เกิดอะไรขึ้นกับ LEE ครับ?????
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
เกิดอะไรขึ้นกับ LEE ครับ?????
โพสต์ที่ 1
ทำไมมันขึ้นเยอะจัง ไม่ค่อยได้ตามข่าวเลยไม่รู้เรื่องมากนัก หรือขึ้นตามดัชนีก้อไม่น่าใช่ (LEE ไม่ใช่หุ้นตลาดนี่นา)
งงครับ
งงครับ
- champ
- Verified User
- โพสต์: 1280
- ผู้ติดตาม: 0
เกิดอะไรขึ้นกับ LEE ครับ?????
โพสต์ที่ 2
คงข่าวนี้ครับ
วันที่ 30 ตุลาคม 2546
เรื่อง แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2546
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ด้วยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ลีพัฒนาผลิตภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) (บริษัท) ครั้งที่ 6/2546
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2546 ได้มีมติที่สำคัญดังต่อไปนี้
1) อนุมัติให้บริษัท จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับปี 2546 ครั้งที่ 1/2546 ในอัตราหุ้นละ 3.22 บาท
ให้แก่ผู้ถือหุ้นซึ่งมีชื่อปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2546 เวลา 12.00 น.
โดยจ่ายเป็นหุ้นปันผลและเงินสดปันผลจากกำไรสะสม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2545 และจากผลการดำเนินงาน
สำหรับงวดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2546 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2546 ดังนี้
(1.1) จ่ายเป็นหุ้นปันผลในอัตรา 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล
2.50 บาท ต่อหุ้น โดยคำนวณมูลค่าหุ้น (Par Value) หุ้นละ 5 บาท (ซึ่งหากคำนวณจากจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด
ของบริษัทภายหลังการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นเป็นหุ้นละ 1 บาทแล้ว จะเป็นอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 5 หุ้นสามัญใหม่
หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.50 บาท) คิดเป็นเงินปันผลจ่าย 245 ล้านบาท โดยจัดสรรจากกำไรสะสม
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2545 ซึ่งเป็นกำไรจากกิจการที่ไม่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้
(1.2) จ่ายเป็นเงินสดปันผล ในอัตราหุ้นละ 0.72 บาท (ซึ่งหากคำนวณจากจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท
ภายหลังการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นเป็นหุ้นละ 1 บาทแล้ว จะเป็นอัตราหุ้นละ 0.144 บาท) คิดเป็นเงินปันผลจ่าย 70.56 ล้านบาท
โดยจัดสรรจากกำไรจากผลการดำเนินงานสำหรับงวดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2546 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2546
ซึ่งเป็นกำไรจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บริษัทจะหักภาษี ณ ที่จ่ายสำหรับเงินได
้จากการได้รับหุ้นปันผลตามข้อ (1.1) ในอัตราร้อยละ 10จากเงินปันผลที่จ่ายเป็นเงินสดตามข้อ (1.2)
ฉะนั้น ภายหลังจากหักภาษี ณ ที่จ่ายแล้ว จะเหลือเงินปันผลที่จ่ายเป็นเงินสดสุทธิในอัตราหุ้นละ 0.47 บาท
ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อบริษัทได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น
ครั้งที่ 1/2546 แล้ว และหลังจากที่บริษัทได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นและเพิ่มทุนจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว
โดยบริษัทจะดำเนินการจ่ายปันผลภายใน 30 วันนับจากวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าว
2) อนุมัติให้บริษัท เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นจากเดิมหุ้นละ 5 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท
โดยทุนจดทะเบียนของบริษัทจะคงเดิม คือ 490 000 000 บาท แต่หุ้นสามัญเพิ่มขึ้น
จาก 98 000 000 หุ้นเป็น 490 000 000 หุ้น
3) อนุมัติให้บริษัท แก้ไขข้อความในหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 4. ของบริษัท เพื่อให้
สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นเป็นข้อความดังนี้
" ข้อ 4. ทุนจดทะเบียนจำนวน 490 000 000 ล้านบาท (สี่ร้อยเก้าสิบล้านบาท)
