หุ้นอะไรจะได้รับผลดี จากปรากฏการณ์แบบนี้ ในอนาคตมั่งครับ ??
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 31, 2006 9:14 am
http://www.bangkokbiznews.com/2006/05/3 ... _id=108363
ชีพจรลงเท้า : ไลฟ์สไตล์ล่าสุดของชนชั้นพรีเมียม
31 พฤษภาคม 2549 07:31 น.
มองมุมใหม่ :ผศ.ดร.ธีรยุส วัฒนาศุภโชค [email protected]
ถ้าทุกท่านคิดว่าชนชั้นเศรษฐีหรือมหาเศรษฐีปัจจุบัน จะมีวิถีการดำรงชีวิตแบบเก่าเหมือนสมัยก่อน ที่อยู่ติดที่เป็นประจำและเป็นเจ้าของคฤหาสน์หรือปราสาทขนาดมหึมา และครอบครองเหมือนตนเองเป็นเจ้าแห่งแคว้น คอยสั่งการให้บริวารดำเนินงานตามที่ตนต้องการในอาณาบริเวณของตน รวมถึงกิจกรรมและกิจวัตรประจำวันทั่วไป ก็จะอยู่ภายในบริเวณดังกล่าว เช่น
ทำกิจกรรมออกกำลังกายในสปอร์ตคลับของตนทุกวัน ไปพบปะสังสรรค์ในผับที่ตนเป็นสมาชิก หรือออกไปทานอาหารที่ภัตตาคารที่คุ้นเคยเป็นประจำไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง ฯลฯ ซึ่งที่กล่าวมาถือเป็นไลฟ์สไตล์ที่เราคุ้นตาของชนชั้นพรีเมียมหรือผู้มีอันจะกินดังกล่าว
ปัจจุบันแนวโน้มไลฟ์สไตล์นี้มีการเปลี่ยนแปลงไป เรียกว่ากลับหัวกลับหางเลย เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงจากอยู่ติดที่ไปเป็นแบบ "ชีพจรลงเท้า" มากขึ้น นั่นคือ การเดินทางถือเป็นกิจวัตรประจำวันที่ธรรมดา สามารถเดินทางข้ามทวีปไปที่ใดๆ ในโลกได้ง่ายดายเหมือนเดินทางข้ามจังหวัดยังไงยังงั้น
ลองพิจารณาไลฟ์สไตล์ในหนึ่งสัปดาห์ของซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านข่าวสารข้อมูลแห่งหนึ่งของอังกฤษ โดยในวันเสาร์พักผ่อนอยู่ที่บ้านในนอร์มังดี ฝรั่งเศส วันอาทิตย์เช้าบินไปอินเดียเพื่อร่วมประชุมหารือทางธุรกิจ จากนั้นตอนเย็นบินด้วยเครื่องบินส่วนตัวไปดินเนอร์ที่สนามม้าส่วนตัวที่ไอร์แลนด์ วันจันทร์ถึงพุธมีการประชุมที่ดับลินไอร์แลนด์ วันพฤหัสบดีบินไปลอนดอน เพื่อกินข้าวเที่ยงพร้อมหารือธุรกิจกับสื่อยักษ์ใหญ่ของยุโรป จากนั้นวันศุกร์บินไปโรม เพื่อร่วมดินเนอร์กับผู้บริหารระดับสูงในอิตาลี
ไลฟ์สไตล์ที่เป็นลักษณะนี้มีมากขึ้น เนื่องจากโลกมีขนาดเล็กลงมากสำหรับคนกลุ่มนี้ เพราะถูกย่นเวลาและระยะทางด้วยเทคโนโลยีทางด้านการสื่อสารข้อมูลและโลจิสติกส์ รวมถึงโลกการลงทุนและการเงินที่ไร้พรมแดน ทำให้การลงทุนที่ใดในโลกเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายแค่พลิกฝ่ามือ การเคลื่อนย้ายตนเองไปที่ต่างๆ เพื่อดูแลการลงทุนมากขึ้น จึงไม่เป็นเรื่องที่เกินความจำเป็น
