Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

สัมมนาหัวข้อ ลงทุนหุ้นธรรมาภิบาล ผลตอบแทนดีอย่างไร
โดย ตลาดหลักทรัพย์ฯร่วมกับหนังสือพิมพ์นักลงทุนไทยรายสัปดาห์


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยร่วมกับหนังสือพิมพ์นักลงทุนไทยรายสัปดาห์ รายการเปิดประตูหุ้น
จัดการสัมมนาหัวข้อ ลงทุนหุ้นธรรมาภิบาล ผลตอบแทนดีอย่างไร

วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2546 เวลา 12.00 14.30 น.ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย ชั้น 3 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก

12.00 น. ลงทะเบียน

12.30 14.30 น. สัมมนา ลงทุนหุ้นธรรมาภิบาล ผลตอบแทนดีอย่างไร

- คุณสมประสงค์ บุณยะชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)


- คุณชาลี จันทนยิ่งยง ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)


- ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในฐานะผู้ลงทุน


- คุณธีรพันธุ์ จิตตาลาน รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานจัดการลงทุน บลจ.กรุงไทย

ดำเนินรายการโดย คุณสุนันท์ ศรีจันทรา
ผู้ดำเนินรายการ เปิดประตูหุ้น

มีใครสนใจไปฟังบ้างครับ

Thank you.
I will surely participate. How to pre-register?

ใครได้ไปฟัง

นำมาเล่าบอกต่อ......

ให้พรรคพวกเพื่อนๆด้วยนะครับ

ไปได้ไม่ยาก แต่ลงทะเบียนตอนนี้จะทัน รือ

ยังทันครับพี่ Jeng
ให้โทรไปที่ตลาดหลักทรัพย์
เบอร์ 0-2229-2222
ตอนแรกให้ถามว่า สัมมนาหัวข้อ ลงทุนหุ้นธรรมาภิบาล ผลตอบแทนดีอย่างไร
เต็มหรือยัง แล้วมีค่าใช้จ่ายเท่าไร
เขาจะตอบมาว่าฟรี แต่เต็มแล้ว
ให้ถามต่อว่า มีวงจรปิดให้ดูไหม เพื่อแสดงว่าเราสนใจจริง ๆ
เขาจะขอเบอร์โทรศัพท์เรา เพื่อติดต่อกลับ
รอสัก 10-20 นาที
เขาจะโทรกลับมา ขอชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และเลขบัตรประชาชน
และบอกสถานที่กับเวลา

ตอนนี้ยังเหลืออีก 4 ที่ครับ

อนุสรณ์

ขอบคุณมากครับ น้องอนุสรณ์

ไม่เป็นไรครับ
ผมอ่านกระทู้พี่ ๆ ได้ความรู้ไปตั้งเยอะ

อนุสรณ์

ปล. ขอตัวไปธุระแล้วครับ

ใจจริงก็อยากไปครับ แต่ติดอยู่ที่ไกลปืนเที่ยงเหลือเกิน ใครได้ไปฟังกรุณาช่วยเล่าให้ฟังด้วยนะครับ

เสียดายตามข่าวนี้ไม่ทัน
ใครมีโอกาสไป รบกวนมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
ขอบคุณล่วงหน้าหลายๆ

จะรอฟังข่าวจากเพื่อนๆพี่ๆที่ไปฟังมานะคะ มาบอกเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ

ผมไปฟังมา ได้ความรู้เพิ่มเติมจาก ท่านผู้บริหารกองทุน (ขอโทษไม่ได้จดชื่อมา) เขาว่า มีทฤษฎีหนึ่งบอกว่า มีวงจรหลักเล่นหุ้น คล้ายกับวงจร เศรษฐศาตร์ ที่เคยเรียนมา วงจรของการเล่นหุ้น ที่เขาบอก เขาบอกว่า ในระยะนี้ ที่ ประเทศเราพึ่งจะพื้นตัวจากเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ เราจะเห็นว่า การลงทุนในธุรกิจเล็ก จะเป็นการดี เพราะที่ผ่านมาแล้ว จะเห็นว่า หุ้นตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ปรับตัวขึ้น เนื่องจาก เป็นบริษัทฯเล็ก การปรับเปลี่ยนการบริหารได้ง่าย ๆ.......หลังจากจบวงจรนี้แล้ว ก็ เป็นระยะ กระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องคอยดูนโยบายของรัฐบาล ว่าจะกระตุ้นภาคธุรกิจไหน เป็นหลัก เราก็ตามไปซื้อหุ้นในธุรกิจที่รัฐบาลจะกระตุ้นนี้ ผมเห็นว่า รัฐบาลกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ ไปแล้ว ตามด้วยธุรกิจก่อสร้าง........ เมื่อจบวงจรกระตุ้นเหล่านี้แล้ว ก็จะถึง จุด ที่ต้องหันไปลงทุนในหุ้นที่ มีการเติบโตสูง หาหุ้นที่กำไรดี มีการเติบโตสูง..........(จากนั้นก็มาเริ่มต้นกันใหม่ เมื่อมีการเติบโตก็จะล้นตลาด ที่สุด ก็ต้องจบ ลง ด้วย เศรษฐกิจตกต่ำอีกทีหนึ่ง นี่ ผมเติมเอง นะครับ มันเป็นวงจรแบบนี้จริง แต่ระยะเวลากว่า จะครบรอบนี้ ก็ ใช้เวลา หลายสิบปี ชีวิตนี้ ผมได้เห็น หนึ่งรอบแล้ว)

