Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

วันนี้ฟังอาจารย์นิเวศน์บอกว่าการทบต้นของเงินเป็นสิ่งมหัศจรรย์อับดับ 8 ของโลก และบอกว่าถูกเชิญให้ไปพูดเรื่องต่างๆเกี่ยวกับหุ้นก็เยอะแยะ แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่มาพูดเรื่องหนังสือ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆ

ทำให้ผมพบว่า หนังสือ นี้แหละ คือสิ่งมหัศจรรย์ อับดับหนึ่งของโลก ซึ่งอาจเหมารวมถึงการบันทึกในรูปแบบอื่นๆด้วย เพราะหนังสือและการบันทึกต่างๆ ที่มนุษย์ได้ทำมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ทำให้องค์ความรู้ต่างๆของมวลมนุษย์โลก ได้ถ่ายทอด สะสมและมีพัฒนาการ มีความก้าวหน้าในศาสตร์ต่างๆ และแตกแขนงไปได้มากมาย

จะเห็นได้ว่าไม่ว่าเราจะมองไปที่ศาสตร์แขนงใดก็ตามที่มีอยู่ในโลกนี้ ย่อมมีสุดยอดคัมภีร์อันเป็นรากฐานของศาสตร์นั้นอยู่ และก็มีหนังสือลูกหลานต่อยอดไปได้อีกเยอะ ผู้ใฝ่รู้ทั้งหลายเพียงเข้าใจในภาษาที่บันทึกและตั้งใจอ่านย่อมสามารถเรียนรู้ทุกสิ่ง ทุกอย่างในหนังสือเล่มที่อ่านนั้นได้

ดังที่เขาบอกต่อกันมาว่า ความรู้เรียนทันกันหมด ผมว่าการอ่านเป็นการย่นย่อกาลเวลาของมนุษย์ เพราะในชั่วชีวิตของมนุษย์ 1 คน ไม่เกิน 100 ปี เราไม่มีเวลาหรือไม่สามารถลองผิดลองถูก หรือเข้าไปมีประสบการณ์ตรงในเรื่องต่างๆไปครบได้ทั้งหมดในทุกๆเรื่องที่เราอยากเรียนรู้ แต่เราสามารถเรียนลัดจากการอ่าน ศึกษาจากหนังสือเล่มต่างๆได้ทันที ต้องการรู้เรื่องใดก็อ่านเรื่องนั้นทำให้เรามีเวลามีความรู้ทันท่วงที แค่อ่าน...ช่างง่ายอะไรเช่นนี้

ความรู้ที่สั่งสมกันมาก็มีหลากหลาย เปรียบดั่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสมีความตอนหนึ่งไว้ว่า มีความรู้ที่พระองค์ทรงรู้เยอะแยะมากมาย เปรียบได้กับใบไม้ทั้งป่า แต่มีความรู้เพียงหนึ่งกำมือเดียวเท่านั้นที่ควรจะเรียนรู้เพื่อหลุดพ้น ไปตามวิธีแห่งอริย แต่นั้นคือความรู้หนึ่งกำมือสำหรับผู้ใผ่รู้หวังหยุดการเวียนว่ายตายเกิด

ส่วนเรามนุษย์ผู้ยังจมอยู่ในกองทุกข์ ก็ย่อมมีความรู้อีกกำมือหนึ่งในการใช้ชีวิต ซึ่งใครต้องการเป็นอย่างไหร่ ก็พอจะดูได้จากหนังสือที่อ่าน ดังที่ใครอีกคนบอกไว้ว่าชีวิตที่เราดำเนินอยู่ในทุกวันนี้ ถูกกำหนดมาจากหนังสือที่ท่านอ่านเมื่อสามสี่ปีที่ผ่านมา ดังนั้นถ้าท่านต้องการเป็นอย่างไรในอีกสี่ห้าปีข้างหน้า ก็ขึ้นกับหนังสือที่ท่านกำลังอ่านวันนี้แล้วนะครับ แค่อ่าน...ลิขิตกันได้เอง