หลายท่านอาจสงสัยว่า เหตุใดจึงต้องให้ความสนใจกับวิถีชีวิตของคนเหล่านี้ ที่ดูเหมือนกับจะเกินเอื้อมจากกลุ่มคนชั้นกลางปกติ แต่จริงๆ แล้ว หากเรากลับไปพิจารณาวิเคราะห์แนวโน้มของวิถีการดำรงชีวิตของคนในสังคม จะพบว่าคนกลุ่มพรีเมียมนี้ มักเป็นผู้ที่เป็นแบบอย่างชี้นำแนวทางต่างๆที่สำคัญให้คนกลุ่มอื่น
และอีกประการหนึ่งที่มีความสำคัญคือ จำนวนผู้ที่จัดเข้ากลุ่มพรีเมียมนี้ ปัจจุบันมีจำนวนและสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีความสามารถใช้จ่ายสูง มีโอกาสสร้างผลตอบแทนกลับสู่กิจการได้สูงด้วย
จากข้อมูลของ World Wealth Report ได้รายงานว่า เศรษฐีข้ามชาตินี้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มเติบโตที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในจำนวนนี้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นสูงมากของผู้มีอันจะกินจากกลุ่มประเทศเกิดใหม่ เช่น จีน เกาหลี เอเชียแปซิฟิก และยุโรปตะวันออก ซึ่งเป็นตลาดที่คนทั่วโลกจับตามองอยู่แล้ว
โดยวิถีชีวิตที่สำคัญของคนกลุ่มนี้ คือ การเดินทางโดยพาหนะส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินเจ็ท เฮลิคอปเตอร์ หรือเรือยอชท์ เชื่อมโยงตัวเองกับธุรกิจผ่านทางเทคโนโลยีไร้สายตลอดเวลา รวมถึงมีคฤหาสน์หลายหลังทั่วโลก มีสิ่งของมีค่าสะสมและการลงทุนมากมายกระจายทั่วโลก รวมถึงใช้บริการแบบเป็นส่วนตัวทุกอย่าง
ไลฟ์สไตล์นี้ มีสิ่งที่โดดเด่นคือ ต้องการความเป็นส่วนตัวและบริการเฉพาะตัวบุคคล จึงไม่น่าแปลกใจว่า เหตุใดการให้บริการแบบหนึ่งต่อหนึ่ง จึงมีมูลค่าการเติบโตสูงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น บริการรักษาความปลอดภัยส่วนตัว หรือบริการทางการเงินแบบส่วนบุคคลที่ครอบคลุมทุกอย่าง และสามารถเข้าถึงตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงไม่มีวันหยุด จากทุกมุมของโลก
ยูบีเอส สถาบันการเงินที่ให้บริการการเงินส่วนบุคคลใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้พัฒนาบริการให้ครอบคลุมทุกความประสงค์ของลูกค้า ตั้งแต่ให้บริการลงทุนด้านตราสารการเงินพื้นฐานทั่วโลก จนถึงทำหน้าที่ให้บริการทางการเงินและลงทุนทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ศิลปะ ของโบราณสะสม แม้แต่ไวน์ หรือพันธุ์ม้าแข่งชั้นดีจากทั่วทุกพรมแดนก็ตาม ซึ่งแต่ละคนก็มีความต้องการดังกล่าวที่แตกต่างกันไป แต่ยูบีเอสก็พัฒนาบริการทางการเงินแบบส่วนตัว จนกระทั่งครอบคลุมทุกความต้องการ
ธุรกิจที่น่าจะมีศักยภาพต่อไปก็คือ ให้บริการทางการแพทย์ สุขภาพและความงามแบบเฉพาะบุคคล ธุรกิจรักษาความปลอดภัยแบบพรีเมียม ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งเป็นบ้านพักหลังที่สองในพื้นที่น่าสนใจทั่วโลก หรือให้บริการและอำนวยความสะดวกในการเดินทางทั่วโลกแบบครบวงจร และเป็นที่คาดการณ์ว่าขนาดตลาดในลักษณะนี้จะขยายตัวมากขึ้น
