หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เอามาให้อ่านกันครับ จาก ..... สตาร์บัคส์ ....

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 10:46 am
โดย คัดท้าย
ช่วงนี้นั่งอ่านเล่มแปลของ
Pour Your Heart Into It - How STARBUCKS Built a Company One Cup at a Time.

อ่านมาค่อนเล่ม แล้วบังเอิญสะดุด ช่วงที่เจ้าของเขียนเกี่ยวกับความรู้สึกเค้ากับบริษัทของเค้า หลังเข้าตลาดหุ้นครับ

.... พิมพ์จากหนังสือ หน้า 239 นะครับ

สิ่งที่มาพร้อมกับความอิ่มเอมใจ อันเนื่องจากการเป็นบริษัทมหาชนก็คือ การตระหนักถึงความจริงที่แสนเศร้าว่า คุณต้องตกเป็นทาสของตลาดหุ้นตลอดเวลา เพราะมันเข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของคุณ ทำให้คุณไม่สามารถกลับไปเป็นธุรกิจธรรมดาอีกต่อไป เราเริ่มรายงานผลประกอบการรายเดือนของเรา ซึ่งรวมไปถึงการ Comps หรือ "การเปรียบเทียบ" (comparable) อัตราเติบโตของร้านที่เปิดกิจการมาแล้วอย่างน้อย 1 ปี หรือที่เรียกว่า การเติบโตของยอดขายของร้านเดียวกันเมื่อใดที่มีสิ่งที่ไม่คาดหมายเกิดขึ้น ตลาดหุ้นจะมีปฏิกริยาทันที
ผมไม่เคยคิดว่า ช่องข้อมูล การเปรียบเทียบเปอร์เซนต์ หรือ Comps จะเป็นมาตรวัดที่ดีที่สุดในการวิเคราะห์และตัดสินใจความสำเร็จของสตาร์บัคส์

เอามาให้อ่านกันครับ จาก ..... สตาร์บัคส์ ....

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 10:59 am
โดย คัดท้าย
ต้นเดือนธันวาคม ปี 1995 ราคาหุ้นสตาร์บัคส์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ข่าวดังกล่าวน่าจะช่วยขจัดความรู้สึกหดหู่ในสำนักงานของเราแต่ในความเป็นจริง เราเพิ่งเรียนรู้ว่า ยอดขายสินค้า ในช่วงคริสต์มาสของเรากลับไม่ดีอย่างที่คาดกันไว้ ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆขณะที่เราเฝ้ารอตัวเลขยอดขายสุดท้ายในช่วงเทศกาลวันหยุดดังกล่าวด้วยใจจดจ่อ

ช่วงต้นเดือนมกราคมปีถัดมา ซึ่งเป็นช่วงที่เราประกาศผลยอดขายโดยเปรียบเทียบกับเป้าของเดือนธันวาคม ซึ่งโตขึ้นเพียง 1 เปอร์เซนต์ เท่านั้น ส่งผลให้ราคาหุ้นของเราตกลงทันที จากเดิม 21 ดอลล่าร์ เป็น 16 ดอลล่าร์/ หุ้น ในช่วงเวลาไม่กี่วัน มูลค่าตลาดของเราหดหายไปถึง 300 ล้านดอลล่าร์ แม้ว่ายอดขายจริงๆของเราจะลดไปเพียง 5 ล้านดอลล่าร์ นักลงทุนที่วิตกต่างก็โทรฯเข้ามาหาเรา และถามว่า "ทำไม่บริษัทถึงมีผลประกอบการแย่ขนาดนี้ละ" หนังสือพิมพ์ วอลล์สตรีท เจอร์นัล ประกาศว่า เราคือ "ดวงประทีปอันโชติช่วง ที่เริ่มจะริบหรี่" นักวิเคราะห์ดูเหมือนจะมั่นใจว่า ยุคแห่งการเติบโตของเราจบสิ้นลงแล้ว เช่นเดียวกับวันเวลาแห่งการเบ่งบาน

