Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

อืม เห็นผู้เชี่ยวชาญหลายคนชอบออกมาบอกว่าสงสัยกัน ผมก็เลยแปลกใจตามเค้าเหมือนกัน พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ มีความเห็นกันว่าอย่างไรบ้างครับ

คุณภาพของกำไร

http://www.thaivi.com/content/view/365/49/

คนไทยเวลาซื้อของชอบต่อราคามั๊ง....ผมก็ชอบต่อครับ

เพราะคนไทยจนกว่า

ไม่รู้ว่าที่P/Eของไทยเราถูกกว่าที่อื่นเพราะ คำนวณคนละวิธีหรือเปล่า
เพราะได้ยินว่าP/Eของเรานี่ ตัวEไม่รวมขาดทุนสุทธิของบริษัท (เอาเฉพาะกำไรสุทธิเท่านั้น) ทำให้P/Eตลาดที่พูดๆกันต่ำกว่าความเป็นจริง

Kao เขียน:ไม่รู้ว่าที่P/Eของไทยเราถูกกว่าที่อื่นเพราะ คำนวณคนละวิธีหรือเปล่า
เพราะได้ยินว่าP/Eของเรานี่ ตัวEไม่รวมขาดทุนสุทธิของบริษัท (เอาเฉพาะกำไรสุทธิเท่านั้น) ทำให้P/Eตลาดที่พูดๆกันต่ำกว่าความเป็นจริง

รออยู่ว่าจะมีใครตอบแบบนี้หรือเปล่า

ของเราไม่รวม E ของหุ้นที่ขาดทุนก็จริง

แต่ก็ไม่รวม P ด้วย

ซึ่งน่าจะสะท้อนความเป็นจริงได้มากกว่า

เรื่องร้ายๆ เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ กดหัวไว้ไม่ให้ขึ้น

ประเทศไทยหา super growth business ไม่ได้เลย  8) ตลาดหุ้นอื่นเขามีเพียบ

[quote="สุมาอี้"]ประเทศไทยหา super growth business ไม่ได้เลย

ผมว่าอยู่ที่คุณภาพบริษัท และศักยภาพการแข่งขันในอนาคต โดยเฉพาะในเวทีโลก

[quote="woody"][quote="สุมาอี้"]ประเทศไทยหา super growth business ไม่ได้เลย

ถ้ามองหุ้นหรือบริษัทจดทะเบียนเหมือนสินค้า
ของคุณภาพต่ำกว่า มักจะขายในราคาถูก เพราะความต้องการซื้อต่ำ
ของคุณภาพสูงกว่า ขายแพงกว่าได้ เพราะความต้องการซื้อสูง
สินค้าบ้านเราคงคุณภาพต่ำกว่าเพื่อนมั้งครับ
P/E ถึงได้ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับทั้งตลาดในภูมิภาค และตลาดหุ้นที่สำคัญทั่วโลก

HVI เขียน:ถ้ามองหุ้นหรือบริษัทจดทะเบียนเหมือนสินค้า
ของคุณภาพต่ำกว่า มักจะขายในราคาถูก เพราะความต้องการซื้อต่ำ
ของคุณภาพสูงกว่า ขายแพงกว่าได้ เพราะความต้องการซื้อสูง
สินค้าบ้านเราคงคุณภาพต่ำกว่าเพื่อนมั้งครับ
P/E ถึงได้ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับทั้งตลาดในภูมิภาค และตลาดหุ้นที่สำคัญทั่วโลก

อืม คำว่าคุณภาพนี่ไม่ทราบว่าพี่ HVI นี่จะหมายถึงด้านไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ เช่นผลการดำเนินงาน ความสามารถผู้บริหาร หรือว่าธรรมาภิบาล

ความน่าเชื่อถือของตลาดไทย + ผู้คุมกฏมั๊งครับ

woody เขียน: อืม คำว่าคุณภาพนี่ไม่ทราบว่าพี่ HVI นี่จะหมายถึงด้านไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ เช่นผลการดำเนินงาน ความสามารถผู้บริหาร หรือว่าธรรมาภิบาล

รวมๆกันครับ จะได้เขียนสั้นๆ ว่าคุณภาพคำเดียว ...  :lol:
จับมาขยายความคงเป็น "ปัจจัยทุกอย่างที่มีผลต่อการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลท. ทั้งในแง่การเติบโตและความยั่งยืน" ครับ

ถ้ามองในระดับมหภาคก็ได้แก่ การเมือง คุณภาพและการศึกษาของประชากร แผนพัฒนาเศรษฐกิจ
กลยุทธ์ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การส่งเสริมการลงทุน เป็นต้น

ถ้ามองในระดับจุลภาค ก็อาจจะเป็น ความสามารถหลักองค์กร (Core Competency) ความได้เปรียบในการแข่งขัน (Competitive Advantage)
ความสามารถในการทำกำไร ธรรมาภิบาล นวัตกรรม แบรนด์ เป็นต้น

ปัจจัยต่างๆเหล่านี้เลยสะท้อนเข้ามาที่ P/E ของตลาดทุนของประเทศนั้นๆ
ซึ่งมุมมองของนักลงทุนที่มีต่อตลาดทุนบ้านเราคงสู้ที่อื่นไม่ได้ (คุณภาพต่ำกว่า)
ราคาซื้อขายจึงถูกกว่าเพื่อนครับ

อุปมาแบบโก๊ะๆ P/E  vs  V/R

   ค่าฉลี่ย  V/R    Views/Replies  webboard Stock investing > Miscellaneous

           Average V/R Stock Investing =  35
           Average V/R Miscell.              =  20

     แต่ ค่า Views ของ same Topic ใน Miscell. ถ้าเทียบไป post ใน Stock Inv.
ต่างกันมากกว่า 10 เท่า

