หน้า 1 จากทั้งหมด 2

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 07, 2006 6:24 pm
โดย คัดท้าย
เราควรลงทุนอย่างไรครับ หุ้นกลุ่มไหนควรเลี่ยง กลุ่มไหนถือฝ่าพายุได้มั่งครับ ??

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 07, 2006 6:27 pm
โดย คัดท้าย
ตี Scope เข้ามาหน่อย .... ไม่มองที่ราคาหุ้น

มองที่ผลประกอบการ ว่าถ้ามีพายุเศรษฐกิจ ... ผลประกอบการจะไม่ตก ไม่โตไม่ว่า แต่ไม่ตก ... คิดว่ามีตัวไหนมั่งครับ ??

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 07, 2006 6:47 pm
โดย สุมาอี้
หลีกเลี่ยงหุ้นส่งออก

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 07, 2006 7:05 pm
โดย Raphin Phraiwal
สุมาอี้ เขียน:หลีกเลี่ยงหุ้นส่งออก
แล้วหุ้นที่มีการส่งออกไปประเทศอื่นที่ไม่ใช่ 'เมกาจะมีผลกระทบเหมือนกันไหมครับ

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 07, 2006 7:37 pm
โดย คัดท้าย
สุมาอี้ เขียน:หลีกเลี่ยงหุ้นส่งออก
ประเทศไทยพึ่งพาการส่งออกแค่ไหนครับ ?? ธุรกิจอะไรจะโดน Side Effect มั่ง ??

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 07, 2006 7:45 pm
โดย shanghai
เเบงค์ครับ ดอกจะขึ้นอีก

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 07, 2006 7:50 pm
โดย สามัญชน
สุมาอี้ wrote:
หลีกเลี่ยงหุ้นส่งออก
เฉพาะส่งออกไปเมกาหรือรวมส่งออกไปประเทศอื่นด้วยครับ

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 07, 2006 8:25 pm
โดย สุมาอี้
ทั้งยุโรปและญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นพอดีครับ น่าจะดีกว่าสหรัฐ

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 07, 2006 9:24 pm
โดย uI7J3w
คำถามพี่คัดท้ายน่าสนใจครับ แต่ประเด็นที่ผมอยากรู้อีกนิดว่า ตอนนี้ อเมริกา
ยังเป็นขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจแต่เพียงผู้เดียวหรือเปล่า

ถ้าไม่ใช่ ผมว่าหันหัวไปหาธุรกิจส่งออกอีกขั้วก็ยังพอไหวนะครับ
คิดเอาไว้ว่ายังไงก็น่าจะโตต่อได้ครับ

เหอๆๆ

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 07, 2006 9:57 pm
โดย matrix
ดูก่อนท่านผู้มีสติทั้งหลาย  เมื่อครั้งอเมริกาฟองสบู่แตกเล็กๆราวทศวรรษที่ 70
ญี่ปุ่นเงินใหญ่กว่าใคร   เที่ยวซื้อทรัพย์สินในอเมริกาเป็นว่าเล่น  พอเมกาฟื้น  ญี่ปุ่นแย่  
พี่กันก็มาซื้อคืน  ไปๆมาๆแบบนี้แหละท่านทั้งหลาย....อ้อ ถ้าตลาดอสังหาพี่กันล้มล่ะก้อ...
มันจะพากันล้มระเนระนาดเป็นโดมิโน  จนหน้าดำไปทั่วโลก  ทางที่ดี  ควรหาทางไม่ให้
ตัวเองแย่กว่าคนอื่นก่อน จะดีกว่านะท่าน  เหมือนเกิดโรคระบาด  ควรป้องกันตัวเองและ
ครอบครัวให้ปลอดภัยก่อน  ไม่ใช่มาหาวิธีเอาชนะโรค  เพราะท่านอาจไม่มีชีวิตอยู่เพื่อทราบ
ผลที่แท้จริงของมันครับ...

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 07, 2006 10:01 pm
โดย nanchan
หุ้นที่ไม่น่ามีผลกระทบ แต่ผลประกอบการจะดีขึ้นรึเปล่าไม่รู้
siam ส่งญี่ปุ่นและอินโด อันนี้ไม่น่าจะเกี่ยวพันกับอสังหา สินค้าที่กำลังทำรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำไม่ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจซะทีเดียว
Kcar ให้เช่ารถภายในประเทศ
se-ed ขายหนังสือในประเทศ
tipco ส่วนมากส่งยุโรปโดยเฉพาะรัสเซียชอบกินสัปรด และน้ำผลไม้ในปท
city ฃายในปท เห็นว่ากำลังส่งออกไปไหนไม่รู้
hemraj amata rojana ticon ขายในปท
โรงพยาบาลเกือบทุกตัว
กลุ่มอาหาร cpf gfpt ไม่รู้คนจะกินกุ้งไก่น้อยลงเปล่า ไม่มีตังส์อาจต้องกินแกลบแทน
cpn sf major centel
กลุ่มสื่อสาร