แบ่งออกเป็น 490,000,000 หุ้น (สี่ร้อยเก้าสิบล้านหุ้น) มูลค่าหุ้นละ 1 บาท (หนึ่งบาท)
โดยแยกออกเป็น
หุ้นสามัญ 490,000,000 หุ้น (สี่ร้อยเก้าสิบล้านหุ้น)
หุ้นบุริมสิทธิ - หุ้น (ไม่มี) "
4) อนุมัติให้บริษัท เพิ่มทุนจดทะเบียนจากจำนวน 490,000,000 บาท เป็นจำนวน 1,225,000,000 บาท
โดยการออกหุ้นสามัญใหม่ จำนวน 735 000 000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท
5) อนุมัติให้บริษัท แก้ไขเพิ่มเติมข้อความในหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 4. ของบริษัท
เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนเป็นข้อความดังนี้
" ข้อ 4. ทุนจดทะเบียนจำนวน 1,225, 000,000 บาท (หนึ่งพันสองร้อยยี่สิบห้าล้านบาท)
แบ่งออกเป็น 1,225,000,000 หุ้น
(หนึ่งพันสองร้อยยี่สิบห้าล้านหุ้น) มูลค่าหุ้นละ 1 บาท (หนึ่งบาท)
โดยแยกออกเป็น
หุ้นสามัญ 1,225,000,000 หุ้น (หนึ่งพันสองร้อยยี่สิบห้าล้านหุ้น)
หุ้นบุริมสิทธิ - หุ้น (ไม่มี) "
6) อนุมัติให้บริษัท ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท
จำนวน 245 000 000 หน่วย (สองร้อยสี่สิบห้าล้านหน่วย) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท
ซึ่งมีชื่อในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2546 เวลา 12.00 น. โดยมีรายละเอียดดังนี้
(6.1) ประเภทของใบสำคัญแสดงสิทธิ : ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ
ของบริษัท ลีพัฒนาผลิตภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1 (LEE-W1)
(6.2) ชนิด : ระบุชื่อผู้ถือและเปลี่ยนมือได้
(6.3) จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ : 245 000 000 หน่วย (สองร้อยสี่สิบห้าล้านหน่วย)
(6.4) วิธีการเสนอขาย : จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ซึ่งมีชื่อปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียน
ผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2546 เวลา 12.00 น.
ในสัดส่วน 2 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ
จากมูลค่าหุ้นๆ ละ 5 บาท เศษของหุ้นให้ปัดทิ้ง ทั้งนี้
หากมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นเป็นหุ้นละ 1 บาทแล้ว
อัตราส่วนดังกล่าวจะเท่ากับ 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 5 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ
(6.5) ราคาเสนอขาย : 0 บาท (ศูนย์บาท) ต่อหน่วย
(6.6) ราคาใช้สิทธิ : 4 บาท (สี่บาท) ต่อหุ้น หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นเป็นหุ้นละ 1 บาท (หนึ่งบาท)
(6.7) อัตราการใช้สิทธิ : ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น
(6.8) จำนวนหุ้นที่ออกเพื่อรองรับการใช้สิทธิ : 245 000 000 หุ้น (สองร้อยสี่สิบห้าล้านหุ้น)
(6.9) อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ : 5 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
(6.10) ระยะเวลาการใช้สิทธิ : วันทำการสุดท้ายของไตรมาสแรกภายหลังจากครบกำหนด 1 ปี
นับตั้งแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ หลังจากนั้นวันใช้สิทธิครั้งต่อๆ ไปคือ
วันทำการสุดท้ายของทุกๆ ไตรมาสของรอบปีบัญชีของบริษัท
(6.11) ตลาดรองของใบสำคัญแสดงสิทธิ : บริษัทจะนำใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกและเสนอขายในครั้งน
ี้เข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต่อไป
(6.12) ผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น : จำนวนหุ้นที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิ คิดเป็นร้อยละ 33.33
ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังจาก
มีการจ่ายหุ้นปันผลซึ่งเท่ากับจำนวน 735 000 000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท
(6.13) ระยะเวลาเสนอขาย : ให้คณะกรรมการบริษัทหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท
เป็นผู้พิจารณากำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดต่อไป
(6.14) เหตุในการปรับอัตราการใช้
สิทธิและราคาใช้สิทธิ : เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน กลต. กำหนด
(6.15) ระยะเวลาแสดงความจำนง
ในการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย : ไม่น้อยกว่า 15 วันก่อนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย
(6.16) ข้อกำหนดกรณีที่มีใบสำคัญ
แสดงสิทธิเหลืออยู่ : ไม่มี
โดยคณะกรรมการได้พิจารณาแล้วเห็นว่าราคาใช้สิทธิดังกล่าวเป็นราคาที่เหมาะสม เนื่องจากราคาใช้สิทธิ
ดังกล่าวได้กำหนดจากการเทียบเคียงกับมูลค่าหุ้นของบริษัทตามมูลค่าทางบัญชี (มูลค่าทางบัญชีของหุ้นของบริษัท
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2546 เท่ากับ 13.33 บาทต่อหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้น ณ ขณะนั้นหุ้นละ 5 บาท)
ซึ่งราคาใช้สิทธิดังกล่าวนั้นสูงกว่ามูลค่าหุ้นของบริษัทตามมูลค่าทางบัญชี
7) อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 735 000 000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท ดังนี้
(7.1) หุ้นจำนวน 245 000 000 หุ้น จัดสรรไว้เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล
(7.2) หุ้นจำนวน 245 000 000 หุ้น จัดสรรไว้เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด
ตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ กจ.12/2543
ลงวันที่ 22 มีนาคม 2543 โดยการเสนอขายดังกล่าวอาจเป็นการเสนอขายในคราวเดียวกันทั้งจำนวน
หรือเป็นคราว ๆ ไปก็ได้ ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้นดังกล่าว จะต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของราคาปิดเฉลี่ยของหุ้น
ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเวลาก่อนที่จะมีการเสนอขาย โดยให้คณะกรรมการบริษัทเป็นผู้มีอำนาจ
กำหนดจำนวนวันที่จะใช้ในการคำนวณราคาปิดเฉลี่ยได้
อนึ่ง การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวจะกระทำขึ้นภายหลังจากที่บริษัทได้จดทะเบียน
เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้เป็นหุ้นละ 1 บาทแล้ว รวมทั้งให้คณะกรรมการบริษัทหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
จากคณะกรรมการบริษัทเป็นผู้พิจารณากำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดในการจัดสรรหุ้นสามัญและ
เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวต่อไป
(7.3) หุ้นจำนวน 245 000 000 หุ้น จัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่
จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (LEE-W1) ตามรายละเอียดในข้อ 6 ข้างต้น
8) อนุมัติการแก้ไขข้อบังคับของบริษัท ข้อ 46 โดยให้ยกเลิกข้อความเดิมและให้ใช้ข้อความใหม่ดังนี้
ข้อ 46. ในกรณีที่บริษัทหรือบริษัทย่อยตกลงเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน หรือ
รายการเกี่ยวกับการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทหรือบริษัทย่อยตามความหมายและ
หลักเกณฑ์ที่กำหนดตามประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ใช้บังคับกับการทำรายการท
ี่เกี่ยวโยงกันของบริษัทจดทะเบียน หรือการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน
แล้วแต่กรณี ให้บริษัทปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่ประกาศดังกล่าวกำหนดไว้ในเรื่องนั้นๆ ด้วย
9) อนุมัติแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินใน
การออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ลีพัฒนาผลิตภัณฑ
จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้
10) กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น ในวันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2546 ตั้งแต่เวลา 12.00 น.
เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลและใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ลีพัฒนาผลิตภัณฑ์
จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้ รวมทั้งสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2546
จนกว่าการประชุมจะแล้วเสร็จ
11) กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2546 ในวันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม 2546 เวลา 14.30 น.
