Metco น่าซื้อ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 1
metco
36 37 38 39 40 41 42 43 44 45
กำไรต่อหุ้น
3.54 15.09 10.26 5.61 -10.58 26.93 13.47 15.75 23.55 30.97
ยอดขาย
2,932 4,253 4,838 4,499 4,807 6,682 6,161 7,587 10,718 11,380
หนี้สิน
1,271 1,769 2,761 2,465 3,142 2,553 2,416 3,064 3,203 3,343
ทุนเท่าเดิมตลอด 220 ล้านบาท พาร์ 10 บาท 22 ล้านหุ้น มาตั้งแต่ ปี 36
ยอดเยี่ยมครับ ดูคร่าวๆ เขาทำอะไรของเขานะ
โตต่อปีจาก 36 ถึง 45 เท่ากับมี EPS โต 27.25 เปอร์เซ็นต์ ตลอด 9 ปี
อืม ไม่ธรรมดาจริง
แต่ถ้าเป็นผม ผมจะดูจากยอดขายที่โตขึ้น จาก 2,932 เป็น 11,380 ซึ่งมีอัตราการเติบโต 16.26 เปอร์เซ็นต์ ตลอด 9 ปี ซึ่งถือว่าสูงมากครับ เพื่อให้เข้าหลักคอนเซอเวทีฟไว้ก่อน
ถ้า EPS ปัจจุบันเท่ากับ 30.97 แล้วโตเท่ากับ 16.26 อีก 10 ปีข้างหน้า EPS เท่ากับ 139.72
สมมุติ P/E เท่ากับ 10 แล้วกัน ราคาในอนาคตเท่ากับ 1397.20
เราต้องซื้อในปัจจุบันที่ราคาเท่าไรเพื่อที่เราจะได้กำไร 20 เปอร์เซ็นต์ทบต้น
คำตอบคือต้องซื้อต่ำกว่า 225.66 ครับ
ปัจจุบันราคา 224 ก็แปลว่าซื้อเพิ่มได้ครับ
กำไร 9 เดือน 46 เท่ากับ 29.44
ถ้าไตรมาส 4 ที่จะประกาศทำกำไรได้เท่าเดิมคือ 10.76
ผลคือกำไรทั้งปีเท่ากับ 29.44 + 10.76 เท่ากับ 40.20
ปีที่แล้วกำไร 30.97 ปันผล 10 บาท คิดแล้วประมาณ 32.28 เปอร์เซ็นต์
ปีนี้กำไร 40.20 ปันผลเป็นเปอร์เซ็นต์เท่าเดิมแล้วกัน ซักประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับ 12.06 บาท
ถ้าซ์อราคา 224 แล้วได้ปันผล 12 บาท
ก็จะได้ปันผลเท่ากับ 5.35 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่ต้องรอ 1 ปี
เพราะเขาทำผลประกอบการมาเรียบร้อยแล้ว 1 ปี สิ้นสุดเดือน 9 แต่ยังไม่ได้ประกาศเท่านั้นเอง
ปีที่แล้วประกาศจ่ายปันผลประมาณเดือน 11 แล้ว ไปรับปันผลเดอาเดือน 2 ครับ
ราคาตอนนี้ ถ้าลงมาอีก ก็ซื้อเพิ่ม เช่น 220 ซื้อ 1X 200 ซื้ออีก 2X 180 ซื้อ 4X
พูดถึงราคาปัจจุบัน ประมาณ 220 ถ้าได้กำไรต่อหุ้น 40 แต่ไม่โตเลย เอาแค่นี้ทุกปีเลย ก็เท่ากับได้กำไร 18.18 เปอร์เซ็นต์ โห
ผมวิเคราะห์แบบนี้ ดูเพียงตัวเลข ไม่ได้คาดการณ์อนาคต ไม่รู้ข้อมูลวงใน ไม่ได้อ่าน 56-1
มีอะไรผิดพลาด ได้โปรดตำหนิตัวเองนะครับ
เพราะผมไม่มีเงินซื้อแล้ว
เพียงแค่มือคัน ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยวิเคราะห์เอามันส์ครับ
36 37 38 39 40 41 42 43 44 45
กำไรต่อหุ้น
3.54 15.09 10.26 5.61 -10.58 26.93 13.47 15.75 23.55 30.97
ยอดขาย
2,932 4,253 4,838 4,499 4,807 6,682 6,161 7,587 10,718 11,380
หนี้สิน
1,271 1,769 2,761 2,465 3,142 2,553 2,416 3,064 3,203 3,343
ทุนเท่าเดิมตลอด 220 ล้านบาท พาร์ 10 บาท 22 ล้านหุ้น มาตั้งแต่ ปี 36
ยอดเยี่ยมครับ ดูคร่าวๆ เขาทำอะไรของเขานะ
โตต่อปีจาก 36 ถึง 45 เท่ากับมี EPS โต 27.25 เปอร์เซ็นต์ ตลอด 9 ปี
อืม ไม่ธรรมดาจริง
แต่ถ้าเป็นผม ผมจะดูจากยอดขายที่โตขึ้น จาก 2,932 เป็น 11,380 ซึ่งมีอัตราการเติบโต 16.26 เปอร์เซ็นต์ ตลอด 9 ปี ซึ่งถือว่าสูงมากครับ เพื่อให้เข้าหลักคอนเซอเวทีฟไว้ก่อน
ถ้า EPS ปัจจุบันเท่ากับ 30.97 แล้วโตเท่ากับ 16.26 อีก 10 ปีข้างหน้า EPS เท่ากับ 139.72
สมมุติ P/E เท่ากับ 10 แล้วกัน ราคาในอนาคตเท่ากับ 1397.20
เราต้องซื้อในปัจจุบันที่ราคาเท่าไรเพื่อที่เราจะได้กำไร 20 เปอร์เซ็นต์ทบต้น
คำตอบคือต้องซื้อต่ำกว่า 225.66 ครับ
ปัจจุบันราคา 224 ก็แปลว่าซื้อเพิ่มได้ครับ
กำไร 9 เดือน 46 เท่ากับ 29.44
ถ้าไตรมาส 4 ที่จะประกาศทำกำไรได้เท่าเดิมคือ 10.76
ผลคือกำไรทั้งปีเท่ากับ 29.44 + 10.76 เท่ากับ 40.20
ปีที่แล้วกำไร 30.97 ปันผล 10 บาท คิดแล้วประมาณ 32.28 เปอร์เซ็นต์
ปีนี้กำไร 40.20 ปันผลเป็นเปอร์เซ็นต์เท่าเดิมแล้วกัน ซักประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับ 12.06 บาท
ถ้าซ์อราคา 224 แล้วได้ปันผล 12 บาท
ก็จะได้ปันผลเท่ากับ 5.35 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่ต้องรอ 1 ปี
เพราะเขาทำผลประกอบการมาเรียบร้อยแล้ว 1 ปี สิ้นสุดเดือน 9 แต่ยังไม่ได้ประกาศเท่านั้นเอง
ปีที่แล้วประกาศจ่ายปันผลประมาณเดือน 11 แล้ว ไปรับปันผลเดอาเดือน 2 ครับ
ราคาตอนนี้ ถ้าลงมาอีก ก็ซื้อเพิ่ม เช่น 220 ซื้อ 1X 200 ซื้ออีก 2X 180 ซื้อ 4X
พูดถึงราคาปัจจุบัน ประมาณ 220 ถ้าได้กำไรต่อหุ้น 40 แต่ไม่โตเลย เอาแค่นี้ทุกปีเลย ก็เท่ากับได้กำไร 18.18 เปอร์เซ็นต์ โห
ผมวิเคราะห์แบบนี้ ดูเพียงตัวเลข ไม่ได้คาดการณ์อนาคต ไม่รู้ข้อมูลวงใน ไม่ได้อ่าน 56-1
มีอะไรผิดพลาด ได้โปรดตำหนิตัวเองนะครับ
เพราะผมไม่มีเงินซื้อแล้ว
เพียงแค่มือคัน ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยวิเคราะห์เอามันส์ครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 2
ผมขอออกความเห็นนะครับพี่ Jeng ผมว่า Metco น่าสนใจตามที่พี่ว่า แต่ผมว่าต้องระวังตรงที่ Metco ผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีนะครับ นั่นคือ ต้องมีการคิดค้นพัฒนาสินค้าตลอดเวลา ปัญหาคือหาก คิดค้นได้ช้ากว่าคู่แข่งก็เสียเปรียบคู่แข่ง แต่หากสามารถคิดค้นได้ก่อนคู่แข่งก็จะสามารถกอบโกยกำไรได้มาก เช่น ไตรมาสที่1 ปีนี้ แต่หลังจากนั้นกำไรก็จะลดลง ตามแนวโน้มเกี่ยวกับราคาสินค้าที่เป็น เทคโนโลยี นะครับ
ผมว่าตรงนี้เป็นปัญหาสำคัญของกิจการที่ผลิตสินค้า เทคโนโลยี
ผมว่าตรงนี้เป็นปัญหาสำคัญของกิจการที่ผลิตสินค้า เทคโนโลยี
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 4
สงสัยว่า
1.คู่แข่งของ metco คือใครครับ? ที่มาทำให้กำไรของ metco ลดลง
2. สินค้า metco มีอะไรบ้างครับ ที่โดนผลกระทบของเทคโนโลยี
