Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

มีปัจจัยอะไรชี้บอก  คับว่า  ผลตอบแทนจะสูงตาม

เป็นเทรนธุรกิจที่น่าจะเป็นขาขึ้นอีกหลายปี เพราะเป็นธุรกิจที่ชี้ความอยู่รอดของเมืองไทย รัฐคงไม่ยอมให้มีอะไรมากระทบ และส่งเสริมเต็มที่....มั๊งพี่

ผมว่าถ้ามีทุนเยอะๆผมก็จะลงเหมือนกันในทำเลท่อง

เที่ยวนะครับเพราะไทยมีจุดเด่นในเรื่องการบริการกับ

สถานที่ท่องเที่ยว อย่างน้อยก็ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีมาก

และมีจุดแข็งในตัวชัดเจน

ทำไมกลุ่มโรงแรมถึงเป็นเป้าหมายการลงทุนของหลายกลุ่มทุน

เช่นกลุ่มอะไรบ้างครับคุณHot  อยากรู้ข่าวบ้างครับ

ที่เคยเห็น กลุ่มทุนใหญ่มีเงินเหลือเก็บ สายป่านยาวๆ ถ้าไม่ลงมือสร้างโรงแรมใหม่ก็มักจะนิยมTake over โรงแรมเก่าที่อยู่ในทำเลดีมีศักยภาพ หรือเป็นหนี้สูงๆ มาเปลี่ยนค่าย ปัดฝุ่น ตกแต่ง+ต่อเติมใหม่ ติดแบรนด์ใหม่ บางครั้งยังได้ประโยชน์ทางภาษีอีกต่อหนึ่งด้วยจากงบขาดทุนต่อเนื่องสูงๆในปีก่อนหน้า และการขอBOIในการจัดซื้อนำเข้าจากต่างประเทศ(ตามเงื่อนใขขนาดและลัษณะของโรงแรม)

เรื่องพวกนี้ต้องรอคุณม้าเฉียวมาตอบ น่าจะได้commentที่น่าสนใจกว่าครับ

....เที่ยวเมืองไทย...ไม่ไปไม่รู้.....
....ราคาก็ถูกใช้ได้.....
....เมืองไทยมีโรงแรมดีดีเพียบ....
....หนำซ้ำราคาก็ถูกดี.....เพียงแต่เจ้าภาพปล่อยตามกรรม
....ผมเคยบอกเพื่อนหลายคน....ก่อนที่ erawan  grand จะไป
....ตอนนี้ผมก็เห็นอีกตัว...ที่ไม่ยอมไป..เลยสอยซะ..เลย
....แต่คงบอกไม่ได้..........เดี๋ยวหาว่าเชียร์.......
.......................................................................................
....ตอนนี้มีคนถามผมมากเมื่อไหร่จะขาย erawan  grand.....
....erawan  โรงแรมที่สมุยเสร็จแล้วดูงบ 2 ไตรมาศ...
....grand     หุ้นส่วนฝรั่งทิ้ง  โรงแรมที่พัทยาเสร็จ....
.........หวังว่าพอได้ แนวคิดนะครับ.......................................

รบกวนกระซิบหน่อยสิคะ   รร  อะไรเอ่ย จะได้เก็บด้วยคน สนใจจริง ๆ
ขอบคุณค่ะ


 :D

ที่น่าแปลก

โรงแรม แถวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงนี้เต็มเร็วมาก

แค่คืนเดียว  คนเข้าพัก300 ห้อง ผมละงง  

เมืองไทยเรา  ฮิตขนาดนี้เลยหรือ

OHTL มีบุฟเฟต์ราคาเอาเรื่อง แต่ยังต้องจองโต๊ะเลยครับ
ไม่ธรรมดาเหมือนกัน....อาหารก็แปลกๆดีครับ

มีปริศนาที่น่าสนใจที่โรงแรมนี้อยู่... รอเวลาอีกไม่นานนัก จะมีการเปิดพินัยกรรมของ แหม่มแอนนา ที่เก็บไว้อยู่ใต้ฐานอนุสรณ์ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา...น่าจะมีเรื่องราวความลับบางอย่างในอดีตให้เราได้รับรู้กันก็เป็นได้นะครับ(ถ้าปลวกไม่ขึ้นพินัยกรรมซะก่อน)