จริงๆแล้ว ในเดือนเดียวกันนั้น ไม่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับสตาร์บัคส์แต่อย่างใด แม้ว่ายอดขายของเราจะต่ำกว่าที่คาดไว้ แต่การเติบโตของยอดขายต่อปีโดยรวมเพิ่มขึ้นเกือบ 50 เปอร์เซนต์ เรายังคงซื้อและคั่วกาแฟขาย และเปิดร้านใหม่หนึ่งแห่งทุกๆวัน เรายังคงเดินหน้าตามแผนการรุงสู่ตลาดในเมืองใหม่ๆ และ แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ของเราอย่างไม่หยุดยั้ง

... <<< เดี๋ยวมีต่อครับ >>> ...

รูปภาพ

เอามาให้อ่านกันครับ จาก ..... สตาร์บัคส์ ....

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 11:06 am
โดย คัดท้าย
สามเดือนต่อมา ราคาหุ้นของเรากลับพุ่งสูงขึ้นเป็นสถิติใหม่อีกครั้งหนึ่ง และการเติบโตของยอดขายโดยเปรียบเทียบ เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงสามเดือนแรกของปี โกล์ดแมน ซาคส์ หนึ่งในสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ซึ่งไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆในสตาร์บัคส์ทำนายว่าส่วนต่างกำไรและราคาหุ้นของเราจะขยับตัวสูงขึ้นไปอีก

คราวนี้นักลงทุนโทรฯเข้ามาเพื่อแสดงความยินดีกับเรา บ้างก็เป็นคนๆเดียวกับที่เคยโทรฯมาแสดงความรู้สึกกังวลใจ คราวที่ผลประกอบการของเราไม่เป็นไปดังหวัง ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่แล้ว

มีอะไรเปลี่ยนไปรึ? ก็ไม่มีอะไรมาก บริษัทสตาร์บัคส์ ในเดือนเมษายน ก็ยังคงเป็นบริษัทสตาร์บัคส์ใรเดือนมกราคา จะต่างกันก็ตรงที่จู่ๆ นักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท กลับฟันธงโดยพร้อมเพรียงกันว่า สตาร์บัคส์ เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามหาศาลขึ้นกว่าเดิม


... <<< เดี๋ยวมีต่อครับ >>> ...

รูปภาพ

เอามาให้อ่านกันครับ จาก ..... สตาร์บัคส์ ....

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 11:22 am
โดย คัดท้าย
การบริหารบริษัทมหาชน เปรียบได้กับการนั่งรถไฟเหาะตีลังกาในแง่ของอารมณ์ความรู้สึก กล่าวคือ ตอนแรก คุณได้รับการชื่มชมราวกับว่าคุณสมควรได้รับมันจริงๆ แต่พอราคาหุ้นเริ่มดิ่งลง คุณกลับรู้สึกเหมือนตัวเองตกลงมาด้วย และเมื่อมันทะยานขึ้นไปใหม่อีกครั้ง ก็เล่นเอาคุณเวียนหัวตาลายไปเลย

บางครั้ง คุณต้องแยกตัวเองออกจากความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นบ้าง และให้ความสนใจต่อการบริหารธุรกิจเป็นหลัก คุณต้องควบคุมจิตใจให้สงบให้ได้ ตลอดช่วงที่ราคาหุ้นของคุณเคลื่อนไหวขึ้นๆลงๆ ซึ่งสำหรับผมแล้วเป็นเรื่องยากมาก เพราะผมเป็นคนค่อนข้างอ่อนไหวมาก แต่ผมก็พบว่าการแสดงความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งและมีความนิ่งทั้งในยามรุ่งเรื่องและตกต่ำ และความสามารถในการควบคุมขวัญกำลังใจที่กำลังสั่นคลอนเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง แต่สำคัญที่สุดก็คือ ผมได้พยายามที่จะทำการตัดสินใจบนพื้นฐานที่ถูกต้องเหมาะสมแก่บริษัท ไม่ใช่คำถึงถึงราคาหุ้นเป็นหลัก และนั่นคือ หนึ่งในความสำเร็จที่ผมภาคภูมิใจมากที่สุด จากการทำงานกับสตาร์บัคส์

