Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

คิดอยู่นานว่าจะถามดีไม่ถามดี แต่สุดท้ายตัดสินใจถามครับ
ด้วยความเคารพในความสามารถและความคิดเห็นคุณ chatchai นะครับ

chatchai เขียน:ถ้าผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่โปร่งใส พวกเราคงมีบริษัทที่น่าลงทุนเพิ่มอีกซักบริษัท เสียดายจัง

จาก http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... light=thip

1. ผู้บริหารทำถูกกติกาของกลต.และกฎหมายทุกประการ
2. มีเจตนาเลี่ยงไม่จ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างชัดเจน
3. ผู้บริหารมีความสามารถ ทำให้บริษัทมีกำไรมาก จ่ายโบนัสพนักงานดี

ในฐานะพนักงานบริษํทคงจะดีใจ แต่ผู้ถือหุ้นรายย่อยที่เสียประโยชน์
คงจะช้ำใจน่าดู

คำถามคือ ทำไมคุณ chatchai ตำหนิผู้บริหาร THIP
แต่ออกมาปกป้องคุณทักษิณทุกครั้ง

1. ท่านนายกทำถูกกติกาของประเทศและกฎหมายทุกประการ
2. ท่านนายกมีเจตนาเลี่ยงภาษีชัดเจน (ผ่าน Ample Rich และลูก)
3. ท่านนายกมีความสามารถ ทำให้คนบางกลุ่มได้ผลประโยชน์มาก

แต่สำหรับประชาชนทั่วไป ถือว่าท่านทำถูกหรือไม่ครับ

เป็นเพราะเราได้ประโยชน์จากการทำงานของท่านนายก
เหมือนพนักงานบริษัท THIP ได้โบนัสก้อนโต เลยต้องปกป้องนาย

แต่ถ้าเราเป็นแค่ผู้ถือหุ้นประเทศไทย ไม่ได้ประโยชน์จากภาษี
เหมือนรายย่อยไม่เคยได้ปันผล ก็เลยต้องออกมาตำหนิ

คนเรามักจะตัดสินคนที่ ผล ของการกระทำ
มากกว่า เจตนา ในการกระทำ

ขอตอบนะครับ

การบริหารงานของผู้บริหาร THIP นั้น  ทำไม่ถูกต้องตามกติกาของ กลต. ครับ

เพราะการให้กู้ยืมเงินแก่บริษัทแม่  โดยไม่มีหลักประกัน  และไม่มีการชำระหนี้เงินต้นคืน  นั้น  ทาง กลต.ได้คัดค้านครับ  ให้มีการผ่อนชำระเงินต้น  ซึ่งต่อมาทางบริษัทแม่ก็ไม่มีเงินมาชำระ  ต้องนำที่ดินมาชำระหนี้แทน

อีกทั้งอดีตเจ้าของและผู้บริหารได้ถูกตัดสินความผิดคดีปั่นหุ้น THIP  ขณะนี้ยังหลบหนีคดีอยู่


กรณีเรื่องเงินปันผลนั้น  บริษัทจ่ายเงินปันผลมาโดยตลอด  คิดว่าประมาณ 50% ของกำไรสุทธิครับ

กรณีจ่ายโบนัสให้พนักงาน  หรือผลตอบแทนนั้น  ผมไม่ทราบว่าจ่ายดีหรือไม่อย่างไรครับ

ปัญหาที่ผมพูดเรื่องนายก  

ก็เพราะผมคิดว่า  มีผู้คนจำนวนหนึ่งที่มักจะอ้างว่าปกป้องผลประโยชน์ของชาติ  ออกมาตำหนินายก

ทั้งที่  ความเป็นจริงแล้ว  ถ้าปกป้องผลประโยชน์ของชาติจริง  ทำไมกรณีเดียวกันที่มีการเกิดขึ้นก่อนหน้ากับเอกชนรายอื่น  ถึงไม่มีการถักท้วง  ออกมาป่าวประกาศปกป้อง

เบื่อคนที่ชอบอ้างประเทศชาติ  เพื่อผลกิเลศของตนเอง

มาอ่านคำตอบของคุณฉัตรชัย  :D

THIP: ขอเลื่อนการลาออกของกรรมการ
Source - ข่าวบริษัทจดทะเบียน
Wednesday, 25 January 2006 17:49

THIP-SET 003/2549


วันที่ 24 มกราคม 2549

เรื่อง  ขอเลื่อนการลาออกของกรรมการ
เรียน  กรรมการและผู้จัดการ
     ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

     ตามที่ บริษัท ทานตะวันอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือออกเลขที่ THIP-SET
037/2548 เพื่อแจ้งการลาออกของ นายวิรุฬ เผ่าลินจง จากการเป็นกรรมการบริษัท โดยให้เริ่ม
มีผลตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2548 นั้น

     บัดนี้ บริษัทฯ มีความประสงค์ขอเลื่อนการลาออกจากการเป็นกรรมการ เนื่องจากนายวิรุฬ
เผ่าลินจง ยังมีภารกิจที่สำคัญต่อการบริหารงานของบริษัทฯ อีกทั้งบริษัทยังไม่สามารถคัดสรรบุคคลมา
ดำรงตำแหน่งกรรมการแทน นายวิรุฬ เผ่าลินจงได้ จึงได้เลื่อนการลาออกไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม
2549 โดยบริษัทฯจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าแจ้งต่อที่ประชุมของคณะกรรมการบริษัท เพื่อรับทราบต่อไป

     จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ


                                   ขอแสดงความนับถือ



                        (นางพจนารถ พนัสขาว)(นายพิฑูร ตรีวิจิตรเกษม)
                                กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม

2. ท่านนายกมีเจตนาเลี่ยงภาษีชัดเจน (ผ่าน Ample Rich และลูก)
3. ท่านนายกมีความสามารถ ทำให้คนบางกลุ่มได้ผลประโยชน์มาก

แสดงว่า ความเก่งกับจริยธรรมเป็นคนละเรื่องกัน

ปัญหาที่ผมพูดเรื่องนายก  

ก็เพราะผมคิดว่า  มีผู้คนจำนวนหนึ่งที่มักจะอ้างว่าปกป้องผลประโยชน์ของชาติ  ออกมาตำหนินายก

แสดงว่า เหตุผลเรื่องปกป้องผลประโยช์ของชาติ เป็นเหตุผลที่ห้ามใช้

ทั้งที่  ความเป็นจริงแล้ว  ถ้าปกป้องผลประโยชน์ของชาติจริง  ทำไมกรณีเดียวกันที่มีการเกิดขึ้นก่อนหน้ากับเอกชนรายอื่น  ถึงไม่มีการถักท้วง  ออกมาป่าวประกาศปกป้อง

แสดงว่า สิ่งเลวๆ ที่เกิดก่อนหน้าแล้วไม่มีคนเปิดโปง เมื่อมีคน
มาเปิดโปงคนที่ทำเลวตาม ก็ไม่ควรไปฟัง เพราะว่าคนที่ทำทีหลังก็ทำ
เหมือนคนที่ทำก่อนหน้าเช่นกัน

เบื่อคนที่ชอบอ้างประเทศชาติ  เพื่อผลกิเลศของตนเอง

แสดงว่าปัจจุบัน นาย ก. ไม่ได้กำลังทำอย่างนั้นอยู่

ขอโทษด้วยครับที่ต้องตัดเป็นท่อนๆ แต่อ่านแล้วรู้สึกว่า ปัจจุบันเรามีคนเก่ง
มากมายที่รู้ทันคน โดยเฉพาะในบอร์ดต่างๆ แต่เรามักจะแค่แสดงว่ารู้ โดย
เฉยๆกับการกระทำที่ไม่ดีเหล่านั้น เพราะอาจจะเชื่อว่ามันเป็นการคัดสรรตามธรรมชาติ
ของดาวินชี (แบบตะวันตก) หรือสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมของพุทธ(แบบ
ตะวันออก) ก็ดีครับ

ที่สำคัญตัวผมเองก็กำลังเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน (เฉยๆ กับการกระทำเพราะยังมาไม่ถึงเรา)

ขอโทษท่านผู้ติดตาม

แสดงว่า เหตุผลเรื่องปกป้องผลประโยช์ของชาติ เป็นเหตุผลที่ห้ามใช้

ผมว่าการ Comment โดยตัดประโยคส่วนใหญ่ออก แล้วเหลือแค่ส่วนสั้น ซึ่งหลายครั้ง มันทำให้ไม่ตรงกับความหมาย เป็นเรื่องที่ควรพิจารณามากๆ

ไม่เจอตั้งนานนม โตขึ้นตั้งเยอะ  :)
ไม่เจอตั้งนาน นมโตขึ้นตั้งเยอะ  :P

เถียงกันมาหลายกระทู้ ทำให้ผมรู้ว่า ความเชื่อ ทัศนะ คติ ยากที่จะถูกลบหรือเปลี่ยนแปลง ตรงนี้คนล่ะอย่างกับการผ่านโลกมาก่อนหรือหลัง

มัวแต่ทะเลาะกัน ก็เอาแต่เวลาไปแก้ข้อกล่าวหา หาเหตุมาถกเถียงกัน
พวกจ่องจับผิด ก็หาแต่ข้อผิด มาถล่มกัน ผิดเล็กผิดน้อยก็มาสร้างเป็นประเด็นได้หมด

