หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เฟ้นหุ้น 3 เกณฑ์ (หิน) "พี/อี" ต่ำ 7 เท่า "รา

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 28, 2006 8:41 pm
โดย jackle
เฟ้นหุ้น 3 เกณฑ์ (หิน) "พี/อี" ต่ำ 7 เท่า "ราคา" ต่ำ Book.."ปันผลงาม" เกิน 5%

"กรุงเทพธุรกิจ BizWeek" ตั้ง 3 เกณฑ์ คัดเลือกหุ้น หนึ่ง..พี/อี เรโช ต่ำกว่า 7 เท่า สอง..ราคาซื้อขายต่ำกว่า Book Value และ สาม..จ่ายเงินปันผล สูงกว่า 5% มีหุ้นรอดเกณฑ์ เพียง 17 บริษัท ในจำนวนนี้ "กรุ๊ปลีส" (GL) ให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงสุด "มั่นคงเคหะการ" (MK) ฟันมาร์จินนำโด่ง ขณะที่ "ทานตะวันอุตสาหกรรม" (THIP) ไม่มีหนี้สิน (ระยะยาว) เลย

ภายหลังตั้งเกณฑ์ขึ้นมา "กรองหุ้น" โดยตั้งโจทย์ไว้ 3 ข้อ คือ หนึ่ง..ต้องเป็นหุ้นที่มีค่า "พี/อี เรโช" ต่ำกว่า 7 เท่า สอง..ต้องเป็นหุ้นที่ ซื้อขายต่ำกว่า "มูลค่าทางบัญชี" (Book Value) และ สาม..ต้องเป็นหุ้นที่มี "อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล" สูงกว่า 5% (เมื่อเทียบกับราคาปิด ณ 12 เม.ย.49)

คำเฉลย!!!...ที่ได้ออกมามี 17 หุ้น เรียงลำดับ ค่า "พี/อี เรโช" จากน้อยไปหามาก ได้แก่ 1. หุ้นทานตะวันอุตสาหกรรม (THIP) 2. อาร์ ซี แอล (RCL) 3. มั่นคงเคหะการ (MK) 4. พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) 5. กรุ๊ปลีส (GL) 6. โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE)

7. ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (TLUXE) 8. จีเอฟพีที (GFPT) 9.ลัคกี้เท็คซ์ (ไทย) (LTX) 10. กันยงอีเลคทริก (KYE) 11. ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่ (BAT-3K) 12.แพรนด้า จิวเวลรี่ (PRANDA) 13. เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ (KC) 14.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) 15. สหยูเนี่ยน (SUC) 16.อุตสาหกรรมถังโลหะไทย (TMD) และ 17. ภัทรลิสซิ่ง (PL)

๐ หุ้นตัวไหน? คือ "ผู้นำ" ในแต่ละด้าน

หนึ่ง..วัดด้าน "ภาระหนี้สิน" พบว่า บริษัท ทานตะวันอุตสาหกรรม (THIP) ไม่มีหนี้สินระยะยาวอยู่เลย บริษัทนี้มีรายได้เติบโตไม่หวือหวา แต่จ่ายเงินปันผลต่อเนื่องในอัตรา 4-6% แม้ปีที่ขาดทุนก็ยังจ่าย เพราะมีสภาพคล่องทางการเงินดีมากๆ จุดอ่อนของหุ้น มีสภาพคล่องการซื้อขายค่อนข้างต่ำ และผลการดำเนินงานเอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ อีกทั้งคาดการณ์ได้ยาก

ส่วนหุ้นที่มีภาระหนี้สิน (ระยะยาว) อยู่ในเกณฑ์ต่ำมาก อันดับรองลงมา ได้แก่ BAT-3K, KYE, TLUXE และ TMD หุ้นเหล่านี้โอกาส "เจ๊ง" แทบไม่มี

สอง..วัดด้าน "มาร์เก็ตแคป" หุ้นทั้ง 17 บริษัท ที่อยู่ในเกณฑ์ ซื้อง่าย-ขายคล่อง มีประมาณ 8 ตัว คือ CPF, RCL, PRANDA, PF, MK, NOBLE, SUC และ GFPT ส่วนหุ้นที่เหลือสภาพคล่องการซื้อขายลุ่มๆ ดอนๆ

สาม..วัดด้าน "อัตราเงินปันผลตอบแทน" (Dividend Yield) บริษัท กรุ๊ปลีส (GL) ของ "ขรรค์ชัย บุนปาน" (ผู้ก่อตั้งเครือมติชน) มาเป็นอันดับ 1 เพราะปีที่ผ่านมาจ่ายสูงถึงหุ้นละ 1.20 บาท โดยเฉลี่ย จะจ่ายปันผลต่อปีไม่ต่ำกว่า 6% แต่จุดอ่อนของหุ้นตัวนี้ คือ แทบจะไม่มีสภาพคล่องการซื้อขาย

ส่วนหุ้นที่มี "อัตราเงินปันผลตอบแทน" สูงอันดับรองลงมา ได้แก่ TLUXE, RCL, PRANDA, CPF และ PL ในจำนวนนี้ PRANDA จ่ายปันผล (สูง) สม่ำเสมอ 3 ปีติดต่อกัน CPF จ่ายบ่อยทุกไตรมาส ขณะที่ PL ของตระกูลล่ำซำ จ่ายดีต่อเนื่องทุกปี คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล ไม่เคยต่ำกว่า 5%

สี่..วัดด้าน "ราคาปิดต่อมูลค่าหุ้นตามบัญชี" (P/BV) บริษัท สหยูเนี่ยน (SUC) ซื้อขายต่ำกว่า "มูลค่าทางบัญชี" (Book Value) มากที่สุดเพียงแค่ 0.39 เท่า และเป็นหุ้นที่เชื่อถือได้ (มากที่สุด) ในแง่การจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอทุกปี คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน ระหว่าง 6-8% ไม่เคยขาด

ส่วนหุ้นที่มีราคาซื้อขายต่ำกว่า "มูลค่าทางบัญชี" อันดับรองลงมา ได้แก่ THIP, MK, GFPT และ KYE ในกลุ่มนี้ GFPT น่าจับตามองมากที่สุด เพราะได้ประโยชน์จาก "ไข้หวัดนก" ที่แพร่กระจายไปยังทวีปยุโรป ยอดขาย และกำไรปีนี้น่าจะออกมาดี

ห้า..วัดด้าน "อัตรากำไรสุทธิ" (Net Profit Margin) หุ้นที่นำโด่ง คือ บริษัท มั่นคงเคหะการ (MK) สูงถึง 30% ของยอดขาย เป็นที่น่าสังเกตกว่า หุ้นในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มี "แลนด์แบงก์" ในพอร์ตเยอะๆ จะมี "อัตรากำไรสุทธิ" ที่ค่อนข้างสูง ซึ่งก็รวมถึง PF (18%) NOBLE (18%) และ KC (16%)

หุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมบริการ ก็มี Net Profit Margin สูงเช่นกัน ได้แก่ RCL สูงถึง 22% และ GL สูงราว 20% ตรงกันข้ามกับหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตส่วนใหญ่ อัตราส่วนนี้จะต่ำไม่ถึง 10%

หก..บริษัทไหนที่มี "เงินสด" ในมือมากที่สุด จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท ทานตะวันอุตสาหกรรม (THIP) ไม่เพียงไม่มีหนี้สิน (ระยะยาว) แล้ว ยังมีเงินสดมากถึง 118 ล้านบาท คิดเป็น 19.09% ของสินทรัพย์รวม

รองลงมา คือ PRANDA มีเงินสด 374 ล้านบาท คิดเป็น 10.16% ของสินทรัพย์รวม RCL มีเงินสดในมือ 9.56% ถัดมาคือ TMD อยู่ที่ 9.53% SUC มีอัตราส่วน 9.07% และ NOBLE มีเงินสดพร้อมลงทุน 470 ล้านบาท หรือเท่ากับ 8.77% ของสินทรัพย์รวม

ที่มา http://www.bangkokbizweek.com/

ถ้าให้เลือกได้ตัวเดียวคุณจะเลือกตัวไหน ระยะเวลาถือ 1 ปีขึ้นไปครับ

Re: เฟ้นหุ้น 3 เกณฑ์ (หิน) "พี/อี" ต่ำ 7 เท่า &quo

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 28, 2006 11:36 pm
โดย MarginofSafety
jackle เขียน:ถ้าให้เลือกได้ตัวเดียวคุณจะเลือกตัวไหน ระยะเวลาถือ 1 ปีขึ้นไปครับ
ส่ง TLUXE เข้าประกวดครับ
ลองไปดูในร้อยคนร้อยหุ้นแล้ว อืม... ยังไม่มีใครเป็นเจ้าบ้านเลย

เฟ้นหุ้น 3 เกณฑ์ (หิน) "พี/อี" ต่ำ 7 เท่า "รา

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 29, 2006 8:42 am
โดย b37skp
ผมส่ง Noble ครับ

เฟ้นหุ้น 3 เกณฑ์ (หิน) "พี/อี" ต่ำ 7 เท่า "รา

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 29, 2006 9:45 am
โดย คนเรือ VI
CPF ครับ

เฟ้นหุ้น 3 เกณฑ์ (หิน) "พี/อี" ต่ำ 7 เท่า "รา

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 29, 2006 11:25 am
โดย Frodo
สนับสนุน TLUXE อีกเสียงครับ

เฟ้นหุ้น 3 เกณฑ์ (หิน) "พี/อี" ต่ำ 7 เท่า "รา

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 29, 2006 4:39 pm
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

"กรุงเทพธุรกิจ BizWeek" ตั้ง 3 เกณฑ์ คัดเลือกหุ้น หนึ่ง..พี/อี เรโช ต่ำกว่า 7 เท่า สอง..ราคาซื้อขายต่ำกว่า Book Value และ สาม..จ่ายเงินปันผล สูงกว่า 5%
เกณนี้จะเวิคเหรอ

1. pe ต่ำ
2. ราคาต่ำกว่า book
3. จ่ายเงินปันผลสูง

เอาเกณแบบนี้ดีกว่าครับ

1. หาบริษัท consumer monopoly
2. หนี้น้อย
3. roe สูง ( เกิน 15 % )
4. eps ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอด 10 ปี

เมื่อเจอแล้วก็จ้องซื้อตอนข่าวร้าย

เฟ้นหุ้น 3 เกณฑ์ (หิน) "พี/อี" ต่ำ 7 เท่า "รา

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 29, 2006 6:32 pm
โดย Frodo
พยายามหาอยู่ครับ
ไม่ทราบพี่ Jeng มีตัวไหนแนะนำให้จับตามองบ้างไหมครับ
น้องๆ จะได้ไปทำการบ้านต่อครับ :D

เฟ้นหุ้น 3 เกณฑ์ (หิน) "พี/อี" ต่ำ 7 เท่า "รา

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 29, 2006 10:15 pm
โดย Frankie
ลองส่ง SCC เข้าประกวดครับ