หน้า 1 จากทั้งหมด 2

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 5:25 pm
โดย คัดท้าย
ไตรมาศ 1 / 49 มากไป หรือ น้อยไป .....

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 5:44 pm
โดย nanchan
ยอดขายโต19.5% กำไรต่อหุ้นโต10%

ผมว่าความคาดหวังของคนนี่สูงจริงๆนะ
โอกาสที่ธุรกิจจะโตให้ได้ทันpeตอนนี้นี่ผมว่าไม่ง่ายซักเท่าไร

คอมพิวเตอร์ซื้อมา5ปีขึ้นไปถึงจะคิดเปลี่ยน

การลงทุนสร้างอาคารสิ่งก่อสร้างสำหรับขายสินค้าพวกนี้
ก็ไม่ใช่ลงทุนน้อยๆ โอกาสมันจะมากมายขนาดนั้นเลยหรือครับ

อันนี้ไม่ได้ bias นะครับ เพราะล่าสุดก็ซื้อsvoa ไป แล้วก็ขายไปแล้ว

ว่าต่อมาที่svoa ก็ได้นะ
ผมว่าแบรนด์ที่ไม่มีการวิจัยสินค้าเอง เอาเทคโนโลยีชาวบ้านเค้ามาประกอบเป็นเครื่อง ผมว่าโอกาสโตเร็วๆ ก็ไม่ง่ายเหมือนกัน
ผมว่าบริษัทที่จะโตได้เร็วๆต้องมีการวิจัยเป็นของตัวเอง
แม้การลงทุนจะสูงซักหน่อย แต่ก็น่าติดตามมากกว่า

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 5:45 pm
โดย คัดท้าย
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.ไตรมาสที่1(F45-1)
                            บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน)

                                                         สอบทาน
                                                     (หน่วย : พันบาท)
                                           สิ้นสุดวันที่  31 มีนาคม
                                               ไตรมาสที่ 1
              ปี                            2549              2548

     กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                    36,905             28,013
     กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)         0.11000          0.10000

 ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
     ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อสังเกต


 หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุ
               ประกอบงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์

 "ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบ
  การเงินฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน
  ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว"

                              ลงลายมือชื่อ _______________________
                                           ( นายกมล จันทิมา )
                              ตำแหน่ง  ประธานกรรมการ
                                    ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 5:51 pm
โดย woody
nanchan เขียน:ยอดขายโต19.5% กำไรต่อหุ้นโต10%

ผมว่าความคาดหวังของคนนี่สูงจริงๆนะ
โอกาสที่ธุรกิจจะโตให้ได้ทันpeตอนนี้นี่ผมว่าไม่ง่ายซักเท่าไร

คอมพิวเตอร์ซื้อมา5ปีขึ้นไปถึงจะคิดเปลี่ยน

การลงทุนสร้างอาคารสิ่งก่อสร้างสำหรับขายสินค้าพวกนี้
ก็ไม่ใช่ลงทุนน้อยๆ โอกาสมันจะมากมายขนาดนั้นเลยหรือครับ

อันนี้ไม่ได้ bias นะครับ เพราะล่าสุดก็ซื้อsvoa ไป แล้วก็ขายไปแล้ว

ว่าต่อมาที่svoa ก็ได้นะ
ผมว่าแบรนด์ที่ไม่มีการวิจัยสินค้าเอง เอาเทคโนโลยีชาวบ้านเค้ามาประกอบเป็นเครื่อง ผมว่าโอกาสโตเร็วๆ ก็ไม่ง่ายเหมือนกัน
ผมว่าบริษัทที่จะโตได้เร็วๆต้องมีการวิจัยเป็นของตัวเอง
แม้การลงทุนจะสูงซักหน่อย แต่ก็น่าติดตามมากกว่า
เรื่องแรกนะครับกำไรที่โตได้แค่ 10% นั้นส่วนใหญ่เกิดจากการที่มี Warrants แปลงเข้ามาเยอะมากซึ่งถ้าคิดเฉพาะตัว Net Profit แล้วจะเห็นได้ว่ากำไรเพิ่มขึ้นมากกว่า 30%

