หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 1:05 pm
โดย Jeng
Case study pttep
2001 eps 16.71
2002 eps 18.54
2003 eps 18.44
2004 eps 24.31
2005 eps 36.29
4 ปีที่ผ่านมา eps pttep โต 21.39 % ยึดหลักคอนเซอร์เวทีฟ สมมุติว่า pttep โตต่อไปอีก 5 ปี ปีละ 15 % นั่นหมายถึง ปี 2010 eps pttep เท่ากับ 72.99
ในปี 2010 สมมุติว่า pttep เทรดที่ PE 15 ราคาจะเท่ากับ 1094.85
ถ้าเราต้องการผลตอบแทนการลงทุน เท่ากับ 20 % ต่อปี ตลอดระยะเวลา 5 ปี ณ ปัจจุบันไปถึงปี 2010
เราจะต้องซื้อ pttep ณ เวลานี้ที่ราคาเท่าไร
คำตอบ คือ 439.99 หรือ 87.99
ถ้าเราซื้อ ทีราคาปัจจุบัน 136 แล้วถือไป 5 ปี ราคาจะเป็น 1094.85/5 เท่ากับ 218.97 เราก็ยังคงได้ผลตอบแทน 9.99 % คิดเป็นดอกเบี้ยทบต้น และนั่นคือการตั้งสมมุติฐานว่า pttep กำไรโต 15 % ตลอดระยะเวลา 5 ปีนะครับ
หมายเหตุ อย่างไรก็ตาม เราต้อง bet ว่า กำไรโต 15 % ตลอด 5 ปีข้างหน้า ซึ่งถ้าไม่โตตามนั้น เราจะเสี่ยงมาก ถ้าเป็นผม ผมจะเลือกหุ้นที่ได้ผลตอบแทนนะวันนี้ ผมพอใจ ในกรณีถ้ามีการโต ก็เป็นของแถม ซึ่งในกรณี pttep ซื้อราคา 136 คูณ 3274.66 ล้านหุ้น ราคาทั้งบริษัท 445353.76 ล้านบาท กำไร 23,734 ล้านบาท เท่ากับผลตอบแทน 5.32 %
ถ้าเป็นผม ผมรอราคา ให้ได้ผลตอบแทน ซัก 8 % 10 % เป็นอย่างน้อย สำหรับหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโต 15 %
นั้นหมายถึงผมจะรอราคา 90-72.47 บาทครับ
หมายเหตุ เคสนี้เป็นเคสที่สอนไป 10 รุ่น รุ่นละ 5 คน
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 1:28 pm
โดย david
Oh!My god!!!!!
Dear Khun Jeng,
Then,how much will be 4 the price of PTT?What SET will b?
Re: ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 1:50 pm
โดย Accidental Hero
[quote="Jeng"]ซึ่งในกรณี pttep ซื้อราคา 136 คูณ 3274.66 ล้านหุ้น ราคาทั้งบริษัท 445353.76 ล้านบาท กำไร 23,734
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 1:57 pm
โดย Jeng
โค้ด: เลือกทั้งหมด
นั่นคือ พี่เจ๋งรอ pe ให้อยู่ที่ 12-10 เท่า
ผมสรุปประเด็นของพี่เจ๋งได้ว่า
ถ้าหุ้นมี growth 15% ต่อปี เราซื้อที่ p/e 10-12 เท่า ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน
ตรงกับที่พี่เจ๋งบอกไหมครับ
ครับ ถ้าซื้อ pe 10 - 12 แล้วมี growth เป็นของแถม ซึ่งต่อให้ไม่ถึง 15 % เช่น 10 % ก็ยังโอเคนะ
แต่ไม่เน้นให้ซื้อ pe แพงมากๆเช่น เกิน 20 ไปมากๆ
แล้วไปหวังแต่ growth
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 2:01 pm
โดย Jeng
โค้ด: เลือกทั้งหมด
พี่เจ๋งครับ ตัวเลขที่ว่ามานี้ มันคือค่า P/E นี่ครับ
ราคา 136 x 5 = 680
eps 36.29 => p/e 18.74
ผลตอบแทน 5.32 % คือ 100/(ค่า pe ratio) = 100/18.74
อันนี้คิดง่ายๆว่า 5.32 % คือ e/p ครับ
แต่ที่คำนวณมาก็ถูกต้องครับ
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 2:15 pm
โดย Accidental Hero
ที่ผมกำลังค้นหาอยู่คือ