อยากรู้เรื่องไหนเยอะๆ เป็นผู้เชียวชาญด้านไหน ก็ศึกษาเรื่องนั้น อ่านหนังสือเรื่องนั้น สุดท้ายต้องของคุณผู้เขียนอักษรให้อ่านทุกท่าน แม้ว่าหนังสือหรือข้อความของท่านจะขายได้หรือไม่ มีคนอ่านน้อยมากเท่าใดก็ไม่เกี่ยว ผมถือว่าท่านได้ทำประโยชน์ส่วนหนึ่งให้แก่โลกแล้ว ในการบันทึกสิ่งที่ท่านรู้ ให้ผู้อื่นๆศึกษาต่อไป ขอบขอพระคุณครับ

แต่เรื่องหุ้นหนังสือนี้ต้อง...

ภูมิใจครับที่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจที่ขายสิ่งมหัศจรรย์อันดับหหนึ่งของโลก :lol:

ไม่รู้ใครออกแบบไว้นะครับ หนังสือแบบที่เราๆใช้กันทุกวันนี้ สุดยอดจริงๆ มีปก เนื้อหา เข้าเล่ม ดูง่ายๆ แต่ทรงประสิทธิภาพมากๆ

ใช้งานก็สะดวก จะออกแบบเป็นรูปแบบอื่นๆ ก็คงใช้ไม่สะดวก

จะหาอะไรมาแทนก็ยังยาก หนังสือดิจิตอล ถึงจะเกิดขึ้น
ผมว่ายังไงคนก็ยังต้องการหนังสือกระดาษอยู่ดี อ่านง่ายสะดวกกว่ากันเยอะ
อาจค้นหายากกว่ากันหน่อย แต่ไม่เป็นไร สบายๆ

ผมว่า...
ท่าน ดร.นิเวศน์ เริ่มเข้าถึงขั้นธรรมะของชาวโลกมากทีเดียวนะครับ
แบบนี้ ผมต้องหาหนังสือของท่านมาอ่านเพิ่มแล้วหล่ะครับ!!! :lol:

ได้ยินมาว่าเดือนมิถุนานี้ จะมีสิ่งมหัศจรรย์อันดับหนึ่งเกี่ยวกับการลงทุนออกมาชนกัน 3 เล่มครับ

jaychou เขียน:ได้ยินมาว่าเดือนมิถุนานี้ จะมีสิ่งมหัศจรรย์อันดับหนึ่งเกี่ยวกับการลงทุนออกมาชนกัน 3 เล่มครับ

เตรียมหมดตัวอีกรอบแล้วครับ  

ด้วยความรู้และประสบการณ์น้อยนิดครับ
ผมสังเกตว่าชนชาติที่มีการจดบันทึกภูมิความรู้เอาไว้
มักจะมีองค์ความรู้ขนาดใหญ่ในแต่ละเรื่องครับ
อย่างประเทศจีน เรื่องของปรัชญา การทำสงคราม การแพทย์ ฯลฯ

อย่างดาวินชี่ (นิตยสารสารคดีเล่มล่าสุด)
ก็มีการจดบันทึกแนวคิดทั้งเรื่องของกายวิภาค
ฟิสิกส์ เครื่องมือเครื่องกลต่าง ๆ ไว้มากมาย

ผมคิดว่าไม่ว่าจะเป็นแนวคิดที่ใช้การได้ในระดับ "ดีเยี่ยม"
ระดับ "ก็งั้น ๆ" หรือว่าระดับ "ใช้การบ่ได้"
มันต่างก็มีประโยชน์ทั้งหมดทั้งสิ้น
ยิ่งในโลกยุคนี้ยิ่งมีประโยชน์มาก