ไม่เห็นประชาชนมันจะได้ประโยชน์เลย

Chatchai wrote

ปัญหาที่ผมพูดเรื่องนายก  

ก็เพราะผมคิดว่า  มีผู้คนจำนวนหนึ่งที่มักจะอ้างว่าปกป้องผลประโยชน์ของชาติ  ออกมาตำหนินายก

ทั้งที่  ความเป็นจริงแล้ว  ถ้าปกป้องผลประโยชน์ของชาติจริง  ทำไมกรณีเดียวกันที่มีการเกิดขึ้นก่อนหน้ากับเอกชนรายอื่น  ถึงไม่มีการถักท้วง  ออกมาป่าวประกาศปกป้อง

เบื่อคนที่ชอบอ้างประเทศชาติ  เพื่อผลกิเลศของตนเอง

ผมคนหนึ่งล่ะที่ตำหนินายก ไม่ในแง่กฏหมาย(ซึ่งต้องรอการตรวจสอบอยู่) แต่อย่างน้อก็ในแง่จริยธรรมที่เอาธุรกิจสัมปทานไปขายให้กับต่างชาติ แถมแก้กฏหมายเอื้อประโยชน์ให้กับธุกิจสัมปทานนี้ก่อนขายไปตั้งมากมาย

แต่ผมก็ไม่ปกป้องคนผิดที่ทำมาในอดีตเช่นกันครับ...

กรณีนายกเป็นข่าวดังกว่า มีคนต่อต้านมากกว่า เพราะเป็นผู้นำประเทศ ผมไม่รู้ว่าคุณ chatchai หมายถึงกรณีไหนอยู่แต่ถ้าคนที่ทำนั้นเป็นนายกอยู่ด้วยยังไงก็ดังแน่ๆ

คุณ chatchai รู้ว่ากรณีไหนที่ผิดเช่นกันก็บอกมาซิครับ แต่ขอให้ยอมรับอย่างหนึ่งนะครับว่า การกล่าวว่า"ผู้อืนก็ทำผิดเช่นกัน ไม่เห็นใครว่าอะไร"นั้นไม่ได้ทำใหสิ่งทีู่้กระทำผิดนั้นกลายเป็นความถูกต้องขึ้นมาได้หรอกนะครับ คุณchatchai คงรู้ดี  แต่ถ้าคุณ chaichai เห็นว่านายกทำถูกอย่างไรก็ชี้แจงมาได้เลยพวกเรารับฟังอยู่แล้วถ้ามีเหตุผล

ช่วยกันสอดส่องดูแลบ้านเมืองไม่ให้นักการเมือง ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ตามมาโกงกินประเทศชาติของเราได้ เราอย่าไปเป็นฝ่ายไทยรักไทย ฝ่ายประชาธิิปัตย์ ฝ่ายสนธิ etc.  เราอยู่ฝ่ายประชาชนที่รักชาติ บ้านเมือง  กรณีไหนไม่ดีไม่ว่าฝ่ายไหนทำก็ต้องไม่ดี กรณีไหนดีไม่ว่าฝ่ายไหนทำก็เป็นความดีที่ต้องสนับสนุน

ก็มันจริงอ่ะคนอื่นไม่มีด่า

อย่างนาย สนธิ โกงเงินธนาคารกรุงไทย ให้ปล่อยค้ำประกันเป็น 1,xxx ล้านบาท ในเครือผุ้จัดการ

ไม่เห็นคนไหนจะออกมาตรวจสอบเลย

นายสนธิเอาเงินกรุงไทยไปใช้ไม่เห็นจะเกี่ยวกับภาษีที่ประชาชนต้องจ่ายตรงไหนหนิครับ ผมว่ามันคนละประเด็น

1. KTB รัฐก็ถือหุ้นอยู่ แล้วเงินรัฐก็มาจากภาษีประชาชน

2. หัวข้อกระทู้นี้ ก็เปรียบเทียบ THIP- นายก ตั้งแต่แรกแล้ว

3. สำหรับผม คนโกงก็คือผิด ไม่ว่าจะได้เงินมาจากใคร โกงก็คือโกง

ผมว่า ประชาชน อยากให้ นายก ทำตัวเป็นแบบอย่างแล้วจัดการกับเรื่องบั่นทอนความดีและความเจริญของบ้านเมืองจาก กลุ่มที่พูดถึงกันทุกๆกลุ่ม   เราอยากเห็น คนที่รวยแล้ว ไม่ทำตัวย่อหย่อนทางจริยธรรม ทั้งทวนน้ำและตามน้ำ มีวินัยทั้งต่อผู้อื่น   และโดยเฉพาะกับตนเองและบุคคลกลุ่มที่เป็นพรรคพวก ท่านพูดและให้สัจจะวาจาเองตั้งแต่ต้นและอาสา มาเอง


ในฐานะนักธุรกิจ ผมว่าพวกเรารู้ว่า เขาเข้ามาทำไมตั้งแต่ต้น แต่เรา ลุ้นว่าเขาจะไม่เป็นอย่างนั้น เราคงคิดผิด เขาคงทำตามที่ลั่นวาจาไว้ แต่เวลานี้ มันพิสูจน์ว่า เขายังเป็นนักธุรกิจที่มีลวดลาย แต่ห่างไกลจากที่เราลุ้นมากขึ้นๆเรื่อยๆ   เอวังด้วยประการฉะนี้

โป้ง เขียน:ก็มันจริงอ่ะคนอื่นไม่มีด่า

อย่างนาย สนธิ โกงเงินธนาคารกรุงไทย ให้ปล่อยค้ำประกันเป็น 1,xxx ล้านบาท ในเครือผุ้จัดการ

ไม่เห็นคนไหนจะออกมาตรวจสอบเลย

ผมไม่รู้ว่าคุณ สนธิโกงจริงหรือไม่ และมีการตรวจสอบจบไปแล้วหรือยัง ไม่ทราบคุณโป้งมีข้อมูลจริงๆไหมครับ ถ้าไม่นับข้อมูลที่พูดกันไปๆมาๆอยู่นี่

ผมคิดว่าถ้านายสนธิผิดจริงก็น่าจะมีการตรวจสอบแล้ว หรือว่าจริงๆเขาไม่ได้ผิด แต่เป็นการ "ปล่อยข่าว" เพื่อ discredit เขา

การปกป้องนายสนธิทั้งๆที่ นายสนธิ ออกมากล่าวหานายกขนาดนี้ และกลไกทุกอย่างก็เป็นของรัฐผมว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ผมไม่เคยเห็นการปกป้องแบบผิดปกติให้กับฝ่ายที่อยู่ต่อต้านอำนาจรัฐ มีแต่จะยัดข้อหาให้เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาผิดจริง ก็ต้องตรวจสอบเช่นกัน ผมสนับสนุนด้วย

 :D

คุณ Ole ต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติม จะรู้อะไรอีกเยอะ เครือผุ้จัดการเคยได้รับ การเลี้ยงดูจากทักษิณมาก่อน ตอนหลังแตกคอกัน

เหตุที่ มาเปิดโปงไม่ได้ เพราะ มันมีสายสัมพันธ์ไม่บริสุทธิ์มาก่อนคับ

ถ้าว่านาย กชั่ว สนธิ ก็โครตชั่วเหมือนกัน นั้นแหละ  8)

........................................................................................