ส่วน ดร นิเวศน์ นั้น ก็ บอกว่า ตอนนี้ หุ้นใน portforlio ของ ท่าน ปิด 9 เดือน ได้กำไร แล้ว 120% แต่ยังไม่ได้ขายออกไปเลย เก็บ ดู ตัวเลขที่เพิ่มขึ้น...... ท่านว่า ที่ผ่าน ๆ มา หลายปีนี้ มีกำไร ทุกปีติดต่อกัน ประมาณ 20-30% (ผมว่าา สุดยอดเลยนะครับ) แต่ท่านว่า value investors ได้กำไรปีละ 15% ก็นับว่า สำเร็จแล้ว (โล่งอกไปหน่อย ที่ปีนี้ ผมคงทำได้แค่ 15% คุณ Jeng ทำได้ 20% เก่งกว่าผมอีกครับ อ่านในกระทู้..... เวลาเพื่อหุ้น)

ส่วนหัวข้อ เรื่องธรรมาภิบาล ก็ เน้น ถึง การบริหารจักดาร ของบริษัทฯ มีประมาณ 100 กว่า บริษัท ที่ ถือว่า มีธรรมาภิบาล ที่ดี ส่วนอื่น ๆ ที่เหลือ ยังไม่ค่อยแน่ใจ กลต จะพยายามจัดอันดับ บริษัทฯ ต่าง ๆ คล้าย กับ จัดเกรด บริษัทฯ ซึ่งจะแจ้งให้ทราบภายหลัง ตอนนี้ มี คน เคย ทำแล้ว การจัดเกรด บริษัทฯ แต่ไม่เป็นที่เปิดเผย ผมก็รอให้ทาง กลต จัดการนโยบาย นี้ ให้สำเร็จ เรา จะได้ เลือก บริษัทฯ ได้ ง่ายขึ้น อีก ขั้นหนึ่ง

ผมไม่ได้จดอะไร แต่ ที่ เขียน ก็จากความจำ จำเท่าที่ได้ครับ.....ส่วนใครจะเพิ่มเติมอะไรก็ เชิญ เลยนะครับ

ขอบคุณมากครับลุงขวด

แหมวันนี้ เสียดายไม่ได้ไป เพราะไปเที่ยวทะเล ไม่งั้นได้เจอลุงขวดแน่ๆเลย

ได้ข่าวว่าตอนบรรยายไม่ได้พูดถึงตัวหุ้น แต่พอลงจากเวลที ก็คุยกันเป็นตัวๆเลย จริงละเปล่าลุงขวด

ถามลุงขวด หากเศรษฐกิจตก จะเกิดอะไรขึ้นกับ หุ้นแบบ VI บ้าง แล้ว 2 ปี 4 ปี 6 ปี หลังจากนั้นละครับ

เรื่องตัวหุ้นไม่ได้พูดกันครับ หลัง งาน ผมไม่ได้ ไป คุย กับ วิทยากรท่านใดเลย.....แต่ในงาน มี ทาง advance มาพูดถึงเรื่องธรรมาภิบาล ซึ่งเขายึดมากว่า สิบปีแล้ว ส่วนตัวหุ้น advance ก็คงจะเติบโตขึ้นเพราะเศรษฐกิจเราดีขึ้น การใช้โทรศัทพ์มากขึ้น แถม โทรศัพท์ยังมีลูกเล่นให้ใช้อีกหลายอย่าง เขาว่า ยังมีการเจริญเติบโตอีก ปีนี้ 2003 อุตสาหกรรมด้านนี้ พักตัว แต่ ต่อไป จะเติบโตขึ้น เขาว่า ไว้อย่างนั้น ตอนนี้ advance มีหนี้ ก็ เงินกู้ในประเทศที่ออก .... หนี้เงินสกุลต่างประเทศ ไม่ มีครับ

