Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

วันนี้ผมโดนจดหมายจากสรรพากรเรียกให้ไปแสดงเอกสารประกอบการเสียภาษีปี 2547 ครับ
ย้ำว่าปี 2547 ไม่ใช่ 2548
ซึ่งย้อนหลังไปสองปี
ก็เลยรู้สึกไม่สบายใจเลย เพราะว่าปกติจะยื่นผ่านอินเตอร์เนต เจ้าหน้าที่ก็จะให้ส่งเอกสารไปให้ ซึ่งผมจะส่งไปทางไปรษณีย์ เนื่องจากเอกสารเยอะ
มีเอกสารบางรายการที่ไม่มีสำเนา และผมก็ไม่ได้สำเนาไว้ด้วย ก็เลยกลายเป็นว่าผมไม่มีเอกสารบางรายการเก็บไว้

ผมไม่เข้าใจว่าสรรพากรเค้าทำงานกันอย่างไร
ในเมื่อเจ้าหน้าที่ได้เคยตรวจสอบเอกสารไปหมดแล้ว และอนุมัติเช็คคืนภาษีให้มาแล้ว จู่ๆ ผ่านมาสองปี ก็ให้ผมเอาเอกสารไปให้ตรวจใหม่อีกรอบหนึ่ง
น่าจะเป็นเพราะว่าตอนนี้ รัฐถังแตก เก็บภาษีไม่เข้าเป้า เลยต้องมาไล่บี้เอาที่ประชาชน พยายามไล่ตรวจหารายการที่ประชาชนจะคิดผิด เอามันทุกเม็ดเลยแฮะ กลุ้มใจจัง

ก็จะมาบ่นให้เพื่อนๆ ฟัง และอยากให้ระมัดระวัง
1. เอกสารภาษี ให้เก็บสำเนาไว้ทุกใบ ทุกปี เผื่อโดนเรียกตรวจซ้ำอีก
2. เดี๋ยวนี้สรรพากรตรวจละเอียดมากๆ เวลายื่นแบบให้ตรวจตราให้ละเอียด ว่ายื่นตัวเลขถูกต้องหรือเปล่า ซึ่งตอนนี้ผมอาจจะมีปัญหาเรื่องบริษัทบางบริษัทปันผลแล้วไม่ถูกหัก ณ.ที่จ่าย 10% ว่าจะเอาไปคิดเป็นรายได้หรือเปล่า
3. แว่วๆ เรื่องภาษีลูกกตัญญูครับว่า ตอนนี้ไล่ตรวจสอบว่า พ่อแม่ใครมีรายได้เกินที่กำหนดบ้าง จะต้องคืนภาษีครับ

ตามกฏหมายรู้สึกต้องเก็บไว้ 10 ปี...


ปีที่แล้วผมส่งทางเน็ต ได้เช็คคืนเร็วมาก และไม่ต้องส่งหลักฐาน แต่พอกลางปีก็โดนโทรมาขอให้ส่งเอกสารไปให้ หลังจากนั้นตอนปลายปีก็โดนโทรมาให้ส่งเอกสารไปให้อีกจากเจ้าหน้าที่คนละคนกัน

ปีนี้ก็เลยตัดปัญหา เลิกส่งทางเน็ต ส่งทางไปรษณีย์แทนเพราะทำงานครั้งเดียว

เข้าใจว่าสรรพากรมีเป้าที่จะต้องเพิ่มจำนวนคนส่งทางเน็ตก็เลยรณรงค์ให้ส่งทางเน็ตกันมากๆ ซึ่งทำให้สรรพากรไม่ต้องยุ่งกับเอกสารจำนวนมากเองตอนเดือนมีนาคม เพราะปชช.เป็นผู้กรอกลงคอมพิวเตอร์แทนให้

แต่ตอนกลางปี สรรพากรมีเวลาว่างมากขึ้น ก็เลยเอารายการของคนที่ส่งทางเน็ตมานั่งตรวจดูว่ามีอะไรผิดหรือไม่ เผื่อจะได้ภาษีเพิ่มขึ้น แถมถ้าปชช.คนไหนไม่ได้เก็บหลักฐานไว้ น่าจะเรียกเก็บค่าปรับได้อีก

ยิงนกทีเดียวได้สองตัว ประหยัดทั้งกำลังคนและเก็บเงินเพิ่มได้อีก นับเป็นหนึ่งในหน่วยงานราชการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในประเทศไทย เพราะเจ้าหน้าที่สรรพากรทุกคนมี "revenue target"