กรุงเทพฯ--12 เม.ย.2002--แนวหน้า

"เจิมศักดิ์"อัดรัฐบาลทำผิดรัฐธรรมนูญ ม.39 วรรค 6 ระบุ "การให้เงินหรือทรัพย์สินอุดหนุนหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่นของเอกชน รัฐจะกระทำมิได้" แต่เชื่อรัฐบาลสามารถหลบเลี่ยงต่อไปได้ โดยอ้างรัฐวิสาหกิจให้สปอนเซอร์ "เนชั่น"เดินหน้าแฉสัมพันธ์ลึกบิ๊กบอสผู้จัดการกับผู้นำรัฐบาลไทยรักไทยต่อ เผย"สนธิ ลิ้มทองกุล"สนิทแนบแน่น"พันธุ์ศักดิ์ วิญญูรัตน์"หัวหน้าทีมที่ปรึกษานายกฯ ขณะที่"สมคิด จาตุศรีพิทักษ์"ก็เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง และที่ปรึกษาทางการเงินให้"ผู้จัดการ มีเดีย" ปชป.เตรียมนำเรื่องเข้าสู่ศึกซักฟอก รมว.คลัง
ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)กรุงเทพฯ กล่าวถึงกรณีที่หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น เปิดโปงความไม่ชอบมาพากลของการลดหนี้กว่า 6 พันล้านบาทให้หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และเอ็ม กรุ๊ป ว่า การกระทำดังกล่าวของรัฐบาล ถือเป็นการทำผิดรัฐธรรมนูญ(รธน.) มาตรา 39 วรรค6 ที่ระบุว่า "การให้เงินหรือทรัพย์สินอย่างอื่นอุดหนุนหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนอื่นของเอกชน รัฐจะกระทำมิได้"อย่างชัดเจน ทั้งนี้ตนทราบเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ.2544 แล้ว โดยนายสมเกียรติ อ่อนวิมล ส.ว.สุพรรณบุรี ได้บอกกับตนว่า สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 จะปรับผังรายการ โดยเอารายการเนชั่นนิวทอล์ก และรายการของตนออก เพื่อให้นายสนธิ เข้ามาทำแทน และนายสมเกียรติ ยังบอกอีกว่า นายสนธิ ได้ชวนไปทำรายการด้วยโดยให้เสรีภาพทุกอย่าง แต่มีข้อแม้อย่างเดียวคือ ห้ามวิจารณ์รัฐบาลในทางติดลบ ตรงนี้ถือเป็นการติดสินบนสื่อมวลชน ที่ชัดเจนมากๆ
"เท่าที่สังเกตรายการเมืองไทยรายวันที่ผลิตโดยบริษัทไลฟ์ ไทยแลนด์ จำกัด อีกบริษัทหนึ่งของนายสนธิ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของเอ็มกรุ๊ป ด้วย พบว่ามีธนาคารกรุงไทย การบินไทย และการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย(ปตท.) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ เป็นสปอนเซอร์ให้นั้น เรื่องนี้ผมคิดว่าการที่รัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้สื่อมวลชน เป็นการทำผิด รธน.อย่างชัดเจนที่สุด และเป็นการคอร์รัปชั่นทางนโยบาย แต่เชื่อว่ารัฐบาลนี้จะกะล่อนต่อไป โดยอ้างว่าเป็นเพราะรัฐวิสาหกิจเหล่านั้นพอใจที่จะสนับสนุนเอง ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะนายสนธิ ไม่เคยทำทีวี. บริษัทยังไม่ได้ตั้ง นอกจากนี้อยากถามว่านายสนธิ มีเครดิตอะไรที่ช่อง 9 ต้องให้เวลาติดต่อกัน รายการดีมากแค่ไหนถึงขนาดที่รัฐวิสาหกิจต้องให้สปอนเซอร์" ดร.เจิมศักดิ์ กล่าว
ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น ในหน้าเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 11 เมษายน ได้ตีพิมพ์รายงานเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลของการลดหนี้กว่า 6 พันล้านบาท ให้หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และเอ็ม กรุ๊ป ซึ่งเจ้าหนี้ส่วนใหญ่ล้วนเป็นสถาบันการเงินของรัฐต่อเนื่องเป็นตอนที่ 3 โดยได้เปิดเผยสายสัมพันธ์ระหว่างนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทเอ็ม กรุ๊ป กับเพื่อนเก่าที่นั่งอยู่ในรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
รายงานระบุว่า หลังการลอยค่าเงินบาทเมื่อปี 2540 ทรัพย์สินทั้งหมดของนายสนธิ และบริษัทเอ็ม กรุ๊ป สูญสลายกลายเป็นหนี้สิน 20,000 ล้านบาท เกินกว่ายอดเงินทุน 4,000 ล้านบาทบริษัทผู้จัดการ มีเดีย ต้องเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ และนายสนธิ ประกาศเป็นบุคคลล้มละลายเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2540 ซึ่งเป็นหนึ่งในคดีล้มละลายคดีแรก ภายใต้กฎหมายล้มละลายฉบับแก้ไขใหม่ แต่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ยังคงทำข่าวต่อไป โดยมีพนักงานน้อยลง และเมื่อพรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งในปีที่แล้ว นายพันธุ์ศักดิ์ วิญญูรัตน์ เพื่อนสนิทของนายสนธิได้กลายเป็นหัวหน้าที่ปรึกษาของ พ.ต.ท.ทักษิณ
นายพันธุ์ศักดิ์ เคยเป็นอดีตบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์เอเชีย ไทม์ส ฉบับภาษาอังกฤษ ในเครือเอ็ม กรุ๊ป เขาเริ่มเข้าสู่เส้นทางการเมืองโดยเป็นหัวหน้าที่ปรึกษาในสมัยที่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ระหว่างปี 2532-2535 ในช่วงเดียวกันเอ็ม กรุ๊ป ก็แผ่ขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว และเมื่อเอเชีย ไทม์ส ปิดตัวลง นายพันธุ์ศักดิ์ จึงหันไปช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย
นอกจากนี้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นอีกคนหนึ่งในรัฐบาลที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทผู้จัดการ มีเดีย เขาเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง และที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทแห่งนี้ในปี 2535