                  เป็นเพราะ Thaivi เป็น Niche คนส่วนน้อยจริงๆ ที่เจาะจงเรื่อง Stock
             เรื่อง  Miscell.  สู้ Pantip ไม่ได้      

      Author ดังๆ เก่งๆ นิยม post ใน stock investing มากกว่า
ค่า V/R จึงสูงตาม
ลอง famous author หลายๆคน หันมาลงทุน post ใน Miscell.  รับรอง V/R กระโดดตาม   :lovl:

เราอาจจะได้เห็นตลาดที่กำลังจะโผล่ emerging market
อย่างเช่นเวียดนาม  เล่นกันที่พีอียี่สิบเท่าในเร็วๆนี้

ฟันธงว่า เวียดนามจะเป็นตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในโลก
ภายในสิบปีข้างหน้า  พวกกองทุนอีแร้งกำลังจ้องตาเป็นมัน
ตอนพีอีสิบ  พวกอีแร้งจะเป็นคนลงมือซื้อ
พอมันขึ้นไปที่พีอียี่สิบกว่า  
กูรู้ทั้งพี่หรั่งน้องญวน
ก็จะเชียร์ซื้อด้วยวิชามาร(ซื้อแล้วเชียร์)
ควบวิชาเทพ(วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน)
พวกคนพื้นเมือง ก็จะใส่เงินออมที่ได้มาจาก
ที่จีดีพีที่พุ่งกระฉูด  เข้าไปเล่นเกมล่าส่วนเกินทุน
ในนามนักลงทุนชาวเวียดนาม
และแล้ว นักลงทุนชาวเวียดนาม
ก็จะได้เป็นไปถือลงทุนระยะยาว  
เมื่อตอนพีอียี่สิบฝ่า จนกระทั่งพีอีเหลือไม่ถึงสิบ
ท่ามกลางความงุนงงสงสัยว่า  
ทำไมมีหุ้นถูกๆ เกลื่อนตลาดญวนเลยว่ะเนี่ย

มันเป็นเช่นนั้นเอง

   

คลายเครียด เขียน:มันเป็นเช่นนั้นเอง

คุ้นๆ นะ มันเคยเป็นเช่นนั้นนั่นเอง...

h i s t o r y   r e p e a t s   i t s e lf

อ.วิกรม เกษมวุฒิ เคยกล่าวไว้ว่า
"หากตลาดหุ้นไทยมี P/E 30 เท่า ให้อยู่ห่างๆ ตลาดหุ้นพันลี้" ...  :D

ตามความเห็นผม ไม่รู้ถูกหรือผิด  ผมว่าเราสามารถ อุปมาน จากตัวเราได้ครับ  เพราะพฤติกรรมนักลงทุนจะคล้ายๆกันทั่วโลกโดยส่วนใหญ่

1. หุ้นในบ้านเราเองประเทศเดียวกันแท้ๆก็ยังมี pe หลายระดับ ตั้งแต่น้อยมากจนถึงสูงมาก

2.กลุ่มที่ peสูงๆมักจะมีอะไรดีๆ อย่างที่คุณสุมาอี้ คุณ HVI ว่าไว้  ซึ่งแปลว่าบ้านเขามีหุ้นคุณภาพดีกว่าบ้านเราในสัดส่วนที่มากกว่า  ซึ่งในความเป็นจริงก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ บริษัทเขาสามารถโตได้ทั่วโลก  ของเรามีน้อยมากที่จะทำอย่างนั้นได้

3.หุ้น pe ต่ำในบ้านเราๆนอกจากคุณภาพของกำไรที่ไม่ดีอย่างที่น้องเจย์ยกมาแล้ว  เราเองก็มักจะมองเรื่องธรรมมาภิบาลด้วย  บริษัทที่ไม่ค่อยโปร่งใสทั้งเรื่องการบริหารและงบการเงินมักจะได้ pe ต่ำๆ  มองออกไปทั้งโลก ก็พบว่าเราอยู่ในกลุ่มคอรัปชั่นสูงกว่าประเทศอื่นจริงๆ

4.หุ้นบ้านเราถ้าคนเล่นลดลงครึ่งหนึ่งจากปัจจุบัน ต่อให้คุณภาพบริษัทในตลาดคงเดิม set เราก็คงจะลง(เพราะคนแย่งกันขายราคาก็ต้องลดเป็นธรรมดา)  แต่ถ้าคนเล่นเพิ่มขึ้นเท่าตัว ดันอุปสงค์ให้มากขึ้น set ก็คงจะขึ้น มองออกไปนอกบ้านก็พบว่า คนเล่นในยุโรปและอเมริกามีสัดส่วนที่สูงกว่าเรามาก  หุ้นเขาก็ต้องมี pe สูงกว่าเราเป็นธรรมดา

5. หุ้นบางตัวของเราไม่ได้ดีอะไรเลย แต่ราคาสูงเพราะแรงปั่น  ประเทศอื่นภาพพจน์ก็ดีกว่าเราเยอะ โอกาสโดนปั่นให้ดู pe สูงก็มีเช่นเดียวกัน

6.หุ้นเขาpeสูงๆมีส่วนดีก็จริงโดยเฉพาะตอนที่เราขาย  แต่สักวันหนึ่งเราก็ต้องเป็นผู้ซื้อ และก็ซื้อๆขายๆวนเวียนไม่รู้จบ  เราย่อมไม่ชอบซื้อแพงใช่ไหมครับ  ดังนั้นชั่งน้ำหนักแล้วผมยังชอบหุ้นบ้านเรามากกว่าเพราะมี margin of safetyมากกว่า  อิอิ  ปลอบใจตัวเอง