เนื้อแกะรอบกลางคืนที่นี่อร่อยนะคับ
ลองไปหากินหลายที่ก็ไม่อร่อย เท่า  ที่อื่นจะเนือ้เหนียว
กว่า  แต่ทีนี่เนืออร่อยมาก  

ผมลองล่องเรือ จากโรงแรม แห่งหนึ่ง
ไปอยุธยา   และกลับด้วยรถทัวร์

เสีย1800 บาท  สองริมฝั่งเรา นี่ มี   โรงงานเบียร์สิงห์  ด้วยแฮะ

ไม่คิดว่าเขาตั้งโรงงานริมน้ำด้วยแปลกดี  มีการขนส่ง
ไม้และทราย หิน ด้วยเรือประเภทเทกอง  ลำไม่ใหญ่
มากนัก    เรือในลำน้ำ ไม่มากนัก สงสัยวันที่ผมไป
เป็นช่วงพักผ่อนกันหรือเปล่า

เรือแล่นด้วยความเร็ว20กิโลเมตร ต่อชั่วโมง
ใช้เวลากว่า3ชม ถึงเดินทางถึงที่  แต่เดินทางรถแค่1ฃม
ถึงกรุงเทพ คับ ได้ชม วัด2ที่ ช้าง1ที่ ก็ไม่แพงนะคับ

ปัจจัยส่งเสริมการโรงแรมคือการท่องเที่ยว
ปัจจัยที่ส่งเสิรมการท่องเที่ยวคือสนามบินและlow cost airline ทำให้คนเดินทางมากขึ้น

เมื่อเกิดการเดินทางจะมีการท่องเที่ยวเกิดขึ้นมา

ตอนนี้การท่องเที่ยวได้เริ่มเปลี่ยนแปลงจากการเช่าโรงแรมเป็นการแลกเปลี่ยนบ้านพักกันและกัน เริ่มมีให้เห็นที่US และยุโรปแล้วเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในระดับหนึ่งเลย  (เมืองไทยยังไม่ค่อยมี มีแต่ไปบ้านเพื่อนเท่านั้น)

อยากโรงแรมที่ผมว่า  ข้างข้างจะมีอพาร์ตเมนต์อยู่ตึก
หนึ่ง  มีคนอยู่เต็มเหมือนกันคับ  มีสระน้ำ  แต่กลางวัน
เงียบมาก สระน้ำไม่ค่อยมีคนใช้เท่าไร
แต่ภายในโรงแรม จะคึกคัดตลอดทั้งวันและกลางคืน
คนเรา  บางทีก็ยอมเสียเงินแพง เพื่ออะไรที่แตกต่าง
จากวันธรรมดาบ้าง  แปลกดี