ผู้ที่ต้องการจะจับตลาดพรีเมียมและซูเปอร์พรีเมียมคงพลาดไม่ได้ เมื่อลูกค้าของเราเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ หาตัวจับยาก เราคงต้องหากลยุทธ์ล็อกตัวลูกค้าให้อยู่กับเรามากขึ้น แนวคิดกลยุทธ์หนึ่งที่เคยกล่าว ในเรื่องป๊อปอัพ เอาท์เลต หรือหน้าร้านที่ตั้งขึ้นมาชั่วคราวในบริเวณต่างๆ ที่จะเข้าถึงลูกค้าตามเทศกาลหรือจังหวะเวลาต่างๆ กัน ก็มีความสอดคล้องกับวิถีการดำรงชีวิตลักษณะเช่นนี้
แนวคิดที่ว่ากิจการต้องรุกเข้าไปหาลูกค้าตามแหล่งต่างๆ มากกว่าที่จะดึงดูดให้เข้ามาหาตนเอง เพราะลูกค้าหลายกลุ่มก็มีข้อจำกัดด้านเวลา และความสะดวกในการเข้าหาหน้าร้านของกิจการเช่นกัน
หรือในทิศทางของโมบายมาร์เก็ตติ้ง ที่เน้นใช้สื่อทางอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี ก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้น การทำโปรแกรมลูกค้าสัมพันธ์และเข้าถึงลูกค้าผ่านทางสื่อไร้สายไร้พรมแดน จึงทวีความสำคัญ
ไม่แปลกใจที่สถิติของมูลค่าการตลาดและโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่ออินเทอร์เน็ตจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากจะเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้แล้วสำหรับทุกธุรกิจที่ต้องการจับลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ชีพจรลงเท้า
ชีพจรลงเท้า : ไลฟ์สไตล์ล่าสุดของชนชั้นพรีเมียม
31 พฤษภาคม 2549 07:31 น.
มองมุมใหม่ :ผศ.ดร.ธีรยุส วัฒนาศุภโชค [email protected]
ถ้าทุกท่านคิดว่าชนชั้นเศรษฐีหรือมหาเศรษฐีปัจจุบัน จะมีวิถีการดำรงชีวิตแบบเก่าเหมือนสมัยก่อน ที่อยู่ติดที่เป็นประจำและเป็นเจ้าของคฤหาสน์หรือปราสาทขนาดมหึมา และครอบครองเหมือนตนเองเป็นเจ้าแห่งแคว้น คอยสั่งการให้บริวารดำเนินงานตามที่ตนต้องการในอาณาบริเวณของตน รวมถึงกิจกรรมและกิจวัตรประจำวันทั่วไป ก็จะอยู่ภายในบริเวณดังกล่าว เช่น
ทำกิจกรรมออกกำลังกายในสปอร์ตคลับของตนทุกวัน ไปพบปะสังสรรค์ในผับที่ตนเป็นสมาชิก หรือออกไปทานอาหารที่ภัตตาคารที่คุ้นเคยเป็นประจำไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง ฯลฯ ซึ่งที่กล่าวมาถือเป็นไลฟ์สไตล์ที่เราคุ้นตาของชนชั้นพรีเมียมหรือผู้มีอันจะกินดังกล่าว
ปัจจุบันแนวโน้มไลฟ์สไตล์นี้มีการเปลี่ยนแปลงไป เรียกว่ากลับหัวกลับหางเลย เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงจากอยู่ติดที่ไปเป็นแบบ "ชีพจรลงเท้า" มากขึ้น นั่นคือ การเดินทางถือเป็นกิจวัตรประจำวันที่ธรรมดา สามารถเดินทางข้ามทวีปไปที่ใดๆ ในโลกได้ง่ายดายเหมือนเดินทางข้ามจังหวัดยังไงยังงั้น