ส่วนเรื่องต่อมาคือเรื่องการลงทุนต่อสาขา โดยปกติแล้ว IT City จะไม่ใช้ลักษณะการซื้อนะครับ จะเป็นการเช่าจากผู้ให้เช่าดังนั้นการลงทุนแต่ละสาขานั้นจะไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนสูงมากเหมือนกรณีทั่วๆ ไปที่ต้องสร้างอาคารเองครับ

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 5:56 pm
โดย คัดท้าย
วันที่  9  พฤษภาคม  2549

เรื่อง      ชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาสที่  1/2549
เรียน      กรรมการผู้จัดการ
              ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

อ้างถึง    งบการเงินไตรมาสที่  1/2549  ของบริษัท  ไอที  ซิตี้  จำกัด (มหาชน)

              คณะกรรมการบริษัท  ไอที  ซิตี้  จำกัด  (มหาชน)  ได้พิจารณาอนุมัติงบการเงินไตรมาสที่
1/2549  สิ้นสุด ณ วันที่  31 มีนาคม  2549  ซึ่งผู้สอบบัญชีรับอนุญาตได้สอบทานแล้ว โดยที่ บริษัท ฯ
มีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 1/2549  เท่ากับ  36.90   ล้านบาท   ซึ่งเพิ่มขึ้น  8.89   ล้านบาท   หรือ
เท่ากับเพิ่มขึ้น  31.74 %   เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิของงวดเดียวกันในปีที่แล้ว   โดยมีสาเหตุดังต่อไปนี้

              1. ยอดรายได้สุทธิสำหรับไตรมาสที่  1/2549  สิ้นสุด  ณ  วันที่  31  มีนาคม  2549  เท่ากับ
1,199.82   ล้านบาท  ซึ่งเพิ่มขึ้น  215.19  ล้านบาท  หรือเพิ่มขึ้น  21.85 % เทียบกับยอดขายสุทธิของ
งวดเดียวกันปีที่แล้ว การเพิ่มขึ้นของยอดขายมีเหตุผล  2  ประการ  ประการแรก  เกิดจากการเพิ่มขึ้น
ของยอดขายของสาขาเดิมที่มีอยู่แล้ว  ประการที่สอง เกิดจากการเปิดสาขาใหม่จำนวน  2 สาขา  ดังนั้น
กำไรขั้นต้นจึงเพิ่มขึ้น  30.85  ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น  23.95 %  เทียบกับกำไรขั้นต้นของงวดเดียวกัน
ปีที่แล้ว   นอกจากนี้  รายได้อื่นสำหรับไตรมาสนี้เท่ากับ  11.85   ล้านบาท   ซึ่งเพิ่มขึ้น  4.57  ล้านบาท
หรือเพิ่มขึ้น  62.80 %  จากงวดเดียวกันปีที่แล้ว

             2. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวมถึงค่าตอบแทนกรรมการและดอกเบี้ยจ่าย  สำหรับ
ไตรมาสที่ 1/2549 สิ้นสุด  ณ  วันที่  31  มีนาคม  2549  เท่ากับ  110.06   ล้านบาท   ซึ่งเพิ่มขึ้น  18.85
ล้านบาท  หรือเพิ่มขึ้น  20.67%  เทียบกับงวดเดียวกันปีที่แล้ว  เนื่องจากการเปิดสาขาใหม่  2 สาขา
อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้รวม  สำหรับไตรมาสนี้  เท่ากับ
9.17 %   ซึ่งลดลงจาก  9.26 %   ของงวดเดียวกันปีที่แล้ว

              จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ


                                                                                                      ขอแสดงความนับถือ



                                                                                                        นายกมล  จันทิมา
                                                                                                      ประธานกรรมการ

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 5:58 pm
โดย คัดท้าย
woody เขียน:
เรื่องแรกนะครับกำไรที่โตได้แค่ 10% นั้นส่วนใหญ่เกิดจากการที่มี Warrants แปลงเข้ามาเยอะมากซึ่งถ้าคิดเฉพาะตัว Net Profit แล้วจะเห็นได้ว่ากำไรเพิ่มขึ้นมากกว่า 30%

