Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

หุ้นตัวไหนน่าสนใจที่สุดในกลุ่มบันเทิงครับ

ผมเห็นกลุ่มนี้ underperform เหลือเกิน หุ้นวิ่งไปไหนต่อไหนแล้ว กลุ่มบันเทิงไม่ค่อยวิ่งเลย แถมยังลงอีก แบบพวก Grammy, Major, BEC

ช่วงเวลาแบบนี้เรียกว่าเป็นช่วงโอกาสแล้วหรือยัง สำหรับการช้อนซื้อหุ้นพื้นฐานดีๆ ที่ราคายังไม่สูงมาก

สำหรับผม ผมมองว่าหุ้น MAJOR กับ BEC น่าสนใจครับ เพราะ MAJOR มีพื้นฐานของกิจการมั่นคงและมีการเติบโตต่อเนื่อง หุ้น BEC ไม่เติบโตแบบก้าวกระโดด แต่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของโฆษณาโดยเฉพาะช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น

ผมเสนอ CVD ครับ เหตุผลคือ..
1. พฤติกรรมการบริโภคในการชมภาพยนตร์เริ่มเปลี่ยนไป คนบางกลุ่มเริ่มนิยมซื้อแผ่นVCD, DVD ซึ่งปัจจุบันมีราคาไม่แพงนักมาดูที่บ้านมากขึ้น (สังเกตได้จากยอดขายหนังประเภท Telemovies ซึ่งไม่เข้าฉายตามโรงภาพยนตร์อยู่ในเกณฑ์สูง และกำลังเป็นที่นิยม)
2. บริษัทได้รับลิขสิทธิ์จากผู้ผลิตภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น Fox, Warners, etc. อย่างน้อยก็ถึงปีหน้า ซึ่งปกติแล้วในช่วงปลายปีจะมีภาพยนตร์ดังหลายเรื่องเข้าฉาย (ไตรมาส 4 เป็นไตรมาสที่มีรายได้สูงตามฤดูกาล)
3. บริษัทเปลี่ยนกลยุทธ์ธุรกิจจากการเป็นผู้ผลิตแผ่น VCD และ VDO Tape มาเป็นการจ้างผลิตแทน ทำให้ลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีในอนาคต และทำให้บริษัทสามารถมุ่งใช้ทรัพยากรไปในกิจกรรมการตลาดมากขึ้น
4. บริษัทมีหนี้สินน้อย โดยเฉพาะปีนี้มีกระแสเงินสดรับพิเศษจากการขายเครื่องจักรออกไป ทำให้สามารถจ่ายปันผลได้มาก
5. บริษัทได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็ง เนื่องจากต้นทุนเป็น USD แต่รายได้เป็น THB

อืมม ที่ Major กำไรจริง ๆ ไม่ได้มาจากภาพยนตร์นะครับ จะมาจากค่าเช่า Karaoke, Bowl และที่ลืมไม่ได้ก็คือ โฆษณา

คุณ Financial Engineer เข้าใจอะไรผิดนิดหน่อยแล้วครับ เกี่ยวกับเรืื่่องธุรกิจของ CVD บริษัทไม่ได้ส่วนแบ่งรายได้จากการฉายภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์นะครับ บริษัทซื้อมาเฉพาะลิขสิทธิ์ในส่วนของ โฮม วิดีโอ ซึ่งได้แก่ วิดีโอ วีซีดี และดีวีดี ส่วนรายได้ของภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่ฉายในโรงนั้น ถ้าเป็นของสตูดิโอใหญ่ บริษัทสาขาในเมืองไทยจะเป็นคนได้รับรายได้ส่วนนั้น แล้วส่งเป็นผลกำไรคืนสู่บริษัทแม่ในต่างประเทศอีกที ซึ่งบริษัทสาขาเหล่านี้ได้แก่ ฟอกซ์-วอร์เนอร์ ที่อยู่ตรงสีลม บริษัทโคลัมเบีย-บัวน่าวิสตา ที่อยู่ตึกเกษร และ ยูไอพี ซึ่งเป็นตัวแทนของ ยูนิเวอร์แซล พาราเมาท์ ฯลฯ บริษัทอยู่อับดุลลาฮิม