ปล. อยากให้หน่วยราชการอื่นที่มีหน้าที่บริการประชาชนมีประสิทธิภาพแบบนี้บ้าง

ปกติฝ่ายตรวจสอบพื้นที่ เขาจะมีสำเนาอยู่แล้วละคับ
เพียงแต่ดูว่าคุณมีอะไรที่เขาไม่มีมากกว่า
ส่วนใหญ่ถ้าข้อผิดพลาด ก็ยื่นรายการเพิ่มเติม
เท่านั้นเองคับไม่มีอะไรมาก เพียงแต่ ต้องยื่น
ในแบบ ยื่นรายการปี47  เว้นแต่เจ้าหน้าที่ออกใบ
ยื่นเสียเพิ่มเติมเฉพาะ

ฮิ

เอ ถ้าขอแล้ว ยังจะขออีก อันเดิม ก็ต้องถือว่าไม่มีประสิทธิภาพสิครับ ทำงานอะไรซ้ำๆซ้อนๆ

ถ้าเป็นบริษัท เอกสารต้องเก็บไว้สิบปีมังครับ

สำหรับบุคคล ดูเหมือนจะต้องเก็บย้อนหลังสามปีหรือไงเนี่ย
ไม่แน่ใจ

แต่ผมเก็บไว้ประมาณ 3 ปีครับ (ส่วนตัว)

ของบริษัทเก็บยาวเลย เพิ่งโดนเรียกสอบไปปลายปีที่แล้ว
เคลียร์ได้แล้ว

ปีนี้คงโดนอีก

ผมมีปัญหานิดหน่อยครับรบกวนพี่ๆ ช่วยชี้แนะด้วย
คือปีที่ผ่านมานี้มีปันผลตัวนึงผมทำตัวใบเอกสารหาย
ผมเลยไม่ได้ยื่นร่วมไปด้วย จะมีปัญหาไหมครับเนี่ย
เสียดายก็เสียดาย แต่ไม่มีหลักฐานจะยื่นให้เค้าอะครับ

ผมก็เก็บไว้นะครับ แต่ต้องทำให้เป็นระบบกว่านี้หน่อยซะแล้ว

เริ่มไม่แน่ใจซะแล้ว

อยากถามเพื่อนๆ พี่ๆครับ
กรณีเงินปันผลที่เราได้รับ ได้รับยกเว้นภาษี เช่น บีโอไอ หรือ กำไรสุทธิหักผลขาดทุนยกมา เป็นต้น  จะต้องนำส่วนนั้นไปคิดเป็นรายได้ด้วยรึเปล่าครับ

ที่จริงเค้าขอหลักฐานของปีก่อน ไม่ใช่2ปี เนื่องจาก2547 เพิ่งเสียเมื่อ ม.ค-มี.ค 2548 ดังนั้นยังทิ้งไม่ได้ หากคุณถูกขอให้ส่งหลักฐานแล้ว น่าจะแค่ส่งเพิ่ม ไม่ต้องส่งใหม่หมด

[quote="pong"]เริ่มไม่แน่ใจซะแล้ว

อยากถามเพื่อนๆ พี่ๆครับ
กรณีเงินปันผลที่เราได้รับ ได้รับยกเว้นภาษี เช่น บีโอไอ หรือ กำไรสุทธิหักผลขาดทุนยกมา เป็นต้น

เอกสารทางภาษีส่วนบุคคล  ต้องเก็บไว้  5  ปี  ครับ  ปีนี้ผมเลิกส่งทางเน็ตเหมือนกัน  เกรงเอกสารจะหายก่อน  แล้วไม่สบายใจเหมือนเจ้าของกระทู้
อย่างไรก็ตาม  ขอให้คุณ White  Shadow รายงานผลการตรวจสอบให้ทราบด้วยครับ  
 ผมไม่แน่ใจการตรวจสอบเครดิตภาษีจากเงินปันผล  จะมีการถ่ายโอนข้อมูล  จาก ตลท. ไปยัง กรมสรรพากร  ผ่านทางหมายเลขประจำตัวประชาชนหรือไม่  ซึ่งมันควรจะเป็นเช่นนั้น  มิฉะนั้น  การยื่นภาษีทางเน็ต แล้วต้องมายื่นเอกสารภายหลัง ทำให้ประชาชนวุ่นวายมากกว่าการยื่นตามปกติเสียอีก
  การเครดิตภาษี จากเงินปันผล ที่คุณ Pong ถาม  ผมเสริมคุณ Kao อีกหน่อยครับ  คือ  ถ้ายื่นเครดิตเงินปันผล ต้องยื่นทุกบริษัทที่ตนเองได้รับปันผล    การได้เครดิตปันผล จาก  บมจ.ที่จ่ายปันผล จากส่วนที่หักจากรายได้หลังหักภาษี 30% จะเป็นประโยชน์ในการเครดิตภาษีดีที่สุด  ทั้งนี้ขึ้นดอยู่กับฐานรายได้ของผู้เสียภาษีด้วย  ฉะนั้นจึงเป็นเหตุผลอันนึงว่า ทำไมบางคน ซื้อหุ้นเพื่อรับปันผล  หรือ ขายหุ้นก่อนรับปันผล

เงินปันผลถ้านำมายื่นรวมแล้ว จะต้องนำมายื่นรวมทั้งหมดครับ ไม่ว่าจะถูกหัก ณ ที่จ่ายไว้หรือไม่ก็ตาม ไม่สามารถเลือกเฉพาะทีู่ถูกหัก ณ ีที่จ่ายมารวมเท่านั้น มิฉะนั้นอาจจะถูกเรียกให้เสียภาษีเพิ่มได้ ต้องระวังด้วยครับ

[quote="Kao"][quote="pong"]เริ่มไม่แน่ใจซะแล้ว

อยากถามเพื่อนๆ พี่ๆครับ
กรณีเงินปันผลที่เราได้รับ ได้รับยกเว้นภาษี เช่น บีโอไอ หรือ กำไรสุทธิหักผลขาดทุนยกมา เป็นต้น

คัดลอกจากเวปกรมสรรพากร ความรู้เรื่องภาษี

เงินได้พึงประเมินอะไรบ้างที่ได้รับยกเว้นภาษี?


เงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษี มีอยู่หลายกรณีที่สำคัญๆ ได้แก่ การยกเว้นตามมาตรา 42 แห่งประมวลรัษฎากร การยกเว้นตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 การยกเว้นตามพระราชกฤษฎีกา ฉบับต่างๆ เป็นต้น  เงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีมีดังนี้


105. เงินได้ที่ได้รับยกเว้นตามกฎหมายอื่นในปัจจุบันมีพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 ซึ่งยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้ ดังต่อไปนี้
    (1) เงินปันผลที่ได้รับจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งได้รับยกเว้นภาษี เงินได้นิติบุคคล ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตลอดระยะเวลาที่ผู้ได้รับการส่งเสริมได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้น
      (2) แห่งกู๊ดวิลล์ ค่าแห่งลิขสิทธิ์ หรือสิทธิอย่างอื่น จากผู้ได้รับการส่งเสริมตามสัญญาที่ ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้มีกำหนดระยะเวลา 5 ปีนับแต่วันที่ผู้ได้รับการส่งเสริมมีรายได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริม

ดังนั้นผมเชื่อว่าปันผลที่โดนหักภาษี ณ.ที่จ่ายและไม่โดนหักภาษี น่าจะแตกต่างกันครับ ที่ไม่โดนหักเพราะเงินส่วนนี้ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวม ส่วนที่โดนหัก เพราะกรมไม่รู้ว่าเราจะเลือกเครดิตภาษีหรือเลือกโดนหัก 10%


ผมยื่นเฉพาะที่โดนหัก 10%
แต่เพิ่งยื่นครับ ยังไม่รู้ว่าจะมีปัญหาหรือเปล่า

แต่ผมคิดว่าน่าจะถูกต้อง ดังนั้นหากมีปัญหาผมจะอุทธรณ์ภาษีเพื่อสร้างบรรทัดฐาน :lol:

1.   การอุทธรณ์ภาษีอากรคืออะไร?

       การอุทธรณ์ภาษีอากร เป็นกระบวนการยุติธรรมอย่างหนึ่งที่กฎหมายประมวลรัษฎากรกำหนดให้ผู้ถูกประเมินภาษีสามารถใช้สิทธิคัดค้านการประเมินภาษีของเจ้าพนักงานประเมินที่ผู้ถูกประเมินภาษีเห็นว่าไม่ถูกต้องต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์

ต้องเก็บไว้ 10 ปีครับ เพราะภายใน 10 ปี มีโอกาสที่จะถูกสรรพากรเรียกไปพบ

ประสพการณ์ของผม เคยขายที่ดินช่วงปี 36-39 เป็นหลายสิบแปลง ปี 45 โดนเรียกไปพบเรื่องไม่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ โดนไปบานเรียกเก็บไปหลายแสน (ถ้าโดนเรียกเก็บภาษีเพิ่มอย่าไปเถียงให้เสียเวลา แต่ต่อรองสรรพากรขอผ่อนชำระเป็นงวดๆ )

โดนเรียกตรวจสอบ 2 ปี ถือว่า ระบบงานดีกว่าเก่า และโชคดีกว่าผมที่โดนเรียกเก็บ 9 ปีผ่านไปแล้ว

.......................................................................................................

อีกเรื่องหนึ่งหาก ไม่ต้องการเป็นเป้าการตรวจสอบจากสรรพากร หลีกเลี่ยงการขอเครดิตภาษีคืน (แต่ถ้าทำถูกต้องและไม่กังขาเรื่องการมาตรวจสอบก็ขอคืนไป)

เพื่อนผม เปิดร้านเครื่องเขียน เป็น หจก. มันไม่เคยขอคืนเครดิตภาษีที่ได้จากหุ้นเลย เดี่ยวกลายเป็นจะต้องเสียภาษีมากกว่าเดิม

ประเด็นเรื่องถูกตรวจสอบย้อนหลัง ผมไม่ติดใจเท่าไหร่ เพราะเป็นหน้าที่กรมสรรพากร

แต่ประเด็นคือ ทำไมไม่ตรวจสอบให้ถูกต้องตั้งแต่ตอนที่เรายื่นทางอินเตอร์เนต เพราะตอนนั้นก็มีการขอเอกสารไป ผมก็จัดส่งให้ทางไปรษณีย์ไปแล้ว
แต่ก็มาเรียกดูเอกสารใหม่อีกครั้ง (สรรพากรพื่นที่ก็มาเรียกดูเอกสารอีกที) มันอะไรกันนักกันหนา

ส่วนประเด็นเรื่องสรรพากรมีข้อมูลหรือเปล่าว่า เราได้เงินปันผลจากบริษัทไหนบ้าง
ตอบว่า มี ครับ อย่างของผม เค้ามีเอกสารแนบเป็นตารางเลยว่า ผมได้เงินปันผลจากบริษัทไหนบ้าง เสียภาษีนิติบุคคลอัตราเท่าไหร่ ดังนั้นอย่าคิดว่า เค้าจะไม่รู้นะครับ ถ้ายื่นก็ยื่นหมด อย่าลักไก่

โทรถามสรรพากร Call Center มาแล้วครับ
แบ่งเป็นกรณีต่างๆ ดังนี้
1. พวกที่เครดิตภาษีเงินปันผลได้ (30%, 25% ฯลฯ)
พวกนี้กรอกใน 40(4) ข้อ 4 ไปตามปกติ
2. พวกที่เครดิตภาษีเงินปันผลไม่ได้ แต่เสียภาษี ณ ที่จ่าย
พวกนี้กรอกใน 40(4) ข้อ 2
3. พวกที่เครดิตภาษีเงินปันผลไม่ได้ และไม่เสียภาษี ณ ที่จ่าย (BOI)
พวกนี้ไม่ต้องกรอก (เหมือนที่คุณลูกอีสานบอก)

ทั้งนี้จะต้องกรอกทุกรายการที่เราได้รับภาษีมา (ยกเว้นข้อ 3.)

แล้วกรณีขายLTF ตังแต่ปีแรก แล้วมีกำไร ต้องยื่นภาษีจะเครดิตภาษีคืนช่องไหน โทรถาม call center เค้าว่าต้องยื่นด้วยตนเอง

โป้ง เขียน:เพื่อนผม เปิดร้านเครื่องเขียน เป็น หจก. มันไม่เคยขอคืนเครดิตภาษีที่ได้จากหุ้นเลย เดี่ยวกลายเป็นจะต้องเสียภาษีมากกว่าเดิม

แสดงว่าเพื่อนคุณโป้ง  หลบเลี่ยงภาษีซิครับ  ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีเลย

tainara เขียน:แล้วกรณีขายLTF ตังแต่ปีแรก แล้วมีกำไร ต้องยื่นภาษีจะเครดิตภาษีคืนช่องไหน โทรถาม call center เค้าว่าต้องยื่นด้วยตนเอง

LTFไม่มีเครดิตภาษีนี่ครับ
ส่วนกำไรจากการขาย น่าจะกรอกใน 40(8) เงินได้อื่นๆ (ไม่สามารถหักค่าใช้จ่ายได้)

40(8) = วงเล็บแปด

กรณีขายหน่วยลงทุนมีกำไร ต้องหักภาษี ณที่จ่าย 3% ครับ