ถ้าให้ผมเลือกระหว่าง

เจ้าของโรงแรม กับผู้ถือหุ้น

ผมว่า

ผู้ถือหุ้นดีกว่าเยอะเลย
เพราะคนบริหารโรงแรมได้
ต้องเก่งมากในภาวะอย่างนี้

shang ก็อยู่ใกล้ๆกันนิครับ

ผมอยากจะท้าวความถึงความเป็นมาของโรงแรมในไทยซักหน่อยนะ ในปี พ.ศ. 2405 ได้มีหลักฐานปรากฏครั้งแรกในหนังสือ Bangkok Calendar ของหมอบลัดเลย์ว่า กรุงเทพฯ ในเวลานั้นมีสถานที่พักแรม (Boarding house) ถึง 4 แห่ง ซึ่งเจ้าของเป็นชาวต่างชาติได้แก่ Captain James White, Carter and Howard, C.W. Thomas และ Lewer ที่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้ๆ สถานกงสุลฝรั่งเศส และต่อมาก็พบว่ามีการลงประกาศโฆษณาถึงโรงแรมเป็นครั้งแรกคือ Union Hotel พอมาถึงปี พ.ศ. 2419 โรงแรมที่ดำเนินกิจการต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทยก็ได้เกิดขึ้นคือ โรงแรมโอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ซึ่งโรงแรมนี้มีการเปลี่ยนเจ้าของหลายครั้งและมีการสร้างอาคารใหม่ และปรับปรุงจนกลายเป็นหนึ่งในโรงแรมที่ดีที่สุดในโลก ต่อมาในรัชกาลที่ 6 ก็เกิดโรงแรมชั้นนำขึ้นอีกหลายแห่ง เช่น Royal Hotel (พ.ศ. 2454) ของ Madam A. Staro ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานฑูตรัสเซีย และโรงแรมหัวหิน (พ.ศ. 2465) ของกรมรถไฟ ปัจจุบันคือโรงแรมโซฟิเทลเซ็นทรัลหัวหิน
ในรัชกาลที่ 7 ได้ทรงดัดแปลงวังพญาไทยให้เป็นโรงแรมตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ซึ่งเปิดดำเนินการในปี พ.ศ. 2469 เป็นโรงแรมพระราชวัง (Palace Hotel) ที่จัดว่ายอดเยี่ยมที่สุดในตะวันออกไกล โดยมีโรงแรมในระดับเดียวกันเวลานั้นมีอีก 2 แห่ง คือ โรงแรมโอเรียนเต็ล และโรงแรมทรอคาเดโร
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ก็ได้เกิดโรงแรมสำคัญอีก 3 โรงแรม จากการลงทุนของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ คือโรงแรมรัตนโกสินทร์ โรงแรมสุริยานนท์ และโรงแรมบางแสน ซึ่งในปัจจุบันคือโรงแรมโรแยลและโรงแรมเมเจสติก และเอกชนได้เช่าไปดำเนินการทั้ง 3 โรงแรม
ในรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้สร้างโรงแรมขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับการประชุมเป็นครั้งแรกคือโรงแรมเอราวัณ (พ.ศ. 2499) เพื่อเตรียมการจัดประชุม SEATO ในกรุงเทพฯ และมีการจ้างเครือบริษัทการจัดการโรงแรมระหว่างประเทศเข้ามาบริหารโรงแรมไทยกล่าวคือ คุณสุนีรัตน์ เตลาน เจ้าของโรงแรมรามา ได้จ้าง Hilton International มาบริหารโรงแรม ในปี พ.ศ. 2508 ทำให้เกิดการบริหารโรงแรมที่เป็นระบบอย่างสากลเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

จะเห็นว่าแรกเริ่มเดิมที อุตสาหกรรมโรงแรมในประเทศไทยเกิดขึ้นจากทุนต่างชาติและทุนจากราชสำนักเป็นหลัก

พัฒนาการของประเทศ ดูเหมือนจะทำให้ความต้องการใช้โรงแรมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่การสร้างโรงแรมนั้นต้องอาศัยทุนมาก ทำให้กลุ่มทุนของอุตสาหกรรมพื้นฐานหลายกลุ่ม ซึ่งมักมีลักษณะร่วมกันอย่างหนึ่ง คือ ชอบอสังหาริมทรัพย์ นำเม็ดเงินจากธุรกิจพื้นฐานของตนมาลงทุนสร้างหรือซื้อโรงแรม เพื่อหวังน้ำ้ซึมบ่อทราย กินกันยาวๆ กลุ่มทุนที่ว่านี้ ก็มีทั้งทุนก่อสร้าง ทุนน้ำตาล ทุนสุรา และอีกหลายแหล่

นอกจากเหตุผลเรื่องเอาเงินต่อเงินแล้ว ยังมีตรรกะอื่นๆที่สำคัญ เช่น โรงแรมที่อยู่ตัวแล้ว เข้าที่แล้ว เงินที่ต้องใส่เข้าไปจะน้อยกว่า เงินที่ไหลออกมามาก กลุ่มทุนที่อาศัยธุรกิจที่มีความต้องการเงินสดมาก ก็จะชอบโรงแรมเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ โรงแรมมันคล้ายๆกับภาคการส่งออก กลุ่มทุนไหนที่ต้องการลดพึ่งพาในประเทศมากเกินไป หรือมีการนำ้เข้ามาก ก็จะชอบลงทุนในโรงแรม เช่นกัน
และสำหรับนายหญิงของกลุ่มทุนหลายกลุ่ม การมีโรงแรมไว้ประดับบารมี ไว้รับรองพิธีการต่างๆ ก็เป็นเรืองที่โก้ไม่หยอก