ส่วนเรื่องต่อมาคือเรื่องการลงทุนต่อสาขา โดยปกติแล้ว IT City จะไม่ใช้ลักษณะการซื้อนะครับ จะเป็นการเช่าจากผู้ให้เช่าดังนั้นการลงทุนแต่ละสาขานั้นจะไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนสูงมากเหมือนกรณีทั่วๆ ไปที่ต้องสร้างอาคารเองครับ
อืม ก็ประมาณนั้นครับ

แต่ W ก็ต้องนำมาคิดนะ ไม่คิดไม่ได้ เหมือน S&P ไง ช่วงลูกดก

ไม่รู้ว่าตอนนี้เหลือ W เยอะมั้ยครับ และ ถ้า IT โตระดับนี้ PE ตอนนี้ ถูกหรือแพงไปครับ ???

ใครฟันธงที ....

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 6:01 pm
โดย สุมาอี้
เป็นการแจ้งหลังปิดตลาดเสียด้วย จึงยังไม่ทราบว่าจะ beat, meet หรือ under การคาดการณ์ของตลาด ต้องรอวันพรุ่งนี้เช้าครับ

เรื่อง dilution effect ของ วอร์ ที่ทำให้ EPS ลดลง ตลาดเข้าใจอยู่แล้วครับ มันจะไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้ราคาวันของพรุ่งนี้เปลี่ยนอย่างแน่นอน (ถ้าจะเปลี่ยน)  :)

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 6:06 pm
โดย VI Jr.
กำไรที่โตมา ก็ไม่ได้ผิดจากการคาดหมายของหลายๆคนนะครับ
ตอนประชุมผู้ถือหุ้น ผู้บริหารก็บอกเป็นนัยๆว่า ไม่มีอะไรเซอร์ไพร์ส
ผมคิดว่าประเด็นกำไรโตของไตรมาส 1 ไม่น่าจะใช่เรื่องหลักที่ผลักดันราคาหุ้นในปัจจุบันครับ

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 6:06 pm
โดย nanchan
ถ้าที่ผ่านมาการลงทุนเป็นแบบเช่าตึกอาคารแล้วหละก็
ผมกลับยิ่งมองว่าการลงทุนก็ยิ่งสูงเข้าไปใหญ่
ขนาดแค่ว่าเช่าเค้านะ กำไรโตก็ยังแค่นี้
แล้วถ้าต่อไปต้องลงทุนสร้างอาคารเองหละครับ
ไม่ยิ่งหนักเข้าไปอีกเหรอ

แล้วอีกอย่างเรื่องการปรับราคาสินค้าก็ไม่ได้ทำง่ายๆ
เพราะสินค้ามีการแข่งขันสูง

ถ้าเป็นโรงแรมนี่ผมยังยอมรับเรื่องการปรับราคาขึ้นได้นะ
peสูงหน่อย ก็ยังไม่เท่าไหร่
เพราะธุรกิจโรงแรมนี่มันเป็นรสนิยมของคนและความเท่ห์ในการเข้าพักอาศัย
ยิ่งแพงยิ่งเท่ห์ครับ

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 6:10 pm
โดย nanchan
[quote="สุมาอี้"]เป็นการแจ้งหลังปิดตลาดเสียด้วย จึงยังไม่ทราบว่าจะ beat, meet หรือ under การคาดการณ์ของตลาด ต้องรอวันพรุ่งนี้เช้าครับ

เรื่อง dilution effect ของ วอร์ ที่ทำให้ EPS ลดลง ตลาดเข้าใจอยู่แล้วครับ มันจะไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้ราคาวันของพรุ่งนี้เปลี่ยนอย่างแน่นอน (ถ้าจะเปลี่ยน)

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 6:15 pm
โดย สุมาอี้
ไม่ได้ถือตัวนี้นะครับ แต่ไปดูมาให้...

ตอนนี้เหลือวอร์อีกแค่ 13 ล้านหุ้น (4.9% ของหุ้นทั้งหมด) ที่ยังไม่มาช่วยเติมตัวหาร EPS ปีที่แล้วมีตั้ง 65 ล้านหุ้น

แต่ดันมี ESOP ใหม่ออกมาอีก 16 ล้านหุ้นเมื่อสิ้นเดือน มีค

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 6:16 pm
โดย woody
คัดท้าย เขียน: อืม ก็ประมาณนั้นครับ

แต่ W ก็ต้องนำมาคิดนะ ไม่คิดไม่ได้ เหมือน S&P ไง ช่วงลูกดก

ไม่รู้ว่าตอนนี้เหลือ W เยอะมั้ยครับ และ ถ้า IT โตระดับนี้ PE ตอนนี้ ถูกหรือแพงไปครับ ???