ณ ห้องประชุม ชั้น 1 อาคารวอลล์สตรีททาวเวอร์ เลขที่ 33/21-24 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก
กรุงเทพมหานคร โดยมีระเบียบวาระการประชุมดังนี้
วาระที่ 1 พิจารณารับรองรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2546 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2546
วาระที่ 2 พิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ปี 2546 ครั้งที่ 1/2546
วาระที่ 3 พิจารณาเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้น (Par Value) จากหุ้นละ 5 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท
วาระที่ 4 พิจารณาอนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมข้อความในหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4. ของบริษัท
เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้น (Par Value)
วาระที่ 5 พิจารณาอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จากเดิม 490 ล้านบาท เป็น 1 225 ล้านบาท
วาระที่ 6 พิจารณาอนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมข้อความในหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4 ของบริษัท เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุน
วาระที่ 7 พิจารณาอนุมัติออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท
วาระที่ 8 พิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน
วาระที่ 9 พิจารณาอนุมัติการแก้ไขข้อบังคับของบริษัทข้อ 46.
วาระที่ 10พิจารณาเรื่องอื่น ๆ (ถ้ามี)
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
( นายนิพนธ์ ลีละศิธร )
ประธานกรรมการบริหาร
และกรรมการผู้จัดการ
วันที่ 30 ตุลาคม 2546
เรื่อง แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2546
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ด้วยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ลีพัฒนาผลิตภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) (บริษัท) ครั้งที่ 6/2546
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2546 ได้มีมติที่สำคัญดังต่อไปนี้
1) อนุมัติให้บริษัท จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับปี 2546 ครั้งที่ 1/2546 ในอัตราหุ้นละ 3.22 บาท
ให้แก่ผู้ถือหุ้นซึ่งมีชื่อปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2546 เวลา 12.00 น.
โดยจ่ายเป็นหุ้นปันผลและเงินสดปันผลจากกำไรสะสม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2545 และจากผลการดำเนินงาน
สำหรับงวดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2546 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2546 ดังนี้
(1.1) จ่ายเป็นหุ้นปันผลในอัตรา 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล
2.50 บาท ต่อหุ้น โดยคำนวณมูลค่าหุ้น (Par Value) หุ้นละ 5 บาท (ซึ่งหากคำนวณจากจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด
ของบริษัทภายหลังการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นเป็นหุ้นละ 1 บาทแล้ว จะเป็นอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 5 หุ้นสามัญใหม่
หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.50 บาท) คิดเป็นเงินปันผลจ่าย 245 ล้านบาท โดยจัดสรรจากกำไรสะสม
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2545 ซึ่งเป็นกำไรจากกิจการที่ไม่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้
(1.2) จ่ายเป็นเงินสดปันผล ในอัตราหุ้นละ 0.72 บาท (ซึ่งหากคำนวณจากจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท
ภายหลังการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นเป็นหุ้นละ 1 บาทแล้ว จะเป็นอัตราหุ้นละ 0.144 บาท) คิดเป็นเงินปันผลจ่าย 70.56 ล้านบาท
โดยจัดสรรจากกำไรจากผลการดำเนินงานสำหรับงวดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2546 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2546
ซึ่งเป็นกำไรจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บริษัทจะหักภาษี ณ ที่จ่ายสำหรับเงินได
้จากการได้รับหุ้นปันผลตามข้อ (1.1) ในอัตราร้อยละ 10จากเงินปันผลที่จ่ายเป็นเงินสดตามข้อ (1.2)
ฉะนั้น ภายหลังจากหักภาษี ณ ที่จ่ายแล้ว จะเหลือเงินปันผลที่จ่ายเป็นเงินสดสุทธิในอัตราหุ้นละ 0.47 บาท
ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อบริษัทได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น
ครั้งที่ 1/2546 แล้ว และหลังจากที่บริษัทได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นและเพิ่มทุนจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว
โดยบริษัทจะดำเนินการจ่ายปันผลภายใน 30 วันนับจากวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าว
2) อนุมัติให้บริษัท เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นจากเดิมหุ้นละ 5 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท
โดยทุนจดทะเบียนของบริษัทจะคงเดิม คือ 490 000 000 บาท แต่หุ้นสามัญเพิ่มขึ้น
จาก 98 000 000 หุ้นเป็น 490 000 000 หุ้น
3) อนุมัติให้บริษัท แก้ไขข้อความในหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 4. ของบริษัท เพื่อให้
สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นเป็นข้อความดังนี้
" ข้อ 4. ทุนจดทะเบียนจำนวน 490 000 000 ล้านบาท (สี่ร้อยเก้าสิบล้านบาท)
แบ่งออกเป็น 490,000,000 หุ้น (สี่ร้อยเก้าสิบล้านหุ้น) มูลค่าหุ้นละ 1 บาท (หนึ่งบาท)
โดยแยกออกเป็น
หุ้นสามัญ 490,000,000 หุ้น (สี่ร้อยเก้าสิบล้านหุ้น)
หุ้นบุริมสิทธิ - หุ้น (ไม่มี) "
4) อนุมัติให้บริษัท เพิ่มทุนจดทะเบียนจากจำนวน 490,000,000 บาท เป็นจำนวน 1,225,000,000 บาท
โดยการออกหุ้นสามัญใหม่ จำนวน 735 000 000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท
5) อนุมัติให้บริษัท แก้ไขเพิ่มเติมข้อความในหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 4. ของบริษัท
เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนเป็นข้อความดังนี้
" ข้อ 4. ทุนจดทะเบียนจำนวน 1,225, 000,000 บาท (หนึ่งพันสองร้อยยี่สิบห้าล้านบาท)
แบ่งออกเป็น 1,225,000,000 หุ้น
(หนึ่งพันสองร้อยยี่สิบห้าล้านหุ้น) มูลค่าหุ้นละ 1 บาท (หนึ่งบาท)
โดยแยกออกเป็น
หุ้นสามัญ 1,225,000,000 หุ้น (หนึ่งพันสองร้อยยี่สิบห้าล้านหุ้น)
หุ้นบุริมสิทธิ - หุ้น (ไม่มี) "
6) อนุมัติให้บริษัท ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท
จำนวน 245 000 000 หน่วย (สองร้อยสี่สิบห้าล้านหน่วย) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท
ซึ่งมีชื่อในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2546 เวลา 12.00 น. โดยมีรายละเอียดดังนี้
(6.1) ประเภทของใบสำคัญแสดงสิทธิ : ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ
ของบริษัท ลีพัฒนาผลิตภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1 (LEE-W1)
(6.2) ชนิด : ระบุชื่อผู้ถือและเปลี่ยนมือได้
(6.3) จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ : 245 000 000 หน่วย (สองร้อยสี่สิบห้าล้านหน่วย)
(6.4) วิธีการเสนอขาย : จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ซึ่งมีชื่อปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียน
ผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2546 เวลา 12.00 น.