พูดถึงเรื่องโรงแรมแล้วทำให้นึกถึงพวกรีสอร์ทตามต่างจังหวัด ผมว่ามีเศรษฐีแก่จำนวนมากที่ชอบสร้างรีสอร์ทด้วยใจรักที่จะทำ ไม่ได้ใจแล้วว่าจะกำไรหรือขาดทุนเพราะเป็นเงินที่กำไรมาจากธุรกิจอย่างอื่น ก็เลยทำให้ธุรกิจรีสอร์ทค่อนข้างจะ oversupply ตลอดเวลา และมี ROE ที่ค่อนข้างจะต่ำ แค่ในเมืองกาญจน์อย่างเดียวก็มีรีสอร์ทมากกว่า 200-300 แห่งแล้ว งงมากๆ จะหากองทัพมดที่ไหนมาพัก

ขอบคุณครับคุณม้าเฉียว
รอฟังความรู้เรื่องโรงแรมจากคุณม้าเฉียวต่อครับ(หากมีเวลา... :lol: )

เออ ลืมบอกอีกเรื่อง ถ้าจะลุงทุนในโรงแรมที่ กลุ่มทุนธุรกิจ/อุตสาหกรรมพื้นฐาน ให้วิเคราะห์ดูว่า โรงแรมนั้น เป็น Wealth ของกลุ่มทุนนั้นๆหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็เสี่ยงขึ้น ถัดไปให้ดูว่า เครือที่เข้ามาบริหารจัดการถือหุ้นมากน้อยแค่ไหน ถ้าถือมากหน่อยก็พอไว้ใจได้บ้างเรื่องการลงบัญชี หรือปัญหาการยักยอกเงิน

เว้นเสียแต่เค้าจะสมคบคิดกัน อย่างนั้นซวยไป

ผมก็เคยได้ยินว่ากลุ่มที่มาบริหาร(ที่ไม่ใช่เจ้าของ...ส่วนใหญ่จะมาจากต่างประเทศ)จะเน้นอัตราค่าจ้างในการบริหารให้สูงๆ และผู้มีอำนาจจัดซื้อพยายามซื้อของเข้ามาเปลี่ยนแทนของเก่ามากๆไว้ก่อน(เน้นค่าคอมจากการซื้อของ) ทำให้มีโอกาสรั่วไหลเยอะเหมือนกัน

พวกที่สร้างแบรนด์ของตัวเองจึงดูน่าสนใจกว่า(ถ้าแบรนด์ติดตลาด)

แถวสีลม ผมไปเจอ  โรงแรม ขนาด13 ห้อง
ออกแบบ ดัดแปลงจากตึกแถว5ชั้น2คูหา

ออกแบบสวยมากคับ    
คำว่าโรงแรม

นี่  มันอยู่จิตนาการนะผมว่า

จะใหญ่ หรือเล็ก  

อยู่ที่

การคิด  แล้วทำ  ให้เป็นจริง

โจนแลง ส่ง report มาให้อ่าน

ที่น่าสนใจ คือ ในย่านเอเชียในปีที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขายกิจการโรงแรม พบว่า Investment Fund มีสัดส่วนการซื้อมากถึง 58% เป็นบริษัทมหาชน 17%  และเป็น hotel/service apartment operator 14% และอื่นๆ

ส่วนผู้ขายนั้น เป็น hotel/service apartment operator 41% ส่วนที่เหลือก็กระจายๆกันไป

อือ...

