รบกวนถามพวกพี่ๆเรื่องมูลค่าจริงของหุ้นแต่ละตัว

[Sixsense]

สวัสดีครับ พวกพี่ๆ ในบอร์ด ผมไม่ได้มาเยี่ยมเยียนพวกพี่ๆ นานละครับ ก่อนนั้นเคยลองศึกษาเพื่อจะทำการลงทุนทีนึงละ พอดีช่วงนั้น จำเป็นต้องใช้เงินเลยพักการลงทุนในหุ้นไปก่อน ตอนนี้ผมกลับมาแล้วครับ แต่ผมเหมือนมือใหม่เลยครับ ที่ศึกษามาความจำเลือนลางเต็มทีครับ

พวกพี่ๆ ช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ อย่างผมจะหามูลค่าของหุ้นในแต่ละตัว ที่เจ้าของกิจการลงทุนต่อ 1 หน่วยหุ้น  ว่าเค้าต้องใช้เงินเท่าไหร่ มีสูตรการหาหรือคำนวนอย่างไรบ้างครับ เพราะบางทีผมจะหาหุ้นที่มีปันผลดีๆ แต่ลงทุนน้อยกว่าเจ้าของกิจการ อะไรทำนองนี้อ่ะครับ ผมคิดว่าจะถือยาวอ่ะครับ และจะกันเงินในส่วนนี้ ไว้ใช้ลงทุนในหุ้นอย่างเดียวเลยครับ

ถ้าไม่เป็นการรบกวนพวกพี่ มากเกินไป ช่วยยกตัวอย่างหุ้นที่มีปันผลดีๆ ให้ผมสักตัวสองตัว และข้อดีข้อเสีย ให้ตัวสักตัวอย่างหนึ่งครับ ผมจะได้มีความรู้เพิ่มขึ้น

ปล.ขอบคุณในความกรุณาของพวกพี่มากครับ (รู้งี้ผมเลือกคณะบริหารดีกว่า จะได้วิเคราะห์เป็นตอนเรียนมหาลัย ฮือออ)

Thank so much

[ลูกอิสาน]

ผมจะหามูลค่าของหุ้นในแต่ละตัว ที่เจ้าของกิจการลงทุนต่อ 1 หน่วยหุ้น

 

ตัวนี้ก็คือราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (price/book value) หาได้จาก ส่วนผู้ถือหุ้น/จำนวนหุ้น ครับ

ถ้าอยากจะซื้อหุ้นโดยมีต้นทุนกว่าเจ้าของกิจการเดิม ก็ซื้อหุ้นที่ pb ต่ำกว่า 1 เท่าครับ มีหลายตัว

แต่หุ้นจะดีหรือไม่ดี คงต้องดูพิจารณาหลายประเด็นครับ คงไม่ใช้ตัวใดตัวนึง

[theerap]

ร่วมตอบครับ,

1.มีหนังสือออกมาไม่นาน 2เล่ม ชื่อ รวม50บริษัทปันผลดี 48 (ไม่แน่ใจ) รวบรวมข้อมูลม สถิติย้อยหลัง ประมาณ 10 ปี บ.ที่ปันผลดี 50 อันดับ พร้อม กราฟแนวโน้ม มีประโยชน์มาก ไม่ต้องเสียเวลาค้นคว้าข้อมูล

2.มีหุ้นปันผลบ้างในพอรต์ก็ดี ( พอรต์ผลปี 48 ปันผลเฉลี่ยที่ 7 %) แต่ถ้าบริษัทนำกำไรไปลงทุนต่อแล้วคาคว่าจะทำให้ มูลค่าเพิ่มมากกว่าการจ่ายปันผลก็ควรทำ เราควรมีบริษัทแบบนี้อยู่ด้วย (Warren Stye)

3.ระวัง!!! บางบริษัทที่จ่ายปันผลสูง (เพื่อป้องกันราคาหุ้นตก) ทำโดยการลด ส่วนของเจ้าของ (Equity) โดยการแบ่งกำไรไปจ่ายปันผลสูง เราควรดูปัจจัยพื้นฐานประกอบด้วย

[Sixsense]

ขอบคุณพวกพี่ๆ มากเลยครับ มีประโยชน์มากๆ ครับ ผมกะถือยาวเลยอะครับ คิดว่าจะ จัดสรรค์งบส่วนนี้ไว้ลงทุนในหุ้นตลอดไปอ่ะครับ (ไม่อยากมาลุ้นตัวโก่งทุกวันอ่ะครับ)

[beammy]

ถ้าเป็นวิชาขั้นสูงสุด ซึ่งผมก้อยังใช้ไม่เป็นนั้น คือ การหาส่วนลดกระแสเงินสดของกิจการให้ได้ (Discounted Cash Flow)

แต่ทั่วๆไปนั้น ผมใช้อัตราการเจริญเติบโตของบริษัทในอีก 5 ปีข้างหน้า (Estimated Growth) รวมไปถึงอัตราส่วนทางการเงินหลายๆ แบบ (P/E, P/BV, Dividend, Enterprise Value ฯลฯ) และหาค่าเฉลี่ยที่ใกล้เคียงที่สุด นำมาหา Intrinsic Value ครับ

อาจจะไม่ถูกต้องนัก แต่อย่างน้อย เราก้อลงทุนอย่างมีหลักการ ครับ ...
______________________________________________