อยากทราบว่าบริษัทที่เขาให้ปันผลเป็นหุ้นนี่เขาทำไปทำไมครับ

[เจก]

คือสงสัยอะครับ

สมมติว่าหุ้น หุ้นละ 10 บาท แจกปันผล 2 ต่อ 1 พอ XD ราคาก็จะ Dilute มาอยู่ที่ 7.50 บาทอยู่ดี ใช่ไหมครับ แล้ว EPS ก็จะถูก Dilute ลงมาตามสัดส่วน ซึ่งผมไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไรเลย แค่ทำให้จำนวนหุ้นมากขึ้น สู้แจกเป็นเงิน หรือ Warrant ไม่ดีกว่าเหรอครับ

ผมเลยอยากทราบว่าบริษัทที่เขาทำอย่างนี้เขาทำไปทำไมกันครับ แล้วผลลัพท์ที่เกิดขึ้นหลังจากการแจกหุ้นปันผลนี่มีอะไรอีกบ้างครับ

ขอบคุณนะครับ

เจก

[สามัญชน]

นั่นสิครับ  แถมหุ้นที่แจกมาก็ต้องเสียภาษีอีกต่างหาก

[akekarat]

เพิ่มสภาพคล่อง ให้ดูเยอะ ๆ หลาย ๆ คนชอบถือหุ้นละ 1 บาท หมื่นหุ้น มากกว่า ร้อยบาท ร้อยหุ้น

[สามัญชน]

คงหวังผลให้ล่อใจmr.market เฉยๆ

[สามัญชน]

เพิ่มสภาพคล่อง ให้ดูเยอะ ๆ หลาย ๆ คนชอบถือหุ้นละ 1 บาท หมื่นหุ้น มากกว่า ร้อยบาท ร้อยหุ้น

แตกพาร์ก็เพิ่มสภาพคล่องได้  โดยที่ไม่ต้องเสียภาษีซักบาท

[เจก]

อ้าว ตกลงไม่มีประโยชน์เลย แถมเสียภาษีด้วย แล้วเขาจะทำไปทำไม

แล้วอีกอย่าง ผมอะเกลียดมากเลย หุ้นละบาทเนี่ย ถือกันทีเป็นแสนๆหุ้น นับศูนย์กันไม่ถูก พอเวลาคีย์แล้วชอบกดศูนย์ขาดหรือเกินไปตัวนึง ดีที่ยังมีระบบเตือน ถ้าไม่งั้นตายเลย

ขอบคุณนะครับสำหรับทุกคำตอบ

เจก

[nanakorn]

นั่นสิครับ  แถมหุ้นที่แจกมาก็ต้องเสียภาษีอีกต่างหาก

เรื่องภาษีจริงๆแล้วน่าจะดีครับ แต่เราต้องคิดว่าเงินที่อยู่กับบริษัทจริงๆแล้วเป็นเงินของเราที่ฝากบริษัทไว้ และเราต้องจ่ายภาษีในอัตราที่น้อยกว่าบริษัท และเราต้องทำเครดิตภาษี

ขอยกตัวอย่างครับ  สมมุติว่าบริษัทที่จ่ายภาษี 30% ได้กำไรมา 100 บาท แต่เนื่องจากต้องการเงินสดเพื่อลงทุนทั้งหมด บริษัทมีทางเลือก 2 ทาง คือ
1) ไม่จ่ายปันผลเลย
กรณีนี้ บริษัทจ่ายภาษี 30 บาท เงินของเราเหลือ 70 บาท อยู่กับบริษัททั้งหมด
หรือ
2) จ่ายปันผลหุ้นทั้งหมด
กรณีนี้ เงินปันผลซึ่งเป็นหุ้นจะจ่าย 70 บาท หักณ ที่จ่ายอีก 7 บาท คือเป็นภาษีไป 37 บาท เป็นเงินซื้อหุ้นกลับ 63 บาท  สมมุติว่าเราจ่ายภาษีในอัตรา 20% เงินกำไร 100 บาท ก็จะเปลี่ยนมาเป็นเสียภาษี 20% ทำให้เราจะได้เงินคืนมา 17 บาทจากการทำเครดิตภาษี
ดังนั้น เงินของเราเหลืออยู่ 80 บาท โดย อยู่กับบริษัท 63 บาท และ อยู่กับเรา 17 บาท

สรุปคือ เงินถ้าเก็บไว้ในบริษัทตรงๆก็จะเสียภาษีในอัตรานิติบุคคล แต่ถ้าเก็บไว้ในบริษัทในรูปแบบของหุ้นปันผลก็จะเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ตัวอย่างข้างต้นสมมุติว่าบริษัทต้องการเงินเก็บไว้มากที่สุดเพื่อให้อ่านง่าย  ไม่ทราบผมคิดพลาดตรงไหนก็เปล่า  ข้อเสียของหุ้นปันผลคือเราไม่ได้เงินสด