อะไร คือตัวชี้ว่า ธุรกิจ จะมี growth อย่างสม่ำเสมอ
คิดตามโจทย์ของพี่เจ๋ง
สมมติบริษัทหนึ่ง ถ้ามี growth สม่ำเสมอจริง สมมติว่า 10% ทุกปี
ราคา ณ วันนี้ p/e 20 เท่า
เริ่มต้น ราคา 200 บาท eps 10 บาท
ปีที่1 eps 11 บาท
ปีที่2 eps 12.1 บาท
ปีที่3 eps 13.31 บาท
ปีที่4 eps 14.64 บาท
ถึงสิ้นปีที่ 4 ถ้าตลาดให้ มาตราฐานของ p/e 10 เท่า ราคาหุ้นอาจจะอยู่แค่ 150 บาท
ดังนั้น ถ้าวันนี้ ธุรกิจร้อนแรง ซื้อขายที่ p/e 20 ต้องซื้อที่ราคา 200
อีก 4 ปีข้างหน้า ธุรกิจนี้เป็นแนวโน้มขาลง ตลาดอาจจะให้ p/e แค่ 10 เท่า ราคาอาจจะอยู่แค่ 150 บาท ก็ได้
แต่ถ้าเรารอซื้อวันนี้ ที่ p/e ต่ำๆ จะมีโอกาสกำไรในอนาคต
คำถาม คือว่า
1. ในระยะยาวอะไรที่กำหนดว่า ธุรกิจนี้ควรซื้อขายกันที่ p/e เท่าไร
2. การคาดการณ์กำไรในอนาคตของบริษัท ว่าจะมีการเติบโตแค่ไหน ตัวเลขต่างๆ ที่เป็นข้อมูลทางการเงินปัจจุบัน บอกได้หรือไม่
3. ผมว่า นอกจาก ตัวเลขทางการเงินต่างๆ ที่บริษัทเปิดเผยมา ผมว่า "กึ๋น" ในการคาดการณ์ธุรกิจนั้นๆ เป็นอีกส่วนที่สำคัญมากนะครับ
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 6:36 pm
โดย Jeng
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ที่ผมกำลังค้นหาอยู่คือ
อะไร คือตัวชี้ว่า ธุรกิจ จะมี growth อย่างสม่ำเสมอ
อะไรที่จะชี้ว่า สม่ำเสมอ คงยาก
นี่ขนาดสมมุติว่า โต 15 % ทุกปี และให้ pe ที่ค่อนข้างสูงคือ 15
ถ้าต้องการ 20 % ทบต้น ยังต้องซื้อ 88
ถ้าโม่โต 15 % ถ้าไม่ใช่ pe 15 อย่าง Accidental Hero ว่าไว้
กลับต้องซื้อต่ำกว่า 88 อีกนะครับ
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 7:42 pm
โดย offshore-engineer
ผมขอคัดลอกสิ่งที่ผมเขียนตอบไว้ในกระทู้ พี่เทพทะยานฟ้า ซึ่งในกระทู้นั้น พี่เจ๋งได้นำ Case Study นี้มากล่าวถึงด้วย
ผมคิดว่าการมองเชิงลึกจะทำให้เรามองเห็นภาพที่แท้จริงได้กระจ่างขึ้น และสามารถมองเห็นไปข้างหน้าได้ไกล และ แม่นยำขึ้นครับ
ส่วนการตัดสินใจว่าจะซื้อหรือจะขาย หรือ ความคิดว่า ราคาหุ้นจะถูกหรือแพง คงเป็นความเห็นของแต่ละคนซึ่งแตกต่างกันได้
หากดูจากปริมาณการผลิตที่ทางบริษัทคาดการณ์จากปี 2006-2010
2006 = 179,000 BOED (Forecast)
2007 = 224,000 BOED (Forecast)
2008 = 236,000 BOED (Forecast)
2009 = 240,000 BOED (Forecast)
2010 = 238,000 BOED (Forecast)
โดยที่ในปี 2005 = 153,531 BOED (Actual)
Product Mix ในปี 2005 = 50:50 Gas:Liquid
สำหรับปี 2006 บริษัทคาดว่า Product Mix 44:56 Gas:Liquid
ส่วนในระยะยาว Product Mix = 50:50 Gas:Liquid
จากข้อมูลเบื้องต้นจะเห็นว่า Production Rate จะเริ่ม peak และ plateau จากปี 2008 ถึงปี 2010 นั่นคือเพิ่มขึ้น ประมาณ 50% หากเทียบกับปี 2005 ดังนั้นคำถามคือ ณ ปี 2008 EPS ของ PTTEP ควรจะเป็นเท่าไหร่ หากสมมติว่า ราคาขายเฉลี่ยของน้ำมันดิบและคอนเดนเสทอยู่ทีประมาณ 60 เหรียญ และ ราคาก๊าซอยู่ที่ประมาณ 3.41 เหรียญ
ในปี 2005 EPS = 36.29 ราคาขายน้ำมันดิบเฉลี่ยที่ 51 เหรียญ ในขณะที่ก๊าซอยู่ที่ 3.41 เหรียญ (หากไม่นับรวมค่า Subsidy ที่ PTTEP จ่ายล่วงหน้าให้กับ PTT ราคาขายก๊าซในไตรมาสที่ 4 อยู่ 3.8 เหรียญโดยประมาณ)
ผมสมมติให้ Profit Margin คงที่ ผมจะประมาณ EPS ในปี 2008 ได้เท่ากับ 60 บาทต่อหุ้น (เป็นสัดส่วนโดยตรงกับปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น)
EPS ในอีก 2-3 ปีถัดไปจนถึง 2010 น่าจะคงที่ หากราคาขายผลิตภัณฑ์ไม่เปลี่ยนแปลง
ตอนนี้การเริ่มการผลิตจากแหล่งอาทิตย์อาจจะมีการเลื่อนออกไป อย่างน้อยก็ต้องเป็น 6-12 เดือน ซึ่งจะทำให้ปริมาณการผลิตในปี 2007 น่าจะไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยอาจจะเพียงแค่เท่ากับหรือมากกว่าในปี 2006 เล็กน้อย อย่างไรก็ดี ในปี 2008 น่าจะสามารถทำการผลิตได้ตามคาดการณ์หากแหล่งอาทิตย์ไม่ได้เลื่อนการผลิตไปไกลจนเกินไป
ปัจจัยอะไรบ้างที่จะมีผลกระทบต่อ กำไรของ PTTEP
1. ราคาขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม แน่นอน หากยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กำไรสุทธิของ PTTEP ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
2. การประสบความสำเร็จในการสำรวจแหล่งน้ำมันหรือก๊าซ จนสามารถพัฒนาเพื่อการพาณิชย์ได้ ในขณะนี้แหล่งที่มีความเป็นไปได้ คือ แหล่งน้ำมันในเวียตนาม 16-1 และ 9-2 ซึ่งพยายามจะเร่งการผลิต First Oil ให้ได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยอาศัย Facilities จาก แหล่งใกล้เคียง แหล่งก๊าซในพม่า แต่คงยังไม่ใช่ในเร็วๆนี้ หรือแม้กระทั่งการเพิ่ม Production ในแหล่ง เบญจมาสและทานตะวัน ซึ่ง ณ ปัจจุบันสามารถผลิตได้ถึง 60,000 BPD
การจะประเมินมูลค่าของ PTTEP ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ราคาน้ำมันจะมีแนวโน้มไปในทิศทางใดในอนาคต หากคุณเชื่อว่า Era of Cheap Oil is Over อันเนื่องมาจากว่า แหล่งน้ำมันที่ขุดเจอง่ายๆ ไม่มีแล้ว แหล่งน้ำมันที่เหลืออยู่จะต้องใช้เงินลงทุนสูงในการขุดเจาะขึ้นมา ผมคิดว่าการลงทุนระยะยาวใน PTTEP น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ๆ อย่างไรก็ดี ทรัพยากรธรรมชาติใช้แล้วก็หมดไป
ดังนั้น คงจะต้องมาดูกันว่า PTTEP จะหาแหล่งปิโตรเลียมอื่นๆ มาทดแทนได้มากน้อยเพียงใด และ ต้นทุนที่ต้องใช้ในการหาแหล่งปิโตรเลียม และ การพัฒนาจะเป็นเท่าใด ผมคิดว่าคงไม่ถูกเหมือนในอดีต
การจะหามูลค่าของ PTTEP คงต้องชั่งน้ำหนักระหว่างประเด็นทั้งสองให้ถี่ถ้วนครับ
(ผมมีหุ้น PTTEP อยู่ อาจจะทำให้ความเห็นของผมไม่เป็นกลาง หรือ โอนเอนไปข้างใดข้างหนึ่งได้ โปรดใช้ความคิดให้รอบคอบก่อนลงทุนครับ)