หุ้นที่อาจจะมีผลกระทบทางอ้อม
svi ส่งออกไปยุโรปเป็นหลัก รองมาญี่ปุ่น ถ้าจำไม่ผิด
rcl เรือ วิ่งในภูมิภาคเอเซียเป็นหลัก
atc ส่งออกจีน แต่ก็ผลกระทบทางอ้อมเพราะจีนส่งเมกาอีกที
vng ส่งออกมากขึ้นมาจากความต้องการจากจีน แต่กลัวว่ากำลังผลิตในจีนจะเหลือ
กลุ่มอสังหาเกือบทุกตัว


หุ้นที่คิดว่าน่าจะเลี่ยง
กลุ่มอิเล็คโทรนิคส์เกือบทุกตัว
กลุ่มก่อสร้างเกือบทุกตัว
กลุ่มขนส่งหลายตัว

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 07, 2006 10:33 pm
โดย Boring Stock Lover
อเมริกายังคงสัดส่วนสูงประมาณหนึ่งในสี่ของยอดการค้าของประเทศไทย ถ้าอเมริกาฟุบ ถ้าเอาฟุบแบบชนิดปี 42 ของบ้านเราล่ะก็ เละแน่ๆ กลุ่มไหนก็ไม่รอด

พวก commodity ราคาก็น่าจะตกลงพอสมควร ชนิดหายไปครึ่งหนึ่ง
ส่งออกตรงและอ้อมก็ไม่รอด ญี่ปุ่นเองก็โดนผลกระทบหนัก เพราะญี่ปุ่นเองก็พึ่งตลาดอเมริกา

ขนาดประเทศไทยเล็กๆล้มประเทศเดียว เราลากอินโด ฟิลิปปินส์ เกาหลีลงเหวไปด้วย แล้วลากประเทศอื่นๆให้สะดุดอีกหลายประเทศ อเมริกาล่มนี่ก็ไม่ต้องพูดถึง

ล้างพอร์ทน่าจะเป็นคำตอบสุดท้าย แล้วถือเงินสดรอคอยเวลาที่จะกลับลงทุนใหม่

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 07, 2006 11:35 pm
โดย nanchan
คำตอบสุดท้าย

เห็นด้วยเลยครับ

ล้างพอร์ตดีกว่า

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 07, 2006 11:52 pm
โดย ลุงทีม
ทำไมถึงคิดว่าฟองสบู่มันจะแตกอะครับ...อยากให้ช่วยขยายความ

ฟองสบู่อสังหาของ us กับ ของไทย มันต่างกันยังไงหรือครับ... :roll:  :roll:  :roll:

ผมว่าของไทยสมัยนั้นเท่าที่ทราบโดยสรุปมันแย่มากๆนะครับ คือ aggressive มากๆ...ทั้งด้านการปล่อยกู้แบบกันหละหลวมและการเก็งกำไรกันสุดกู่...ไหนจะมาเจอปัญหา hedging อีก...ผมคิดว่า ปัญหาของเมกามันน่าจะต่างกันไป ซึ่งไม่น่าจะแย่ไปกว่าไทย...พูดง่ายๆคือ...เกมส์แบบนี้เมกาเค้าน่ารัดกุมกว่าของไทยเยอะ...เหมือนบทเรียนของฟองสบู่ดอทคอมสมัยก่อน...ไม่เชื่อว่าเค้าจะละเลยปัญหาแบบนี้...ถ้าคิดว่ามันเป็นปัญหานะครับ... :shock:  :shock:  :shock:

จิงๆแล้วความคิดผม...การมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินดีๆซักผืนมันมีค่า...ยิ่งกว่ามีเงินสดหรือทองเสียอีก... :D  :D  :D

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 08, 2006 12:29 am
โดย shanghai
ผมมองการไหลของกระเเสเงินนะครับ การเก็งกำไรจะมีคนกลุ่มนึงที่ได้ผลประโยชน์เนื่องจากได้ขายอสังหาไปเเล้ว ส่วนที่เเย่คือ เเบงค์ไม่มีเงิน คนซื้อไม้สุดท้าย (ดอย) ต้องรับภาระไป สุดท้ายก็จะขายขาดทุน ทำให้ราคากลับมาสมดุลย์อีกครั้ง เมื่อมีคนมองว่าบ้านนั้นราคายุติธรรมเเล้ว  เพียงยากตรงที่จะคาดการณ์ช่วงระยะเวลาเท่านั้นเองว่าจะกลับมาหาจุดสมดุลย์ได้เมื่อไหร่

เเต่ที่เเน่ๆ ศก โลกคงชะลอตัวเเน่ๆ ส่งออกของ ญี่ปุ่น จีน อินเดีย ก็ได้รับผลไปตามๆกัน เเต่ตลาดยุโรปอาจจะดีขึ้น

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 08, 2006 12:45 am
โดย miracle
ย้อนกลับไปยุคปี1980s  ตามที่ว่าไว้นั้น ญี่ปุ่นได้ซื้อที่ดินที่นิวยอร์กมีแต่คนหัวดำอยู่
พอเข้า 1990s ญี่ปุ่นตกต่ำเนื่องจากปัญหาอสังหาตัวเอง

มาวิเคราะห์กันว่า USใช้วิธีอะไรในการกลับมาได้ ต้องย้อนอดีตด้วยไทแมชชีนของโดราเอมอน เพราะเป็นยุคเดียวที่ปู่อันลัน กรีน เป็นผู้ว่าFED วิธีการที่ใช้คือ
อะไรเน่าก็ตัดทิ้ง ยอมให้ส่วนดีเหลืออยู่มากที่สุดเท่าที่มากได้ นั้นคือ ตัดทิ้งทุกอย่าง ไม่เอาเงินรัฐบาลในการอุ้ม จุดนี้คือ จุดเปลี่ยนในสถานการณ์อันนั้น และเป็นต้นแบบเลยว่า ตัดไฟแต่ต้นลม
กว่าจะUSกลับมาได้ เป็นเวลา 10 ปีกว่าๆๆ

ณ ตอนนี้สถานการณ์เลวร้ายถึงตอนนั้นแล้วหรือไม่
ตอบว่าไม่ มีแต่ไถลไปเรื่อยๆๆ จนกว่า ฝูงสุนัขจิ้งจอกจะตระครุบลูกแกะกิน แล้วใครจะเป็นลูกแกะตัวที่ว่า ในการกลบสถานการณ์นี้

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 08, 2006 7:08 am
โดย สุมาอี้
อย่าลืมคำว่า "สมมติ" ในชื่อกระทู้นะครับ ควรระวังไม่ให้ตัวเราเอง overreact เกินไปด้วย ตอนนี้แค่รู้ว่าดัชนีราคาบ้านในเมกาเข้าสู่ขาลงแล้ว แต่ผลกระทบยังมิอาจประเมินได้ อาจรุนแรงหรืออาจไม่รุนแรงเลยก็ได้ ผมเป็นห่วงเรื่องเมกาขาดดุลเดินสะพัดมากกว่าอีก

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 08, 2006 7:52 am
โดย ม้าเฉียว
รูปภาพ

เจ็บหมด

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 08, 2006 9:59 am
โดย คัดท้าย
ตอนนี้ค่านี้ต่ำสุดในรอบ 15 ปี แล้นน ...

รูปภาพ

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 08, 2006 10:05 am
โดย สุมาอี้
งั้นผมซื้อหุ้น Feddie Mae ดีกว่า บู่แตก + accounting fraud พอดี น่าจะถูกสุดๆ แล้ว :D

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 08, 2006 10:05 am
โดย คัดท้าย
The reason for housing affordability to be down so much is that while home prices rose rapidly in the last five years, income gains for the typical household not for the hedge management community have either been stagnating or declining altogether. Moreover, as interest rates rose from 1% on the Fed fund rate in June 2004 to currently 5.25%, financing cost has escalated. Poor affordability aside, the inventories of unsold homes and especially of condos have been rising rapidly while home buying attitudes have been declining

ดูรูปประกอบ

รูปภาพ

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 08, 2006 10:10 am
โดย คัดท้าย
The eternal optimists crowding Wall Street will of course tell you not to
worry. Yes, there will be a slowdown in the housing sector, and home prices wont rise as much in future as in the past. They even concede that home prices could decline very moderately but it wont have much of an impact on the economy! It should, however, be noted that, in the past, housing starts have been one of the most reliable indicators of future economic activity as the home building sector has a tremendous multiplier effect. It directly impacts the appliance, furniture, home improvement, consumer electronic, and construction material industry. Moreover, it stimulates the real estate service sector including all the financial intermediaries (sub-prime lenders, insurance, mortgage brokers, etc), and the real estate brokerage industry.
Also, the latest housing boom allowed households to refinance and extract money from their homes by taking on additional mortgages a large part of which was spent on consumption. Another point to consider is that, as figure clearly shows, the rise in home prices and the ability to extract money from ones home also led to a collapse in the personal saving rate. As homes appreciated in value, households found it unnecessary to save from current income. I may add that the decline in the saving rate in the last few years turbo-charged consumption and the economy.

