Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

สงสัยอยู่ว่าปีหน้าและปีต่อๆไปกำไรของหุ้นพลังงานจะโตได้มากกว่านี้อีกหรือ  :?:  :roll:

ผมเองก็สงสัยแบบนี้มาตั้งแต่สามปีที่แล้วครับ

นายกฯเผยราคาน้ำมันปลายปี/ต้นปีหน้าเห็น100เหรียญ/บาร์เรลส่งผลดีต่อราคายางพารา

      พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ นายกฯทักษิณ คุยกับประชาชนว่าเรื่อง
น้ำมันนี่คนบอกกับผมว่า น้ำมันปลายปีนี้หรืออย่างช้าปลายปีหน้าอาจเห็น 100 เหรียญต่อ
บาร์เรล เพราะสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 50,000 กว่าฉบับ ได้กำหนดการส่งมอบน้ำมันที่ 100
เหรียญ ก็เป็นข่าวร้ายของคนใช้น้ำมัน และเป็นข่าวดีของคนขายยางพารา เพราะยางพาราจะอิง
กับยางสังเคราะห์     เพราะฉะนั้นเมื่อน้ำมันขึ้น ยางสังเคราะห์ก็ขึ้น ยางพาราก็ขึ้น อันนี้ก็เป็นเรื่อง
ที่ยางพาราจะอยู่ในราคานี้อีกนาน
     ตอนนี้เราจึงต้องขยายพื้นที่เพาะปลูกยางพารา เพราะเราคิดว่า ยางพาราขณะนี้ทั่วโลกใช้กัน
อยู่ ประมาณ 20 ล้านตัน เราส่งออกเพียง 3 ล้านตัน แต่ข้างหน้าเรามองแล้วว่าทั่วโลกจะใช้ยางถึง
ปีละประมาณ 28 ล้านตันถ้าเราจะเป็นผู้นำเราควรจะมีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น   เพราะฉะนั้น เรา
จะต้องเพิ่มพื้นที่การเพาะปลูกยางพาราแน่นอน เราก็จะกระจายพื้นที่เพาะปลูกยางพาราไปที่ภาค
เหนือ และภาคอีสาน ภาคกลางที่ปลูกได้ที่มีฝนเพียงพอ


มีใครพอจะรู้รายละเอียดของสัญญา 50000 ฉบับนี้บ้างครับว่าของจริงหรือลวงโลกเพื่อดึงราคาขึ้นครับ

[quote="naris"]นายกฯเผยราคาน้ำมันปลายปี/ต้นปีหน้าเห็น100เหรียญ/บาร์เรลส่งผลดีต่อราคายางพารา

ถ้ามีจริงก็อาจจะเป็นเพียงสัญญา Forward ซึ่งตกลงซื้อขายกันใน OTC (Over The Counter) Market  
ไม่ได้ซื้อขายกันในตลาดที่เป็นทางการ (Exchange Market)
แต่เป็นเพียงการทำสัญญาละหว่างคู่สัญญา ซึ่งผมคิดว่าไม่สามารถนำมาอ้างอิงได้ครับ
เนื่องจากไม่ได้สะท้อนถึง Demand Supply ที่แท้จริง

การที่ราคาซื้อขายล่วงหน้าเท่ากับ 100 ไม่ได้แปลว่าน้ำมันจะไปหนึ่งร้อยในอนาคต แต่แปลว่าตลาดคาดว่าน้ำมันกำลังจะไปหนึ่งร้อย ซึ่งตลาดอาจจะคาดผิดหรือคาดถูกก็ได้

ผมมองว่าหุ้นพลังงานที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมัน สามารถแบ่งเป้น 3 กลุ่ม
1. ผู้นำเข้าและจำหน่าย คือ PTT
2. โรงกลั่น คือ TOP RRC
3. พลังงานใกล้เคียง คือ PTTEP

ถ้าราคาน้ำมันแพงขึ้น หุ้นที่น่าจะได้รับผลประโยชน์มากที่สุด คือ PTTEP เพราะราคาก๊าซธรรมชาติจะแพงขึ้นด้วย และคนหันมาใช้มากขึ้น และเป็นผู้ผลิตโดยตรง

ส่วน PTT เฉพาะในธุรกิจน้ำมัน เป็นเพียงผู้นำเข้าและจำหน่าย ราคาขึ้นต้นทุนก็ขึ้นด้วย

กลุ่มโรงกลั่นก็เช่นกัน มองเฉพาะธุรกิจการกลั่น กำไรมาจากส่วนต่างราคาวัตถุดิบและราคาจำหน่าย ถ้าราคาน้ำมันดิบขึ้นมากๆ อาจจะถูกบีบค่าการกลั่นให้ลดลง กำไรจึงไม่เพิ่ม

มองในอีกประเด็นหนึ่ง คือเรื่องราคาน้ำมันดิบ

บนพื้นฐานที่ว่า ราคาขึ้นกับ demand และ supply ผสมโรงด้วยการปั่นราคา

การที่ราคาน้ำมันดิบขึ้นสูงใน 1-2 ปีนี้ มาจาก demand ที่สูงขึ้นโดยเฉพาะจากประเทศจีน
ผมไม่แน่ใจว่าอัตราการบริโภคน้ำมันของจีน คิดเป็นกี่เปอร์เซนต์ของโลก
ขณะที่ supply คงเดิม

ถ้าจะคาดการณ์ราคาในอนาคต 5 ปี ผมเชื่อว่าจีนยังคงบริโภคน้ำมันในระดับนี้ต่อไปอีกหลายปี แม้จะไม่เพิ่มมาก แต่คงไม่ลดลงเช่นกัน
ขณะที่ supply ก็ยังพอใน 5 ปีนี้
จึงคาดว่าราคาน้ำมันจะคงตัวในระดับสูง 60-80 เหรียญต่อบาเรลล์ ต่อไป

จุดเปลี่ยนที่ยังมาไม่ถึง คือ
1. การขาดแคลนของน้ำมันดิบ
2. การพัฒนาพลังงานทดแทนที่สามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

http://finance.yahoo.com/q/fc?s=CLU06.NYM

ยังไม่เห็นตัวไหนใกล้ $100 เลยครับ
แต่อาจจะเป็นตลาดอื่นก็ได้

ขยายพื้นที่ปลูกยาง? พูดเล่นเพื่อหาเสียงหรือเปล่าครับ
หรือว่าคิดแบบนั้นจริงๆ ?

เรื่องพื้นที่ปลูกยางนี่เรื่องจริง ไปอีสานมาหลายที่ปลูกยางเพิ่ม จะกลายเป็นป่าเล็กๆแล้ว

Year           Oil Consumption               Oil Production   (M bbl/day)
                World       China    
2006          80.10        6.39                     79.65
2005          77.04        4.96                     76.01
2004          75.81        4.57                     75.34


http://www.photius.com/rankings/index.html

ผมว่าถึงน้ำมันจะขึ้นไป100$ ใช่ว่าราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องจะทำnew high   สภาพตลาดตอนนั้นอาจดูไม่จืดเลยก็ได้  เพราะผลกระทบต่อเศรษฐกิจมันใหญ่หลวงนัก