หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ในภาวะเงินบาทแข็งอย่างนี้ บริษัทใดน่าได้ผลประโยชน์

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 12, 2006 4:19 pm
โดย suwatchaim
อยากสอบถามพี่ๆ ว่าในภาวะเงินบาทแข็งอย่างนี้ บริษัทใดน่าได้ผลประโยชน์
ผมมองบริษัทที่อยู่ในสองกลุ่มนี้น่าจะได้ประโยชน์
1.บริษัทที่นำเข้าสินค้า มาขายภายในประเทศ เช่น SOLAR ,WG
2.บริษัทที่เป็นหนี้บริษัทเมืองนอก แต่มีรายได้ในเมืองไทย เช่น TT&T

ผมคิดว่า ค่าเงินบาทยังแข็งต่อเนื่องจนถึงต้นปีหน้า ดังนั้น  ผมจึงอยากลงทุนในกลุ่มพวกนี้ครับ

ในภาวะเงินบาทแข็งอย่างนี้ บริษัทใดน่าได้ผลประโยชน์

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 12, 2006 4:45 pm
โดย chansaiw
แล้วไม่คิดถึงช่วงบาทอ่อนมั่งเหรอครับ

พวกนี้แค่องค์ประกอบนะครับ

ดู core business ดีกว่า

ถ้าเก็งกำไรก็อีกเรื่องนึง

ในภาวะเงินบาทแข็งอย่างนี้ บริษัทใดน่าได้ผลประโยชน์

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 12, 2006 6:56 pm
โดย สุมาอี้
บริษัทที่มีแผนจะไปลงทุนต่างประเทศอยู่แล้วแต่ยังไม่ได้จ่ายเงินลงทุนนั้นออกไป

ในภาวะเงินบาทแข็งอย่างนี้ บริษัทใดน่าได้ผลประโยชน์

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 13, 2006 9:32 am
โดย nowkung
WG ได้ประโยชน์แบบเต็มๆ เพราะนำเข้าสารเคมี 100%
ต้นทุนน่าจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ในภาวะเงินบาทแข็งอย่างนี้ บริษัทใดน่าได้ผลประโยชน์

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 13, 2006 9:56 am
โดย JCHAI
TVO ก็เข้าข่าย เพราะนำเข้ากากถั่วเหลือง

แต่ บ ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ไม่รู้จะได้ประโยชน์แค่ไหนเหมือนกันครับ

ในภาวะเงินบาทแข็งอย่างนี้ บริษัทใดน่าได้ผลประโยชน์

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 13, 2006 2:53 pm
โดย miracle
tvo มันต้องดูราคาทั้งราคาถั่วเหลืองและกากถั่วเหลือง
ทั้งสองตัวประกอบ
มีโรงงานที่เมืองจีน อันนี้จำไม่ได้ว่ารายได้ และกำไรเป็นเท่าไรของงบการเงินรวม
เพราะว่าถ้าแบบนี้มันจะมีปัญหาได้ในเรื่องการแปลงมูลค่าเงินอ่ะ

ในภาวะเงินบาทแข็งอย่างนี้ บริษัทใดน่าได้ผลประโยชน์

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 13, 2006 7:14 pm
โดย KwanG
อยากทราบว่า ตอนนี้ที่ค่าเงินบาทแข็งขึ้นนี่ สาเหตุหลักๆเป็นเพราะว่าเราคิดว่าเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาค่อนข้างมากในช่วงนี้ใช่มั้ยค่ะ กับอีกอย่างหนึ่งคือ เงินเราแข็งค่าตามเงินหยวน ซึ่งตลาดก็น่าจะรับรู้แล้ว BOT ก็คงไม่ปล่อยให้แข็งค่าเกิน 37 บาทต่อ ดอลล่าร์ใช่มั้ยค่ะ

กำลังเรียนต่อค่ะ ต้องคอยเล็งค่าเงิน ตลอดเวลา รบกวนด้วยนะค่ะ

ในภาวะเงินบาทแข็งอย่างนี้ บริษัทใดน่าได้ผลประโยชน์

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 13, 2006 10:16 pm
โดย สุมาอี้
เงินดอลล่าร์จะอ่อนลงเรื่อยๆ จนกว่าการขาดดุลการค้าของสหรัฐจะลดลงสู่ระดับที่ยอมรับได้ ซึ่งน่าจะมี lag time พอสมควร เพราะทันทีที่ดอลล่าร์อ่อนลงจะส่งผลให้ดุลการค้าแย่ลงไปอีกสักพักหนึ่ง หลังจากนั้นจึงจะค่อยเห็นดุลการค้าที่ดีขึ้น (J-curve effect)