ใครฟันธงที ....
ครับ จริงๆ หลายๆ คนที่ถืออยู่คงคิดแบบ Fully Diluted ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ส่วนถูกหรือแพงนั้นคงเป็น Subjective ครับ

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 6:18 pm
โดย piranart
กำไรโตประมาณ 30% ยอดขายโตประมาณ 20% ส่วน eps โต 10% ทั้งนี้เพราะเมื่อเดือน พย ปีที่แล้วมีการแปลง warrant มาประมาณ 20% ทำให้ เกิดมี dilution โดยที่เงินที่ได้จากการแปลงคงไม่ได้ใช้ประโยชน์เท่าไร เพราะเงินสดจากการดำเนินงานก็ยังต้องไปฝากไว้เลย ดังนั้นผมคิดว่าเราควรพิจารณาการโตของกำไรจะดีกว่า ซึ่งผมคิดว่าเป็นผลการดำเนินงานที่น่าประทับใจ ตามความเห็นต่างๆดังนี้ครับ
เมื่อปีที่แล้วมีการเปิดสาขาเพียงสองสาขา คือที่หลักสี่ เมื่อประมาณเดือนพย และที่ พารากอนเดือน ธค  โดยที่สาขาหลักสี่มีกำไร ส่วนที่พารากอนยังขาดทุนอยู่  ดังนั้นผลกำไรของ q1 นี้คงไม่ได้มาจากกำไรของร้านใหม่ที่เปิดเพิ่มแต่มาจาก การดำเนินงานโดยรวมของเขา ส่วนยอดขายที่เพิ่มนั้นแน่นอนสาขาใหม่มีส่วนช่วย  เมื่อเป็นเช่นนี้จะอธิบายกำไรที่เพิ่มได้อย่างไร
ผมคิดว่ากำไรที่เพิ่มมาจาก ยอดขายที่มากขึ้นโดยมีสาขาใหม่เสริมทำให้มีอำนาจการต่อรองในเชิงปริมาณการซื้อของที่เพิ่มขึ้น ซึ่งไนธุรกิจค้าปลีกรายได้จาก rebate ในปลาย Q นั้นเป็นรายได้ที่สำคัญ ดังนั้นเมื่อมีการซื้อมากขึ้นรายได้ส่วนนี้จึงดีขึ้น ลองคิดดูนะครับว่าปีนี้เขามีแผนเปิดสาขา 7 สาขาและไม่ได้เปิดในปลายปีอย่างปีที่แล้วด้วย ดังนั้นรายได้ส่วนนี้ในอนาคตอันใกล้น่าจะเพิ่มได้มากกว่าปัจจุบันมาก ผมจึงคิดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าคงไม่เป็นการยากที่กำไรของ it จะเติบโตในอัตรา 30% ต่อปี
ในขณะเดียวกันคู่แข่ง(data it) ก็กำไรอ่อนแรงไปเรื่อยๆ ดังนั้นโดยส่วนตัวผมคงจะถือหุ้น it ต่อไป ไม่หวังอะไรมากขอแค่อีก 4 ปีราคาไปที่ 20 ก็พอ วันนี้ก็เข้าไปซื้อเพิ่มที่ 10 บาท
เป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะ กรุณาอย่าเชื่อ นะ ครับ

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 6:25 pm
โดย คัดท้าย
VI ไม่มองราคา  เรามองมูลค่า ... ตกลง แพง หรือ ถูก .. ถูก หรือ แพง ครับ ??

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 6:33 pm
โดย คัดท้าย
คุณ piratorn ฟันธงว่า ราคานี้รับได้ ... คุณ nanchan ไม่ชอบ

... ขอบคุณครับ

ไม่มีอะไรครับ มาทายกันเล่นๆ ผมไม่ทราบครับ ว่าถูกหรือแพง ไม่ทราบเลยถาม ทราบไม่ถามครับ

ท่านอื่นๆคิดว่ายังไงครับ ?