ข้อมูลที่ผมเก็บจนถึงเดือนเม.ย.-พ.ค. ชี้ให้เห็นว่า ราคาขายก๊าซ และ น้ำมัน ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าในไตรมาสที่ 1 ปริมาณการผลิตก๊าซและน้ำมันโดยรวมยังคงทำได้สูงกว่าในไตรมาสที่ 1 แหล่งน้ำมันจาก B8/32 สามารถผลิตได้มากกว่า 63,000 บาร์เรลต่อวัน และ แหล่งสิริกิติ์สามารถผลิตได้มากกว่า 20,000 บาร์เรลต่อวันซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ประมาณ 17,000-18,000 ที่ทำได้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี แหล่งนางนวลยังคงมีปัญหาในการผลิตอยู่ซึ่งสังเกตุได้จากอัตราการผลิตที่ลดลงเหลือเพียง 240 บาร์เรลต่อวัน
ถ้าคิดตามหลักของ Bill Nygren บริษัทที่อยู่เหนือค่าเฉลี่ยควรจะมี P/E มากกว่าค่าเฉลี่ย
คิดเล่นๆนะครับ ถ้าให้ P/E อยู่ที่ 15 เท่า และในปี 2008 PTTEP สามารถทำกำไรได้ 60 บาทต่อหุ้นตามที่สมมติ ราคาของ PTTEP ควรจะอยู่ที่ 900 บาท (คิดที่ Par 5 บาท ก่อนละครับ ยังไม่คุ้นกับตัวเลขที่ Par 1 บาท)
เงินปันผลที่คาดว่าจะได้รับในปี 2006, 2007 และ 2008 น่าจะเท่ากับ 16, 20 และ 20 บาท ตามลำดับ
ถ้าซื้อที่ราคาปิดวันนี้ ที่ 675 บาท จะทำให้ได้รับ Total Return = 281 บาท หรือ 40% ในระยะเวลา 3 ปี หรือ เฉลี่ย 12.3% ต่อปี
หากคิดว่า ได้เครดิตภาษีเงินปันผลมาทั้งหมด Total Return = 14.4% ต่อปี
การประเมินข้างต้นเป็นการประเมินตามความคิดเห็นของผม ตามสมมติฐานที่กล่าวไว้นะครับ ระยะเวลา 3 ปี เป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างยาว ความไม่แน่นอนทั้งหลายอาจเกิดขึ้นได้ทำให้ข้อสมมติฐานผิดเพี้ยนไปทั้งหมดก็ได้ เพราะฉะนั้นควรใช้ความคิดให้รอบคอบนะครับ
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 11, 2006 7:14 am
โดย Jeng
คุณ offshore-engineer
ช่วยประเมิณหน่อยซิว่า ถ้าราคา 102 นี่ ซื้อตอนนี้ ถือไป 3 ปี จะได้ผลตอบแทน การลงทุนประมาณเท่าไร ถ้าอีก 3 ปี pttep เทรดอยู่ที่ 10 12 15 17 20
เอาแบบยิงชุดเลย เราไม่รู้อนาคตว่า pttep จะเทรดอยูที่เท่าไร
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 11, 2006 11:52 am
โดย wisut
ถ้าคาดการณ์อนาคตไม่ได้ อย่าลงทุนคับ
PTTEP ไม่ใช่หุ้น VI
OVERPRICE
รอเวลาเจ็บตัวได้เลยคับ
อย่าโกรธนะคับ ผมแค่แสดงความเห็น
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 11, 2006 1:25 pm
โดย woody
wisut เขียน:ถ้าคาดการณ์อนาคตไม่ได้ อย่าลงทุนคับ
PTTEP ไม่ใช่หุ้น VI
OVERPRICE
รอเวลาเจ็บตัวได้เลยคับ
อย่าโกรธนะคับ ผมแค่แสดงความเห็น
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดคุณ wisut มี 2 ใจความสำคัญจากประโยคข้างต้น
1. ถ้าคาดการณ์ไม่ได้ อย่าลงทุน......เป็นคำแนะนำ
2. pttep ไม่ใช่หุ้น VI....overprice
ผมขอรบกวนถามคุณ wisut ในส่วนที่สองนะครับว่าพิจารณาจากข้อมูลด้านไหนบ้างครับอยากที่จะนำไปศึกษาเพิ่มเติมครับ
ปล. ผมไม่มี pttep นะครับ
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 11, 2006 1:41 pm
โดย por_jai
8) มารอฟังท่านวิสูตรด้วย
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 11, 2006 10:01 pm
โดย shanghai
ที่เขาซื้อ pe สูงๆกันตอนนี้เพราะคาดหวังว่า มันจะลดต่ำในอนาคต ถ้าคนยังคาดหวังกันว่าอีก 5 ปี pe ยัง 15 เท่าอยู่ตอนนี้ pe มันควรจะสูงไปถึง 30 เท่าเเล้วหรือไม่