ที่ถามนี่เพราะแปลกใจนะครับ METCO มี net profit margin น้อย และหวังว่าคงจะไม่โดนผลกระทบจากค่าเงินนะ
1.คู่แข่งของ metco คือใครครับ? ที่มาทำให้กำไรของ metco ลดลง
2. สินค้า metco มีอะไรบ้างครับ ที่โดนผลกระทบของเทคโนโลยี
ที่ถามนี่เพราะแปลกใจนะครับ METCO มี net profit margin น้อย และหวังว่าคงจะไม่โดนผลกระทบจากค่าเงินนะ
แก้ไขล่าสุดโดย นักดูดาว เมื่อ อังคาร ต.ค. 07, 2003 5:49 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 5
มูลค่าการจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศ 43 44 45
ชิ้นส่วน VTR และอื่น ๆ 6,164.03 7,025.34 3,903.81
ชิ้นส่วน CRT 1,249.97 1,019.99 1,141.96
ชิ้นส่วนยานยนต์ 0.00 2,518.67 6,117.59
รวมในประเทศ
และต่างประเทศ 7,414.00 10,564.00 11,163.36
เมื่อ ปี 43 ยังไม่มีรายได้ชิ้นส่วนยานยนต์ พอปี 45 มีรายได้ ชิ้นส่วนยานยนต์ มากว่าก 50 % ของรายได้รวม
เอแบบนี้เรียกพื้นฐานน่าจะเปลี่ยนแล้วนะครับ
แต่ดูๆแล้วเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นนะ
คงไม่ใช่สินค้าแนวเดิม เพราะ VTR ยอดขายลดลงไปเรื่อยๆ จาก 6 พันล้านบาท เหลือ 4 พันล้านบาท
ชิ้นส่วน VTR และอื่น ๆ 6,164.03 7,025.34 3,903.81
ชิ้นส่วน CRT 1,249.97 1,019.99 1,141.96
ชิ้นส่วนยานยนต์ 0.00 2,518.67 6,117.59
รวมในประเทศ
และต่างประเทศ 7,414.00 10,564.00 11,163.36
เมื่อ ปี 43 ยังไม่มีรายได้ชิ้นส่วนยานยนต์ พอปี 45 มีรายได้ ชิ้นส่วนยานยนต์ มากว่าก 50 % ของรายได้รวม
เอแบบนี้เรียกพื้นฐานน่าจะเปลี่ยนแล้วนะครับ
แต่ดูๆแล้วเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นนะ
คงไม่ใช่สินค้าแนวเดิม เพราะ VTR ยอดขายลดลงไปเรื่อยๆ จาก 6 พันล้านบาท เหลือ 4 พันล้านบาท
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 8
เป็นข้อสังเกตุที่เหนือชั้นจริงๆ จากคุณฉัตรชัย
โค้ด: เลือกทั้งหมด
โพสต์เมื่อ: Tue Oct 07, 2003 7:44 pm หัวข้อ:
--------------------------------------------------------------------------------
พี่เจ๋งครับ พี่วิเคราะห์ ณ.เวลานี้ วิเคราะห์อัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ จากปี 2536 ที่ 3.54 บาทต่อหุ้น เป็น 30.97 บาทในปี 2545 คิดเป็นเติบโตปีละ 27.25%
แต่พอปีหน้า งบปี 2546 ออกมาเท่ากับที่พี่ประมาณไว้ที่ 40.20 บาทต่อหุ้น แล้วเรามาคำนวณใหม่ โดยใช้ตัวเลขของปี 2537 แทนคือ 15.09 บาทต่อหุ้น เป็น 40.20 บาทในปี 2546 เราจะได้อัตราการเติบโตเพียง 11.50% เท่านั้นเองครับ และถ้าเราคำนวณกำไรสุทธิในปี 2555 ซึ่งพี่คำนวณได้ที่ 139.72 บาทต่อหุ้น เราจะคำนวณได้เพียง 107.08 บาทต่อหุ้นครับ
ถ้าคิดที่ P/E ที่ 10 เท่า ราคาก็จะเท่ากับ 1070.80 บาท ถ้าต้องการผลตอบแทนที่ 20% เราก็จะควรที่จะซื้อที่ราคาไม่เกิน 172.94 บาทซิครับ ต่างกันเยอะนะ ถ้าซื้อที่ 225.66 บาทละก็จะได้ผลตอบแทนที่ 16.85% ไม่รวมเงินปันผล
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 9
>>> คุณฉัตรชัย
มาคิดดูอีกที metco นี่ต้องเรียกว่าพื้นฐานเปลี่ยน เพราะรายได้ในปัจจุบัน มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์มาจากชิ้นส่วนรถยนต์
การนำรายได้ในอดีตมาคำนวณอาจจะใช้ไม่ได้นักใช่หรือไม่ครับ คุณฉัตรชัย
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าได้กำไร 40 ในราคา 220 เท่ากับได้กำไร 40/220 เท่ากับ 18 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งดูแล้วก็จูงใจมากเลย
ประกอบกับยอดขายรถยนต์ สูงขึ้น ดอกเบี้ยยังต่ำอยู่
จริงๆแล้วถ้ายอดขายยังติดอยู่กับ VTR นี่ซิน่าเสียวไส้ เพราะของจีนก็มีมากขึ้น และดีขึ้น ในราคาที่ถูกกว่า เข้ามาแย่งตลาดอยู่เรื่อยๆ
แต่เรื่องเทคโนเลยี่ ยังไงก็ไม่เข้าแนววอเรนอยู่แล้ว เพียงแต่ตัวนี้ดูแล้ว เมื่อเทียบกับ Stanlay คุณฉัตรชัยคิดว่าอย่างไรครับ
ในเมื่อStanly ราคาทั้งบริษัท 14328 ล้านบาท ปีนี้น่าจะได้กำไร
458.33 กำไร 6 เดือนแรก คูณสอง เท่ากับ 916.66
แต่ metco ทั้งบริษัท 4972 ล้านบาท ปีนี้น่าจะได้กำไร 880 ล้านบาท
ไหนๆวิเคราะห์กันแล้วก็วิเคราะห์กันต่อไป ใครรู้จริงก็ช่วยด้วยแล้วกัน วิเคราะห์ ห้ามด่า นะครับ ถ้าด่า ผมลบเลย
อิอิ
มาคิดดูอีกที metco นี่ต้องเรียกว่าพื้นฐานเปลี่ยน เพราะรายได้ในปัจจุบัน มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์มาจากชิ้นส่วนรถยนต์
การนำรายได้ในอดีตมาคำนวณอาจจะใช้ไม่ได้นักใช่หรือไม่ครับ คุณฉัตรชัย
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าได้กำไร 40 ในราคา 220 เท่ากับได้กำไร 40/220 เท่ากับ 18 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งดูแล้วก็จูงใจมากเลย
ประกอบกับยอดขายรถยนต์ สูงขึ้น ดอกเบี้ยยังต่ำอยู่
จริงๆแล้วถ้ายอดขายยังติดอยู่กับ VTR นี่ซิน่าเสียวไส้ เพราะของจีนก็มีมากขึ้น และดีขึ้น ในราคาที่ถูกกว่า เข้ามาแย่งตลาดอยู่เรื่อยๆ
แต่เรื่องเทคโนเลยี่ ยังไงก็ไม่เข้าแนววอเรนอยู่แล้ว เพียงแต่ตัวนี้ดูแล้ว เมื่อเทียบกับ Stanlay คุณฉัตรชัยคิดว่าอย่างไรครับ
ในเมื่อStanly ราคาทั้งบริษัท 14328 ล้านบาท ปีนี้น่าจะได้กำไร
458.33 กำไร 6 เดือนแรก คูณสอง เท่ากับ 916.66
แต่ metco ทั้งบริษัท 4972 ล้านบาท ปีนี้น่าจะได้กำไร 880 ล้านบาท
ไหนๆวิเคราะห์กันแล้วก็วิเคราะห์กันต่อไป ใครรู้จริงก็ช่วยด้วยแล้วกัน วิเคราะห์ ห้ามด่า นะครับ ถ้าด่า ผมลบเลย
อิอิ
-
- Verified User
- โพสต์: 130
- ผู้ติดตาม: 0
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 10
เรียนพี่เจ๋ง...
ชิ้นส่วนยานยนย์ของ metco คือ cd changer ครับ หรือเครื่องซีดีในรถยนต์นั่นเองครับ ไม่ใช่ชิ้นส่วนยานยนย์นะครับ...