ขณะเดียวกันนายวิโรจน์ นวลแข กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย เคยเป็นผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ภัทรธนกิจ ซึ่งบริษัทดังกล่าว เป็นหนึ่งในผู้ซื้อหุ้นของโรงพิมพ์ตะวันออกในเครือเอ็ม กรุ๊ป นายวิโรจน์ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายสนธิ เป็นอย่างดี ชื่อภรรยาของนายวิโรจน์ ปรากฏอยู่ในรายชื่อผู้ถือหุ้นประจำปี 2543 ของบริษัทอัลตรา ทราเวล จำกัด ที่นายสนธิถือหุ้นใหญ่
ส่วนตัวนายสนธิ ก็รู้จักกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เขาเขียนไว้ในหนังสือ"ต้องแพ้เสียก่อนจึงจะชนะได้" ว่า ในช่วงที่จะนำหุ้นของบริษัทไออีซี ออกขายแก่นักลงทุนทั่วไป เขาได้ยกหุ้น 17.5% ให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่คิดมูลค่า และ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำเงินได้เกือบ 600 ล้านบาท นายสนธิ จึงกลายเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงเกิดปัญหาเกี่ยวกับบทความของ นิตยสารฟาร์ อีสเทิร์น อีโคโนมิก รีวิว เมื่อเดือนที่แล้ว นายสนธิ ออกรายการทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ซึ่งบริหารโดยครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อตอบโต้นิตยสารฉบับดังกล่าว และปกป้องการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ขณะที่พนักงานบางคนใน เอ็ม กรุ๊ป ก็มีโอกาสเข้าสู่หน่วยงานราชการ เมื่อเร็วๆ นี้นายกนก อภิรดี อดีตผู้บริหารเอ็มกรุ๊ป และผู้จัดการ มีเดีย เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ของการบินไทย
นายสนธิ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์แก่หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น เกี่ยวกับรายงานเรื่องนี้ โดยปกติเขาไม่ค่อยปรากฏตัวเท่าใดนัก แต่มีผู้พบเห็นเขารับประทานอาหารเที่ยงร่วมกับนักธุรกิจ และนักการเมืองที่ร้านอาหาร Zinotti ซึ่งเป็นร้านอาหารอิตาลี บน ถ.สีลม เป็นประจำ
แหล่งข่าวใกล้ชิดกับนายสนธิ เปิดเผยว่า นายสนธิ มักจะปรากฏตัวร่วมกับที่ปรึกษาส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ และความสัมพันธ์ดังกล่าว ทำให้เพื่อนๆ ของนายสนธิ เชื่อว่าอาณาจักรทางธุรกิจของเขาจะฟื้นตัวอีกครั้ง และในวันที่ 18 มีนาคม 2536 นี้ นายสนธิ จะพ้นจากภาวะล้มละลายและธุรกิจของเขาจะกลับมายิ่งใหญ่เหมือนในอดีต
อย่างไรก็ตาม นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า พรรคกำลังตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและสื่ออย่างใกล้ชิด พรรคแยกสื่อออกเป็นกลุ่มที่วิจารณ์รัฐบาลและกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาล กลุ่มแรกจะถูกคัดค้านไม่ไห้ได้รับสปอนเซอร์จากรัฐวิสาหกิจ ขณะที่กลุ่มหลังได้รับ และที่เด่นชัดที่สุด คือ เอ็ม กรุ๊ป
นอกจากนี้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อีกรายหนึ่ง อ้างว่า เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ทีมที่ปรึกษาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ส่งบันทึกช่วยจำอย่างไม่เป็นทางการ ถึงรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง เพื่อให้ทบทวนงบโฆษณาประจำปีและต้องขอความเห็นชอบจากรัฐบาลก่อน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซ้ำซ้อน ซึ่งดูเหมือนว่ารัฐบาลใช้งบโฆษณาเป็นเครื่องมือในการลงโทษ หรือให้ประโยชน์แก่สื่อ ที่วิจารณ์ หรือสนับสนุนรัฐบาล
ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์กำลังตรวจสอบประเด็นผลประโยชน์ขัดกัน และอาจหยิบยกเรื่องนี้ สู่เข้าสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีคลัง
ด้านนายวิโรจน์ นวลแข กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)กล่าวว่าเอ็มกรุ๊ป เป็นบริษัทหนึ่งที่อยู่ในกระบวนการของกฎหมายล้มละลาย เอ็มกรุ๊ปทำโรงแรม ตอนนี้ฐานะของบริษัทอยู่ระหว่างการชำระบัญชี จึงไม่สามารถ***้เงินได้ และไม่ได้แสดงเจตจำนงในการขอ***้ ดังนั้นยืนยันว่าไม่ได้ปล่อยเงิน***้ให้เอ็มกรุ๊ป ส่วนมีเดียกรุ๊ป เป็นอีกบริษัทที่อยู่ระหว่างการขอฟื้นฟูกิจการ จึงไม่ได้มีการขอเงินจากเจ้าหนี้รายใด ดังนั้นเงินที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจึงมาจากเพิ่มทุนของบริษัทเองที่ผ่านมา ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นให้ไปถามคุณสนธิเอง
รายงานข่าวจากธนาคารกรุงไทยแจ้งว่า ธนาคารกรุงไทยให้การสนับสนุนรายการก่อนจะถึงวันจันทร์และเมืองไทยวันนี้ ของบริษัทเอ็ม กรุ๊ปที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ตลอด 1 ปีเริ่มตั้งแต่กลางปี 2544-กลางปี 2545 คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 72 ล้านบาท ส่วนโฆษณาที่ลงในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันเป็นหนึ่งแผนการปรับโครงสร้างหนี้ซึ่งเป็นการลงโฆษณาหักลบหนี้ รวมถึงการซื้อหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายจำนวน 700 เล่มต่อวัน--จบ--