ผู้ประกอบการทุกคนต่างก็ฝันที่จะสร้างบริษัทมหาชนขึ้นมา แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ตัวว่ากำลังเดินหน้าเข้าหาอะไร? ใช่ว่าบริษัททุกแห่งจะสามารถดำรงตนในฐานะบริษัทมหาชน ที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจอย่างเช่นสตาร์บัคส์ ซึ่งแม้จะประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ แต่เรายังไม่วายมองว่าช่างเป็นกิจการที่แสนพยศ กุมบังเหียนได้ยากยิ่ง แล้วบริษัทที่อยู่ในภาวะย่ำแย่ทั้งหลายหละ ไม่แย่กว่านี้หรือ

..... <<<< จบ >>>> ....

รูปภาพ

เอามาให้อ่านกันครับ จาก ..... สตาร์บัคส์ ....

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 11:25 am
โดย คัดท้าย
อ่านแล้ว คิดยังไงกันมั่งครับ เชิงคุณภาพ หรือ เชิงปริมาณ .. แค่ไหนถึงจะรสชาติกลมกล่อมครับ .... อิอิ

รูปภาพ

เอามาให้อ่านกันครับ จาก ..... สตาร์บัคส์ ....

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 12:09 pm
โดย ม้าเฉียว
ตอนนี้ผมใกล้จะผละออกจากคอมพิวเตอร์แล้ว พอดีมาเจอกระทู้นี้ทำให้ต้องอยู่ต่อ แล้วก็ต้องปรบมือดังๆ

ให้กับกระทที่ยกให้เป็น *****อันดับหนึ่งในดวงใจ***** ทั้งด้านเนื้อหา องค์ประกอบ และการตั้งคำถาม

ของคุณครับ เฮียคัดท้าย

เอามาให้อ่านกันครับ จาก ..... สตาร์บัคส์ ....

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 12:52 pm
โดย MO101
บทความดีจริงๆ ครับ

สงสัยอย่างหนึ่ง รูปที่ 3 มันตัดต่อรูป ป. เป็นรูปถ้วยกาแฟหรือเปล่า

เอามาให้อ่านกันครับ จาก ..... สตาร์บัคส์ ....

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 2:23 pm
โดย Rocker
สุดยอดเลยพี่
ระยะยาวเอาคุณภาพเป็นหลักที่แน่ๆ อีก 10 ปี starbuck ก็ยังอยู่
ส่วนปริมาณเอาอดีตกับอนาคตใน1-2ปี มายืนยันข้อมูลเชิงคุณภาพ

เอามาให้อ่านกันครับ จาก ..... สตาร์บัคส์ ....

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 3:24 pm
โดย worapong
อ่านแล้วนึกถึงซีเอ็ดเลยครับ มันมีอะไรที่คล้ายกันมาก ซีเอ็ดเมื่อปีที่แล้วก็คือซีเอ็ดของปีนี้ มันยังเป็นธุรกิจที่ยอดเยี่ยมเสมอ แต่ในสายตาของนักลงทุนแล้ว พวกเราตีราคามันอย่างมีอคติมาก เพราะเราได้เห็นราคาหุ้นของซีเอ็ตตั้งแต่ 4.8 - 9.8 บาท (คงราวๆนี้นะครับ ถ้าจำราคาไม่ผิด) อืม ไม่รู้ว่าคุณทนงจะมีความรู้สึกเหมือนผู้บริหารสตาร์บัคส์มั๊ยนะครับ  :roll:  :roll:  :roll:

เอามาให้อ่านกันครับ จาก ..... สตาร์บัคส์ ....