เพราะองค์ความรู้ต่าง ๆ นับวันยิ่งจะมีเพิ่มพูนขึ้นมาไม่สิ้นสุด
แม้กระทั่งวันนี้เองที่ตัวเองรู้สึกว่าเรียนรู้กันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว
ความรู้ระดับใช้การบ่ได้ มีประโยชน์ในการที่บอกให้เรารู้ว่า
วิธีการนี้ไม่ Work อาจจะไม่สำเร็จ ทำให้เราไม่ต้องเข้าไปศึกษาซ้ำ
ก่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรในการแสวงหาองค์ความรู้ได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้นครับ

ยกเว้นว่าจะมี Technological Shift ทีปลดล็อกเงื่อนไขความเป็นไปไม่ได้
ในอดีตให้สามารถเป็นไปได้ในปัจจุบันหรืออนาคต
อย่างเช่นการสร้างเครื่องบินของพี่น้องตระกูลไรท์
ซึ่งเคยถูกปรามาสว่า "ไม่มีทางทำได้" มาก่อน
จึงควรต้องระวังกับดักตรงนี้ด้วย

ความรู้ของจีนที่บันทึกไว้ มีมากมายจริงๆครับ

แม้ว่า สูญหาย หรือถูกทำลาย โดยคนหลายยุดหลายสมัย

ก็ยังเหลือให้ศึกษาอีกมาก

และเป็นเรื่องที่น่าทึ่งทั้งนั้น

ธุรกิจ เกี่ยวกับ กระดาษ และหนังสือที่ออกผลมาแล้ว

Q1 ปี 49 Q1 ปี 48 % โต
mati 29,646 25,765 15.06307006
0.16 0.13

sport 22,658 16,816 34.74072312
0.09 0.07

aprint 36,238 39,810 -8.972619945
0.18 0.2

smm 3,466 19,356 -82.09340773
0.01 0.11

se-ed 33,363 34,175 -2.376005852
0.12 0.11

post 20,195 43,099 -53.14276433
0.04 0.09

work 60,507 61,151 -1.053130775
0.3 0.31

tbsp 27,824 16,279 70.91958966
2.53 1.48

CopyWriter เขียน:วันนี้ฟังอาจารย์นิเวศน์บอกว่าการทบต้นของเงินเป็นสิ่งมหัศจรรย์อับดับ 8.

ถ้าจำไม่ผิด คนที่พูดคนแรกคือ ไอสไตน์  เค้าว่าดอกเบี้ยทบต้นเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8
ส่วนคำพูดของนักวิทยาศาสตร์อีกคนที่น่าสนใจเกี่ยวกับการลงทุน คือ คำพูดของ เซอร์ไอแซกนิวตัน เค้าว่า"การคำนวณ แรงฝูงชน ยากกว่าการคำนวณแรงดึงดูดของโลก เพราะไม่มีกฏเกณฑ์หรือสมการที่แน่นอน"(ถ้าจำไม่ผิดนะครับ แต่ความหมายจะออกแนวนี้ สงสัย นิวตันจะขาดทุนหุ้น นะ)  :lol:

คือผมสงสัยว่า หลักการลงทุนแนว VI ที่ เบนจามิน เกรแฮม เอามาสอน วอร์เรน เอามาจากไหนครับ คิดเองเหรอ?

ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด คือ อาจารย์ เกรแฮม แกสอนวิชานี้ใน มหาวิทยาลัย

ถ้าแกคิดเอง ทำไมถึงเอามาบรรจุ เป็นหลักสูตรการเรียน การสอนได้

จะเรียก เบน เกรแฮม เป็น บิดาแห่ง VI ได้หรือไม่ ?

"Benjamin Graham is a Father of Financial Analysis and Value Investing."

ปุย เขียน:คือผมสงสัยว่า หลักการลงทุนแนว VI ที่ เบนจามิน เกรแฮม เอามาสอน วอร์เรน เอามาจากไหนครับ คิดเองเหรอ?

ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด คือ อาจารย์ เกรแฮม แกสอนวิชานี้ใน มหาวิทยาลัย

ถ้าแกคิดเอง ทำไมถึงเอามาบรรจุ เป็นหลักสูตรการเรียน การสอนได้

จะเรียก เบน เกรแฮม เป็น บิดาแห่ง VI ได้หรือไม่ ?

งืม หนังสือที่ เบนจามินแต่ง แต่งก่อนที่ บัฟเฟตจะเข้าเรียน นะครับ
เพราะมีช่วงนึงของหนังสือที่เขียนบอกว่า หนังสือของเบนจามินเปลี่ยนแปลง ชีวิต ของ เค้า
ซึ่งทำให้เค้าต้องการที่จะเข้าเรียนที่นั่น
ผมว่า คงคล้ายๆกับ ด๊อกเตอร์ ที่เขียนหนังสือ แล้วก็เอาบทความของตัวเองบรรจุ ในวิชาเรียน การลงทุน
คงคล้ายๆ กับที่เคยได้ยินเรื่อง คนที่เอาเรื่องชีวิต ของ เดวิดเบค แฮม มาเป็นวิชาเรียนเสริม น่ะครับ (ผมยังงงว่าลงเรียนวิชานี้ได้อะไรเนี่ย ส่วนตัวเองตอนเรียน มหาลัยเคยเรียนเรื่อง สิทธิสตรี ... มันแย่มากครับเพราะดันไปมีความเห็นต่างกับอาจารย์(อาจารย์เป็นผู้หญิง))

Q1 ปี 49 Q1 ปี 48 % โต
mati 29,646 25,765 15.06307006
0.16 0.13

sport 22,658 16,816 34.74072312
0.09 0.07

aprint 36,238 39,810 -8.972619945
0.18 0.2

smm 3,466 19,356 -82.09340773
0.01 0.11

se-ed 33,363 34,175 -2.376005852
0.12 0.11

post 20,195 43,099 -53.14276433
0.04 0.09

work 60,507 61,151 -1.053130775
0.3 0.31

tbsp 27,824 16,279 70.91958966
2.53 1.48

grammy 476.00 45,211 -98.94715888
0.001

จะเรียก เบน เกรแฮม เป็น บิดาแห่ง VI ได้หรือไม่ ?

ได้ครับ

เพราะว่าถ้ามีคนคิดค้นมาก่อน  เราก็เรียกคนนั้นว่า ปู่แห่ง VI ก็แล้วกันเนาะ

เท่าที่ดู หนังสือการ์ตูนน่าเป็นห่วง นิตรสารก็เริ่มไปแล้ว หนังสืออ่านทั่วไปยังไปได้ หนังสือพิมพ์ก็ยังไปไหว

ได้ยินมาว่าเดือนมิถุนานี้ จะมีสิ่งมหัศจรรย์อันดับหนึ่งเกี่ยวกับการลงทุนออกมาชนกัน 3 เล่มครับ

มีเล่มไหนบ้างครับ มาช่วยเล่าให้ฟังกันหน่อย

ssintra เขียน:ได้ยินมาว่าเดือนมิถุนานี้ จะมีสิ่งมหัศจรรย์อันดับหนึ่งเกี่ยวกับการลงทุนออกมาชนกัน 3 เล่มครับ

มีเล่มไหนบ้างครับ มาช่วยเล่าให้ฟังกันหน่อย

สองในสามเล่มน่าจะเป็น

1.) Common Stocks, Uncommon Profits and Other Writings. แปลโดย ดร.นิเวศน์

2.) The Intelligent Investor แปลโดย พี่WEB

รออยู่เหมือนกันครับ

อีกเล่ม จากข่าวไม่กรองของผมน่าจะเป็นของท่านแม่ทัพ นะครับ

อ๋อ...เล่มแรกเพิ่งจะออกนี่เอง
มิน่า..อ่านเจอในเล่ม How Buffet Does It ระบุว่าท่าน ดร. แปล
ไปเดินหาจนขาขวิดกลับไม่เจอ ที่แท้ยังไม่ออกมาวาง

น่าอ่านทั้งสองเล่มเลยครับ