ลองพิจารณาดูครับ
อีกทั้งอีก ห้าปีที่ผ่านมาสถานการณ์มันต่างกับอีกข้างปีข้างหน้าเเน่ๆ
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 12, 2006 10:22 am
โดย wisut
1/ ผลกำไร PTTEP อิงกับราคาน้ำมัน ซึ่งไม่มีใครคาดการณ์ราคาน้ำมันได้
ถ้าราคาน้ำมันเหลือ 40 เหรียญ ราคาหุ้นคงตกลงมาก
PTTEP เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ชัดเจนครับ
2/ อนาคตคาดการไม่ได้ ไม่รู้จะเจอน้ำมันอีกเมื่อไร กี่ปี กี่เดือน
บอกไม่ได้จริงๆ
3/ อาจารย์นิเวศน์เคย COMMENT ครับสำหรับ PTT, PTTEP
EPS โตมากผิดปกติ บางปีโตตั้ง 50% มันไม่ใช่การเติบโตตามปกติ
มันโตตามราคาสินค้าที่สูงขึ้นชั่วคราว
4/ ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาราคาหุ้น PTTEP พุ่งไม่หยุด
ลองถามตัวเองดูครับ ว่าเพราะคุณกำลังเก็งกำไรราคาน้ำมันรึเปล่า
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 12, 2006 11:12 am
โดย MarginofSafety
การประเมินมูลค่าของบริษัทที่ทำธุรกิจในลักษณะ Natural Resouces
มักใช้วิธี Net Asset Value (NAV) หรือประเมินจากมูลค่าของแหล่งทรัพยากรที่บริษัทมีอยู่
PTTEP ถือว่าเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำ และไม่มีความเสี่ยงในด้านการขาย
เนื่องจากผลิตได้เท่าไหร่ PTT ก็รับซื้อทั้งหมด
และบริษัทจดทะเบียนบ้านเราก็ไม่มีบริษัทใดที่ทำธุรกิจเช่นเดียวกับ PTTEP
ดังนั้นการจะหามูลค่าบริษัทโดยการใช้ P/E, P/BV จึงอาจจะไม่มีประโยชน์มากนัก
เนื่องจากไม่ทราบว่าจะเอาไปเปรียบเทียบกับใคร
ถึงแม้จะเอาไปเปรียบเทียบกับกลุ่มพลังงาน ก็คงไม่เหมาะสม
เนื่องจากแต่ละบริษัทก็ทำธุรกิจต่างกัน
เนื่องจากน้ำมันถือว่าเป็น commodity
ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับ Demand และ Supply เป็นหลัก
หากจะพิจารณา Demand และ Supply ของน้ำมันในปัจจุบัน
จะพบว่า Supply เท่ากับ Demand แล้ว
และมี Excess Capacity อีกไม่มากนัก
นั่นหมายความว่า ถึงแม้กลุ่ม OPEC จะผลิตเต็มกำลัง (Full Capacity Utilization)
ก็จะไม่สูงกว่า Demand มากแล้ว
ซึ่งต่างจากในอดีตที่ Supply สูงกว่า Demand พอสมควร
กลุ่ม OPEC จึงมีการกำหนด Price Band ขึ้น
หากราคาน้ำมันถูกเกินไป ก็จะลดกำลังการผลิต
หากราคาน้ำมันแพงเกินไปก็เพิ่มกำลังการผลิต
แต่ปัจจุบันกลุ่ม OPEC ไม่สามารถเพิ่ม Supply สูงๆ เพื่อควบคุมราคาน้ำมัน
เช่นในอดีตได้อีกต่อไป จากความต้องการบริโภคพลังงานที่สูง โดยเฉพาะจาก จีน อินเดีย
ดังนั้นหากมีอะไรมากระทบฝั่ง Supply แม้เพียงนิดเดียว
ราคาน้ำมันก็จะดีดตัวขึ้นทันที
พลังงานทดแทนในปัจจุบันก็ยังมีราคาสูงและยังไม่คุ้มค่าในการลงทุน
ประเด็นสุดท้ายก็คือหลุมแก๊ส/น้ำมันแต่ละหลุม ที่ PTTEP มีอยู่
ก็สามารถผลิตไปได้อีก 30 - 40 ปี
และ PTTEP ก็สามารถสำรวจเจอปีละกว่า 20 หลุม และมีความแม่นยำในการสำรวจกว่า 80%
(ผมฟังจากการอบรม หากผิดรบกวนคุณ offshore-engineer แก้ให้ด้วยครับ)
ปล. ผมมี PTTEP ดังนั้นในส่วน ความคิดเห็น ก็ไตร่ตรองให้รอบคอบ
หากจะตัดสินใจลงทุน PTTEP ครับ
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 12, 2006 12:12 pm
โดย offshore-engineer
Jeng เขียน:
คุณ offshore-engineer
ช่วยประเมิณหน่อยซิว่า ถ้าราคา 102 นี่ ซื้อตอนนี้ ถือไป 3 ปี จะได้ผลตอบแทน การลงทุนประมาณเท่าไร ถ้าอีก 3 ปี pttep เทรดอยู่ที่ 10 12 15 17 20
เอาแบบยิงชุดเลย เราไม่รู้อนาคตว่า pttep จะเทรดอยูที่เท่าไร
(คิดพาร์ที่ 5 บาทนะครับ)
EPS ในปี 2008 = 60 บาท (ประเมินจากปริมาณการผลิตที่บริษัทคาดการณ์ และให้ราคาขายผลิตภัณฑ์ใกล้เคียงกับปี 2005 และ ให้ NPM คงที่)
DIV สะสม ปี 2006 ถึง ปี 2008 = 16+16+20 = 52 บาท (ประเมิน Div Paidout Ratio ที่ 35%)
ถ้าซื้อที่ราคา 510 บาท (102 บาท ที่ราคาพาร์ 1 บาท) ผลตอบแทนจะเป็นดังนี้
กรณีไม่คิดเครดิตภาษีเงินปันผล (ผลตอบแทนรวมคิดระยะเวลาการลงทุน 3ปี)
P/E 10 เท่า ราคาปี 2008 = 600 บาท ผลตอบแทนรวม = 8.53%
P/E 12 เท่า ราคาปี 2008 = 720 บาท ผลตอบแทนรวม = 14.82%
P/E 15 เท่า ราคาปี 2008 = 900 บาท ผลตอบแทนรวม = 23.13%
P/E 17 เท่า ราคาปี 2008 = 1020 บาท ผลตอบแทนรวม = 28.10%
P/E 20 เท่า ราคาปี 2008 = 1200 บาท ผลตอบแทนรวม = 34.90%
กรณีคิดเครดิตภาษีเงินปันผล 100%
ผลตอบแทนจะเป็นดังนี้ 11.34%, 17.34%, 25.33%, 30.14% และ 36.74% ตามลำดับ
คำถามที่ต้องตระหนักให้มาก ๆ คือ
1. ศักยภาพในแหล่งที่ PTTEP กำลังสำรวจอยู่ เช่น พม่า และ ในอ่าวไทย
2. ราคาของปิโตรเลียมในอนาคต (คงเป็นการยากที่จะคาดเดาได้อย่างถูกต้อง แต่ความน่าจะเป็นที่ว่าน้ำมันราคาถูกหมดไปแล้วจะน่าจะค่อนสูง น้ำมันกลายเป็น
Strategic Commodity ไปแล้ว
Geopolitics กลายเป็นปัจจัยหนึ่งในการกำหนดราคาน้ำมัน อยากให้เพื่อน ๆ ได้อ่านหนังสือเรื่อง A Thousand Barrels A Second เขียนโดย Peter Terzakian)
3. ต้นทุนในการผลิต (มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ข้อมูลสามารถดูได้จากร้อยคนร้อยหุ้น)
4. ความสามารถในการเพิ่ม Reserve (ต้นทุนในการหา Reserve เพิ่มก็มีแนวโน้มสูงขึ้นเช่นกัน)
คำตอบต่อคำถามข้างต้น 4 ข้อ จะเป็นตัวกำหนดว่า Margin of Safety ของเรามีมากน้อยขนาดไหน
ที่สำคัญที่สุด คุณพร้อมจะเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทไปอีกกี่ปี
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 12, 2006 12:55 pm
โดย offshore-engineer
HVI เขียน:
ประเด็นสุดท้ายก็คือหลุมแก๊ส/น้ำมันแต่ละหลุม ที่ PTTEP มีอยู่
ก็สามารถผลิตไปได้อีก 30 - 40 ปี
และ PTTEP ก็สามารถสำรวจเจอปีละกว่า 20 หลุม และมีความแม่นยำในการสำรวจกว่า 80%
Reserve life อยู่ที่ 14 ปีเท่านั้นครับ (ตัวเลขจาก PTTEP Presentation for Analyst 1q 2006)
Proved Reserve ณ สิ้นปี 2005 อยู่ที่ 950 MMBOE
อย่างไรก็ดี Reserve life สำหรับแต่ละแหล่งการผลิต ก็จะแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น แหล่ง B8/32 ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันดับ จะมี Reserve life ประมาณ 6-7 ปีเท่านั้น