คุณ MrS ถามถึงเศรษฐกิจ ถ้าตกต่ำ หุ้น VI จะเป็นอย่างไร ถ้าตกต่ำ ยอดขายลด กำไรก็ลด ปันผลก็น้อยลงตามครับ ราคาหุ้นก็ตกตามด้วย เป็นของปกติ แต่ถ้า อัตราผลตอบแทน ถ้าเราได้ แถว 6-8% ทุกปี ผมก็ว่า ผมยอมรับได้นะครับ ......อัตราผลตอบแทนในตลาดเราปีนี้ น่าจะมี แถว 4% up โดยเฉลี่ย.....ผมมีต้นทุนหุ้นถูกในพวกหุ้นปันผล ถ้า หา อัตราผลตอบแทน จาก ทุนของ ผม ผมทำได้แถว 10% ซึ่งเป็นอัตราที่ผมว่า พอใจแล้ว.....ถ้าเศรษฐกิจตกต่ำ ผมก็จะได้ ลดลง อาจมาแถว 6-7% ก็ได้ ในทางตรงกันข้าม ถ้าเศรษฐกิจเติบโตต่อไป อัตราผลตอบแทนก็จะโต ตามไปด้วย

จากประสบการณ์ เวลาหุ้นตก ราคาหุ้นของกลุ่มหุ้น VI มักจะอยู่ กับที่ หรือ ลดลงก็ไม่มากเท่าไหร่.....ซึ่งมักแสดง ว่า หุ้น VI มีพื้นฐานในตัวของมันเองอยู่แล้ว.....แต่ เวลา หุ้น ขึ้น บางที หุ้น VI ก็ไม่ค่อยขึ้นกับเขาด้วย.

ขอบคุณ คุณลุงขวดมากครับ
ผมเข้าใจว่า ไม่ได้มาโพสในกระทู้ตั้งหลายอาทิตย์แล้ว
คิดถึง กับอยากได้ฟังความเห็นของ VI ผู้มากประสพการณ์
ในสถานการณ์หุ้นปรับตัวครับ
ปล. ผมยกมือสนับสนุนว่า หุ้นพื้นฐานดี ในช่วงที่ตลาดมีราคาตกต่ำ หุ้นพื้นฐานดีมักจะราคาไม่ตกต่ำมากตามไปด้วย

ขอบคุณคุณลุงขวดที่เล่าให้ฟังครับ ผมติดธุระอีกแล้ว เลยไม่ได้ไป ทั้ง ๆ ที่จองเอาไว้แล้ว

แต่วันเสาร์ไปฟังเรื่องหุ้นกู้มา เห็นว่าจะมีการนำหุ้นกู้เข้ามาขายในตลาดหลักทรัพย์ด้วย โดยใครที่มีบัญชีกับโบรกอยู่แล้วอาจจะใช้บัญชีเดิมในการซื้อขาย แต่จะไม่รองรับบัญชึแบบที่เป็นอิเล็กโทรนิกส์ ( น่าจะเป็นแบบ on-line ไม่แน่ใจ ใครไปมาช่วย confirm หน่อยครับ )

วิทยากรมี อ.นวพร เรืองสกุล ( ความจำล้วน ๆ ไม่ได้จด ถ้าผิดขออภัย ) มีจาก AJF ( อันนี้แน่ใจ ) มีตัวแทนจากตลาดหลักทรัพย์ และอีกคนไม่แน่ใจ

วิทยากรเขาบรรยายว่า ตลาดเงินตลาดทุนในประเทศไทยเหมือนทีมฟุตบอล
หุ้นเหมือนกองหน้า มีหน้าที่ทำประตูให้ได้เยอะ ๆ
ธนาคารเหมือนกองหลัง ปัองกันลูกเดียว
มีหุ้นกู้เข้ามาจะเหมือนมีกองกลางเพิ่ม ทำให้ทีมสมบูรณ์ขึ้น

มีคนขอโพยหุ้นกู้ และวิทยากรไม่ตอบ AJF ให้แนวว่า ให้เปรียบเทียบหุ้นกู้ว่า Rating เป็นระดับเดียวกันไหม ด้อยสิทธิ์หรือไม่ มีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือไม่ ดอกเบี้ยลอยตัวหรือไม่

มีคนถามมาเรื่องหุ้นกู้ของอิตาเลียนไทย ว่าจ่ายไม่ตรงกำหนด
วิทยากรของ AJF เขาบอกว่าจะไม่มีนโยบายซื้อหุ้นกู้ของบริษัทแบบนี้
ถ้าจำไม่ผิด อ.นวพร เรืองสกุลตอบว่า ให้ลองดูว่าเปลี่ยนตัวผู้บริหารแล้วหรือยัง ให้ดูอนาคต ไม่ใช่อดีตของบริษัท

ถ้าฟังไม่ผิดจะเริ่มเดือนพฤศจิกายน

ที่ไม่น่าสนใจคือ หุ้นกู้จะเสียภาษี 15% เหมือนเงินฝาก

อนุสรณ์