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 6:52 pm
โดย david
คัดท้าย เขียน: อืม ก็ประมาณนั้นครับ

แต่ W ก็ต้องนำมาคิดนะ ไม่คิดไม่ได้ เหมือน S&P ไง ช่วงลูกดก




ตอนนี้เหลือวอร์อีกแค่ 13 ล้านหุ้น (4.9% ของหุ้นทั้งหมด) ที่ยังไม่มาช่วยเติมตัวหาร EPS ปีที่แล้วมีตั้ง 65 ล้านหุ้น

แต่ดันมี ESOP ใหม่ออกมาอีก 16 ล้านหุ้นเมื่อสิ้นเดือน มีค
...
ถ้า IT โตระดับนี้ PE ตอนนี้ แพงไปครับ ???

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 7:02 pm
โดย david
Sorry,mistaken.
david เขียน:

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 7:22 pm
โดย Jeng
อิอิ ชอบกระทู้นี้ครับ กระทู้กระตุ้นต่อมคิด

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 7:23 pm
โดย booklover
ผมลองคิดตามหลักวอร์เรนที่ได้เรียนกับอาจารย์เจ๋งมาครับ ไม่แน่ใจว่าเหมาะสมไหมครับ :)

EPS 2003  0.44
EPS 2004  0.5
EPS 2005  0.55

EPS โตขึ้น = 11.8%/year
มองว่าประเทศไทยคนใช้ สินค้า it ขยายตัวได้อีกมาก ให้ การเติบโต 3 แบบ

1.  20% / year

จะได้ EPS ปี 2010

= 0.55 ( 1+ 0.2 )^ 5

= 1.37

Trade ที่ pe 15 เท่าได้ราคา = 1.37 * 15 = 20.55 บาท
ต้องการผลตอบแทนปีละ 20 % ควรซื้อที่ราคาปัจจุบัน

= 20.55(1+0.2)^  -5

= 8.256 บาท


2. 30% /year

จะได้ EPS ปี 2010
= 0.55 ( 1+ 0.3 )^ 5  

=0.55(3.71293)

=2.04
Trade ที่ pe 15 เท่าได้ราคา

= 2.04 * 15 = 30.6 บาท

ต้องการผลตอบแทนปีละ 20 % ควรซื้อที่ราคาปัจจุบัน = 30.6(1+0.2)^  -5

= 30.6(0.4018)

=12.3 บาท


3. 15% /year

จะได้ EPS ปี 2010
= 0.55 ( 1+ 0.15 )^ 5  

=0.55(2.011)

=1.10605
Trade ที่ pe 15 เท่าได้ราคา = 1.10605 * 15 = 16.59 บาท
ต้องการผลตอบแทนปีละ 20 % ควรซื้อที่ราคาปัจจุบัน

= 16.59(1+0.2)^  -5

= 16.59(0.4018)

=6.67 บาท

Note ถ้าซื้อทั้งบริษัทปัจจุบันจะได้ผลตอบแทน = EPS06/Mkt price 9/05

= 0.715 (ให้โต 30%)/10.1

= 7.07% โดยยังไม่ทอนด้วย warrant นะครับ

สรุปว่าราคาตอนนี้ถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับว่ามองว่า it

สามารถโตได้ปีละกี่ % ในอนาคตครับ :D

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 7:36 pm
โดย สุมาอี้
ไม่เคยดูตัวนี้เลย แต่ขอร่วมสนุกด้วย

F56-1 บอกว่าบริษัทจะเปิดใหม่อีก 7 สาขา ในปี 2549 ปัจจุบันมี 23 สาขา ประมาณหยาบๆ ก็โตขึ้น 30%

ตอนนี้ PE 20 แต่มีรอ Dilute อีก 10% เท่ากับ PE 22

ถ้าโตได้ 30% ต่อปีจริงๆ ในอีก 3 ปี จะเหลือ PE 10 เท่า พอดี

ทำได้ไหมล่ะ ถ้าทำได้ก็เป็นไปได้น่ะ

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 7:39 pm
โดย piranart
ผมลืมบอกไปครับว่าผมมีต้นทุนถูกๆอยู่มาก ดังนั้นผมซื้อที่ 10 บาทคงไม่เป็นไร ทั้งนี้เป็นไปตามหลัก trading ที่ต้องซื้อเพิ่มเรื่อยๆ ในบางครั้งผมซื้อหุ้นที่ไม่มีพื้นฐานไดๆทั้งสิ้น เช่นตอนนี้ก็มี theco เป็นต้นยังกล้าซื้อเลย แล้วทำไม it ซึ่งผมมั่นใจว่าไม่ ต้อง stop loss แน่ๆถ้าเกิดผิดพลาดอะไร เพราะช้าเร็วก็ต้องได้เห็น 20  ทำไมผมจะไม่กล้าซื้อ

มาพูดกันทางด้านพื้นฐานกันนะครับ ผมคิดว่า มันขึ้นมาเร็วเกินพื้นฐานเกินไป ผมคงจะดีใจกว่าถ้าต่อจากนี้ไปอีก 2 เดือนราคาจะอยู่แถวๆ 9-10 บาท แต่ถ้ามาดูว่าใครเป็นคนซื้อ (ต่างชาติ) แล้วเขาซื้อทำไม เขาคาดหวังอะไร ทำไมเขาเลือกมาซื้อบริษัท ที่มี Mkt cap ไม่ใหญ่มาก ลองมองดูไกลๆนะครับ ถ้ามองใกล้ๆราคานี้แพงไปครับ ถ้ามอง 4ปีขึ้นไป มันก็อีกคนละคำตอบกัน อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน    
ถ้าไปดูจำนวนผู้ถือหุ้นที่มีจำนวนน้อยลง ก็แสดงว่า กลายเป็นรายใหญ่เก็บของ ถ้าคิดว่าในที่สุดแล้วใครจะขายหุ้นออกมา ก็คิดไม่ค่อยออกว่าจะเป็นใครที่จะขายออกมา เพราะในที่สุดก็จะเหลือแต่คนที่มีมุมมองในระยะยาวที่ถืออยู่ ลองมองในภาพของ technical นะครับ ดู chart ระดับ month ไปเลยนะ เพราะเราจะมองยาวๆเท่านั้น แล้วไปเปรียบเทียบกับ chart ของ hmpro ดู ก็คงจะพอเห็นคำตอบว่าราคานี้น่าสนใจหรือไม่
คิดยาวๆลึกๆดูครับผมคงไม่บอกดีกว่าเพราะผมพิมพ์ไม่เก่ง นี้ก็ใช้เวลาไปกว่า 30 นาทีแล้ว

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 7:39 pm
โดย Jeng
>>> น้อง hansome ครับ


อืม ถ้าโต 30 % ตลอด 5 ปีอย่างที่ว่า

กำไรก็จะเป็น

2005 .55

2006 .715

2007 .9295

2008 1.20835

2009 1.57

2010 2.04

อืม gl นี่ราคา 10 บาท เท่ากันเลยนะ แต่ไตรมาสเดียว ซัดไปแล้ว .60 ในขณะที่ it ทำได้ .11

ก็คิดไปคิดมาเล่นๆ ไม่ได้ซีเรียส เพราะคนละกลุ่มอยู่แล้ว

เพียงแต่ สำหรับผมแล้ว ผลตอบแทน นี่เป็นเงินบาทเหมือนกัน นะ ต่อให้คนละกลุ่มเลย

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 7:54 pm
โดย booklover
อืมน่าคิดครับอาจารย์ :idea:

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 8:46 pm
โดย miracle
อ้าวช่วยกันขุดหน่อยครับ
:)

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 9:21 pm
โดย tanapol
พีอี 20 เท่า

growth 30%

ถ้าทำได้จริงๆๆๆๆ

ไม่แพงครับ

และผมคิดว่า it ทำได้

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 10, 2006 9:47 am
โดย HI.ผมเอง
FCF โตเฉลี่ยกี่%ครับ

แล้วพีอีตอนนี้เท่าไหร่แล้วครับ

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 11, 2006 12:55 pm
โดย สามัญชน
ผมคิดว่าราคาหุ้นจะวิ่งไปสู่ fairvalue แล้วก็จะเตลิดด้วยแรงเก็งกำไรไปถึง overvalue บ่อยครั้งที่overไปหนึ่งเท่าตัว