ดังนั้น PTTEP จึงต้องมีการลงทุนสำรวจ ทั้งในแหล่งเดิมและแหล่งใหม่ เพื่อหา Reservoir ใหม่ เพื่อเพิ่มปริมาณ Reserve
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 12, 2006 1:37 pm
โดย offshore-engineer
wisut เขียน:1/ ผลกำไร PTTEP อิงกับราคาน้ำมัน ซึ่งไม่มีใครคาดการณ์ราคาน้ำมันได้
ถ้าราคาน้ำมันเหลือ 40 เหรียญ ราคาหุ้นคงตกลงมาก
PTTEP เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ชัดเจนครับ
จริงครับน้ำมันเป็น Commodity แต่ในปัจจุบันเนื่องจากน้ำมันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศพัฒนาแล้วอย่าง USA หรือ ประเทศกำลังพัฒนา อย่าง จีน อินเดีย หรือ ไทย
น้ำมันจึงกลายเป็น Strategic Commodity และเนื่องจากแหล่งปิโตรเลียมกระจุกตัวอยู่เพียงบางประเทศเท่านั้น และ ประเทศที่บริโภคกลับไม่มีแหล่งปิโตรเลียมที่พอเพียงต่อการใช้ภายในประเทศ ทำให้ความไม่สมดุลทาง demand และ supply เกิดขึ้น
ทำไม USA จึงต้องมี SPR (Strategic Petroleum Reserve) อย่างพอเพียงสำหรับใช้เป็นเวลา 1 ปี และคุณจะไม่แปลกใจเลยที่จีนก็เริ่มสร้าง SPR ของตนเองแล้ว ในปัจจุบัน ระดับ SPR ของจีน มีอยู่เพียงไม่กี่เดือน ในขณะเดียวกันการเพิ่ม SPR ของจีนจะเป็นการช่วยการถือครอง US Dollar ในช่วงที่ US Dollar อ่อนค่าลง
ที่กล่าวมาไม่ได้บ่งบอกว่า ราคาน้ำมันควรจะเป็นเท่าไหร่ 40, 50, 60, 70 หรือ 100 แต่ความน่าจะเป็นที่ราคาน้ำมันจะอยู่ในระดับสูงนั้นมีมากครับ
wisut เขียน:
2/ อนาคตคาดการไม่ได้ ไม่รู้จะเจอน้ำมันอีกเมื่อไร กี่ปี กี่เดือน
บอกไม่ได้จริงๆ
บริษัทมีแผนงานที่ค่อนข้างชัดเจนครับ ว่าจะใช้เวลาในการสำรวจกี่ปี จะต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ เป็นการวางแผนในระยะยาวครับ
ที่ต้องเข้าใจคือ เราไม่รู้ว่าใต้ดิน แหล่งน้ำมันหรือก๊าซอยู่กันอย่างไร ความเสี่ยงตรงนี้จึงมี ซึ่งเป็นความเสี่ยงโดยธรรมชาติของธุรกิจนี้อยู่แล้ว คุณมารุตเคยบอกว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา PTTEP ค่อนข้างโชคดี เพราะขุดสำรวจไปที่ไหน ก็เจอน้ำมันหรือก๊าซ
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการคาดการณ์ถึงปริมาณการผลิต และ เงินทุนที่จะใช้ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งน่าจะทำให้เราเห็นภาพรวมได้ในระดับหนึ่ง
wisut เขียน:
3/ อาจารย์นิเวศน์เคย COMMENT ครับสำหรับ PTT, PTTEP
EPS โตมากผิดปกติ บางปีโตตั้ง 50% มันไม่ใช่การเติบโตตามปกติ
มันโตตามราคาสินค้าที่สูงขึ้นชั่วคราว
ต้องมาแยกแยะกันให้ละเอียดครับในประเด็นนี้สำหรับ PTTEP ว่า การเพิ่มขึ้นของกำไรมาจากอะไร และ ในสัดส่วนเท่าไหร่
ผมขอใช้ตัวเลขในปี 2001 และ 2005 เป็นตัวเปรียบเทียบครับ (ข้อมูลทั้งหมดนำมาจาก รายงานประจำปี 56-1 ปี 2005)
รายได้ในปี 2001 VS 2005 คือ 27.5 VS 66.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 141%