เพื่อน เขียน: มีปริศนาที่น่าสนใจที่โรงแรมนี้อยู่... รอเวลาอีกไม่นานนัก จะมีการเปิดพินัยกรรมของ แหม่มแอนนา ที่เก็บไว้อยู่ใต้ฐานอนุสรณ์ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา...น่าจะมีเรื่องราวความลับบางอย่างในอดีตให้เราได้รับรู้กันก็เป็นได้นะครับ(ถ้าปลวกไม่ขึ้นพินัยกรรมซะก่อน)

ได้ยินอย่างนี้แล้ววิญญาณไทยมุงเข้าสิงแฮะ.......
ตื่นเต้น...อยากรู้.......
แหม่มแอนนานี่คือใครครับท่านเพื่อน

เพื่อน เขียน:มีปริศนาที่น่าสนใจที่โรงแรมนี้อยู่... รอเวลาอีกไม่นานนัก จะมีการเปิดพินัยกรรมของ แหม่มแอนนา ที่เก็บไว้อยู่ใต้ฐานอนุสรณ์ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา...น่าจะมีเรื่องราวความลับบางอย่างในอดีตให้เราได้รับรู้กันก็เป็นได้นะครับ(ถ้าปลวกไม่ขึ้นพินัยกรรมซะก่อน)

เรื่องแบบนี้ช่วงนี้กำลังอินเทรนด์นะครับ เป็นเรื่องราวที่มีเสน่ห์น่าติดตาม หวังว่าคงไม่ได้มีน้ำกรดครอบฝาผะอบอยู่แบบกรณีกล่องของ Davinci นะครับ

น่าจะเป็นคนเดียวกับ ในหนัง ที่ไม่ให้ฉายในเมืองไทย
ถ้าอยากดูคงต้องไปต่างประเทศ(แถวๆแม่สายก็ได้)
ซื้อ DVD มาดูแล้วจะรู้

แหม่มแอนนา เป็นครูสอนภาษาอังกฤษในรัชกาลที่4ครับ เป็นเรื่องราวเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่4ต่อมาจนถึงรัชกาลที่5 มี

แหม่มแอนนามีบุตรชื่อ หลุยส์ ตี. เลียวโนเวนส์(ต่อมาเป็นเจ้าของบริษัทชื่อเดียวกันกับชื่อเค้าครับ...และบริษัทได้ตราครุฑด้วย) บริษัทหลุยส์ ตี เลียวโนเวนส์ มีสำนักงานตั้งอยู่ติดกับโรงแรมโอเรียลเต็ลครับ ไม่แน่ใจว่าปัจจุบันย้ายที่ตั้งหรือยัง และโลโก้ของบริษัทเป็นรูปเสาชิงช้า ซึ่งแต่เดิมหลุยส์เคยอุทิศซุงไม้สักของบริษัทสำหรับเปลี่ยนซ่อมแซมเสาชิงช้าในสมัยประมาณรัชกาลที่6(นี่ก็ข่าวกำลังอินเทรนเหมือนกัน) ในอดีตเสาชิงช้าเดิมตั้งอยู่ริมถนนบำรุงเมือง ทางจะเลี้ยวไปถนนดินสอ และย้ายมาอยู่ที่ปัจจุบันตรงวัดสุทัศน์ในสมัยรัชกาลที่5

เหตุที่กล่าวถึงเสาชิงช้า เพราะบนแท่นเก็บพินัยกรรม ก็มีหุ่นจำลองเสาชิงช้าขนาดเล็กตั้งอยู่บนฐานหินอ่อน พร้อมกับป้ายทองเหลืองระบุวันที่ที่จะเปิดพินัยกรรม(บังเอิญผมลืมวันที่ไป...เลยขอถือโอกาสวานหาคนที่มีจังหวะผ่านไปช่วยแวะดูให้หน่อยครับ)

เรื่องราวของแห่มมแอนนา มีทำเป็นหนัง,หนังสือและละครหลายเรื่องครับ ส่วนใหญ่ไม่ได้ฉายในเมืองไทย เท่าที่จำได้มีเรื่อง  The King and I และ Anna and the King

พอดีเจอกระทู้เล็กๆเกี่ยวกับแหม่มแอนนา ผู้สนใจลองเข้าไปศึกษาดูต่อนะครับ มีรูปแหม่มแอนนาด้วย
http://www.matichon.co.th/youth/youth.p ... 640&show=1


และอีกอันครับ กับการค้นพบ จดหมายแอนนา ในภายหลัง
http://www.osknetwork.com/modules.php?n ... opic&t=625

โอ้ว...อันนี้มีเยอะครับ มีต้นฉบับจดหมายให้ดูด้วย และมีLinkอีกเพียบ
http://sanpaworn.vissaventure.com/?id=188