[Joraka]

BAFS เมื่อ 2 ปีก่อนก็ปันผลเป็นหุ้นครับ อันนี้เข้าใจได้ว่าบริษัทต้องการที่จะเก็บเงินสดเอาไว้เพื่อขยายกิจการ (สร้างคลังน้ำมัน ระบบท่อใต้ลานจอด ท่อส่งน้ำมันเส้นทางมักกะสัน-สุวรรณภูมิ) แต่บริษัทเองเคยจ่ายปันผลมาตลอดครั้นจะงดก็กลัวนักลงทุนจะไม่พอใจ ก็เลยจ่ายปันผลเป็นหุ้นออกมา (เก็บเงินสดเอาไว้) ซึ่งแน่นอนว่าจำนวนหุ้นมันก็ต้องเพิ่มขึ้น แล้วมันก็ไป dilute ผลกำไร ดังจะเห็นได้ว่าปี 48 กำไรสุทธิมากกว่าปี 47 ตั้งเยอะ แต่กำไรต่อหุ้นเท่ากันเลย แต่ BAFS คงจะคิดว่าเมื่อการขยายงานเสร็จสิ้นแล้วคงจะทำกำไรให้กับผู้ถือหุ้นมากขึ้นเพื่อไปชดเชยจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นมา

[yoyo]

แต่บริษัทเองเคยจ่ายปันผลมาตลอดครั้นจะงดก็กลัวนักลงทุนจะไม่พอใจ ก็เลยจ่ายปันผลเป็นหุ้นออกมา

ในอดีตผมว่าวิธีนี้ใช้ได้ผล ให้นักลงทุนหลอกตัวเองคิดว่าเออ เราก็ได้ปันผลนะ เพียงแต่มันเป็นหุ้นเท่านั้นเอง
แต่ในปัจจุบันผมว่านักลงทุนฉลาดขึ้นมากครับ
นักลงทุนคิดได้แล้วว่าปันผลเป็นหุ้นนี่เหมือนไม่ได้อะไรเลย ปันผลออกมาราคาก็ dilute อยู่ดีสุดท้ายก็มีมูลค่าเท่าเดิม แถมเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายด้วย
บริษัททั้งหลายเลิกทำเถอะครับ ถ้าจะเก็บเงินไว้ในบริษัท ก็ไม่ต้องปันผลออกมาเลยดีกว่า

[nanakorn]

ถ้าจะเก็บเงินไว้ในบริษัท ก็ไม่ต้องปันผลออกมาเลยดีกว่า

สำหรับคนที่รายได้ทั้งหมดคือเงินปันผล และไม่ทำเครดิตภาษี ผมเห็นด้วย เพราะการจ่ายปันผลเป็นหุ้นจะทำให้ต้องเสียภาษี ณ ที่จ่ายเพิ่มเติมจากภาษีนิติบุคคลที่บริษัทจ่ายไปแล้ว แต่ถ้าเป็นคนที่จ่ายภาษีรายได้บุคคลธรรมดาอยู่ในอัตราที่ต่ำ่กว่าภาษีที่บริษัทจ่าย ถ้าบริษัทจะิเก็บเงินไว้ จ่ายปันผลเป็นหุ้นจะดีกว่า (ตามที่ผมลองเขียนไว้ข้างต้น) แต่ต้องทำคืนภาษีนะครับ

[อองตวน]

จ่ายหุ้นปันผลก็เหมือนบังคับให้ผู้ถือหุ้นเดิมซื้อหุ้นเพิ่มทุน
โดยขายหุ้นใหม่ ตามอัตราส่วนที่ระบุ ในราคาเท่ากับเงินปันผลที่ผู้ถือหุ้นควรได้รับ  

เหตุผลที่จูงใจจ่ายเป็นหุ้นอาจมาจาก
-บริษัทอยากเพิ่มสภาพคล่องของหุ้น
-มีเงินสดไม่มาก ไม่อยากกู้ เลยขอจ่ายเป็นหุ้นแทน

[โอ@]

ถ้าจะปันผลเป็นหุ้น แตกพาร์เห๊อะ -_- มันก็เหมือนกันนะ แต่ไม่ต้องเสียภาษี

[miracle]