เช่นเดียวกับขาลงก็จะวิ่งลงมาที่ fairvalue แล้วก็จะเตลิดด้วยความกลัวไปอยู่ที่ undervalue และบ่อยครั้งที่ underถึง 50 %

ณ.ราคา 10 บาท it น่าจะเป็นแถวๆ fairvalue หรือ overvalueนิดๆ โดยที่ใช้เฉพาะข้อมูลอดีต ที่ไม่ใช้อนาคตเพราะมีความไม่แน่นอนอยู่  แต่ถ้าเชื่อมั่นอนาคตว่าไอทีทำได้ไม่ยาก ราคานี้อาจจะเป็น fairvalueหรือ undervalue นิดๆ

ส่วนราคาไอทีจะขึ้นไป overvalue เหมือนตัวอื่นๆหรือไม่ ก็ต้องติดตามต่อไปครับ  ผมเองก็บ่ฮู้....

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 11, 2006 1:00 pm
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

พีอี 20 เท่า 

growth 30% 

ถ้าทำได้จริงๆๆๆๆ 

ไม่แพงครับ 

และผมคิดว่า it ทำได้
>>> tanapol

ไม่แพงสำหรับใคร ถ้าสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่ได้ซื้อแพงหรือไม่ครับ

อดีตชาวไอที

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 11, 2006 1:11 pm
โดย worapong
ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่ายาวๆจะได้กี่เปอร์เซ็นต์ แต่คิดว่าในสามปีข้างหน้าเค้าน่าจะมีกำไรสุทธิเป็นสองเท่าของปัจจุบันได้สบายๆ จากการเพิ่มสาขาใหม่ และ ยอดขายสาขาเดิมที่เพิ่มขึ้น ส่วนการจะเอา it ไปเทียบกับหุ้นตัวอื่นข้ามหมวดอุตสาหกรรมนั้นทำได้ครับ แต่หุ้นตัวนั้นควรจะเป็นหุ้นของธุรกิจที่มี franchise และมีการเจริญเติบโตใน franchise ของตัวเอง การมองอนาคตทำได้ง่ายๆ ตัวอย่างเช่น ซีเอ็ด แม้ไตรมาสนี้จะไม่เติบโตระเบิดเถิดเทิง แต่ผมเชื่อว่าในสามปีข้างหน้าก็จะมีกำไรโตเท่าตัวได้เหมือนกับ it ทั้งจากการเพิ่มสาขานิดหน่อย การเพิ่มประสิทธิภาพ และ การเพิ่มยอดขายจากสาขาเดิม :roll:  :roll:  :roll:

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 11, 2006 4:54 pm
โดย chatchai
สิ่งที่แปลกสำหรับบริษัทนี้ที่ทำธุรกิจค้าปลีกก็คือ

ลูกหนี้การค้า + สินค้าคงคลัง  มากกว่า เจ้าหนี้การค้า

ทั้งๆที่หลายบริษัทในธุรกิจค้าปลีกจะมีเจ้าหนี้มากกว่า  เมื่อยอดขายยิ่งเพิ่ม  ก็ยิ่งมีเงินสดหมุนเวียนที่ได้มาฟรีๆมากขึ้น

แต่กรณี IT ตรงข้าม  เวลาขยายสาขา  ถึงแม้จะเช่าพื้นที่  ทำให้ประหยัดเงินลงทุนได้มาก  แต่ก็ต้องลงทุนในสินค้าคงคลังแทน

และเหตุผลที่เคยอ่านเจอ  ก็คือเวลา IT ชำระเงินเร็ว  ก็จะได้ส่วนลด  ซึ่งคงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ IT มีกำไรอยู่ได้

บริษัทค้าปลีกบางแห่ง  ลงทุนซื้อที่ดินและก่อสร้างสาขาเอง  ถึงแม้จะต้องใช้เงินลงทุนมาก  แต่พอเวลาผ่านไป  มูลค่าที่ดินเหล่านั้นก็จะเพิ่มขึ้น  เป็น Hidden Asset และไม่ต้องคอยระวังเรื่องการต่ออายุสัญญาเช่า  ที่ราคาก็คงขึ้นไปเรื่อยๆ