กำไรสุทธิ ปี 2001 VS 2005 คือ 10.9 VS 23.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 117%
ปริมาณการขาย ปี 2001 VS 2005 คือ 91.2 VS 153 พันBOED เพิ่มขึ้น 67%
ราคาขายเฉลี่ย ปี 2001 VS 2005 คือ 18.68 VS 29.37 USD/BOED เพิ่มขึ้น 57%
ราคาขายน้ำมันดิบเฉลี่ย ปี 2001 VS 2005 คือ 22.49 VS 51.02 USD/BBLเพิ่มขึ้น 126%
ราคาขายก๊าซเฉลี่ย ปี 2001 VS 2005 คือ 2.95 VS 3.41 USD/MMBTU เพิ่มขึ้น 15%
ผมไม่มีตัวเลข Product Mix ในปี 2001 แต่ในปี 2005 Product Mix ระหว่าง Gas:Liquid = 50:50 ผมคิดว่า ในปี 2001 Gas น่าจะมากกว่า Liquid พอสมควร อาจจะ 65:35 ก็เป็นได้
สรุปคือ การเพิ่มขึ้นของรายได้และกำไรสุทธิ มาจากการเพิ่มขึ้นของการผลิตและปริมาณการขาย ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งคือการเพิ่มขึ้นของราคาขาย อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันเท่านั้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะที่ ราคาก๊าซปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 15% ในช่วง 5ปีที่ผ่านมา ทำให้ผมสรุปว่า การเพิ่มขึ้นของการผลิตมีส่วนสำคัญมากกว่าการเพิ่มขึ้นของราคาขาย การเพิ่มขึ้นของราคาขายเป็นโบนัสครับ
wisut เขียน:
4/ ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาราคาหุ้น PTTEP พุ่งไม่หยุด
ลองถามตัวเองดูครับ ว่าเพราะคุณกำลังเก็งกำไรราคาน้ำมันรึเปล่า
น่าจะลองดูที่พื้นฐาน และ ผลประกอบการมากกว่าการมองดูว่าราคาหุ้นวิ่งไม่หยุด เพราะนั่นเป็นเพียง Market Expectation.
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 12, 2006 1:38 pm
โดย Jeng
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 12, 2006 2:54 pm
โดย kondee
สื่งที่ผมสงสัยมากที่สุด ของ PTTEP คือควรจะซื้อขายกันที่
PE เท่าไหร่ กันแน่
ปัจจุบัน Exxon Mobil ซื้อ-ขาย กันที่ PE 10 แล้ว ปัจจุบัน
ของ PTTEP ล่ะ?
ถ้าคุณเป็นเจ้าของเงิน คุณจะเลือกซื้อหุ้นที่บริษัทใหญ่กว่า
และราคาแพงกว่าแค่กำไร 10 เท่า หรือ ซื้อหุ้นบริษัทเล็ก
กว่ามาก แถมราคาก็แพงกว่ากำไร 12-13 เท่า??
หรือ PTTEP สามารถ ซื้อ-ขาย ที่ราคาแพงกว่า 12-13 เท่า
ได้เพราะจะมี growth มากกว่า Exxon Mobil ??
ถ้าคิดที่ PE 10 เท่า PTTEP ควรซื้อ-ขายกันที่ 11*4*10 =
88 บาท
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 12, 2006 3:47 pm
โดย สามัญชน
เป็นอีกหนึ่งกระทู้ที่ยอดเยี่ยมมากครับ.......
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 12, 2006 5:22 pm
โดย wisut
นับถืออย่างสูงครับ
ข้อมูลเยี่ยมมากครับ
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 13, 2006 12:02 am
โดย mr.w
เก้า ที่ สี่
:lol: :lol: :lol:
ช่วยวิจารณ์แนวคิดแบบนี้ด้วยครับ >>> PTTEP
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 13, 2006 1:34 am
โดย shanghai
รอที่ 88 กันอยู่หรอ
อิอิ