วยกับข้อนี้ที่สุดครับ

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 21, 2005 10:48 pm
โดย Jeng
ท่านสุมาอี้ พี่มีข้อเสนอ

ให้ท่านแต่งหนังสือ แต่ต้อง

1. มีจำนวนหน้า ที่น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับหนังสือลงทุนในตลาด

2. ใช้สำนวนของท่าน ห้ามให้นักเขียนมาช่วยเกลา ยกเว้น คำผิด

3. เวลาขาย ต้องปิด คือ ซีนพลาสติก ห้ามให้อ่านก่อน เพราะมันลึกซึ้ง

พี่ขอ เป็นผู้จัดการ อะครับ

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 21, 2005 10:55 pm
โดย bajjo
[quote="สุมาอี้"]
10. นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จร้อยทั้งร้อยมีความคิดที่เป็นอิสระ ถ้าคุณจอดรอไฟแดงอยู่ที่สี่แยกที่ไม่มีรถวิ่งอยู่ แต่รถคันหลังรุมกดดันคุณด้วยการบีบแตรไล่ให้คุณวิ่งออกไปเลย ถ้าคุณไม่สนใจแรงกดดันนั้นและรอจนไฟเขียวจึงค่อยไป คุณมีแนวโน้มที่จะเล่นหุ้นแล้วประสบความสำเร็จครับ

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2005 2:57 am
โดย TanTai
:cool:

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2005 9:19 am
โดย Groundhog
ข้าน้อยขอคารวะด้วยครับ ติดตามแนวคิดของท่านแม่ทัพมาตลอด และได้ทั้งประโยชน์ทางปัญญาและกำไรจากการลงทุน
จะอ่านกลศึกที่ท่านแนะนำได้ให้ขึ้นใจครับ ขอบคุณมากๆครับ

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2005 12:22 pm
โดย Raphin Phraiwal
ขอคารวะด้วยคนครับ  :cool:

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2005 12:39 pm
โดย putty
ลึกล้ำสมคำร่ำลือ  :cool:

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2005 1:43 pm
โดย moo
:bow:  :bow:  :bow:

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2005 2:53 pm
โดย สุมาอี้
Jeng เขียน:ท่านสุมาอี้ พี่มีข้อเสนอ

ให้ท่านแต่งหนังสือ แต่ต้อง

1. มีจำนวนหน้า ที่น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับหนังสือลงทุนในตลาด
ทำไมต้องจำนวนหน้าน้อยๆ หรือครับ

อยากเขียนเหมือนกันแต่ขาด Credentials อ่ะครับ ไม่มีใครรู้จัก แถมเป็นนักลงทุนหน้าใหม่อีกต่างหาก เอาไว้รวยหุ้นเมื่อไรอาจจะเขียนครับ

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2005 3:08 pm
โดย hed
มารับข้อคิดดีๆจากคุณสุมาอี้ครับ :o

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2005 3:21 pm
โดย momo29
ลึกล้ำมากเลยครับ ชอบมาก โดยเฉพาะข้อ 2, 3, 9 สมกับที่เป็นคู่ปรับของมังกรหลับ (เอ๊ะ ใช่ป่าวหว่า?)  :lol: เท่าที่อ่านดูคุณสุมาอี้น่าจะเป็นแฟนพันธ์แท้ Peter Lynch แน่เลย

เป็นแฟนประจำของคุณสุมาอี้เหมือนกันครับ ชอบอ่านความเห็นของคุณลูกอีสาน กะคุณ IH มากด้วย

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2005 3:45 pm
โดย ขงเบ้ง
ท่านสุมาอี้ลําลึกมาก นับถือนับถือ มังกรหลับสู้ไม่ได้จริงจริง
ว่าแล้วขอไปหลับต่อ  :mrgreen:

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2005 4:54 pm
โดย CK
เยี่ยมยุทธครับ เขาอนุญาตเอาไปลงในบทความของทีวีไอนะครับ

http://www.thaivi.com/content/view/339/49/

ขอบคุณครับ

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2005 5:33 pm
โดย Jeng
เสนอชื่อคุณสุมาอี้ ไปบรรยาย ในฐานะตัวแทน VI

ที่งาน meeting ที่สินธรครับ

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2005 5:43 pm
โดย setmaker
Jeng เขียน:เสนอชื่อคุณสุมาอี้ ไปบรรยาย ในฐานะตัวแทน VI

ที่งาน meeting ที่สินธรครับ
ไม่รู้คุณสุมาอี้ จะไปหรือเปล่านะครับ
เหมือนผมจะเคยเห็นคุณสุมาอี้ พูดว่า "ผมไม่ใช่วีไอ"

ถ้าไปคงไปบรรยายในนามนักลงทุน ป่าวครับ ท่านแม่ทัพ.

แต่ยอมรับว่าผมชอบอ่านบทความคุณสุมาอี้ มากครับ นับถือๆ. :idea:

มาขอคารวะเพื่อนร่วมห้องครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2005 8:43 pm
โดย สุมาอี้
ผมไม่ใช่วีไอจริงๆ ด้วยอ่ะครับ

ผมเรียกตัวเองว่า pure fundamentalist และลงทุนระยะยาวเท่านั้นครับ