แต่สิ่งที่ยากมากที่สุดที่จะคาดเดาก็คือเมื่อเข้าสู่จุดสมดุลใหม่แล้ว อัตราแลกเปลี่ยนจะไปหยุดที่เท่าไร เรื่องนี้ไม่มีใครเก่งพอที่จะทายได้ครับ ถ้ายังจำได้ตอนลอยตัวเงินบาท เงินบาทวิ่งหาที่อยู่ของมันอยู่หลายปีทีเดียว เคยวิ่งไปถึงเกือบ 60 บาท ซึ่งทำให้ทุกคนมองว่ามันจะวิ่งไป 100 บาท แต่ในที่สุดมันก็กลับมาเข้าสู่จุดสมดุลที่ 40 บาท ตอนนี้ก็คล้ายๆ กัน เรายังมองไม่ออกว่าดอลล่าร์ควรจะวิ่งไปหยุดอยู่ที่เท่าไรในที่สุด

ถ้าจุดสมดุลใหม่เป็น 30 บาท หรือแม้แต่ 25 บาท หุ้นเอเชียรวมทั้งหุ้นไทยด้วยก็จะยังวิ่งต่อจากนี้ได้อีกเยอะมาก แต่ถ้าจุดสมดุลใหม่คือแถวนี้แหละที่ 35 บาท หุ้นไทยก็คงวิ่งได้แค่นี้แล้ว เราทายไม่ได้ว่ามันจะไปหยุดที่เท่าไร ก็เลยใช้ประโยชน์อะไรจากตรงนี้ไม่ได้ เหอๆ

สำหรับผมไม่ยินดีรับต้นทุนใหม่แล้ว เพราะผมว่าในแง่ Valuation ตอนนี้มี gap ให้เล่นน้อยมากแล้ว ผมใช้วิธีกอดตัวเก่าที่ซื้อมาถูกๆ ไว้ให้แน่นๆ ส่วนเงินสดที่เหลืออยู่ถ้าถึงสิ้น กย. นี้ไม่มี amazing grand sales คงเอาไปฝากแบงค์กินดอกเบี้ยดีกว่า

ส่วนถ้าคุณ KwanG จะเตรียมเงินไปเรียนต่อ ถ้าเกิดดอลล่าร์ยังสามารถอ่อนได้อีกมาก แบงก์ชาติอาจไม่กล้าอุ้มดอลล่าร์อย่างที่พูดไว้ เพราะการทำแบบนั้นจะทำให้แบงก์ชาติขาดทุนอย่างหนักได้ ไทยเคยมีบทเรียนมาแล้ว หวังว่าคงไม่เจ็บซ้ำสองอีก

ในภาวะเงินบาทแข็งอย่างนี้ บริษัทใดน่าได้ผลประโยชน์

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 13, 2006 10:26 pm
โดย KwanG
ขอบคุณนะค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่ที่อังกฤษค่ะ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว 100 ดอลล่าร์ = 53.60 ปอนด์ จากนั้นอาทิตย์นี้ขยับมาที่ 52.75, 52.60,52.40 (ธนาคารกลางอังกฤษขึ้นดอกเบี้ย) จนกระทั่งมีเหตุการณ์ความไม่สงบ ทำให้หยุดอยู่ที่ 52.30 ค่ะ ส่วนบาทต่อปอนด์ ก้อประมาณ 71-72 เลยต้องศึกษาดูค่ะ ว่าจะแลกเงินสกุลไหนค่ะ ขอบคุณนะค่ะ

ในภาวะเงินบาทแข็งอย่างนี้ บริษัทใดน่าได้ผลประโยชน์

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 14, 2006 9:27 am
โดย chatchai
สุมาอี้ เขียน:ถ้ายังจำได้ตอนลอยตัวเงินบาท เงินบาทวิ่งหาที่อยู่ของมันอยู่หลายปีทีเดียว เคยวิ่งไปถึงเกือบ 60 บาท ซึ่งทำให้ทุกคนมองว่ามันจะวิ่งไป 100 บาท
สมัยลอยตัวค่าเงินบาทใหม่ๆ  ค่าเงินบาทยังอ่อนตัวไม่มากนัก  ยังอยู่แถว 30 บาทกว่าๆ  

แต่พอมีข้อมูลว่า ธปท. ได้นำเงินสำรองต่างประเทศไปสู้กองทุนต่างชาติจนแทบไม่เหลือเงินสำรองเลย  ก็ยุ่งละซิครับ  เพราะไทยยังมีหนี้เงินกู้ยืมต่างชาติระยะสั้นจำนวนมาก  ในเมื่อมีหนี้ระยะสั้นมากกว่าเงินสำรอง

ต่างชาติที่เป็นเจ้าหนี้ก็ไม่ต่ออายุสัญญาเงินกู้ให้ใหม่นะซิครับ  ยิ่งเรียกชำระคืน  เงินสำรองสกุลเงินต่างประเทศก็ยิ่งลดน้อยลง  ค่าเงินบาทก็อ่อนลงไปเรื่อยๆ  แค่คิดก็หนาวแล้วครับ  ประเทศไทยผ่านวิกฤตเกือบล้มละลายมาอย่างหวุดหวิด

ในภาวะเงินบาทแข็งอย่างนี้ บริษัทใดน่าได้ผลประโยชน์

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 14, 2006 10:23 am
โดย nowkung
สุมาอี้ : ถ้าจุดสมดุลใหม่เป็น 30 บาท หรือแม้แต่ 25 บาท หุ้นเอเชียรวมทั้งหุ้นไทยด้วยก็จะยังวิ่งต่อจากนี้ได้อีกเยอะมาก แต่ถ้าจุดสมดุลใหม่คือแถวนี้แหละที่ 35 บาท หุ้นไทยก็คงวิ่งได้แค่นี้แล้ว เราทายไม่ได้ว่ามันจะไปหยุดที่เท่าไร ก็เลยใช้ประโยชน์อะไรจากตรงนี้ไม่ได้ เหอๆ

หุ้นวิ่งขึ้นหรือวิ่งลงครับ ผมว่าน่าจะวิ่งลงเพราะส่งออกตายเรียบ

ในภาวะเงินบาทแข็งอย่างนี้ บริษัทใดน่าได้ผลประโยชน์

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 14, 2006 5:54 pm
โดย สุมาอี้
nowkung เขียน:สุมาอี้ : ถ้าจุดสมดุลใหม่เป็น 30 บาท หรือแม้แต่ 25 บาท หุ้นเอเชียรวมทั้งหุ้นไทยด้วยก็จะยังวิ่งต่อจากนี้ได้อีกเยอะมาก แต่ถ้าจุดสมดุลใหม่คือแถวนี้แหละที่ 35 บาท หุ้นไทยก็คงวิ่งได้แค่นี้แล้ว เราทายไม่ได้ว่ามันจะไปหยุดที่เท่าไร ก็เลยใช้ประโยชน์อะไรจากตรงนี้ไม่ได้ เหอๆ

หุ้นวิ่งขึ้นหรือวิ่งลงครับ ผมว่าน่าจะวิ่งลงเพราะส่งออกตายเรียบ
ในระยะสั้นจะวิ่งขึ้นครับ เพราะเงินทุนไหลเข้ามาหลบร้อน

ในภาวะเงินบาทแข็งอย่างนี้ บริษัทใดน่าได้ผลประโยชน์

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 14, 2006 7:55 pm
โดย chatchai
nowkung เขียน:หุ้นวิ่งขึ้นหรือวิ่งลงครับ ผมว่าน่าจะวิ่งลงเพราะส่งออกตายเรียบ
อาจไม่ตายก็ได้นะครับ  เพราะอาจจะอ่อนค่าเฉพาะเงินเหรียญสหรัฐ  แต่ประเทศส่งออกทั้งหมดก็คงแข็งค่าขึ้น

สมัยก่อนค่าเงินที่ 25 บาทต่อเหรียญ  ยังส่งออกกันได้เลย

อย่าฟังผู้ส่งออกมากนัก  ออกมาพูดเรื่องค่าเงินบาท  เพื่อผลประโยชน์ต่อพวกตัวเองทั้งนั้น  พวกกลัวกำไรลด