แถมเรื่อง CVD อีกนิด ธุรกิจของบริษัท มีความเสี่ยงอยู่เหมือนกันในเรื่องของลิขสิทธิ์หนังจากสตูดิโอสำคัญ ๆ จากฮอลลีวูด ในอดีตใช่ CVD ผูกขาดลิขสิทธิ์รายเดียว แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้นแล้ว เพราะมีบริษัทคู่แข่งรายใหม่ (ซึ่งไม่ใช่ของคนไทยเสียด้วย) เข้ามาแบ่งลิขสิทธิ์ไปหลายสตูดิโอแล้ว ตอนนี้หนังของ ยูนิเวอร์แซล พาราเมาท์ ไม่ได้อยู่กับซีวีดีแล้ว และหนังของโคลัมเบีย ซีวีดีก็ถือลิขสิทธิ์แค่วิดีโอและวีซีดี ซึ่งสัญญาพวกนี้ต่อกันปีต่อปี ถ้าวันไหน ซีวีดี พลาดเสียลิขสิทธิ์ค่ายหนังไหนให้กับคู่แข่งไปอีก โดยเฉพาะ วอร์เนอร์ กับ โคลัมเบีย ซึ่งเป็นค่ายที่ทำรายได้หลักให้อยู่ในขณะนี้ละก็ ซีวีดี เหนื่อยแน่ครับ ดังนั้นผมจึงไม่อยากแนะนำให้ถือหุ้น CVD อย่าง VI โดยเฉพาะถ้าคุณไม่มีข้อมูลอินไซด์เรื่องนี้ เพราะลิขสิทธิ์บริษัทหลัก ๆ หลุดไปเมื่อไหร่ CVD ก็เหลือแต่ตัวครับ เพราะธุรกิจที่เคยมีรายได้แน่นอนสม่ำเสมอ อย่างผลิตตลับเทปวีดีโอ ตอนนี้ก็เลิกไปแล้ว (ก็ไอ้รายได้จากการจากขายเครื่องจักรนั่นแหละครับ ซึ่งเขาปันผลกันไปแล้วด้วยนะครับ ดังนั้นคนซื้อหุ้นตอนนี้คงไม่ได้อนิสงห์ด้วยแล้ว)

แล้วข้อมูลพวกลิขสิทธิ์พวกนี้ ถ้าไม่มีวงใน จะรู้ได้จากทางอื่นไหมครับ เขามีการออกเรื่องพวกนี้เป็นข่าวหรือเปล่า

เขามีการออกข่าวครับ เพราะอย่างน้อย ๆ เขาก็จะมีการเซ็นสัญญาใหม่ กับพวกศูนย์เช่าทุกปี ซึ่งในงานเขาก็จะบอกว่าปีต่อไปเขาจะได้ลิขสิทธิ์ของค่ายหนังค่ายไหนบ้าง แต่ก็นั่นแหละครับ กว่าข่าวจะออกถึงสาธารณะ หากเป็นการได้หรือเสียค่ายหนังที่ไม่สำคัญคงไม่กระไร ไ่ม่มีผลต่อราคาเท่าไหร่ แต่ถ้าหากเสียค่ายยักษ์ไปนี่ ผมว่าคนไหนอินไซด์แล้วมีหุ้นอยู่คงทิ้งหุ้นกันกระหน่ำแน่ ๆ ที่ำสำคัญ CVD เคยมีประวัติไม่ดีเรื่องนี้ เมื่อไม่กี่เดือนก่อนตลาดเพิ่งลงโทษกรรมการคนนึง ในข้อหาปั่นหุ้นหรือใช้ข้อมูลภายในอะไรนี่แหละ แต่ก็เป็นเรื่องนานแล้วนะครับเกิดขึ้นหลายปีแล้ว แต่เพิ่งจะลงโทษกันปีนี้

ถ้าอยากเล่นหุ้นตัวนี้ แบบถือลงทุนยาว ๆ ผมว่าหาเพื่อนฝูงทำธุรกิจพวกศูนย์เช่าวิดีโอไว้ก็ดีนะครับ พวกนี้เค้าจะค่อนข้างได้ข่าวไว ว่าลิขสิทธิ์ค่ายไหนจะยังอยู่กับใคร หรือจะหลุดไปอยู่กับใคร เอาเป็นว่าถ้าได้ข่าวว่า CVD เสียหนังค่าย วอร์เนอร์ กับ โคลัมเบีย วันไหน.. ก็ทิ้งหุ้นตัวนี้ได้เลยครับ.. เพราะผลต่อตัวบริษัทมันยิ่งกว่า พี่เบิร์ด น้องพลับ นิโคล วงแคลช พร้อมใจกันย้ายค่ายจากแกรมมี่ไปอยู่อาร์เอสหลายเท่าครับ...

ขอบคุณ คุณ petenotme สำหรับคอมเมนต์ครับ ผมได้ทำการแก้ไขข้อมูลใหม่เรียบร้อยแล้ว โดยตัดส่วนที่คลาดเคลื่อนออกไป

ลองดู gmmm สิครับ ปีนี้กำไรน่าจะทะลุ 500 ล้าน ปีหน้าอาจมีการปรับค่าโฆษณาเพื่ม 10% และมีการออกหนังสือใหม่อีกสองเล่ม ตอนนี้ซื้อขายกันที่ per 13 เท่าของปีนี้ 10 เท่าของปีหน้า ตำ่ที่สุดในทีสุดในกลุ่มบันเทิง ไม่ต้องกลัวจะถูกผลกระทบจาก ค่าเงิน ก่อการร้าย โรคซาส :lol: