หน้า 1 จากทั้งหมด 2
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 13, 2006 1:22 am
โดย Rocker
ผมอยากทราบข้อผิดพลาดในการวิเคราะห์หุ้นไม่ว่าจะเป็นในเชิง คุณภาพ หรือ ปริมาณ ที่ VI ทั้งเก่าและใหม่มักจะทําพลาดครับ
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 13, 2006 6:54 am
โดย ครรชิต ไพศาล
การขาด ความรู้ในธุรกิจ ขาดวิสัยทัศน์
ไม่อาจคาดการณ์การเติบโตในอนาคตของธุรกิจได้ถูกต้อง
ทำให้ล้มเหลว เพราะมัก คาดผิดมากกว่าคาดถูก เสมอ
คาดว่าจะ โต ดัน เหี่ยว
คาดว่าจะ เหี่ยว ดัน โต
จับหุ้นไม่ถูกเสียที
ในตลาดหุ้น ถ้าคาด ถูก 60 % ผิด 40% ผมก็ว่าสำเร็จแล้วนะ
ส่วนคนที่จับหุ้นตัวไหนตัวนั้นขึ้นหมด นี้สุดยอดจริงๆ เรียกว่าเซียน
ส่วนหุ้นที่ฐานแน่นปึกรายได้สม่ำเสมอแล้ว แต่ไม่เติบโต
ก็รับแต่ปันผล อย่างเดียว ในอัตราสม่ำเสมอ
ราคามันสมเหตุสมผลอยู่อยู่ตรงนั้นตลอดเวลา ไม่ไปไหน
มันไม่ตื่นเต็น อดินารีน ไม่ได้หลั่งนานๆ หลายๆปี
ใจมันก็เฉาเหมือนกัน นะ
เหมือนแต่งเมียมานานๆหลายสิบปี มันไม่ค่อยซู่ซ่าแล้ว :lol: :lol:
จึงต้องพยายามหาความรู้
ที่จะต้องมองหาธุรกิจที่มีโอกาสเติบโต ที่แท้จริง ที่ถูกต้อง
ในขณะที่ราคายังถูกอยู่ ให้ได้
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 13, 2006 7:15 am
โดย Jeng
จุดจบ VI คือ ซื้อด้วยพื้นฐาน แต่
นั่งดีใจ ที่ราคาหุ้นขึ้นทุกวัน จนกระทั่งลืมดูผลประกอบการ
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 13, 2006 10:19 am
โดย 007-s
ครรชิต ไพศาล เขียน:การขาด ความรู้ในธุรกิจ ขาดวิสัยทัศน์
ไม่อาจคาดการณ์การเติบโตในอนาคตของธุรกิจได้ถูกต้อง
ทำให้ล้มเหลว เพราะมัก คาดผิดมากกว่าคาดถูก เสมอ
คาดว่าจะ โต ดัน เหี่ยว
คาดว่าจะ เหี่ยว ดัน โต
จับหุ้นไม่ถูกเสียที
เหี่ยว ๆ โต ๆ (หมิ่นเหม่จังค่ะ :lovl: ) บางครั้ง อาจไม่ใช่การขึ้นอยู่กะ การเอาสายตาเข้าประชิด ตลอดเวลา ,หรือการมองระยะไกลเกินไปตลอดเวลา ก็จะกะขนาดผิดได้เช่นกัน ว่าตกลง เหี่ยวหรือโต
ทั้งนี้ คิดว่า การกะขนาดให้ใกล้เคียงที่สุด ขึ้นอยู่ กะการ ทำความรู้จัก เข้าใจ เข้าถึง
ใส่ใจแต่ไม่ลุ่มหลง น่าจะพอดีที่สุด ในการทำความรู้จักคนหนึงคน
การกะขนาด บางครั้ง อาจไม่ได้ขึ้นอยู่ กับ ระยะที่มองเห็นเสมอไป
ยังมีสามีอีกหลายท่าน ที่อาจไม่ทราบว่า ภรรยาของตน คัพอะไร :lol:
ดังนั้น มันจึงขึ้นอยู่ที่ การใส่ใจ และสนใจ ที่จะศึกษา ว่าเหี่ยวๆ หรือโตๆ เช่นนี้ ในท้องตลาดเขาเรียก หรือจัดขนาด ให้เป็นคัพอะไร เป็นต้น :mrgreen:
(ขออภัยหากเป็นข้อเขียนที่อาจไม่สุภาพ แต่เพื่อจะให้เห็นภาพ ในความหมายที่จะพูดถึง เรื่องคาดการขนาด เหี่ยว หรือ โต ตามที่พี่ครรชิตกล่าวนำ :lovl: :lovl: :lovl: )
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 13, 2006 12:22 pm
โดย สามัญชน
ในความเห็นผม ผมว่าหุ้นวัฏจักรน่ากลัวที่สุดสำหรับวีไอครับ ถ้าไปซื้อตอนขาลงของวัฏจักร และไม่ดูแนวโน้มของวัฏจักรธุรกิจ
เพราะอะไรๆดูดีหมดสำหรับการวิเคราะห์แนววีไอทั้ง pb pe roe roa d/e เรียกว่าถูกออกแบบมาสำหรับล่อวีไอให้ติดกับโดยเฉพาะเลยครับ หลายๆคนเรียกว่าเป็น กับดักของวีไอ เหมือนส่งพังพอนมาปราบงูเห่า อย่างไรอย่างนั้น..........
แต่ก็สามารถแก้ไขหรือหลีกเลี่ยงได้ไม่ยากถ้าทำตามที่พี่ครรชิตบอก
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 13, 2006 1:44 pm
โดย CK
ฟังท่านสามัญชนไว้นะครับ ทุกท่านที่คิดจะซื้อหุ้นวัฎจักร
Word of Wisdom เลยล่ะครับ
อ้อ จุดจบของ VI คือจุดจบของ thaivi.com ด้วยป่าวครับ
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 13, 2006 2:54 pm
โดย iambuffet
นักลงทุนทุกคนพลาดได้ครับ
พลาดแล้ว ต้องเก็บไว้เป็นบทเรียน
ผมพลาดเรื่องผู้บริหารมาก่อน
เชื่อไหมผมซื้อหุ้นในกลุ่มธุรกิจที่ส่งออกโตที่สุดในเมืองไทย
บริษัทอื่น ๆ กำไรกันทั่วหน้า บริษัทผมกลับบอกว่าขาดทุน
ทุกวันนี้การดูบริษัทนี้สำหรับผม คือเสียเวลาจริง ๆ
ผมถึงบอกไง ถึงธุรกิจดียังไง ถ้าเจ้าของมันแย่ มันก็แย่
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 13, 2006 4:04 pm
โดย Rocker
ขอบคุณสําหรับทุกความคิดเห็นครับ
ผมจําไม่ได้นะว่าเป็นคําพูดของใครแต่มันฟังใจจริง
"ผมอยากรู้ที่ๆผมจะตาย แล้วผมจะไม่ได้ไปที่นั่น "
สําหรับผมหุ้นที่น่ากลัวทีสุดคือ commodity cyclical เช่นเดียวกับที่
พี่ สามัญชนกล่าวครับ เปรียบดั่ง เห็นกรงจักรเป็นดอกบัว
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 27, 2006 12:31 am
โดย chaiyos
Commodity วัฏจักร นี่อย่างเช่นพวก น้ำมัน หรือ เหล็ก หรือพวกถ่านหินเปล่าครับ พวกที่ใช้แล้วมีวันหมดรึเปล่าครับ
หรือว่าหมายถึงพวกของอุปโภค บริโภคครับ
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 27, 2006 12:46 am
โดย Rocker
[quote="chaiyos"]Commodity วัฏจักร นี่อย่างเช่นพวก น้ำมัน หรือ เหล็ก หรือพวกถ่านหินเปล่าครับ
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 27, 2006 10:55 am
โดย chansaiw
การขาด ความรู้ในธุรกิจ ขาดวิสัยทัศน์
ไม่อาจคาดการณ์การเติบโตในอนาคตของธุรกิจได้ถูกต้อง
ทำให้ล้มเหลว เพราะมัก คาดผิดมากกว่าคาดถูก เสมอ
เราจะแก้ได้ยังไงบ้างครับ
เพราะการเข้าใจธุรกิจเนี่ย ยากมาก เราจะเข้าใจได้ในบางส่วนแต่ส่วนที่เราเข้าไม่ถึง
และเป็นส่วนสำคัญ
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 27, 2006 11:03 am
โดย waz
ถ้าแบ่งอยากคุณ rocker ว่า
หุ้นเกือบทุกตัว ก็ คงใช่หมด
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 27, 2006 11:26 am
โดย ดร.โหน่ง
chansaiw เขียน:
เราจะแก้ได้ยังไงบ้างครับ
เพราะการเข้าใจธุรกิจเนี่ย ยากมาก เราจะเข้าใจได้ในบางส่วนแต่ส่วนที่เราเข้าไม่ถึง
และเป็นส่วนสำคัญ
นี่แหละขอรับควมจริงโลกใต้ทะเล ไม่เว้นแต่โลกของ Vi ด้วยกันเอง
ปลาใหญ่ใช้ข้อมูลนี้กินปลาเล็ก ปลาเล็กต้องรอดูผลประกอบการรายไตรมาศ มองอะไรไม่ออก เพราะอยู่นอก circle of competence ของตนเอง
ปลาใหญ่ดำน้ำได้ลึกกว่า กระแสใต้น้ำสัมผัสได้ก่อนเป็นเดือน
เจ้าของกิจการในทะเลถ้าลงทุนแล้วขาดทุนครั้งแรก เขาหยุดทันที ถอนตัวออกมาดูสถานะการณ์ แสดงว่า เขากำลังตาถั่ว
ไม่ต้องรอให้ตัวเลขงบออกมายืนยันเป็นหนามยอกอกหรอกขอรับกระผม :lovl:
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 27, 2006 1:14 pm
โดย phobenius
มั่นใจเกินไป กับชัยชนะที่ผ่านมา บวกกับความโลภ
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 27, 2006 8:30 pm
โดย สามัญชน
คุณ rocker พูดถูกแล้วครับ เพราะจริงๆแล้วหุ้นทุกตัวเป็นหุ้นวัฏจักร(ไม่ได้แซวนะครับ) แม้ไม่ใช่หุ้นแต่เป็นอะไรๆก็ตามก็ล้วนเป็นวัฏจักร เกิดแก่เจ็บตายก็เป็นวัฏจักร กินขี้ปี้นอน(ขออภัยเพื่อให้เห็นภาพอ่ะครับ)ก็เป็นวัฏจักร เราไม่สามารถกินติดต่อกันได้นานๆโดยไม่อึแม้แต่ครั้งเดียวใช่ไหมครับ
เพียงแต่ว่าวัฏจักรแต่ละชนิดใช้เวลาไม่เท่ากัน วัฏจักรชีวิตของแบคทีเรียอาจจะเป็นไม่กี่ชั่วโมง วัฏจักรจักรวาลอาจจะเป็นอสงไข
หุ้นเติบโตมีกำแพงกั้นและมีความได้เปรียบอย่างยั่งยืนของบัฟแฟตต์อาจจะมีวัฏจักรที่ยาวนานกว่าเป็น 20-50 ปี แต่ก็เป็นหุ้นวัฏจักรอยู่ดีเพียงแต่นานหน่อยเพราะเขาเก่งและมีภูมิคุ้มกัน
แบ่งแบบคุณ rocker ทำให้สะดวกในการหาเพราะจัดกลุ่มไว้ชัดๆ
หรือถ้าชอบแบบผมๆก็จะแบ่งตามระยะเวลา หุ้นไหนที่วัฏจักรสั้นก็ดีตรงที่เห็นผลเร็วเปลี่ยนหุ้นได้บ่อย หุ้นวัฏจักรยาวๆก็เสียตรงที่ต้องรอช้าแต่ก็ดีตรงที่มีความแน่นอนกว่าไม่ค่อยerror หรือพลิกกลับตาลปัตร
ผมชอบหุ้นที่ใช้เวลา10ปีขึ้นในแต่ละรอบเพราะค่อนข้างไว้ใจได้มากกว่า
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 27, 2006 9:18 pm
โดย MarginofSafety
ท่านหมอศรราม สามารถนำสิ่งที่กว้างใหญ่เป็นอนันต์เช่นจักรวาล
สิ่งที่เล็กขนาดมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเช่น แบคทีเรีย
วัฏฏะสงสารในทางพุทธศาสนา เช่น เกิด แก่ เจ็บ ตาย
หรือแม้กระทั่งพฤติกรรมของมนุษย์
มาคิดในเชิงอุปมาอุปไมย เข้ากับหุ้นวัฏจักรได้
ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสุขุมคัมภีรภาพ...
นับได้ว่า มองสรรพสิ่งกระจ่างแจ้ง แทงตลอด
เข้าขั้นมีดวงตาเห็นธรรม ...
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 10:06 am
โดย สามัญชน
อีกอย่างนะครับ.....
นอกจากกับดักวีไอ ยังมีกับดักคนฉลาดด้วยครับ
คนเก่งหรือคนฉลาดบางกลุ่มมักจะนิยมใช้เครื่องมือที่ยากๆ ทั้งยากแก่การทำความเข้าใจและยากแก่คาดคำนวนหรือพยากรณ์ แต่กลุ่มนี้จะชอบใช้เพราะจะรู้สึกเหนือกว่า(superior)คนอื่นๆ ความรู้สึกเหนือกว่านี้เป็นแรงบวกและเป็นรางวัลให้เขาติดกับอยู่กับกับดักนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างดิ้นไม่หลุด
เครื่องมือที่ยากๆย่อมมีทั้งตัวที่มีคุณค่า(ซึ่งก็สมควรศึกษา)แต่ก็แน่นอนบางตัวก็ไร้คุณค่าพาให้เข้ารกเข้าพงก็เยอะ
การแบ่งประเภทเครื่องมือตามความยากจึงเป็นการกระทำที่โก้หรือเท่ห์แต่อันตราย ไม่สมควรทำ เครื่องมือที่เรียบง่ายหลายๆตัวมีคุณค่าอยู่ในตัวเองมหาศาลก็มีเยอะ ในความเห็นผมๆเห็นว่าถ้าจะแบ่งเกรดเครื่องมือในการวิเคราะห์หุ้นควรจะแบ่งเกรดตามคุณค่ามากกว่า
ก็เป็นความเห็นตามประสาคนที่ชอบคุณค่าและความเรียบง่ายครับ
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 10:24 am
โดย bennn
คุณสามัญชนให้ข้อคิดสุดยอดครับ
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 13, 2008 12:32 am
โดย BOONPARUEY
... กระทู้คุณค่า ...
... :cheers:
...
จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 13, 2008 12:43 am
โดย Hughes
คนใกล้ตัวผมเป็นแบบนี้เยอะเลยครับ (ในแง่การทำธุรกิจ) ชอบทำไรซับซ้อนเพราะเท่ห์แต่กำไรนี่ไม่เคยมี
ผมต้องพยายามอย่างสูงเพื่อที่จะไม่โดน peer pressure ให้ติดกับดักแบบนี้
ผมว่าไม่น่าเรียกพวกคนฉลาดนะแต่น่าเรียกว่าพวกเก๊กซิมมากกว่า
[quote="สามัญชน"]อีกอย่างนะครับ.....
นอกจากกับดักวีไอ
Re:
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 16, 2011 9:29 am
โดย simpleBE
Rocker เขียน:ขอบคุณสําหรับทุกความคิดเห็นครับ
ผมจําไม่ได้นะว่าเป็นคําพูดของใครแต่มันฟังใจจริง
"ผมอยากรู้ที่ๆผมจะตาย แล้วผมจะไม่ได้ไปที่นั่น "
สําหรับผมหุ้นที่น่ากลัวทีสุดคือ commodity cyclical เช่นเดียวกับที่
พี่ สามัญชนกล่าวครับ เปรียบดั่ง เห็นกรงจักรเป็นดอกบัว
น่าจะเป็นคำพูดของชาลี มังเจอร์ รึเปล่าครับ
คำแนะนำของพี่หมอสามัญชนเป็นประโยชน์มากๆ ครับ
Re: จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 16, 2011 10:14 am
โดย Oatws
ขอบคุณ คุณsimpleBE ที่ขุดขึ้นมาเพื่อให้ผมได้เตือนตัวเองอีกรอบครับ
Re: จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 16, 2011 11:00 am
โดย ^^
ผมล่ะกลัวที่สุด เวลาเจออะไรดูดีเกินไป หรือธุรกิจไร้เทียมทาน
กลัวไปเจอJackpot อย่างEnron
Re: จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 16, 2011 11:43 am
โดย awesomekid
ได้ข้อคิดดีจริง ๆ ครับ แค่ได้อ่านก็รู้สึกถึงอารมณ์ในการถ่ายทอด ทั้งยังเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ ขอบคุณครับ
Re: จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 16, 2011 12:50 pm
โดย nw108
อ่านเเล้วจะจำไว้เตือนสติตัวเอง
ขอบคุณครับ +1 ให้เลย
Re: จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 16, 2011 2:14 pm
โดย Rocker
กระทู้นี้ผมตั้งใว้นานแล้ว ไม่คิดว่าจะมีคนมาโพสอีก ทําให้ผมได้อ่านทวนอีกรอบ ขอบคุณครับ
Re: จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 16, 2011 3:54 pm
โดย investment biker
^^ เขียน:ผมล่ะกลัวที่สุด เวลาเจออะไรดูดีเกินไป หรือธุรกิจไร้เทียมทาน
กลัวไปเจอJackpot อย่างEnron
คิดเหมือนผมเลย เวลาเล่น Poker ตาที่เสียหนัก ๆ มักเป็นตอนที่ไพ่ในมือดูดีครับ
Re: จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 16, 2011 5:16 pm
โดย Paul VI
investment biker เขียน:^^ เขียน:ผมล่ะกลัวที่สุด เวลาเจออะไรดูดีเกินไป หรือธุรกิจไร้เทียมทาน
กลัวไปเจอJackpot อย่างEnron
คิดเหมือนผมเลย เวลาเล่น Poker ตาที่เสียหนัก ๆ มักเป็นตอนที่ไพ่ในมือดูดีครับ
+1 เลยครับ
เวลามั่นใจอะไรสุดๆ ที่อยู่ในมือ เหมือนแทบจะไม่มีโอกาส loss เลย
แต่พอหงายความจริงออกมา แทบหงายตึงเลย
ไม่จำเป็นต้องเรื่องหุ้นนะครับ เรื่องอื่นๆ ในชีวิตจริง ก็แบบนี้เหมือนกัน
Re: จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 16, 2011 9:19 pm
โดย ^^
ต้องขอบคุณPokerเหมือนกัน ผมได้อะไรเยอะมากจากมัน
Re: จุดจบ VI
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 16, 2011 9:54 pm
โดย Rocker
ใช่ครับ เวลาเล่น Poker เวลาเรามั่นใจมากๆเรามักจะ เกทับ ในสัดส่วนที่มาก ถ้า เราถูกก็ดีไปแต่หาก
มีอะไร Surprise ผิดคาดออกมา ส่งผลให้เสียหาย หนักๆได้ในตา เดียว ที่เล่นได้มา คืน เค้าหมด อาจแถมเงินต้นให้อีก