..........................................................................................................

ลองไปหาข้อมูลดูได้ ว่าผมยกเมฆมาหรือเปล่า

นี้แค่เกรินนำ มีอีกเยอะมาก น้องรักหักเหลี่ยมโหด เคยดูไหม ,นาย ก ออกมาแฉไม่ได้ก็เพราะ จะยิ่งเจ็บตัว

ตอนหลังยิ่งน่าเกลียด ฮั่วกันค้ำประกัน ของ ธ.กรุงไทย กว่า พันล้านบาท มันก็เงินประชาชนทั้งนั้น

ที่ผมไม่ชอบ ก็เพราะแบบคุณ chatchai พูดนั้นแหละ "เบื่อคนที่ชอบอ้างประเทศชาติ  เพื่อผลกิเลศของตนเอง"

เดี่ยวถ้ายากรู้ข้อมุลอีก เดี่ยวมาลงให้
ขอทำงานก่อน  8)

อ่านข้อมูลและความคิดเห็นของท่านๆทั้งหลายในกระทู้นี้
ได้ให้ข้อคิดและต่อยอดความคิดมากมาย
แต่รับรู้ได้ถึง "อารมณ์" ที่เพิ่มเข้ามาปะปนในข้อความ
วอนท่านทั้งหลาย ลด "อารมณ์" ลงคงจะดีไม่น้อย

โพสเรื่องการเมืองทีไร โดนรุมทุกที
ยิ่งถ้าพูดถือข้าง นายก โดนขาประจำทุกที  :D

คุณโป้งข้อมูลดีครับ

ผมว่าเป็นแบบนี้ยิ่งดีปล่อยให้เขาสาวไส้กันและกันออกมาเราจะได้ไม่ถูกปิดกั้น
คุณโป้งลองคิดดูนะครับว่าถ้าเขาไม่แตกกันเราจะได้รับรู้เรื่องพวกนี้ไหม

แถมที่คุณโป้งบอกว่า

นาย ก ออกมาแฉไม่ได้ก็เพราะ จะยิ่งเจ็บตัว

ผมยิ่งสงสัยใหญ่เลยครับว่าคุณสนธิกำความลับอะไรของคุณทักษิณไว้ คุณทักษิณเลยไม้กล้าเล่นงาน
หน้าที่ของเราคือสนันสนุนให้เขาแฉซึ่งกันและกันครับ อย่าไปห้าม อย่าไปช่วยปกปิด

โป้ง wrote

ถ้าว่านาย กชั่ว สนธิ ก็โครตชั่วเหมือนกัน นั้นแหละ

ผมไม่รู้ว่าใครชั่วบ้าง ถ้าชั่วคนเดียวก็เอาผิดคนเดียว ถ้าชั่วทั้ง2คนก็เอาผิดทั้ง2คน
ไม่จำเป็นหรอกครับว่าเราต้องเลือกข้างใดข้างหนึ่งเสมอไป เขาอาจผิดทั้งคู่ก็ได้
เราอยู่ตรงกลางดีกว่า

โป้ง wrote

ก็มันจริงอ่ะคนอื่นไม่มีด่า

อย่างนาย สนธิ โกงเงินธนาคารกรุงไทย ให้ปล่อยค้ำประกันเป็น 1,xxx ล้านบาท ในเครือผุ้จัดการ

ไม่เห็นคนไหนจะออกมาตรวจสอบเลย

ผมขอตอบด้วยข้อมูลที่คุณโป้งให้มานะครับ

ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)กรุงเทพฯ กล่าวถึงกรณีที่หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น เปิดโปงความไม่ชอบมาพากลของการลดหนี้กว่า 6 พันล้านบาทให้หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และเอ็ม กรุ๊ป ว่า การกระทำดังกล่าวของรัฐบาล ถือเป็นการทำผิดรัฐธรรมนูญ(รธน.) มาตรา 39 วรรค6 ที่ระบุว่า "การให้เงินหรือทรัพย์สินอย่างอื่นอุดหนุนหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนอื่นของเอกชน รัฐจะกระทำมิได้"อย่างชัดเจน...