และส่งออกทั้งหมดครับ ไม่ขายในประเทศครับ เนื่องจากสินค้าตัวนี้จะติดตั้งกับรถยนหรูๆ มากกว่า ดังนั้นยอดขายไม่น่าจะสัมพันธ์กับยอดขายรถในประเทศครับและโปรดักซ์ตัวนี้ก็ขาย ให้ลูกค้ารายเดียวครับทำให้อำนาจต่อรองของ metco ต่ำ...
ชิ้นส่วนยานยนย์ของ metco คือ cd changer ครับ หรือเครื่องซีดีในรถยนต์นั่นเองครับ ไม่ใช่ชิ้นส่วนยานยนย์นะครับ...
และส่งออกทั้งหมดครับ ไม่ขายในประเทศครับ เนื่องจากสินค้าตัวนี้จะติดตั้งกับรถยนหรูๆ มากกว่า ดังนั้นยอดขายไม่น่าจะสัมพันธ์กับยอดขายรถในประเทศครับและโปรดักซ์ตัวนี้ก็ขาย ให้ลูกค้ารายเดียวครับทำให้อำนาจต่อรองของ metco ต่ำ...
แก้ไขล่าสุดโดย ลูกอิสาน2 เมื่อ อังคาร ต.ค. 07, 2003 9:35 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
"การลงทุนคืออาหารที่อร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว"
-
- ผู้ติดตาม: 0
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 13
metcoต้องก้าวล้ำหน้าจีนกับเกาหลี1ก้าวครับไม่งั้นจะแย่แน่ๆ
เป็นปัญหาของหุ้นเทคโน.ทั้งหลายที่สามารถตามกันทันในระยะเวลาไม่นาน
ทำให้สินค้ามีอายุในตลาดสั้น
และจีนกับเกาหลีมีต้นทุนแรงงานที่ถูกกว่าทำให้ได้เปรียบ
ดูได้จากประวัติของเค้าที่ใหม่ๆทำหัวอ่านวิดีโอ,หัวอ่านvcd
ซึ่งตอนนี้ตกรุ่นไปแล้ว สู้จีนเกาหลีไม่ได้
ตอนนี้ทำcd changer ขณะนี้ทำกล้องdigital
metcoยังทำได้ค่อนข้างดีในระยะนี้ครับเพราะญี่ปุ่นเค้าแพ็คกันดี
แต่ถ้ามองยาวๆๆๆแล้วนึกไม่ออกว่าเค้าจะทำอะไรต่อ
ที่จะนำหน้าจีนเกาหลี
ถ้าจะถือต้องตามผลงานเค้าตลอด
เป็นปัญหาของหุ้นเทคโน.ทั้งหลายที่สามารถตามกันทันในระยะเวลาไม่นาน
ทำให้สินค้ามีอายุในตลาดสั้น
และจีนกับเกาหลีมีต้นทุนแรงงานที่ถูกกว่าทำให้ได้เปรียบ
ดูได้จากประวัติของเค้าที่ใหม่ๆทำหัวอ่านวิดีโอ,หัวอ่านvcd
ซึ่งตอนนี้ตกรุ่นไปแล้ว สู้จีนเกาหลีไม่ได้
ตอนนี้ทำcd changer ขณะนี้ทำกล้องdigital
metcoยังทำได้ค่อนข้างดีในระยะนี้ครับเพราะญี่ปุ่นเค้าแพ็คกันดี
แต่ถ้ามองยาวๆๆๆแล้วนึกไม่ออกว่าเค้าจะทำอะไรต่อ
ที่จะนำหน้าจีนเกาหลี
ถ้าจะถือต้องตามผลงานเค้าตลอด
-
- ผู้ติดตาม: 0
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 14
ชิ้นส่วนอีเล็คทรอนิกส์สำหรับรถยนต์ คือ In Dashboard Compact Disc Changers : IDC ครับ
cd exchanger ที่เขียนกันน่าจะเป็น cd changers ที่เป็น
ตู้ใส่ cd หลายๆแผ่นมากกว่านะครับ
cd exchanger ที่เขียนกันน่าจะเป็น cd changers ที่เป็น
ตู้ใส่ cd หลายๆแผ่นมากกว่านะครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 15
ผมว่าดูลักษณะธุรกิจแล้ว ถือสบายใจสู้หุ้นโคมไฟ stanley ไม่ได้
แต่หุ้นโคมไฟผมก็ซื้อไม่ไหว จะซื้อตั้งแต่ร้อยกว่าบาทแล้ว
ไม่ได้ซื้อสักทีจนกลายเป็นของแพงเกินที่จะรอให้คุ้มที่ลงทุน
แต่หุ้นโคมไฟผมก็ซื้อไม่ไหว จะซื้อตั้งแต่ร้อยกว่าบาทแล้ว
ไม่ได้ซื้อสักทีจนกลายเป็นของแพงเกินที่จะรอให้คุ้มที่ลงทุน
- Banchap
- Verified User
- โพสต์: 247
- ผู้ติดตาม: 0
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 16
ในวงการอิเล็กทรอนิกส์ งานของ Metco จัดเป็นพวกงานประกอบ เหนื่อยครับ ลูกค้าจะขอลดราคาทุก 3-6 เดือน ขอทีก็ประมาณ 5-10% นานวันเข้าก็ไม่ไหวเหมือนกัน กำไรเฉลี่ยจะไม่มากเท่าไหร่ ลูกค้าพร้อมที่จะเปลี่ยนไปซื้อจากที่อื่นได้เสมอ ยกเว้นว่าเป็นงานที่เขาต้องมาลงทุนเครื่องมือบางส่วนร่วมกัน (อันนี้เปรียบเทียบกับที่ทำงานของผม อยู่ในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน)
ถ้าเขายอมให้ทำ Company visit ผมคงบอกรายละเอียดได้มากกว่านี้
ถ้าเขายอมให้ทำ Company visit ผมคงบอกรายละเอียดได้มากกว่านี้
- Meeja
- Verified User
- โพสต์: 333
- ผู้ติดตาม: 0
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 17
ผมว่าลักษณะ METCO คงคล้ายๆ CEI เมื่อก่อนน่ะครับ
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ METCO ญี่ปุ่น
Know-How ก็เอามาจากเขา (ไม่ต้องห่วงเรื่องความไวของ Technology)
วัตถุดิบสำคัญก็ของเขา
ขายก็ขายให้เขา - ตราบใดที่เจ้าของยังเป็น METCO ญี่ปุ่น ไม่มีทางที่จะขายไม่ออกครับ
อย่างไรก็ตาม Margin ก็ต้องต่ำตามเหตุข้างต้นล่ะครับ
ข้อดีที่เห็นของบริษัทคือ ระบบการจัดการภายในครับ
เมื่อก่อนผลิตหัวอ่าน VDO ดีๆ (Analog)
ก็ปรับเป็นหัวอ่าน CD และชุด CD Changer ได้พริบตา (Digital)
ยอดขายอาจเพิ่มยากแล้ว แต่ผมว่าไม่ตก เพราะปรับตัวไว
CD Changer ยี่ห้อมัตชิชิตะ อะไรประมาณเนี้ยครับ
ส่วนที่ต่างจาก STANLY มากๆ ก็คือ พลังการต่อรองกับลูกค้า
STANLY ไม่ต้องง้อใคร และเขาต้องมาง้อด้วย
(ชิ้นส่วนรถยนต์ต้องมีชิ้นส่วนไทย ...% จำไม่ได้ และมีแค่ไทยโคะอิโตะเป็นคู่แข่ง)
(เคยได้ยินมาว่าคุณภาพโคมไฟดีกว่า Toyota ทำเองซะอีก)
METCO ไม่ต้องง้อใครเหมือนกัน แต่ต้องขายให้ญี่ปุ่นซะส่วนใหญ่
ก็อยู่ที่การให้ราคาล่ะครับ ว่าใครจะให้ P/E เท่าไหร่ในความต่างส่วนนี้
แต่ผมว่า METCO ก็ไม่แพงหรอกครับถ้าเทียบกับฝากเงินธนาคาร
ส่วนตัวผมฝากเงิน CHARAN S&P สบายใจกว่า
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ METCO ญี่ปุ่น
Know-How ก็เอามาจากเขา (ไม่ต้องห่วงเรื่องความไวของ Technology)
วัตถุดิบสำคัญก็ของเขา
ขายก็ขายให้เขา - ตราบใดที่เจ้าของยังเป็น METCO ญี่ปุ่น ไม่มีทางที่จะขายไม่ออกครับ
อย่างไรก็ตาม Margin ก็ต้องต่ำตามเหตุข้างต้นล่ะครับ
ข้อดีที่เห็นของบริษัทคือ ระบบการจัดการภายในครับ
เมื่อก่อนผลิตหัวอ่าน VDO ดีๆ (Analog)
ก็ปรับเป็นหัวอ่าน CD และชุด CD Changer ได้พริบตา (Digital)
ยอดขายอาจเพิ่มยากแล้ว แต่ผมว่าไม่ตก เพราะปรับตัวไว
CD Changer ยี่ห้อมัตชิชิตะ อะไรประมาณเนี้ยครับ
ส่วนที่ต่างจาก STANLY มากๆ ก็คือ พลังการต่อรองกับลูกค้า
STANLY ไม่ต้องง้อใคร และเขาต้องมาง้อด้วย
(ชิ้นส่วนรถยนต์ต้องมีชิ้นส่วนไทย ...% จำไม่ได้ และมีแค่ไทยโคะอิโตะเป็นคู่แข่ง)
(เคยได้ยินมาว่าคุณภาพโคมไฟดีกว่า Toyota ทำเองซะอีก)
METCO ไม่ต้องง้อใครเหมือนกัน แต่ต้องขายให้ญี่ปุ่นซะส่วนใหญ่
ก็อยู่ที่การให้ราคาล่ะครับ ว่าใครจะให้ P/E เท่าไหร่ในความต่างส่วนนี้
แต่ผมว่า METCO ก็ไม่แพงหรอกครับถ้าเทียบกับฝากเงินธนาคาร
ส่วนตัวผมฝากเงิน CHARAN S&P สบายใจกว่า
-
- ผู้ติดตาม: 0
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 19
ดิฉันดีใจมากที่มี web ดีๆ แบบ TVI แต่ก็ต้องขอบคุณพี่ๆ ทางพันธ์ทิพย์ที่ได้แนะนำเวปนี้ ก็เลยตามมาอ่าน เมื่อสองเดือนก่อนดิฉันสนใจจะลงทุนในหุ้น ได้เริ่มอ่านหนังสือของ อ.นิเวศน์ก่อน อ่านกระทู้ในเวปหุ้นย้อนหลังสามเดือน และเก็บรวบรวมข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง จดๆ ไว้ในสมุด พอดีเข้าไปดูในโครงการร้อยคนร้อยหุ้น ก็สนใจศึกษาหุ้นที่แนะนำให้ศึกษาหลายตัว ตอนแรกๆ ก็ไม่สนใจ METCO เลย ด้วย Concept ว่าเป็นหุ้นที่ต้องสำรองเงินทุนเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ลองพิมพ์งบการเงิน 30/6/2003 มาศึกษาดู เห็นว่ามีจุดน่าสนใจหลายๆ เรื่อง จึงได้ซื้่อไว้บ้าง ตอนนี้มีแค่ 400 หุ้น ราคาเฉลี่ยที่ 238 วันนี้ปิดที่ 224 port ดิฉันเป็นตัวแดงมาหลายวันแล้ว ตกใจเหมือนกันสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ เพราะเป็นหุ้นที่ติดลบสูงสุดใน port แต่ก็ไม่รู้สึกเดือดร้อนใจเลย เพราะเชื่อในพื้นฐานของหุ้น ก่อนซื้อดิฉันได้วิเคราะห์หุ้นไว้บ้าง แต่ก็มีข้อมูลจาก Thailand Company Handbook แค่ 5 ปี ย้อนหลัง ต้องขอบคุณคุณ Jeng ที่นำข้อมูลมาให้ดูเพิ่ม และวิเคราะห์ให้เสร็จเรียบร้อย ดิฉันขอ share idea เพิ่มเติมในส่วนที่ได้วิเคราห์ไว้เองด้วย ดังนี้ และรบกวนทุกท่านช่วยแนะนำด้วย หากดิฉัีนวิเคราะห์พลาดในบางเรื่อง เพราะเป็นมือใหม่จริงๆ และไม่มีความรู้พื้นฐานด้านบัญชีมาก่อน (ตัวเลขที่ใช้คำนวณเป็นตัวเลขของงบ 30/6/2003 หากใช้ประมาณการ Q4/2003 น่าจะได้ผลการคำนวณที่ดีกว่า) :
1.Revenue > Market Cap
2.กำไรสุทธิ ต่อราคา (13%) สูงกว่าผลตอบแทนพันธบัตร (6.5%)
3.Div Yield (4.20%) มีค่าประมาณ 2 ใน 3 ของพันธบัตร (6.5%)
4.หนี้สินทั้งหมดต่อหุ้น (134) ต่ำกว่า Book Value (161)
5.อัตราเงินทุนหมุนเวียน (ทรัพย์สินหมุนเวียน>หนี้สินหมุนเวียน) = 1.5 เท่า
6.หนี้สินหมุนเวียน ต่ำกว่า เงินสด+ลูกหนี้การค้า (ไม่รวม inventory)
7. ROA สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้
8. ROE มีอัตราสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
9. กำไรสะสมสูงถึง 50% ของ Market Cap.
ด้านการผลิตและการตลาด จากที่อ่านจาก 56-1 (จำได้คร่าวๆ ต้องกลับไปอ่านใหม่ค่ะ เพราะตอนนั้นไล่อ่านของหลายๆ บริษัท)
1.เป็น Market Leader ที่ผลิตชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในสายธุรกิจประเภทนี้มาถึง 50 ปี
2.มีฐานการตลาดที่แข็งแกร่งมาก โดยมี channal ผ่านบริษัทจัดจำหน่ายในญี่ปุ่น โดยปรกติญี่ปุ่นมักค้าขายผ่านบริษัทญี่ปุ่นด้วยกัน ส่วนตัวแทนในประเทศไทย ผ่าน Itochu เป็น Trading Company รายใหญ่
3.ลักษณะการถือหุ้น ไม่เป็นเบี้ยหัวแตก บริษัทแม่ถือหุ้นใหญ่ถึง 62%
4.ปันผล 30% ของกำไรสุทธิ เข้าใจว่าต้องจัดสรรกำไรสุทธิสำหรับการลงทุนในอนาคต แต่ถึงแม้ปันผลที่ 30% ํYield ก็ยังสูงเมื่อเทียบกับหุ้นบางตัว ณ ราคาปัจจุบัน
5. จำนวนหุ้นไม่มากเกินไป 22 ล้านหุ้น Par 10 บาท
6. ในส่วนค่าจ้างและรายจ่ายให้ผู้บริหาร ก็อยู่ในอัตราที่ยอมรับได้ (อันนี้ต้องขอกลับไปอ่าน 56-1 อีกครั้งค่ะ
แต่เนื่องจากหุ้่นชนิดนี้เป็นหุ้น Technology ซึ่งดิฉันไม่สามารถเข้าใจผลิตภัณฑ์ได้เต็ม 100% (อันนี้เป็นพื้่นฐานที่คุณวิบูลย์แนะนำ) จึงตั้งใจไว้ว่าจะลงทุนระยะกลาง - ยาว และต้องคอยติดตามผลประกอบการอย่างต่อเนื่องค่ะ ส่วนราคาแกว่งตัวแรงจัง เวลาหุ้นตก คนถือก็ตกใจเหมือนกัน แต่ต้องท่องไว้ ว่าวิเคราะห์มาดีแล้ว มั่นใจๆๆ
1.Revenue > Market Cap
2.กำไรสุทธิ ต่อราคา (13%) สูงกว่าผลตอบแทนพันธบัตร (6.5%)
3.Div Yield (4.20%) มีค่าประมาณ 2 ใน 3 ของพันธบัตร (6.5%)
4.หนี้สินทั้งหมดต่อหุ้น (134) ต่ำกว่า Book Value (161)
5.อัตราเงินทุนหมุนเวียน (ทรัพย์สินหมุนเวียน>หนี้สินหมุนเวียน) = 1.5 เท่า
6.หนี้สินหมุนเวียน ต่ำกว่า เงินสด+ลูกหนี้การค้า (ไม่รวม inventory)
7. ROA สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้
8. ROE มีอัตราสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
9. กำไรสะสมสูงถึง 50% ของ Market Cap.