ลองพิจารณาไลฟ์สไตล์ในหนึ่งสัปดาห์ของซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านข่าวสารข้อมูลแห่งหนึ่งของอังกฤษ โดยในวันเสาร์พักผ่อนอยู่ที่บ้านในนอร์มังดี ฝรั่งเศส วันอาทิตย์เช้าบินไปอินเดียเพื่อร่วมประชุมหารือทางธุรกิจ จากนั้นตอนเย็นบินด้วยเครื่องบินส่วนตัวไปดินเนอร์ที่สนามม้าส่วนตัวที่ไอร์แลนด์ วันจันทร์ถึงพุธมีการประชุมที่ดับลินไอร์แลนด์ วันพฤหัสบดีบินไปลอนดอน เพื่อกินข้าวเที่ยงพร้อมหารือธุรกิจกับสื่อยักษ์ใหญ่ของยุโรป จากนั้นวันศุกร์บินไปโรม เพื่อร่วมดินเนอร์กับผู้บริหารระดับสูงในอิตาลี
ไลฟ์สไตล์ที่เป็นลักษณะนี้มีมากขึ้น เนื่องจากโลกมีขนาดเล็กลงมากสำหรับคนกลุ่มนี้ เพราะถูกย่นเวลาและระยะทางด้วยเทคโนโลยีทางด้านการสื่อสารข้อมูลและโลจิสติกส์ รวมถึงโลกการลงทุนและการเงินที่ไร้พรมแดน ทำให้การลงทุนที่ใดในโลกเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายแค่พลิกฝ่ามือ การเคลื่อนย้ายตนเองไปที่ต่างๆ เพื่อดูแลการลงทุนมากขึ้น จึงไม่เป็นเรื่องที่เกินความจำเป็น
หลายท่านอาจสงสัยว่า เหตุใดจึงต้องให้ความสนใจกับวิถีชีวิตของคนเหล่านี้ ที่ดูเหมือนกับจะเกินเอื้อมจากกลุ่มคนชั้นกลางปกติ แต่จริงๆ แล้ว หากเรากลับไปพิจารณาวิเคราะห์แนวโน้มของวิถีการดำรงชีวิตของคนในสังคม จะพบว่าคนกลุ่มพรีเมียมนี้ มักเป็นผู้ที่เป็นแบบอย่างชี้นำแนวทางต่างๆที่สำคัญให้คนกลุ่มอื่น
และอีกประการหนึ่งที่มีความสำคัญคือ จำนวนผู้ที่จัดเข้ากลุ่มพรีเมียมนี้ ปัจจุบันมีจำนวนและสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีความสามารถใช้จ่ายสูง มีโอกาสสร้างผลตอบแทนกลับสู่กิจการได้สูงด้วย
จากข้อมูลของ World Wealth Report ได้รายงานว่า เศรษฐีข้ามชาตินี้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มเติบโตที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในจำนวนนี้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นสูงมากของผู้มีอันจะกินจากกลุ่มประเทศเกิดใหม่ เช่น จีน เกาหลี เอเชียแปซิฟิก และยุโรปตะวันออก ซึ่งเป็นตลาดที่คนทั่วโลกจับตามองอยู่แล้ว
โดยวิถีชีวิตที่สำคัญของคนกลุ่มนี้ คือ การเดินทางโดยพาหนะส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินเจ็ท เฮลิคอปเตอร์ หรือเรือยอชท์ เชื่อมโยงตัวเองกับธุรกิจผ่านทางเทคโนโลยีไร้สายตลอดเวลา รวมถึงมีคฤหาสน์หลายหลังทั่วโลก มีสิ่งของมีค่าสะสมและการลงทุนมากมายกระจายทั่วโลก รวมถึงใช้บริการแบบเป็นส่วนตัวทุกอย่าง
