Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่1(F45-3)15/05/2549 08:30

     GFM : สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่1(F45-3)
               สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่1(F45-3)
                       บริษัท โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ จำกัด (มหาชน)

                                                         สอบทาน
                                                     (หน่วย : พันบาท)
                                           สิ้นสุดวันที่  31 มีนาคม
                                               ไตรมาสที่ 1
              ปี                            2549             2548

     กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                    24,465           26,493
     กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)          0.16              0.18

 ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
     ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อสังเกต


 หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุ
               ประกอบงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์

  ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบ
  การเงินฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน
  ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว

                              ลงลายมือชื่อ _____________________
                                      ( นางสาว ศรีแพร เตชะมาถาวร )
                              ตำแหน่ง      กรรมการผู้จัดการ
                                      ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ

ยังไม่เห็นงบอ่ะ
ต้องรอดูก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น
กำไรหดเพราะ????

ก็ส่งออกเครืองเงิน

ก็เงินแพงขึ่น

กำไรก็ต้องลดดิ

ไม่เช่นพี่เจ๋ง

มันต้องมีอะไรลึกๆๆ เพราะว่า มันสร้างแบรนด์
สร้างโรงงานใหม่  + ขยายโรงงาน

ตอนนี้ยังไม่เห็นงบ ต้องไปแกะว่า เงินสดยังมีอยู่มากหรือเปล่า
ตัวนี้ยังอยู่ในช่วงลงทุนเป็นส่วนใหญ่

แต่ราคาเงินหรือทองทำให้กดดันราคาส่วนหนึ่งด้วย
ตามด้วยค่าเงินที่แข็งขึ้น จากประมาณ 40 บาทไป 37 บาท
เนี่ยขนาดมีการป้องกันไว้ส่วนหนึ่งยังเอาไม่อยู่
คิดเอาล่ะกัน ตัวส่งออกตัวอื่นๆๆจะเป็นไงกันบ้าง

คงไม่เกี่ยวกับต้นทุนนะคับ

ยอดขายต่ำกว่าไตรมาส 1 ปีที่แล้วนิดนึง
แต่ถ้าเทียบกับ Q2 Q3 Q4 ปีก่อน แล้วน้อยลงเยอะเลยครับ
สงสัยต้องโทษ seasonal effect อีกแล้ว

ตาลายไปหน่อยครับ
ยอดขายเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วต่างหาก

ดูดีๆๆ

งบกระแสเงินสด
มีรายการเบิกเงินเกินบัญชี 17 ล้านบาทเอาไปทำอะไร
ในขณะที่ดอกเบี้ยยังสูงแบบนี้

สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น
แต่เงินสดในงบดุลเพิ่ม แสดงว่า ตอนนี้ ไมได้ลงทุนอะไรเพิ่มหรือ
มองไปดูแล้วมีการขายการลงทุนทิ้งไป จำนวนหนึ่งเลยทำให้เงินเพิ่มจากสิ่งนี้ล่ะ

กลายเป็น ดำเนินงาน + ลงทุน + จัดสรร +
ไตรมาสนี้(Q2/2549) มีการจัดปันผล
งานนี้ดูกันดีๆๆล่ะกัน
รอที่เดิมครับ

ตัวนี้ ขอถือยาวครับ
 :)  :)

ผมถือตัวนี้อยู่บ้างครับ
ทีนี้วิธีคิดของผมอาจจะไร้เดียงสาอยู่สักหน่อย
ก็คือผมคิดว่า ปีนี้เศรษฐกิจไม่ดี น้ำมันก็แพง ค่าเงินบาทก็แข็ง
หากยังทำยอดขายและกำไรได้ในอัตราที่ "ทัดเทียม" กับปีก่อน
ก็น่าจะถือว่าเขาทำได้ดีอยู่ใช่ไหมครับ

วิธีคิดของผมแบบนี้มันมีอะไรขาดตกบกพร่องหรือเปล่าครับ พี่ ๆ ช่วยชี้แนะสักนิด

ktphong เขียน:ผมถือตัวนี้อยู่บ้างครับ
ทีนี้วิธีคิดของผมอาจจะไร้เดียงสาอยู่สักหน่อย
ก็คือผมคิดว่า ปีนี้เศรษฐกิจไม่ดี น้ำมันก็แพง ค่าเงินบาทก็แข็ง
หากยังทำยอดขายและกำไรได้ในอัตราที่ "ทัดเทียม" กับปีก่อน
ก็น่าจะถือว่าเขาทำได้ดีอยู่ใช่ไหมครับ

วิธีคิดของผมแบบนี้มันมีอะไรขาดตกบกพร่องหรือเปล่าครับ พี่ ๆ ช่วยชี้แนะสักนิด

ถ้าคุณ ktphong คิดแบบ absolute ตัวเดียวแล้ว การคิดแบบนี้ก็คงไม่ผิดครับ.........................แต่ ถ้าสมมติว่าคุณ ktphong มีทางเลือกอื่นหล่ะครับ ด้วยปัจจัยทาง macro ที่เหมือนกันแต่คุณ ktphong สามารถเลือกลงทุนกับบริษัทอื่นที่มียังคงรักษาการเจริญเติบโตได้ในราคาที่เหมาะสม คุณ ktphong ก็ไม่ควรมองข้ามนะครับ

ktphong เขียน:ผมถือตัวนี้อยู่บ้างครับ
ทีนี้วิธีคิดของผมอาจจะไร้เดียงสาอยู่สักหน่อย
ก็คือผมคิดว่า ปีนี้เศรษฐกิจไม่ดี น้ำมันก็แพง ค่าเงินบาทก็แข็ง
หากยังทำยอดขายและกำไรได้ในอัตราที่ "ทัดเทียม" กับปีก่อน
ก็น่าจะถือว่าเขาทำได้ดีอยู่ใช่ไหมครับ

วิธีคิดของผมแบบนี้มันมีอะไรขาดตกบกพร่องหรือเปล่าครับ พี่ ๆ ช่วยชี้แนะสักนิด

ใช่ครับเป็นวิธีคิดแบบง่าย ๆ และไร้เดียงสาจริง ๆ ครับ  
แต่วิธีคิดแบบง่าย ๆ นี่แหละทำเงินมานักต่อนักแล้ว
ผมเห็นด้วยกับคุณครับ