ด้านการผลิตและการตลาด จากที่อ่านจาก 56-1 (จำได้คร่าวๆ ต้องกลับไปอ่านใหม่ค่ะ เพราะตอนนั้นไล่อ่านของหลายๆ บริษัท)
1.เป็น Market Leader ที่ผลิตชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในสายธุรกิจประเภทนี้มาถึง 50 ปี
2.มีฐานการตลาดที่แข็งแกร่งมาก โดยมี channal ผ่านบริษัทจัดจำหน่ายในญี่ปุ่น โดยปรกติญี่ปุ่นมักค้าขายผ่านบริษัทญี่ปุ่นด้วยกัน ส่วนตัวแทนในประเทศไทย ผ่าน Itochu เป็น Trading Company รายใหญ่
3.ลักษณะการถือหุ้น ไม่เป็นเบี้ยหัวแตก บริษัทแม่ถือหุ้นใหญ่ถึง 62%
4.ปันผล 30% ของกำไรสุทธิ เข้าใจว่าต้องจัดสรรกำไรสุทธิสำหรับการลงทุนในอนาคต แต่ถึงแม้ปันผลที่ 30% ํYield ก็ยังสูงเมื่อเทียบกับหุ้นบางตัว ณ ราคาปัจจุบัน
5. จำนวนหุ้นไม่มากเกินไป 22 ล้านหุ้น Par 10 บาท
6. ในส่วนค่าจ้างและรายจ่ายให้ผู้บริหาร ก็อยู่ในอัตราที่ยอมรับได้ (อันนี้ต้องขอกลับไปอ่าน 56-1 อีกครั้งค่ะ
แต่เนื่องจากหุ้่นชนิดนี้เป็นหุ้น Technology ซึ่งดิฉันไม่สามารถเข้าใจผลิตภัณฑ์ได้เต็ม 100% (อันนี้เป็นพื้่นฐานที่คุณวิบูลย์แนะนำ) จึงตั้งใจไว้ว่าจะลงทุนระยะกลาง - ยาว และต้องคอยติดตามผลประกอบการอย่างต่อเนื่องค่ะ ส่วนราคาแกว่งตัวแรงจัง เวลาหุ้นตก คนถือก็ตกใจเหมือนกัน แต่ต้องท่องไว้ ว่าวิเคราะห์มาดีแล้ว มั่นใจๆๆ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 20
คุณ Guest วิเคราะห์ได้ขนาดนี้ก็ถือว่าทำการบ้านมาพอสมควรแล้วครับ
เวลาหุ้นตกเราก็ไม่ต้องตกใจมาก เพราะเรารู้ว่าเราลงทุนอะไรอยู่
เพียงแต่ว่าข้อมูลที่คุณวิเคราะห์มาสรุปได้ว่าบริษัทนี้น่าลงทุน
แต่คุณได้วิเคราะห์หาราคาที่ควรลงทุนไว้ด้วยหรือเปล่าครับ ใช้วิธีคำนวณแบบไหน ลองแชร์ความเห็นกันบ้างครับ
เวลาหุ้นตกเราก็ไม่ต้องตกใจมาก เพราะเรารู้ว่าเราลงทุนอะไรอยู่
เพียงแต่ว่าข้อมูลที่คุณวิเคราะห์มาสรุปได้ว่าบริษัทนี้น่าลงทุน
แต่คุณได้วิเคราะห์หาราคาที่ควรลงทุนไว้ด้วยหรือเปล่าครับ ใช้วิธีคำนวณแบบไหน ลองแชร์ความเห็นกันบ้างครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 21
เรียนคุณ Jeng
แปลกจังดิฉันคิดว่า login แล้ว แต่ทำไมยังเป็น Guest ไว้ค่อยลอง login ใหม่นะคะ คือว่าตอนซื้อก็ดูราคาเหมือนกันค่ะ โดยใช้หลักการดังนี้
1. ดู P/E และ P/BV ตอนซื้อครั้งแรกวันที่ 15/9/2003 ราคา 240 ถ้าจำไม่ผิด อยู่ที่ P/E=6.1ึ7 และ P/BV=1.54 ตามลำดับ ที่ยอมซื้อที่ P/BV แพงหน่อยก็มีเหตุผลเช่นกัน คือตอนที่ซื้อตลาดกำลังเป็นขาขึ้น เห็นราคาที่ 1.5 เท่าคิดว่ารับได้ เพราะว่าหุ้นตัวอื่นๆ เทียบพื้นฐานแล้วก็ไม่ได้ดีกว่า และยังมีราคาแพงกว่าด้วย ในขณะที่ตลาดเป็นขาขึ้นคิดว่าราคาคงไม่ตกไปกว่า B/V มากมายนัก อีกอย่างหนึ่งก็คิดว่า ยอมซื้อของดีแต่ราคาสูงนิดหน่อยดีกว่าซื้อก้นซิการ์มาสูบ (อันนี้ก็ลอกความเห็นคุณวิบูลย์ และอาจารย์ Buffet มา)
2. ขอขอบคุณคลายเคลียด หรือท่านที่ post ไว้ในพันธ์ทิพด้วยค่ะ ที่ช่วยคิด Ratio และเอามา สรุปให้มือใหม่ได้ศึกษา ดิฉันใช้ Ratio ต่อไปนี้ค่ะ
-แพะ Ratio โดยใช้ผลคูณของ (P/E * P/BV =9.5) อันนี้เป็นการดู short term และ long term ต่ำกว่า 10 ถือว่าดี แต่สำหรับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ดิฉันรับได้ที 20 (อันนี้จำ อ.นิเวศน์ มาค่ะ)
- เฟยหง Ratio โดยเอา Ratain Earning/Market Cap ต้องเกิน 40%
3. หาอัตราเงินสดต่อหุ้น ได้ที่ 52 บาท ดังนั้นราคาที่ดิฉันซื้อจริงๆ ก็คือ 240-52=188 (สูตรนี้ไม่ค่อยแน่ใจค่ะ เพราะเราไม่ได้ถือหุ้นไปตลอด) แต่ก็คิดไว้ปลอบใจตัวเองว่าซื้อแพงกว่า B/V นิดเดียวเอง
4.ดิฉันดู movement ของราคาย้อนหลังใน history trading ของ Set เห็น ช่วงราคาที่หุ้นวิ่งขึ้นลง รู้สึกว่าแกว่งพอสมควร แต่รับได้ เพราะเป็นเงินเย็นถือรอให้หุ้นขึ้นค่อยขายก็ได้ค่ะ
5. ดิฉันดูกราฟหุ้นตัวนี้ใน Thailand Company Handbook (ต้องขอขอบคุณคุณอาจองที่ช่วยเป็นธุรจัดหาจัดส่งให้ค่ะ ตอนนั้นตื่นเต้นมาก อยากได้คู่มือเล่มนี้มากๆ โทรไปตามหนังสือเองเลยค่ะ) เห็นว่าหุ้นตัวนี้ราคาจะลงในช่วงเดือนกันยา-ตุลาคม เป็นอย่างนี้มาสามปีแล้ว อีกทั้งดูกราฟรวมไปเลย เป็นกราฟค่อยๆ ไต่สูงขึ้นทุกๆ ปี แต่ไม่หวือหวาขึ้นลงแบบหุ้น KK, เลยยิ่งมั่นใจว่าหุ้นน่าจะค่อยๆ ไต่ขึ้นไปอีกเพระดูผลประกอบการ Q3 แล้ว ก็พอจะ forecast ไตรมาศสุดท้ายได้
6. ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งที่ซื้อ ก็เพราะหุ้นตัวนี้ผลประกอบการสิ้นสุดเดือน Sep จะได้ปันผลเร็วกว่าตัวอื่นๆ ปีก่อนปันผล 10 บาท ปีนี้น่าจะเท่ากันหรือมากกว่านิดหน่อย คาดว่าถ้าประกาศผลประกอบการแล้ว ราคาหุ้นน่าจะขยับขึ้นไปอีก ถ้าไม่ได้ capital gain ก็ยังได้ปันผลมาให้ชื่นใจบ้างค่ะ
ดิฉันก็ทำการบ้านตามนี้ล่ะค่ะ ตอนนี้ยังไงก็จะกอดหุ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะรู้ปันผล อยากดูด้วยว่าวิเคราห์ขนาดนี้แล้ว ถ้าตกม้าตายก็ให้รู้ไปเลย ถือว่าเป็นบทเรียนค่ะ ตอนนี้ก็รอให้ราคาตกลงมาอีก มี target ค่อยๆ เก็บจนครบ 1000 หุ้นค่ะ
แปลกจังดิฉันคิดว่า login แล้ว แต่ทำไมยังเป็น Guest ไว้ค่อยลอง login ใหม่นะคะ คือว่าตอนซื้อก็ดูราคาเหมือนกันค่ะ โดยใช้หลักการดังนี้
1. ดู P/E และ P/BV ตอนซื้อครั้งแรกวันที่ 15/9/2003 ราคา 240 ถ้าจำไม่ผิด อยู่ที่ P/E=6.1ึ7 และ P/BV=1.54 ตามลำดับ ที่ยอมซื้อที่ P/BV แพงหน่อยก็มีเหตุผลเช่นกัน คือตอนที่ซื้อตลาดกำลังเป็นขาขึ้น เห็นราคาที่ 1.5 เท่าคิดว่ารับได้ เพราะว่าหุ้นตัวอื่นๆ เทียบพื้นฐานแล้วก็ไม่ได้ดีกว่า และยังมีราคาแพงกว่าด้วย ในขณะที่ตลาดเป็นขาขึ้นคิดว่าราคาคงไม่ตกไปกว่า B/V มากมายนัก อีกอย่างหนึ่งก็คิดว่า ยอมซื้อของดีแต่ราคาสูงนิดหน่อยดีกว่าซื้อก้นซิการ์มาสูบ (อันนี้ก็ลอกความเห็นคุณวิบูลย์ และอาจารย์ Buffet มา)
2. ขอขอบคุณคลายเคลียด หรือท่านที่ post ไว้ในพันธ์ทิพด้วยค่ะ ที่ช่วยคิด Ratio และเอามา สรุปให้มือใหม่ได้ศึกษา ดิฉันใช้ Ratio ต่อไปนี้ค่ะ
-แพะ Ratio โดยใช้ผลคูณของ (P/E * P/BV =9.5) อันนี้เป็นการดู short term และ long term ต่ำกว่า 10 ถือว่าดี แต่สำหรับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ดิฉันรับได้ที 20 (อันนี้จำ อ.นิเวศน์ มาค่ะ)
- เฟยหง Ratio โดยเอา Ratain Earning/Market Cap ต้องเกิน 40%
3. หาอัตราเงินสดต่อหุ้น ได้ที่ 52 บาท ดังนั้นราคาที่ดิฉันซื้อจริงๆ ก็คือ 240-52=188 (สูตรนี้ไม่ค่อยแน่ใจค่ะ เพราะเราไม่ได้ถือหุ้นไปตลอด) แต่ก็คิดไว้ปลอบใจตัวเองว่าซื้อแพงกว่า B/V นิดเดียวเอง
4.ดิฉันดู movement ของราคาย้อนหลังใน history trading ของ Set เห็น ช่วงราคาที่หุ้นวิ่งขึ้นลง รู้สึกว่าแกว่งพอสมควร แต่รับได้ เพราะเป็นเงินเย็นถือรอให้หุ้นขึ้นค่อยขายก็ได้ค่ะ
5. ดิฉันดูกราฟหุ้นตัวนี้ใน Thailand Company Handbook (ต้องขอขอบคุณคุณอาจองที่ช่วยเป็นธุรจัดหาจัดส่งให้ค่ะ ตอนนั้นตื่นเต้นมาก อยากได้คู่มือเล่มนี้มากๆ โทรไปตามหนังสือเองเลยค่ะ) เห็นว่าหุ้นตัวนี้ราคาจะลงในช่วงเดือนกันยา-ตุลาคม เป็นอย่างนี้มาสามปีแล้ว อีกทั้งดูกราฟรวมไปเลย เป็นกราฟค่อยๆ ไต่สูงขึ้นทุกๆ ปี แต่ไม่หวือหวาขึ้นลงแบบหุ้น KK, เลยยิ่งมั่นใจว่าหุ้นน่าจะค่อยๆ ไต่ขึ้นไปอีกเพระดูผลประกอบการ Q3 แล้ว ก็พอจะ forecast ไตรมาศสุดท้ายได้
6. ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งที่ซื้อ ก็เพราะหุ้นตัวนี้ผลประกอบการสิ้นสุดเดือน Sep จะได้ปันผลเร็วกว่าตัวอื่นๆ ปีก่อนปันผล 10 บาท ปีนี้น่าจะเท่ากันหรือมากกว่านิดหน่อย คาดว่าถ้าประกาศผลประกอบการแล้ว ราคาหุ้นน่าจะขยับขึ้นไปอีก ถ้าไม่ได้ capital gain ก็ยังได้ปันผลมาให้ชื่นใจบ้างค่ะ
ดิฉันก็ทำการบ้านตามนี้ล่ะค่ะ ตอนนี้ยังไงก็จะกอดหุ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะรู้ปันผล อยากดูด้วยว่าวิเคราห์ขนาดนี้แล้ว ถ้าตกม้าตายก็ให้รู้ไปเลย ถือว่าเป็นบทเรียนค่ะ ตอนนี้ก็รอให้ราคาตกลงมาอีก มี target ค่อยๆ เก็บจนครบ 1000 หุ้นค่ะ
-
- ผู้ติดตาม: 0
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 22
เรียนคุณ Jeng
แปลกจังดิฉันคิดว่า login แล้ว แต่ทำไมยังเป็น Guest ไว้ค่อยลอง login ใหม่นะคะ คือว่าตอนซื้อก็ดูราคาเหมือนกันค่ะ โดยใช้หลักการดังนี้
1. ดู P/E และ P/BV ตอนซื้อครั้งแรกวันที่ 15/9/2003 ราคา 240 ถ้าจำไม่ผิด อยู่ที่ P/E=6.1ึ7 และ P/BV=1.54 ตามลำดับ ที่ยอมซื้อที่ P/BV แพงหน่อยก็มีเหตุผลเช่นกัน คือตอนที่ซื้อตลาดกำลังเป็นขาขึ้น เห็นราคาที่ 1.5 เท่าคิดว่ารับได้ เพราะว่าหุ้นตัวอื่นๆ เทียบพื้นฐานแล้วก็ไม่ได้ดีกว่า และยังมีราคาแพงกว่าด้วย ในขณะที่ตลาดเป็นขาขึ้นคิดว่าราคาคงไม่ตกไปกว่า B/V มากมายนัก อีกอย่างหนึ่งก็คิดว่า ยอมซื้อของดีแต่ราคาสูงนิดหน่อยดีกว่าซื้อก้นซิการ์มาสูบ (อันนี้ก็ลอกความเห็นคุณวิบูลย์ และอาจารย์ Buffet มา)
2. ขอขอบคุณคลายเคลียด หรือท่านที่ post ไว้ในพันธ์ทิพด้วยค่ะ ที่ช่วยคิด Ratio และเอามา สรุปให้มือใหม่ได้ศึกษา ดิฉันใช้ Ratio ต่อไปนี้ค่ะ
-แพะ Ratio โดยใช้ผลคูณของ (P/E * P/BV =9.5) อันนี้เป็นการดู short term และ long term ต่ำกว่า 10 ถือว่าดี แต่สำหรับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ดิฉันรับได้ที 20 (อันนี้จำ อ.นิเวศน์ มาค่ะ)
- เฟยหง Ratio โดยเอา Ratain Earning/Market Cap ต้องเกิน 40%
3. หาอัตราเงินสดต่อหุ้น ได้ที่ 52 บาท ดังนั้นราคาที่ดิฉันซื้อจริงๆ ก็คือ 240-52=188 (สูตรนี้ไม่ค่อยแน่ใจค่ะ เพราะเราไม่ได้ถือหุ้นไปตลอด) แต่ก็คิดไว้ปลอบใจตัวเองว่าซื้อแพงกว่า B/V นิดเดียวเอง
4.ดิฉันดู movement ของราคาย้อนหลังใน history trading ของ Set เห็น ช่วงราคาที่หุ้นวิ่งขึ้นลง รู้สึกว่าแกว่งพอสมควร แต่รับได้ เพราะเป็นเงินเย็นถือรอให้หุ้นขึ้นค่อยขายก็ได้ค่ะ
5. ดิฉันดูกราฟหุ้นตัวนี้ใน Thailand Company Handbook (ต้องขอขอบคุณคุณอาจองที่ช่วยเป็นธุรจัดหาจัดส่งให้ค่ะ ตอนนั้นตื่นเต้นมาก อยากได้คู่มือเล่มนี้มากๆ โทรไปตามหนังสือเองเลยค่ะ) เห็นว่าหุ้นตัวนี้ราคาจะลงในช่วงเดือนกันยา-ตุลาคม เป็นอย่างนี้มาสามปีแล้ว อีกทั้งดูกราฟรวมไปเลย เป็นกราฟค่อยๆ ไต่สูงขึ้นทุกๆ ปี แต่ไม่หวือหวาขึ้นลงแบบหุ้น KK, เลยยิ่งมั่นใจว่าหุ้นน่าจะค่อยๆ ไต่ขึ้นไปอีกเพระดูผลประกอบการ Q3 แล้ว ก็พอจะ forecast ไตรมาศสุดท้ายได้
6. ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งที่ซื้อ ก็เพราะหุ้นตัวนี้ผลประกอบการสิ้นสุดเดือน Sep จะได้ปันผลเร็วกว่าตัวอื่นๆ ปีก่อนปันผล 10 บาท ปีนี้น่าจะเท่ากันหรือมากกว่านิดหน่อย คาดว่าถ้าประกาศผลประกอบการแล้ว ราคาหุ้นน่าจะขยับขึ้นไปอีก ถ้าไม่ได้ capital gain ก็ยังได้ปันผลมาให้ชื่นใจบ้างค่ะ
ดิฉันก็ทำการบ้านตามนี้ล่ะค่ะ ตอนนี้ยังไงก็จะกอดหุ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะรู้ปันผล อยากดูด้วยว่าวิเคราห์ขนาดนี้แล้ว ถ้าตกม้าตายก็ให้รู้ไปเลย ถือว่าเป็นบทเรียนค่ะ ตอนนี้ก็รอให้ราคาตกลงมาอีก มี target ค่อยๆ เก็บจนครบ 1000 หุ้นค่ะ
แปลกจังดิฉันคิดว่า login แล้ว แต่ทำไมยังเป็น Guest ไว้ค่อยลอง login ใหม่นะคะ คือว่าตอนซื้อก็ดูราคาเหมือนกันค่ะ โดยใช้หลักการดังนี้
1. ดู P/E และ P/BV ตอนซื้อครั้งแรกวันที่ 15/9/2003 ราคา 240 ถ้าจำไม่ผิด อยู่ที่ P/E=6.1ึ7 และ P/BV=1.54 ตามลำดับ ที่ยอมซื้อที่ P/BV แพงหน่อยก็มีเหตุผลเช่นกัน คือตอนที่ซื้อตลาดกำลังเป็นขาขึ้น เห็นราคาที่ 1.5 เท่าคิดว่ารับได้ เพราะว่าหุ้นตัวอื่นๆ เทียบพื้นฐานแล้วก็ไม่ได้ดีกว่า และยังมีราคาแพงกว่าด้วย ในขณะที่ตลาดเป็นขาขึ้นคิดว่าราคาคงไม่ตกไปกว่า B/V มากมายนัก อีกอย่างหนึ่งก็คิดว่า ยอมซื้อของดีแต่ราคาสูงนิดหน่อยดีกว่าซื้อก้นซิการ์มาสูบ (อันนี้ก็ลอกความเห็นคุณวิบูลย์ และอาจารย์ Buffet มา)
2. ขอขอบคุณคลายเคลียด หรือท่านที่ post ไว้ในพันธ์ทิพด้วยค่ะ ที่ช่วยคิด Ratio และเอามา สรุปให้มือใหม่ได้ศึกษา ดิฉันใช้ Ratio ต่อไปนี้ค่ะ
-แพะ Ratio โดยใช้ผลคูณของ (P/E * P/BV =9.5) อันนี้เป็นการดู short term และ long term ต่ำกว่า 10 ถือว่าดี แต่สำหรับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ดิฉันรับได้ที 20 (อันนี้จำ อ.นิเวศน์ มาค่ะ)
- เฟยหง Ratio โดยเอา Ratain Earning/Market Cap ต้องเกิน 40%
3. หาอัตราเงินสดต่อหุ้น ได้ที่ 52 บาท ดังนั้นราคาที่ดิฉันซื้อจริงๆ ก็คือ 240-52=188 (สูตรนี้ไม่ค่อยแน่ใจค่ะ เพราะเราไม่ได้ถือหุ้นไปตลอด) แต่ก็คิดไว้ปลอบใจตัวเองว่าซื้อแพงกว่า B/V นิดเดียวเอง
4.ดิฉันดู movement ของราคาย้อนหลังใน history trading ของ Set เห็น ช่วงราคาที่หุ้นวิ่งขึ้นลง รู้สึกว่าแกว่งพอสมควร แต่รับได้ เพราะเป็นเงินเย็นถือรอให้หุ้นขึ้นค่อยขายก็ได้ค่ะ
5. ดิฉันดูกราฟหุ้นตัวนี้ใน Thailand Company Handbook (ต้องขอขอบคุณคุณอาจองที่ช่วยเป็นธุรจัดหาจัดส่งให้ค่ะ ตอนนั้นตื่นเต้นมาก อยากได้คู่มือเล่มนี้มากๆ โทรไปตามหนังสือเองเลยค่ะ) เห็นว่าหุ้นตัวนี้ราคาจะลงในช่วงเดือนกันยา-ตุลาคม เป็นอย่างนี้มาสามปีแล้ว อีกทั้งดูกราฟรวมไปเลย เป็นกราฟค่อยๆ ไต่สูงขึ้นทุกๆ ปี แต่ไม่หวือหวาขึ้นลงแบบหุ้น KK, เลยยิ่งมั่นใจว่าหุ้นน่าจะค่อยๆ ไต่ขึ้นไปอีกเพระดูผลประกอบการ Q3 แล้ว ก็พอจะ forecast ไตรมาศสุดท้ายได้
6. ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งที่ซื้อ ก็เพราะหุ้นตัวนี้ผลประกอบการสิ้นสุดเดือน Sep จะได้ปันผลเร็วกว่าตัวอื่นๆ ปีก่อนปันผล 10 บาท ปีนี้น่าจะเท่ากันหรือมากกว่านิดหน่อย คาดว่าถ้าประกาศผลประกอบการแล้ว ราคาหุ้นน่าจะขยับขึ้นไปอีก ถ้าไม่ได้ capital gain ก็ยังได้ปันผลมาให้ชื่นใจบ้างค่ะ
ดิฉันก็ทำการบ้านตามนี้ล่ะค่ะ ตอนนี้ยังไงก็จะกอดหุ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะรู้ปันผล อยากดูด้วยว่าวิเคราห์ขนาดนี้แล้ว ถ้าตกม้าตายก็ให้รู้ไปเลย ถือว่าเป็นบทเรียนค่ะ ตอนนี้ก็รอให้ราคาตกลงมาอีก มี target ค่อยๆ เก็บจนครบ 1000 หุ้นค่ะ
- sirivajj
- Verified User
- โพสต์: 985
- ผู้ติดตาม: 0
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 23
ประทับใจในการทำการบ้านของคุณภัค ครับ
หากเพื่อนๆ ที่มาลงทุนทำการบ้านมากมากแบบนี้ทุกคน
คงได้เพื่อนไว้คุยแลกเปลี่ยนความรู้กันอย่างสนุกแน่เลยครับ
(กำไรหรือขาดทุน คนละเรื่องนะครับ เพราะยังไงก็ถือยาวยาวกันอยู่แล้ว)
หากเพื่อนๆ ที่มาลงทุนทำการบ้านมากมากแบบนี้ทุกคน
คงได้เพื่อนไว้คุยแลกเปลี่ยนความรู้กันอย่างสนุกแน่เลยครับ
(กำไรหรือขาดทุน คนละเรื่องนะครับ เพราะยังไงก็ถือยาวยาวกันอยู่แล้ว)
What do you mean.?
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 25
ผมอยากสอบถามคุณภัคหน่อยนะครับ
แพะ Ratio ที่คำนวณจาก P/E*P/B นั้นสามารถอธิบายอะไรเราได้ครับ แล้วตัวเลขที่บอกว่าต่ำกว่า 10 หรือ 20 นั้นถือว่าดี ทำไมถึงเป็น 10 หรือ 20 ครับ ใช้เกณฑ์อะไรมาวัด
เฟยหง Ratio ที่ใช้ Retain Earing/Market Cap. นั้นบอกอะไรเราครับ แล้วใช้เกณฑ์อะไรมาตัดสินว่าเกิน 40% แล้วดีครับ
ผมเห็นมีการพูดถึงพอสมควร เลยอยากแลกเปลี่ยนความรู้กันนะครับ
ยิ่งคิดมาก ความรู้ยิ่งแตกสาน ยิ่งวิจารณ์มาก ยิ่งเห็นในหลายแง่มุม
แพะ Ratio ที่คำนวณจาก P/E*P/B นั้นสามารถอธิบายอะไรเราได้ครับ แล้วตัวเลขที่บอกว่าต่ำกว่า 10 หรือ 20 นั้นถือว่าดี ทำไมถึงเป็น 10 หรือ 20 ครับ ใช้เกณฑ์อะไรมาวัด
เฟยหง Ratio ที่ใช้ Retain Earing/Market Cap. นั้นบอกอะไรเราครับ แล้วใช้เกณฑ์อะไรมาตัดสินว่าเกิน 40% แล้วดีครับ
ผมเห็นมีการพูดถึงพอสมควร เลยอยากแลกเปลี่ยนความรู้กันนะครับ
ยิ่งคิดมาก ความรู้ยิ่งแตกสาน ยิ่งวิจารณ์มาก ยิ่งเห็นในหลายแง่มุม
-
- ผู้ติดตาม: 0
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 26
เมื่อเช้ามี post ตอบไปแล้ว แต่ข้อความหายไป
ไปหา link เกี่ยวกับ Ratio มาให้ค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 23323.html
ไปหา link เกี่ยวกับ Ratio มาให้ค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 23323.html
-
- ผู้ติดตาม: 0
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 27
เคยได้ยินหรือเปล่าที่ชอบกินสุกี้ mk เลยซื้อหุ้น mk รวยแบบไม่รู้เรื่องเลย :lol:
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 28
ขอใช้สิทธิพาดพิงครับ
ผมว่าคุณภัคมาถูกทางแล้วครับ
ตอนผมซื้อหุ้นใหม่ๆ ตัวแดงเต็มพอร์ตเหมือนกัน
มีคาถาของอาจารย์ Buffet มาฝากครับ
"เวลาเป็นเพื่อนที่ดีของธุรกิจที่ยอดเยี่ยม
แต่เป็นศัตรูตัวร้ายของธุรกิจที่แย่"
เรื่อง Metco ผมเห็นมาตั้งแต่ต่ำกว่า 100 บาท
จนถึง 200 กว่าบาท
ก็ยังไม่ได้ซื้อ
ดร.นิเวศน์ก็แนะนำหุ้นตัวนี้
เท่าที่ทราบตอนนี้ที่รายได้เพิ่มเพราะอุตสาหกรรมรถยนต์กำลังโต
Metco ผลิต CD Changer ในรถยนต์
ก็เลยได้รับอานิสงค์ไปด้วย
ตัวนี้ปันผลดี อยู่มา 60 ปีแล้วในญี่ปุ่น
ส่วนผม ชอบหุ้นบริษัทที่ผมเข้าใจครับ
ผมพยายามเข้าใจ Metco
แต่ก็ไม่เคยเห็น Product
ไม่รู้ว่าผลิตอะไรบ้าง
คุณภาพเป็นอย่างไร
เลยเอาเงินไปซื้อตัวอื่น
ผมอาจจะคิดผิดก็ได้ครับ
ไม่จำเป็นครับที่ VI จะต้องถือหุ้นเหมือนกันครับ
ไม่จำเป็นจริงๆ.......ขอย้ำ
ขอให้คุณภัคประสบความสำเร็จในการลงทุน
ทำการบ้านมากๆ ใจเย็นๆ
รอจังหวะตลาดหวาดกลัว
เก็บบริษัทดีๆ ราคาไม่แพง
แล้วคอยติดตามผลประกอบการ
ได้หุ้นบริษัทข้างต้น ปีละครั้งสองครั้งก็เพียงพอแล้วครับ
โชคดีอีกครั้งครับ
ผมว่าคุณภัคมาถูกทางแล้วครับ
ตอนผมซื้อหุ้นใหม่ๆ ตัวแดงเต็มพอร์ตเหมือนกัน
มีคาถาของอาจารย์ Buffet มาฝากครับ
"เวลาเป็นเพื่อนที่ดีของธุรกิจที่ยอดเยี่ยม
แต่เป็นศัตรูตัวร้ายของธุรกิจที่แย่"
เรื่อง Metco ผมเห็นมาตั้งแต่ต่ำกว่า 100 บาท
จนถึง 200 กว่าบาท
ก็ยังไม่ได้ซื้อ
ดร.นิเวศน์ก็แนะนำหุ้นตัวนี้
เท่าที่ทราบตอนนี้ที่รายได้เพิ่มเพราะอุตสาหกรรมรถยนต์กำลังโต
Metco ผลิต CD Changer ในรถยนต์
ก็เลยได้รับอานิสงค์ไปด้วย
ตัวนี้ปันผลดี อยู่มา 60 ปีแล้วในญี่ปุ่น
ส่วนผม ชอบหุ้นบริษัทที่ผมเข้าใจครับ
ผมพยายามเข้าใจ Metco
แต่ก็ไม่เคยเห็น Product
ไม่รู้ว่าผลิตอะไรบ้าง
คุณภาพเป็นอย่างไร
เลยเอาเงินไปซื้อตัวอื่น
ผมอาจจะคิดผิดก็ได้ครับ
ไม่จำเป็นครับที่ VI จะต้องถือหุ้นเหมือนกันครับ
ไม่จำเป็นจริงๆ.......ขอย้ำ
ขอให้คุณภัคประสบความสำเร็จในการลงทุน
ทำการบ้านมากๆ ใจเย็นๆ
รอจังหวะตลาดหวาดกลัว
เก็บบริษัทดีๆ ราคาไม่แพง
แล้วคอยติดตามผลประกอบการ
ได้หุ้นบริษัทข้างต้น ปีละครั้งสองครั้งก็เพียงพอแล้วครับ
โชคดีอีกครั้งครับ
- sirivajj
- Verified User
- โพสต์: 985
- ผู้ติดตาม: 0
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 29
ผมไม่ได้คิดว่า มีการตั้งโจทก์เพื่อหักล้างกันนะครับ
ผมคิดว่า คำถามของคุณ Chatchai นั้นน่าขบคิดมาก
เวลาที่เราตัดสินอะไรมีเกณฑ์ ( Criteria ) อะไรซักอย่างนั้น
เราพึงระลึกว่า เกณฑ์นั้นมันบอกอะไรเรา และมีข้อจำกัดอะไร
และมันใช้วัดสิ่งที่เราจะต้องการ หรือช่วยตัดสินอะไรให้เราได้หรือไม่
นอกจากนี้ ไอ้ Criteria ที่ว่านั้นมันเป็นเฉพาะกรณี หรือ มันมีความเป็นสากล ( Generalization - ใช้ได้ทุกกรณีไม่มีข้อยกเว้น )
ซึ่งก็คือ สิ่งที่คุณ Chatchai mention เอาไว้
ผมไม่ได้คิดว่า คุณ Chatchai แกไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่คุณภัค
ลงมือลงแรงทำหรอก
เพียงแต่ อาจเป็นห่วงว่า อย่าได้ไปยึดติดเป็นสูตรสำเร็จ
เพราะอาจประสพความเสียหายได้ ถ้ายึดติดโดยไม่ได้พิจารณาปัจจัยอื่น
ผมคิดว่า คำถามของคุณ Chatchai นั้นน่าขบคิดมาก
เวลาที่เราตัดสินอะไรมีเกณฑ์ ( Criteria ) อะไรซักอย่างนั้น
เราพึงระลึกว่า เกณฑ์นั้นมันบอกอะไรเรา และมีข้อจำกัดอะไร
และมันใช้วัดสิ่งที่เราจะต้องการ หรือช่วยตัดสินอะไรให้เราได้หรือไม่
นอกจากนี้ ไอ้ Criteria ที่ว่านั้นมันเป็นเฉพาะกรณี หรือ มันมีความเป็นสากล ( Generalization - ใช้ได้ทุกกรณีไม่มีข้อยกเว้น )
ซึ่งก็คือ สิ่งที่คุณ Chatchai mention เอาไว้
ผมไม่ได้คิดว่า คุณ Chatchai แกไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่คุณภัค
ลงมือลงแรงทำหรอก
เพียงแต่ อาจเป็นห่วงว่า อย่าได้ไปยึดติดเป็นสูตรสำเร็จ
เพราะอาจประสพความเสียหายได้ ถ้ายึดติดโดยไม่ได้พิจารณาปัจจัยอื่น
What do you mean.?
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Metco น่าซื้อ
โพสต์ที่ 30
ส่วนตัวแล้วผมไม่ได้ใช้ เฟยหง เรโช เพราะยังไม่เข้าใจ และยังใช้ไม่เป็น
แต่ส่วนตัวแล้ว ชอบมาก อะไรที่คนไทย คิดขึ้นมา และคุณเฟยหง นี่ไม่แน่ใจว่า น่าจะรุ่นเดียวกับผมเลย ผมเรียนเตรียม มศ5 รุ่นสุดท้าย เรียน ปี 2525-2526
ส่วนตัวผมนะครับ คุณ sirivajj ผมใช้แบบวอเรน ซึ่งง่ายจริงๆ คือ ทั้งบริษัทน่าซื้อหรือไม่ ถ้าน่าซื้อ 1 หุ้นก็น่าซื้อ โดยให้คิดโดยรวมไปเลย ว่า ทั้งบริษัทนี้ราคาเท่าไร
ซึ่งต้องดูโดยรวมตั้งแต่
กิจการเขาทำอะไร
เปิดมานานแค่ไหน
ยอดขายเท่าไร ยอดขายโตต่อเนื่องหรือเปล่า
กำไรเท่าไร กำไรโตต่อเนื่องหรือเปล่า
หนี้สิน มีมากหรือไม่
ปันผล สม่ำเสมอหรือไม่ ถ้าไม่เอาเงินไปทำอะไร
และอื่นๆ
คิดแบบนี้ ผมว่าสบายใจ เหมือนเราเลือกซื้อกิจการ ถ้าซื้อผิด เราก็ได้เรียนรู้
แต่คนส่วนใหญ่เลือกซื้อหุ้น ซื้อหุ้น ขายหุ้น แต่พวกเราซื้อกิจการ
แต่ส่วนตัวแล้ว ชอบมาก อะไรที่คนไทย คิดขึ้นมา และคุณเฟยหง นี่ไม่แน่ใจว่า น่าจะรุ่นเดียวกับผมเลย ผมเรียนเตรียม มศ5 รุ่นสุดท้าย เรียน ปี 2525-2526
ส่วนตัวผมนะครับ คุณ sirivajj ผมใช้แบบวอเรน ซึ่งง่ายจริงๆ คือ ทั้งบริษัทน่าซื้อหรือไม่ ถ้าน่าซื้อ 1 หุ้นก็น่าซื้อ โดยให้คิดโดยรวมไปเลย ว่า ทั้งบริษัทนี้ราคาเท่าไร
ซึ่งต้องดูโดยรวมตั้งแต่
กิจการเขาทำอะไร
เปิดมานานแค่ไหน
ยอดขายเท่าไร ยอดขายโตต่อเนื่องหรือเปล่า
กำไรเท่าไร กำไรโตต่อเนื่องหรือเปล่า
หนี้สิน มีมากหรือไม่
ปันผล สม่ำเสมอหรือไม่ ถ้าไม่เอาเงินไปทำอะไร
และอื่นๆ
คิดแบบนี้ ผมว่าสบายใจ เหมือนเราเลือกซื้อกิจการ ถ้าซื้อผิด เราก็ได้เรียนรู้
แต่คนส่วนใหญ่เลือกซื้อหุ้น ซื้อหุ้น ขายหุ้น แต่พวกเราซื้อกิจการ