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 4:03 pm
โดย Boring Stock Lover
เป็นเรื่องที่ดีมาก

Starbuck (SBUX) ในรอบ 10 ปี ราคาประมาณ USD4 ถึง USD40 PE ระหว่าง มากกว่า 25 ถึงประมาณ 100

ตอนนี้ ราคาประมาณ USD37 PE ประมาณ 50

อืม อยากเห็นบริษัทไทยทำได้อย่างนี้บ้าง ธุรกิจแบบนี้ใครๆก็มีโอกาสในการแข่งขัน แต่ไม่เห็นแววเลย อาจจะมี The Pizza ที่มีโอกาส

เอามาให้อ่านกันครับ จาก ..... สตาร์บัคส์ ....

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 4:41 pm
โดย Muffin
เป็นประโยชน์มากครับพี่คัดท้าย ขอบคุณครับ
:bow:

ผมจำได้ว่า หลายปีก่อน ตอนขับรถผ่านจาก Michigan ไป Washington DC ได้เห็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป ระหว่างขับผ่านโดยเฉพาะจากช่วงผ่าน Ohio และ Pensylvania นั่นคือ Starbucks ได้บุก ถึง rest area ใน hwy สายหลักหมดเสียแล้ว
ทริปนั้นทำให้ต้อง add หุ้น 2 ตัวเข้า wish list คือ SBUX และ WFMI

เอามาให้อ่านกันครับ จาก ..... สตาร์บัคส์ ....

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 5:38 pm
โดย 007-s
เป็นกระทู้ที่ดีมากค่ะคุณคัดท้าย

โดยส่วนตัว ดิฉัน ให้ความสำคัญ กับ คุณภาพ มากกว่าปริมาณ
ไม่ได้บอกว่าปริมาณ ไม่สำคัญเลยนะ
แต่เชื่อว่า คุณภาพ สำคัญกว่า เท่านั้นค่ะ

:wink:

เอามาให้อ่านกันครับ จาก ..... สตาร์บัคส์ ....

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 6:22 pm
โดย Raphin Phraiwal
ขอบคุณครับพี่ คัดท้าย

เอามาให้อ่านกันครับ จาก ..... สตาร์บัคส์ ....

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 10:17 pm
โดย Capo
คัดท้าย เขียน: มูลค่าตลาดของเราหดหายไปถึง 300 ล้านดอลล่าร์ แม้ว่ายอดขายจริงๆของเราจะลดไปเพียง 5 ล้านดอลล่าร์
ผมติดใจประโยคนี้ครับ
คิดว่าน่าจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงอำนาจของ Mr.Market
ที่มีต่อหุ้นตัวนั้นได้หรือเปล่าครับ ?????????
(Mr.Market Ratio  :lol: )

เพิ่งจะรู้ว่านอกจากนัลงทุนอย่างเรา ๆ ที่จะต้องต่อสู้กับ Mr.Market แล้ว
ตัวผู้บริหารขององค์กรเองก็ต้องอาศัยความอดทนไม่ใช่น้อยเหมือนกัน

ขอบคุณพี่คัดท้ายครับ

เอามาให้อ่านกันครับ จาก ..... สตาร์บัคส์ ....

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 10:19 pm
โดย Mon money
ยอดเยี่ยมครับ  :cheers:  

อยากเห็นผู้บริหารไทยออกมาพูดอย่างนี้บ้างจัง

เอามาให้อ่านกันครับ จาก ..... สตาร์บัคส์ ....

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 11:08 pm
โดย Boring Stock Lover
Capo เขียน:
ผมติดใจประโยคนี้ครับ
คิดว่าน่าจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงอำนาจของ Mr.Market
ที่มีต่อหุ้นตัวนั้นได้หรือเปล่าครับ ?????????
(Mr.Market Ratio

เอามาให้อ่านกันครับ จาก ..... สตาร์บัคส์ ....

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 21, 2006 2:11 pm
โดย Stock Broker
อ่านแล้วนึกถึงบุคลิกของนายตลาดได้เลยครับ

นายตลาดนี่ไม่ว่าสัญชาติอะไรก็มีบุคลิกเหมือนกันหมด