ในสัดส่วน 2 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ
จากมูลค่าหุ้นๆ ละ 5 บาท เศษของหุ้นให้ปัดทิ้ง ทั้งนี้
หากมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นเป็นหุ้นละ 1 บาทแล้ว
อัตราส่วนดังกล่าวจะเท่ากับ 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 5 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ
(6.5) ราคาเสนอขาย : 0 บาท (ศูนย์บาท) ต่อหน่วย
(6.6) ราคาใช้สิทธิ : 4 บาท (สี่บาท) ต่อหุ้น หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นเป็นหุ้นละ 1 บาท (หนึ่งบาท)
(6.7) อัตราการใช้สิทธิ : ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น
(6.8) จำนวนหุ้นที่ออกเพื่อรองรับการใช้สิทธิ : 245 000 000 หุ้น (สองร้อยสี่สิบห้าล้านหุ้น)
(6.9) อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ : 5 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
(6.10) ระยะเวลาการใช้สิทธิ : วันทำการสุดท้ายของไตรมาสแรกภายหลังจากครบกำหนด 1 ปี
นับตั้งแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ หลังจากนั้นวันใช้สิทธิครั้งต่อๆ ไปคือ
วันทำการสุดท้ายของทุกๆ ไตรมาสของรอบปีบัญชีของบริษัท
(6.11) ตลาดรองของใบสำคัญแสดงสิทธิ : บริษัทจะนำใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกและเสนอขายในครั้งน
ี้เข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต่อไป
(6.12) ผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น : จำนวนหุ้นที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิ คิดเป็นร้อยละ 33.33
ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังจาก
มีการจ่ายหุ้นปันผลซึ่งเท่ากับจำนวน 735 000 000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท
(6.13) ระยะเวลาเสนอขาย : ให้คณะกรรมการบริษัทหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท
เป็นผู้พิจารณากำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดต่อไป
(6.14) เหตุในการปรับอัตราการใช้
สิทธิและราคาใช้สิทธิ : เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน กลต. กำหนด
(6.15) ระยะเวลาแสดงความจำนง
ในการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย : ไม่น้อยกว่า 15 วันก่อนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย
(6.16) ข้อกำหนดกรณีที่มีใบสำคัญ
แสดงสิทธิเหลืออยู่ : ไม่มี
โดยคณะกรรมการได้พิจารณาแล้วเห็นว่าราคาใช้สิทธิดังกล่าวเป็นราคาที่เหมาะสม เนื่องจากราคาใช้สิทธิ
ดังกล่าวได้กำหนดจากการเทียบเคียงกับมูลค่าหุ้นของบริษัทตามมูลค่าทางบัญชี (มูลค่าทางบัญชีของหุ้นของบริษัท
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2546 เท่ากับ 13.33 บาทต่อหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้น ณ ขณะนั้นหุ้นละ 5 บาท)
ซึ่งราคาใช้สิทธิดังกล่าวนั้นสูงกว่ามูลค่าหุ้นของบริษัทตามมูลค่าทางบัญชี
7) อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 735 000 000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท ดังนี้
(7.1) หุ้นจำนวน 245 000 000 หุ้น จัดสรรไว้เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล
(7.2) หุ้นจำนวน 245 000 000 หุ้น จัดสรรไว้เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด
ตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ กจ.12/2543
ลงวันที่ 22 มีนาคม 2543 โดยการเสนอขายดังกล่าวอาจเป็นการเสนอขายในคราวเดียวกันทั้งจำนวน
หรือเป็นคราว ๆ ไปก็ได้ ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้นดังกล่าว จะต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของราคาปิดเฉลี่ยของหุ้น
ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเวลาก่อนที่จะมีการเสนอขาย โดยให้คณะกรรมการบริษัทเป็นผู้มีอำนาจ
กำหนดจำนวนวันที่จะใช้ในการคำนวณราคาปิดเฉลี่ยได้
อนึ่ง การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวจะกระทำขึ้นภายหลังจากที่บริษัทได้จดทะเบียน
เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้เป็นหุ้นละ 1 บาทแล้ว รวมทั้งให้คณะกรรมการบริษัทหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
จากคณะกรรมการบริษัทเป็นผู้พิจารณากำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดในการจัดสรรหุ้นสามัญและ
เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวต่อไป
(7.3) หุ้นจำนวน 245 000 000 หุ้น จัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่
จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (LEE-W1) ตามรายละเอียดในข้อ 6 ข้างต้น
8) อนุมัติการแก้ไขข้อบังคับของบริษัท ข้อ 46 โดยให้ยกเลิกข้อความเดิมและให้ใช้ข้อความใหม่ดังนี้
ข้อ 46. ในกรณีที่บริษัทหรือบริษัทย่อยตกลงเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน หรือ
รายการเกี่ยวกับการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทหรือบริษัทย่อยตามความหมายและ
หลักเกณฑ์ที่กำหนดตามประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ใช้บังคับกับการทำรายการท
ี่เกี่ยวโยงกันของบริษัทจดทะเบียน หรือการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน
แล้วแต่กรณี ให้บริษัทปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่ประกาศดังกล่าวกำหนดไว้ในเรื่องนั้นๆ ด้วย
9) อนุมัติแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินใน
การออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ลีพัฒนาผลิตภัณฑ
จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้
10) กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น ในวันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2546 ตั้งแต่เวลา 12.00 น.
เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลและใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ลีพัฒนาผลิตภัณฑ์
จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้ รวมทั้งสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2546
จนกว่าการประชุมจะแล้วเสร็จ
11) กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2546 ในวันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม 2546 เวลา 14.30 น.
ณ ห้องประชุม ชั้น 1 อาคารวอลล์สตรีททาวเวอร์ เลขที่ 33/21-24 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก
กรุงเทพมหานคร โดยมีระเบียบวาระการประชุมดังนี้
วาระที่ 1 พิจารณารับรองรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2546 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2546
วาระที่ 2 พิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ปี 2546 ครั้งที่ 1/2546
วาระที่ 3 พิจารณาเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้น (Par Value) จากหุ้นละ 5 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท
วาระที่ 4 พิจารณาอนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมข้อความในหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4. ของบริษัท
เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้น (Par Value)
วาระที่ 5 พิจารณาอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จากเดิม 490 ล้านบาท เป็น 1 225 ล้านบาท
วาระที่ 6 พิจารณาอนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมข้อความในหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4 ของบริษัท เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุน
วาระที่ 7 พิจารณาอนุมัติออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท
วาระที่ 8 พิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน
วาระที่ 9 พิจารณาอนุมัติการแก้ไขข้อบังคับของบริษัทข้อ 46.
วาระที่ 10พิจารณาเรื่องอื่น ๆ (ถ้ามี)
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
( นายนิพนธ์ ลีละศิธร )
ประธานกรรมการบริหาร
และกรรมการผู้จัดการ
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
เกิดอะไรขึ้นกับ LEE ครับ?????
โพสต์ที่ 4
insider trading นี่ก้อผิดกฎหมายใช่มั้ยครับ แต่ผมว่าคงจะจับยาก
LEE นี่ให้ปันผลแบบแปลกๆทุกปี ปีนี้ดันให้หุ้นวอร์แรนต์เสียอีก เฮ้อ เอาไงดีเนี่ย
LEE นี่ให้ปันผลแบบแปลกๆทุกปี ปีนี้ดันให้หุ้นวอร์แรนต์เสียอีก เฮ้อ เอาไงดีเนี่ย
-
- ผู้ติดตาม: 0
เกิดอะไรขึ้นกับ LEE ครับ?????
โพสต์ที่ 5
เรื่องเช่นนี้ควรจะเป็นข่าวหน้าหนึ่งมากกว่าการ Net Settlement ตลากและหน่วยงานน่าจะสอบสวน
ก็ยังสงสัยอยู่ว่ามันวิ่งติดจรวดจาก24 ไป 35 เพราะอะไร
น่าเสียดายหุ้นปันผลดีอีกตัวหนึ่งที่ต้องทิ้งไป
ก็ยังสงสัยอยู่ว่ามันวิ่งติดจรวดจาก24 ไป 35 เพราะอะไร
น่าเสียดายหุ้นปันผลดีอีกตัวหนึ่งที่ต้องทิ้งไป
-
- Verified User
- โพสต์: 920
- ผู้ติดตาม: 0
เกิดอะไรขึ้นกับ LEE ครับ?????
โพสต์ที่ 6
ขอยืนยันครับตัวนี้มีอินไซด์ รอบที่แล้วที่ปันผลเป็นหุ้นก็ขึ้นก่อนประกาศหลายวัน หลังจากนั้นก็ลงครับ และราคาจะขึ้นไปแบบไม่เหลือส่วนลดแล้ว ถงแม้ว่าบริษัทจะมีแนวโน้มดีแต่ถ้าใครเข้าไปซื้อตอนนี้คงต้องถือยาวเพราะจะไม่ได้ส่วนต่างราคาแล้ว แต่จะได้ปันผล