รูปภาพ

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 08, 2006 10:15 am
โดย คัดท้าย
My view would therefore be that the coming housing slowdown or slump could actually significantly exceed expectations and lead to across the board economic weakness. Dont forget that if home prices no longer appreciate, home equity extraction will come to a halt. The consumer will then likely have to begin saving again from current income. Both these factors would obviously depress consumption and retail sales. In fact, it would appear that after several years of out-performance, the retail sector is beginning to weaken compared to the S&P 500, suggesting that a consumer retrenchment is well underway (see figure 6). One more point! The weak sales growth at Wal-Mart seems to confirm that the typical US household is already struggling.

I need to point out that while my friends at Credit Suisse have downgraded the retail sector from a Buy to Overweight, I would not touch retailers and in particular not home improvement chains like Home Depot (HD) and Lowes (LOW) for now. The stocks of both these companies look like rolling over another indication of an impending housing slowdown.

รูปภาพ

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 08, 2006 10:19 am
โดย คัดท้าย
However, it is not only housing that is cooling down. The ISM Nonmanufacturing Employment Index is also weakening, while the ISM Manufacturing Employment Index has been weak throughout this
consumption led and highly imbalanced economic recovery, which began in November 2001, and is, therefore, by historical standards already very mature (see figure 7).

So, what are the investment implications? All indictors point to an economic slowdown, but what we do not know is the reaction of the Fed to such a slowdown. No further tightening or an easing of monetary polices in a few months could result in further US dollar weakness measured against gold on concerns that the Fed will rather fight economic weakness than inflation.

รูปภาพ

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 08, 2006 10:21 am
โดย คัดท้าย
อ่านแล้วคิดยังไงกันมั่งครับ ?

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 08, 2006 11:48 am
โดย สุมาอี้
จะถือเงินสดไว้บ้างก็ดี แต่ยังไงต้องเหลือของไว้ด้วย โดยเฉพาะของที่เราซื้อมาถูกๆ น่าจะเก็บเอาไว้ bet ต่อเป็นที่สุด เพราะมันปลอดภัย

ถ้าล้างพอร์ตจนหมด แล้วเกิดว่าต่างชาติหนีดอลล่าร์อ่อนอย่างต่อเนื่องจึงเข้ามาซื้อสินทรัพย์ใน emerging markets กันขนานใหญ่ คราวนี้ผมจะเหลือแต่เงินสดจำนวนมาก กับราคาหุ้นในตลาดที่สูงกว่าเดิมจนซื้ออะไรไม่ได้เลย  :x  กรณีแบบนี้มีโอกาสเป็นไปได้เหมือนกันเพราะแม้เศรษฐกิจสหรัฐจะอ่อนตัวลงจริงๆ แต่ถ้า Fed ไม่ขึ้นดอกเบี้ยต่อเพราะเงินเฟ้อลดลงแล้ว นักลงทุนก็จะยังคงมีสภาพคล่องอยู่และจะต้องหาที่เก็บสภาพคล่องเหล่านั้นที่ไม่ใช่ดอลล่าร์

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 08, 2006 3:05 pm
โดย วัวแดง
ผมรอให้มันเกิดจริงๆซักทีครับ :D

ผมไม่มีหุ้นอะไรที่เกี่ยวกะเมกาเลย ถ้าเกิดขึ้นจริงผมคงได้เนื้อคู่ใหม่ๆๆ :D

แล้วถ้าเกิดขึ้นจริงๆ ไม่สนตลาดเกิดใหม่บ้างหรือ

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 08, 2006 9:54 pm
โดย คัดท้าย
[quote="สุมาอี้"]จะถือเงินสดไว้บ้างก็ดี แต่ยังไงต้องเหลือของไว้ด้วย โดยเฉพาะของที่เราซื้อมาถูกๆ น่าจะเก็บเอาไว้ bet ต่อเป็นที่สุด เพราะมันปลอดภัย

ถ้าล้างพอร์ตจนหมด แล้วเกิดว่าต่างชาติหนีดอลล่าร์อ่อนอย่างต่อเนื่องจึงเข้ามาซื้อสินทรัพย์ใน emerging markets กันขนานใหญ่ คราวนี้ผมจะเหลือแต่เงินสดจำนวนมาก กับราคาหุ้นในตลาดที่สูงกว่าเดิมจนซื้ออะไรไม่ได้เลย

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 08, 2006 10:17 pm
โดย สุมาอี้
ผมว่าหุ้นที่เกี่ยวกับการบริโภคภายในประเทศ โดยที่กลุ่มเป้าหมายเป็นชนชั้นกลางขึ้นไป น่าจะปลอดภัยที่สุดนะครับ

สมมุตินะครับ สมมุติ ... ว่าถ้าบู่อสังหาเมกา โบ๊ะ ปลายปีนี้

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 10, 2006 1:58 pm
โดย adi
แนะนำ tf เพราะคนอเมริกันจะจนลง เลยหันมาบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากขึ้น  8)