นายสมเกียรติ อ่อนวิมล ส.ว.สุพรรณบุรี ได้บอกกับตนว่า สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 จะปรับผังรายการ โดยเอารายการเนชั่นนิวทอล์ก และรายการของตนออก เพื่อให้นายสนธิ เข้ามาทำแทน และนายสมเกียรติ ยังบอกอีกว่า นายสนธิ ได้ชวนไปทำรายการด้วยโดยให้เสรีภาพทุกอย่าง แต่มีข้อแม้อย่างเดียวคือ ห้ามวิจารณ์รัฐบาลในทางติดลบ ตรงนี้ถือเป็นการติดสินบนสื่อมวลชน ที่ชัดเจนมากๆ...

และ

นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า พรรคกำลังตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและสื่ออย่างใกล้ชิด พรรคแยกสื่อออกเป็นกลุ่มที่วิจารณ์รัฐบาลและกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาล กลุ่มแรกจะถูกคัดค้านไม่ไห้ได้รับสปอนเซอร์จากรัฐวิสาหกิจ ขณะที่กลุ่มหลังได้รับ และที่เด่นชัดที่สุด คือ เอ็ม กรุ๊ป
นอกจากนี้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อีกรายหนึ่ง อ้างว่า เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ทีมที่ปรึกษาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ส่งบันทึกช่วยจำอย่างไม่เป็นทางการ ถึงรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง เพื่อให้ทบทวนงบโฆษณาประจำปีและต้องขอความเห็นชอบจากรัฐบาลก่อน...

แสดงว่ามีการตรวจสอบทักท้วงมาก่อนแล้ว จากกลุ่มคนที่นายกเรียกว่า "ขาประจำ" แต่ทำไมไม่ดำเนินการเอาผิด ?
คุณโป้งเห็นแล้วนะครับว่าก็มีการตรวจสอบเหมือนกันนั่นแหละ แต่นายกเลือกที่จะไม่ดำเนินการเอง หรือจริงๆแล้วนายกก็เห็นด้วยในตอนนั้น ?
หรือตรวจสอบแล้วปรากฏว่าคุณสนธิไม่ผิด?
และที่ตอนนั้นไม่เป็นข่าวดังเพราะต้องการปิดข่าว?

ยังไงก็ขอขอบคุณข้อมูลคุณโป้งด้วยนะครับ

แล้วทำไมเดี๋ยวนี้  ท่าน สว.เจิมศักดิ์  ถึงได้สนับสนุนนายสนธิละครับ

รู้ว่า  เป็นเพราะเดี๋ยวนี้มีประโยชน์ร่วมกัน  พฤติกรรมในอดีตเลยลืมกันได้

น่าจะย้ายไป Miscellaneous นะ กระทู้นี้

สำหรับคนที่ไม่ชอบนายก
ต้องบอกก่อน ผมไม่ได้มาดิสเครดิต นายสนธิ นะขอรับ  

ออกตัวก่อนนะครับ
จริง ๆ แล้วไม่สนใจการเมืองเท่าไหร่

แต่สิ่งที่ไม่สบายใจคือ
คำถามที่ถามไป
หรือหลายอย่างที่ผู้คนสนใจ
ไม่ได้รับคำตอบ

การออกกฏหมายวันเสาร์
แล้วขายหุ้นวันจันทร์
แล้วบอกถูกกฏหมายทุกอย่าง

การที่สรรพพากรเคยเรียกเก็บภาษี
แล้วมาคืนให้ ในการณีได้หุ้นมาในราคาต่ำ
บอกไม่ต้องเสียภาษี

ทำเหมือน แก้กฏหมายได้ตามใจนึก
แล้วบอกถูกกฏหมาย มันไม่ค่อยแฟร์
เท่าไหรครับ เพราะกฏหมายต้องมีความยุติธรรม
กับทุก ๆ คน เขียนเพื่อทุก ๆ คน
ไม่ใช่เขียนเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง

ผิดถูกขอภัยไว้ก่อนนะครับ

อย่ามาซักผมมากด้วย
เพราะไม่ได้ตามการเมืองใกล้ชิด จริงจัง