ไลฟ์สไตล์นี้ มีสิ่งที่โดดเด่นคือ ต้องการความเป็นส่วนตัวและบริการเฉพาะตัวบุคคล จึงไม่น่าแปลกใจว่า เหตุใดการให้บริการแบบหนึ่งต่อหนึ่ง จึงมีมูลค่าการเติบโตสูงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น บริการรักษาความปลอดภัยส่วนตัว หรือบริการทางการเงินแบบส่วนบุคคลที่ครอบคลุมทุกอย่าง และสามารถเข้าถึงตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงไม่มีวันหยุด จากทุกมุมของโลก
ยูบีเอส สถาบันการเงินที่ให้บริการการเงินส่วนบุคคลใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้พัฒนาบริการให้ครอบคลุมทุกความประสงค์ของลูกค้า ตั้งแต่ให้บริการลงทุนด้านตราสารการเงินพื้นฐานทั่วโลก จนถึงทำหน้าที่ให้บริการทางการเงินและลงทุนทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ศิลปะ ของโบราณสะสม แม้แต่ไวน์ หรือพันธุ์ม้าแข่งชั้นดีจากทั่วทุกพรมแดนก็ตาม ซึ่งแต่ละคนก็มีความต้องการดังกล่าวที่แตกต่างกันไป แต่ยูบีเอสก็พัฒนาบริการทางการเงินแบบส่วนตัว จนกระทั่งครอบคลุมทุกความต้องการ
ธุรกิจที่น่าจะมีศักยภาพต่อไปก็คือ ให้บริการทางการแพทย์ สุขภาพและความงามแบบเฉพาะบุคคล ธุรกิจรักษาความปลอดภัยแบบพรีเมียม ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งเป็นบ้านพักหลังที่สองในพื้นที่น่าสนใจทั่วโลก หรือให้บริการและอำนวยความสะดวกในการเดินทางทั่วโลกแบบครบวงจร และเป็นที่คาดการณ์ว่าขนาดตลาดในลักษณะนี้จะขยายตัวมากขึ้น
ผู้ที่ต้องการจะจับตลาดพรีเมียมและซูเปอร์พรีเมียมคงพลาดไม่ได้ เมื่อลูกค้าของเราเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ หาตัวจับยาก เราคงต้องหากลยุทธ์ล็อกตัวลูกค้าให้อยู่กับเรามากขึ้น แนวคิดกลยุทธ์หนึ่งที่เคยกล่าว ในเรื่องป๊อปอัพ เอาท์เลต หรือหน้าร้านที่ตั้งขึ้นมาชั่วคราวในบริเวณต่างๆ ที่จะเข้าถึงลูกค้าตามเทศกาลหรือจังหวะเวลาต่างๆ กัน ก็มีความสอดคล้องกับวิถีการดำรงชีวิตลักษณะเช่นนี้
แนวคิดที่ว่ากิจการต้องรุกเข้าไปหาลูกค้าตามแหล่งต่างๆ มากกว่าที่จะดึงดูดให้เข้ามาหาตนเอง เพราะลูกค้าหลายกลุ่มก็มีข้อจำกัดด้านเวลา และความสะดวกในการเข้าหาหน้าร้านของกิจการเช่นกัน
หรือในทิศทางของโมบายมาร์เก็ตติ้ง ที่เน้นใช้สื่อทางอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี ก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้น การทำโปรแกรมลูกค้าสัมพันธ์และเข้าถึงลูกค้าผ่านทางสื่อไร้สายไร้พรมแดน จึงทวีความสำคัญ
ไม่แปลกใจที่สถิติของมูลค่าการตลาดและโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่ออินเทอร์เน็ตจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากจะเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้แล้วสำหรับทุกธุรกิจที่ต้องการจับลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ชีพจรลงเท้า