ปันผลด้วยหุ้นมองกันลึกๆๆจากในตัวงบ
คือ BookValue ลดลงแน่นอน
จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น ทุนจดทะเบียนต้องเพิ่มทุน
โดยที่ไม่ต้องเอาทุนไหนเพิ่มเข้ามาก็เอาหุ้นมาปันผลซัก
เอากำไรในส่วนที่ไม่จัดสรรมาจ่ายเป็นค่าหุ้นตามราคาพาร์
เนื่องจาก กฏหมายเมืองไทยมีอยู่ข้อหนึ่ง ระบุว่าการเพิ่มทุนนั้นราคาที่เพิ่มต้องไม่น้อยกว่าราคาพาร์
(กรณีของpicniจำกันได้หรือเปล่าเมื่อเดือนถึงสองเดือนที่แล้วที่เพิ่มทุนแล้วติดปัญหาว่าราคาบนกระดานน้อยกว่าพาร์ ทำให้เพิ่มทุนยากมากๆๆ ไม่รู้หาทางออกได้หรือเปล่า)

ที่กล่าวไว้ตอนต้นว่าBVลดลงเพราะว่า เมื่อมีหุ้นมาส่วนของผู้ถือหุ้นเท่าเดิมแต่จำนวนหุ้นมากขึ้น ทำให้BVที่สะสมน้อยลงหลักธรรมดา

แต่ผลกระทบที่นักลงทุนกลัวกันมากๆๆคือ โอกาสการทำกำไรในอนาคตว่า เมื่อจำนวนหุ้นเพิ่มแล้วมันมีทุนเพิ่มเข้าไป แล้วมันทำให้กำไรที่ออกมาเพิ่มขึ้นเท่าจำนวนหุ้นที่เพิ่มเข้าไปหรือเปล่า (จุดนี้น่าคิด)
อีกอย่างหนึ่ง มันมีหลักในการหาทุนว่า
1. จะกู้เงินดี
2. ใส่เงินทุนเพิ่มเข้าไป
ตัวนี้ต้องไปอ่านเพิ่มเติมล่ะ เพราะว่ายังอ่านแล้วงงอยู่
ว่ากรณีไหนต้องกู้กรณีไหนต้องเพิ่มทุนเข้าไป

สุดท้าย เมื่อเพิ่มทุนแล้วทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น
มันคือป้องกันการเทคโอเวอร์ไปในตัว ทำให้ราคาหุ้นแพงขึ้นในการเทคโอเวอร์ด้วย
และทำให้หุ้นมีสภาพคล่อง(คอ) สูงขึ้น เคาะกันได้ถี่ขึ้น

[nanakorn]

ถ้าจะปันผลเป็นหุ้น แตกพาร์เห๊อะ -_- มันก็เหมือนกันนะ แต่ไม่ต้องเสียภาษี

ไม่เหมือนกันครับ  ถีังแม้ว่าผลก็คือจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเหมือนกัน  แตกพาร์ไม่เกี่ยวข้องกับรายได้ของบริษัท  บริษัทเีพียงต้องการสภาพคล่องเลยแตกหุ้นหนึ่งตัวให้เป็นหลายตัว  เนื่องจากไม่เกี่ยวอะไรกับรายได้ ก็ย่อมไม่มีภาษีอยู่แล้ว  ส่วนจ่ายปันผลเป็นหุ้นเงินที่มาทำเป็นหุ้นเป็นเงินรายได้ ก็ต้องเสียภาษีเป็นธรรมดา  เงินรายได้นี้จะจ่ายเป็นปันผลแบบไหนก็ต้องเสียภาษี จะไม่จ่ายออกมาเป็นปันผลก็ต้องเสียภาษี  แต่ภาษีในกรณีที่เป็นปันผลมีโอกาสที่จะน้อยกว่าภาษีในกรณีที่ไม่จ่ายเป็นปันผล ถ้าผู้รับปันผล (เป็นหุ้นหรือเป็นเงิน ก็ได้) เสียภาษีอยู่ในอัตราที่น้อยกว่าอัตราภาษีที่บริษัทเสียอยู่

[sunrise]

ตาม financial theory บอกว่า

การปันผลเป็นหุ้นก็เพื่อที่จะเป็นการบอกนักลงทุนว่าในอนาคตของบริษัทจะดีครับ แต่ปีนี้ยังให้เงินไม่ได้เพราะต้องการขยายกำลังผลิต หรือต้องการใช้เงินสด

หรือ ปันผลเป็นหุ้นก่อนแล้วปันผลเป็นเงินตาม เพื่อให้ดูว่าบริษัทยังจ่ายปันผลเท่าเดิมนะ แต่ว่าตอนนี้จำนวนหุ้นเพิ่ม ก็เท่ากับปันผลเพิ่มขึ้น

หรือ เห็นว่าราคาที่เทรดในตลาดไม่ใช่ราคาที่จูงใจนักลงทุน optimal trading price เลยต้องการให้มีหุ้นออกมาเพื่อ ให้ราคาไปอยู่ที่ซื้อขายได้ง่ายๆครับ

ส่วนผมว่า ให้มาก็ดีแต่อยากได้เป็นเงินสดอ่ะ  :lol: