Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ปีก่อนๆ Property Fund ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากความเสี่ยงและผลตอบแทนเทียบกับฝากธนาคารหรือตราสารหนี้ ดูแล้วผลตอบแทนมีส่วนต่างที่สูงกว่าพอควร

แต่ตอนนี้ที่ดอกเบี้ยขึ้นมาถึงระดับนี้ ความน่าสนใจและส่วนต่างผลตอบแทนไม่มากเหมือนก่อนแล้ว หากจะคลอด Property Fund ใหม่ออกมาตอนนี้ คงไม่ง่ายเหมือนเดิม

ในช่วงสัก 6 เดือนล่าสุด รู้สึกจะขายไม่ออกไปหลายกองเหมือนกัน ทั้ง QH ทั้งหอพักนักศึกษา ที่ขายได้ก็เพิ่มทุนของ TFUND ซึ่งก็เป็นการขายให้ผู้ถือเดิมซึ่งไว้วางใจกันมาก่อนอยู่แล้ว

แต่ต่อจากนี้ ผมว่าเหนื่อยแน่ๆ โดยเฉพาะกองที่เป็น Lease Hold ไม่ว่าจะ MAJOR หรือ CPN หรือ QH ที่พยายามแต่งตัวใหม่อยู่

หยั่งงี้น่าจะเป็นผลดีกับ TFUND มากขึ้นเพราะนักลงทุนเริ่มเข้าใจความแตกต่างของ Property Fund ที่ออกมา สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนใน Property Fund

อาจเป็นผลดีกับ TFUND ก็ได้ครับ แต่ถ้าอย่างนั้นจะกลายเป็นผลร้ายกับ TICON โดยปริยาย เพราะด้วยสถานการณ์ตอนนี้หากจะขายสินทรัพย์ให้กับ TFUND จะตั้งราคาสูง (เอา margin เท่าเดิม) ได้ยากแล้ว เพราะจะทำให้ผลตอบแทนเปรียบเทียบของ TFUND กับการลงทุนอื่นๆ น้อยลง ดังนั้นหากขายได้จริง คิดว่าจะได้ราคาที่ต่ำกว่าที่เคยนะ

เท่าที่ทราบมาProperty Fund ที่ขายหมดกองที่ผ่านมาเกิดจากการออกRoad show ของไทคอน และมีกองทุนต่างชาติสนใจเป็นจำนวนพอสมควร จึงขายหมดรอบนี้ครับ ส่วนผู้ถือหุ้นเดิมก็มีการซื้อเพิ่มบ้างแต่เป็นสัดส่วนไม่มากครับ

ในส่วนของ margin จากการขายโรงงานครั้งล่าสุดก็ได้ผลกำไรที่ดีขึ้นอยู่ที่ประมาณ 50% ซึ่งดีกว่าครั้งก่อน ผมว่าถ้าไทคอนทำได้แบบนี้ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยก็ขึ้นมาตลอดก็คงไม่น่ามีปัญหาอะไรน่ะครับ

นอกจากนี้ไทคอนยังปรับราคาค่าเช่าขึ้นตามภาวะเงินเฟ้ออีกด้วย โดยรวมแล้วจึงไม่น่าที่จะกระทบกับออกProperty Fund ในอนาคตครับ

ของกองอื่นไม่ทราบนะครับแต่ของ ticon รอบล่าสุดผู้

บริหารยอมถือ tfund ลดลงเหลือแค่22% จาก 33%เพื่อ

ให้มีปริมาณหน่วยเหลือสำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อครับ

ส่วนเรื่องผลตอบแทนได้ยินผู้บริหารพูดว่ากองทุน

สามารถเพิ่มได้ถึงประมาณ10%ครับถ้าธนบัตรรัฐบาลยัง

อยู๋ที่ 5กว่าๆแต่กองทุนให้ได้ถึง10ผมว่าไม่น่าจะกระทบ

นะครับ  เรื่องของกองทุนอสังหาเท่าที่ผมได้อ่านมาที่

ประเทศอื่นทำกันมานานมากแล้วแต่สำหรับไทยพึ่งอยู่ใน

จุดเริ่มต้นโดยเฉพาะ tfund ถือเป็นเจ้าแรกที่ทำในไทย

ถ้ามองโอกาสทางตลาดในอนาคตผมกลับมองว่ามีสูงมาก

ครับ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้บริหารด้วยครับ

พี่ๆแนะนำได้นะครับถ้ามีอะไรผิดพลาด

ผมว่ามันแล้วแต่ชนิดของสินทรัพย์ของกองทุนมากกว่าครับ

เช่น มีอัตราการเช่าความต้องการเข้ามาอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ต้องมีการซ่อมแซมสินทรัพย์ในอัตราที่สูงหรือไม่ สามารถที่จะปรับค่าเช่าได้ง่ายหรือยากเพียงใด

หากกองทุนอสังหาให้ปันผลมากกว่า 7% มีสินทรัพย์ที่น่าสนใจนอกจากจะได้ปันผลแล้วอย่าลืมว่ามูลค่าของสินทรัพย์น่าจะเพิ่มมากขึ้นได้ในอนาคตได้ดีกว่าครับ

อย่างที่คุณhansomeว่าไว้แหละครับว่ากองทุนอสังหาริมทรัพย์แบบ Free Hold ค่อนข้างจะเป็นเรื่องใหม่ของนักลงทุนไทย แต่สำหรับต่างชาติแล้วถือว่ามีกันมานานแล้ว และด้วยผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและมากขึ้นเรื่อยๆในระยะยาว เป็นเหตุผลหนึ่งของการเลือกลงทุนใน Property Fund ครับ เพราะนักลงทุนต่างชาติเองก็เป็นห่วงเรื่อง Reinvestment cost เช่นกันครับ หากต้องเปลี่ยนประเภทการลงทุนไปไปมามา

ผมว่าปัญหาของไทคอนตอนนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ว่า จะสามารถสร้างโรงงานให้เช่าได้มากเพียงพอเพื่อที่จะรองรับความต้องการในอนาคตมากกว่าครับครับ  :twisted: