หน้า 1 จากทั้งหมด 2
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 21, 2006 2:37 pm
โดย hot
อีกนานไหมคับ
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 21, 2006 2:41 pm
โดย ForrestGump
ปีบัญชีไม่เหมือนชาวบ้านครับ คุณ hot
ถ้า deadline 45 วัน ก็ deadline อยู่ที่ 15 กย. ครับ
ถ้าคุณ hot มีหุ้น tnh อยู่ ขอให้งบออกมาดีมากๆ เลยนะครับ ฮิ :D :D
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 21, 2006 3:18 pm
โดย woody
[quote="ForrestGump"]ปีบัญชีไม่เหมือนชาวบ้านครับ คุณ hot
ถ้า deadline 45 วัน ก็ deadline อยู่ที่ 15 กย. ครับ
ถ้าคุณ hot มีหุ้น tnh อยู่ ขอให้งบออกมาดีมากๆ เลยนะครับ
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 21, 2006 5:10 pm
โดย jojosati
รอบนี้งบปี deadline 60 วันครับ
อย่าเพิ่งรอ จนเหงือกแห้ง...
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 21, 2006 5:11 pm
โดย jojosati
อ้อ... ปันผล ไม่ต่ำกว่า 60% ด้วย...
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 26, 2006 3:10 pm
โดย hot
งบออกช้าจิงวันนี้ก็ยังไม่ออกเลยแฮะ
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 27, 2006 7:38 am
โดย ม้าเฉียว
ไม่น่าจะต้องลุ้นกันมาก กำไรคงโตละมั้งครับ แตที่แน่คือ ่ราคาโตเร็วกว่าไหนๆครับ
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 27, 2006 8:16 am
โดย mr.bean
น่าจะภายในสิ้นเดือนนี้นะครับ
งบปีหน้า จะเริ่มเสียภาษีในตลาด Mai
ไม่แน่ใจว่า 20 % หรือปล่าวครับ :lol:
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 27, 2006 9:37 am
โดย woody
mr.bean เขียน:น่าจะภายในสิ้นเดือนนี้นะครับ
งบปีหน้า จะเริ่มเสียภาษีในตลาด Mai
ไม่แน่ใจว่า 20 % หรือปล่าวครับ :lol:
20% ครับ
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 27, 2006 2:19 pm
โดย ลุงขวด
น่าจะออกพร้อมกับจ่ายเงินปันผลนะครับ มีประกาศจ่ายเงินปันผลมาแล้ว บ่ายนี้เอง ดังนี้-
2. การจ่ายเงินปันผล
ที่ประชุมมีมติเห็นควรให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2548 ? 31 กรกฎาคม 2549
ในอัตราหุ้นละ 0.18 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 32,400,000 บาท (สามสิบสองล้านสี่แสนบาทถ้วน) เพื่อนำ
เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2549 โดยกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล
ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2549 และเสนอให้จ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2549
..............
ลองติดตามผลการดำเนินงาน คงโดดเด่นไม่เบา :lol: :lol:
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 27, 2006 3:24 pm
โดย sittc
งบยังไม่ออก
แต่จ่ายปันผล 0.18
กำไร 3ไตรมาส 0.16
ถ้าจ่ายปันผล 60% จะต้องกำไร 0.30 ไตรมาส 4 จะกำไร 0.12
ไม่น้อยเลยทีเดียว เท่าๆหรือมากกว่า KH เลยนะ
น่าติดตามครับ ราคาจะไล่ KH ทันไหม
งบปีหน้าได้ประโยชน์จากภาษีลดลงอีก
จะไปกันใหญ่ไหมเนี่ย
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 27, 2006 10:04 pm
โดย miracle
comment
เรื่องของเวลานิดหน่อย
กว่ามันจะขึ้นXDตั้งเดือน พย
จ่ายเงินปลายเดือน
แต่มันประกาศตั้งแต่เดือน กย
เพื่อไปเป็นมติในที่ประชุม
ซึ่งจะประชุมในเดือนหน้าคือเดือน ตค
ใครถืออยู่ควรจะตรวจสอบเรื่องกระแสเงินสดด้วย
เพราะว่า เห็นdelayมากๆๆ
ปิดงบเดือน กค จ่ายปลายเดือน พย
มันตั้งห้าเดือน
อืมน่าคิดน่าครับ แปลกๆๆๆ
ลองดูล่ะกัน
หุ้นดีแต่มีอะไรเล็กอะไรน้อยนั่งดูกันอีกแล้ว
(ไม่ได้ถือน่าครับ เลยcomment)
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 27, 2006 10:22 pm
โดย ดร.โหน่ง
ทำไมเช็คดูผู้ถือหุ้นใหญ่ ใน set.or.th ไม่มีข้อมูลครับ
เห็นเพื่อนบอกว่าเป็นของอดีตนาย ก. จริงเท็จประการใดครับ......
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 28, 2006 9:00 am
โดย ลุงขวด
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 7 ธันวาคม 2548 ปรากฏดังนี้
รายชื่อผู้ถือหุ้น ภายหลังการเสนอขายแก่ประชาชน
จำนวนหุ้น อัตราส่วน
1. ครอบครัวสิหนาทกถากุล
1. บริษัท สยามสินทรัพย์พัฒนา จำกัด (ถือหุ้นโดยกลุ่มสิหนาทกถากุลทั้งหมด) 50,000,000 27.78
2. นายจตุพร สิหนาทกถากุล 31,540,000 17.50
3. นายสุชาติ สิหนาทกถากุล 540,000 0.30
4. นางนิภาภัทร สิหนาทกถากุล 500,000 0.30
รวม 82,580,000 45.88
2. กลุ่มอัตศาสตร์
1. นายเลิศศักดิ์ อัตศาสตร์ 50,000 0.03
2. นางพิริยา รัญเสวะ 4,800,000 2.67
3. นายลลิต อัตศาสตร์ 4,800,000 2.67
4. นางสาวเพ็ญนภา อัตศาสตร์ 4,800,000 2.67
5. นายวิชชา อัตศาสตร์ 1,000,000 0.55
6. นางสาวรัชนี อัตศาสตร์ 1,000,000 0.55
7. นางสาวสุณีย์ อัตศาสตร์ 1,000,000 0.55
รวม 17,450,000 9.69
3. กลุ่มมีนสุข
1. น.พ.เจริญ มีนสุข 2,500,000 1.39
2. นางหัทยา มีนสุข 2,285,500 1.27
รวม 4,785,500 2.66
..........................
เจ้าของเป็นกลุ่ม โรงแรม Landmark ครับ
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 28, 2006 9:42 am
โดย ดร.โหน่ง
กราบขอบคุณลุงขวดสำหรับข้อมูลครับ......
ผมเห็นโรงพยาบาลตั้งแต่สร้างใหม่ๆจนนี่ผ่านมา 10 ปีแล้วมั้งครับ ยังไม่เคยได้ใช้บริการเลย เรื่อง growth คงไม่ต้องพูดถึง ดูจากรายชื่อเซียนๆทุกท่านที่เข้ามาถือบริษัทมหาชนแห่งนี้.........ถ้าเอ๋ยชื่อแต่ละโรงพยาบาลผมว่าความได้เปรียบยั่งยืนคงอยู่ที่ความมีชื่อเสียงของคุณหมอ ไม่ทราบที่นี่เค้าเก่งรักษาโรคทางไหนครับ.....
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 28, 2006 9:50 am
โดย SAFARI
บทสัมภาษณ์ลองอ่านกันดูครับ
นายแพทย์เจริญ มีนสุข
กรรมการผู้อำนวยการแพทย์ บริษัทไทยนครินทร์ จำกัด ( มหาชน ) TNH
อาชีพหมอเป็นอาชีพที่ไม่ว่าใคร ต่างก็ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กๆเหมือนกันว่าอยากจะเป็นหมอ เหตุผลข้อแรกเลยทำให้คนหายจากอาการเจ็บป่วย เวลาที่เรารักษาคนให้หาย สิ่งแรกที่ผู้เป็นหมอได้รับก็คือ ความอิ่มเอมปิติในหัวใจ แถมยังได้บุญด้วย ( อันนี้ผลพลอยได้นะ ) เข้าเรื่องดีกว่าวันนี้คอลัมน์ Management's Lifestyle เรามีคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญ และชำนาญในด้านการรักษาคนไข้มานับไม่ถ้วน ขอเชิญทุกท่านรู้จักกับนายแพทย์เจริญ มีนสุข กรรมการผู้อำนวยการแพทย์ บริษัทไทยนครินทร์ จำกัด ( มหาชน ) หรือ TNH ไปพร้อมๆกันก่อนค่ะ
รู้จักกับนายแพทย์เจริญกันก่อน
นพ.เจริญเรียนจบคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังจากนั้นก็ไปเป็นคุณหมออยู่โรงพยาบาลของจ.นครราชสีมาได้ 1 ปี หลังจากนั้นก็ไปบินลัดฟ้าไปหาความรู้เพิ่มเติมต่อที่เมืองนอก โดยไปเรียน Diploma Tropical Medicine and Hygiene ,University Liverpool , UK และ Diploma America Board of Internal Medicine และมาต่อที่ Diploma America Board of Gastroenterology รวมแล้วใช้ชีวิตในการเรียนที่เมืองนอก 8 ปี และหลังจากนั้นก็กลับมาที่เมืองไทย มาเป็นหมอที่รพ.เปาโล และเปิดคลินิคส่วนตัวควบคู่ไปด้วย
ด้วยจังหวะที่พอเหมาะพอเจาะ ผมและเพื่อนได้คุยกันว่า เราน่าจะตั้งโรงพยาบาลของตัวเองซัก 1 แห่ง และด้วยความที่เรามีความรู้ในเรื่องของการรักษา ทางด้านอายุรกรรมและทางเดินอาหารอยู่แล้ว ส่วนเพื่อนก็มีความรู้ในเรื่องของการบริการ เนื่องจากว่าเค้าเรียนมาทางด้านของโรงแรม และโรงพยาบาลที่เราก่อตั้งขึ้นมาก็อยู่ในสังกัดของเอกชน ถ้าเราทำแล้วดี มันก็น่าจะเป็นเอกชนที่ดี ก็เลยถือเอาฤกษ์งามยามดีก่อตั้งโรงพยาบาลไทยนครินทร์ขึ้นมาจนเป็นโรงพยาบาลเอกชนอันดับต้นๆจนถึงทุกวันนี้
การเป็นหมอในภาครัฐบาล กับภาคเอกชน
จริงๆการรักษาก็คงจะคล้ายๆกัน แต่แตกต่างกันที่ความสะดวกในการบริการ ถ้ามารักษาที่โรงพยาบาลเอกชน ไม่กี่วันก็กลับบ้านได้แล้ว แต่ถ้าไปรักษาที่โรงพยาบาลรัฐบาลมันอาจต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนานหน่อย เนื่องจากว่าโรงพยาบาลรัฐบาลคนไข้เยอะมาก มันก็ต้องรอคิวในการพอหมอ กว่าจะได้กลับบ้านก็นาน เราอยู่ได้เพราะการรักษาพยาบาลที่เน้นให้ความสะดวกรวดเร็วกว่ารัฐบาล อย่างสมัยก่อนไม่มีนะโรงพยาบาลเอกชน กว่าจะได้พบหมอต้องใช้เวลาในการรอตั้ง 3 วัน เพราะต้องไปรอรับบัตรคิว ด้วยเหตุนี้มันถึงทำให้โรงพยาบาลเอกชนโตขึ้น
จรรยาบรรณในอาชีพหมอ
ผมว่าทุกอาชีพเหมือนกันหมด จริยธรรมต้องบวกกับคุณธรรม ถึงจะออกมาเป็นจรรยาบรรณ ยกตัวอย่างเช่น การเก็บเงินค่ารักษาพยาบาลที่แพงเกินกว่าความเป็นจริงก็ถือว่าผิดจรรยาบรรณในการประกอบอาชีพแล้ว
ตลอดเวลาที่รักษาคนไข้มานั้น เราในฐานะที่เป็นหมอ หน้าที่ของเราคือ การรักษาคนไข้ หลักของการเป็นหมอก็คือ จะทำอย่างไรก็ได้ที่จะทำให้คนไข้รอด มันก็หนักใจทุกรายนะ แต่มันคือหน้าที่ เราต้องทำให้เต็มที่ที่สุด
ถ้ารู้ว่าคนไข้ไม่ไหว ..
พอเราเรียนจบมา มันก็ต้องมีการรักษาคนไข้แบบจริงๆ ก็ตื่นเต้น แต่ก็รู้สึกว่าสนุกดี เราก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย คิดแค่เพียงว่าจะรักษาอย่างไรให้เค้าหายเท่านั้นพอ ถ้าเค้าหายจากอาหารที่เป็น แล้วเค้าเดินออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เค้าแค่พูดคำว่าขอบคุณ แค่นี้มันก็ทำให้เรามีความสุขได้แล้ว
แต่มันก็มีบางรายที่ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยใจ บางทีเรารู้อยู่แล้วว่าคนไข้ไม่ไหวแล้ว เราก็ต้องบอกกับทางญาติคนไข้ตามตรง เค้าตามตรง ถ้าเค้าจะไปเราก็ไม่สามารถรั้งเอาไว้ได้ ก็รู้สึกแย่เหมือนกัน แต่เราก็ถือว่าทำหน้าที่ของการเป็นหมอได้สมบูรณ์แบบแล้ว
หลักการบริหารงาน
หลักการบริหารงานของผู้บริหารหลายคนไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะดำเนินธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมใดก็ตาม เฉกเช่นเดียวกับนายแพทย์เจริญ ที่ก็มีหลักในการบริหารงานเป็นของตัวเอง ซึ่งคุณหมอเปิดเผยว่า " ในการบริหารงานทั่วไปมันต้องใช้ ไหวพริบในการบริหาร แต่ในหลักของการพยาบาลมันไม่เหมือนกับอุตสาหกรรมอย่างอื่น มันเป็นเรื่องของวิชาชีพที่ต้องเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก ที่ไทยนครินทร์เรามีหมออยู่ประมาณ 200 ท่านทั้งแบบที่เป็น Full time และ Part time ส่วนพยาบาลก็มีรองรับคนไข้พอสมควรประมาณ 300 คน ส่วนที่เหลือก็จะเป็นพนักงานออฟฟิศต่างๆ หมอและพยาบาลนับว่าเป็นกลไกสำคัญอย่างมากของโรงพยาบาล เพราะว่ามันเป็นของคู่กัน ไม่สามารถขาดอย่างใดอย่างหนึ่งได้ นิยามในการบริหารงานของผมคือ เมตตา ซื่อสัตย์ ยุติธรรม ต่อทั้งผู้ถือหุ้น หมอ พยาบาล พนักงานทั้งหมด หลักการนี้สามารถใช้ได้กับทุกเรื่อง ทุกคนที่เข้ามาเรา เราก็มีความเมตตากับเค้าทุกคน ที่สำคัญเราต้องมีความหวังดี และซื่อสัตย์ ยุติธรรมต่อเค้าด้วย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่ไหนไม่มีความยุติธรรมที่นั่นอยู่ไม่ได้ "
หลักที่ใช้ในการดำรงชีวิต
คนเราขอให้คิดอยู่อย่างเดียวว่า ทุกคนเกิดมาก็ต้องเจอปัญหา แต่ถ้าเราเครียดกับปัญหา ก็จะไม่มีทางหาความสุขในชีวิตได้ แต่จริงๆแล้วธรรมชาติในโลกนี้ทุกปัญหาย่อมมีทางออก ถ้าไม่มีทางออกก็ไม่ได้เรียกว่าปัญหา ถ้าเจอปัญหาเราต้องอย่าไปเครียด หาทางออกให้ได้ มันจะทำให้เราเครียดน้อยลง
การดูแลสุขภาพของตัวเอง
หลายคนคงเข้าใจว่าคนที่เป็นหมอ สุขภาพก็คงจะดีกว่าคนทั่วไปที่ไม่ได้ประกอบอาชีพหมออยู่แล้ว แต่ทุกคนคิดผิด เนื่องจากว่า อาชีพหมอนั้นไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัว อย่างคนไข้มีผ่าตัดด่วนตอนตี 3 เราก็ต้องมา มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากว่ามันคือความเป็นความตาย หมอเลยมีสุขภาพที่แย่ที่สุด เพราะเราไม่ค่อยได้มีเวลาดูแลตัวเอง กินข้าวก็ไม่เป็นเวลา พักผ่อนก็ไม่เพียงพอ ฟังดูเหมือนว่าอาจจะหาข้อดีจากอาชีพหมอไม่ได้เลย แต่ผมกลับไม่ได้คิดอย่างนั้น ทุกครั้งที่ช่วยให้คนไข้หายจากโรคอะไรก็แล้วแต่ เราจะเกิดความปิติในหัวใจ ความเหนื่อยที่เกิดขึ้นก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง
แต่ว่าตอนนี้พออายุเพิ่มมากขึ้น เราต้องเริ่มหันมาดูแลสุขภาพตัวเองให้มากกว่านี้แล้ว เพราะอายุมากแน่นอนตามกฎธรรมชาติ มันก็เสื่อมไปตามกาลเวลา ร่างกายมันก็ไม่แข็งแรงเหมือนเดิม เราเองต้องเจียดเวลามาดูแลร่างกายของเราบ้างก่อนที่มันจะเสื่อมโทรมไปมากกว่านี้ ผมจะยึดหลัก 4 อ คือ 1. อาหาร ต้องทานข้าวให้เป็นเวลา และต้องทานให้ครบ 5 หมู่ และไม่ทานให้อิ่มมากจนเกินไป 2. อากาศ ต้องหาเวลาไปฟอกปอดบ้าง เพราะอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในกรุงเทพมลพิษมากมาย มีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง ถ้ามีเวลาว่าง ก็ควรจะไปต่างจังหวัด เพื่อไปฟอกปอดบ้าง มันก็จะทำให้ก็สุขภาพดีขึ้นกว่าเดิม 3. การออกกำลังกาย เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ทุกวันนี้ผมก็หาเวลาไปออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3 วัน ไม่ว่าจะเป็นจ๊อกกิ้ง ว่ายน้ำ แต่สำหรับคนที่มีอายุมาก กีฬาว่ายน้ำเป็นสิ่งที่เหมาะที่สุด แต่สำหรับกอล์ฟนี่ไม่แตะเลย เนื่องจากว่าเป็นคนแพ้แดด แล้วกอล์ฟเป็นกีฬากลางแจ้ง ก็เลยไม่มีโอกาสได้เล่น ส่วนอ.สุดท้ายก็คือ อารมณ์ ทำอย่างไรไม่ให้เครียดเท่านั้นพอ แล้วเราจะแข็งแรงเองทั้งภายใน และภายนอก ถ้าคนไทยทุกคนยึดหลัก 4อ. ได้ คุณภาพชีวิตของคนไทยก็จะเพิ่มขึ้น ไม่ต้องมีใครเจ็บใครป่วย มันก็จะส่งผลต่อประเทศชาติบ้านเมืองคือ เมืองไทยก็พัฒนามากขึ้น และรัฐบาลก็ไม่ต้องมาจ่ายเงินให้คนป่วย บริการ 30 บาทรักษาทุกโรค หรือบริการประกันสังคม อาจไม่มีคนเข้าไปใช้บริการเลยก็ได้
กับครอบครัวที่ต้องดูแลและประคบประหงมเป็นอย่างดี
อาชีพหมอเป็นอาชีพที่ไม่ค่อยมีเวลา หมอเหมือนกรรมกรที่ทำด้วยมือ ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่มีเงินเก็บ เราผ่าตัดคนไข้แต่ละรายก็จะได้ค่าผ่าตัดตรวจคนไข้ 300-500 บาท เพราะฉะนั้นที่คนทั่วไปว่ากันว่า คนที่เป็นหมอแล้วจะรวย ความจริงแล้วไม่ใช่เลย สมัยก่อนน่ะใช่ แต่สมัยนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะสมัยก่อนค่าแรงของหมอจะเป็นเงินเดือน แต่สมัยนี้ถ้าไม่ได้รักษาคนไข้ก็ไม่ได้เงิน และพอถึงเวลาที่เราต้องเกษียณอายุไป ในส่วนของบำเหน็จบำนาญก็ไม่มีให้ ซึ่งต่างกับราชการที่เค้ามี แต่ผมก็ไม่ห่วงครอบครัวแล้ว เนื่องจากว่าลูกๆเค้าก็โต เรียนจบกันหมดแล้ว เค้ามีทางเดินเป็นของตัวเอง เราในฐานะเป็นพ่อ-แม่ ก็แค่แนะนำ และให้คำปรึกษาแก่เค้าเท่านั้นเอง แต่มันก็จะมีบ้างที่วันเสาร์-อาทิตย์ก็จะนัดทานข้างกันพร้อมหน้าพร้อมตา
การตอบแทนสังคม
โรงพยาบาลไทยนครินทร์เป็นโรงพยาบาลเอกชน หลายๆคนบอกว่าค่ารักษาพยาบาลแพง แต่จริงๆแล้วเราไม่ได้คิดราคาแพงขนาดนั้น ถ้าจะดูที่กำไร เราไม่เยอะเลย แต่ที่ต้องคิดราคาค่อนข้างสูงกว่ารัฐบาล เนื่องจากว่าต้นทุนมันไม่เท่ากัน ผมจะเล่าให้ฟังว่า มีคนไข้คนหนึ่งเค้ารักษาตัวอยู่ที่รพ.เปาโล เค้าประสบอุบัติเหตุรถชน คนแถวนั้นก็ใจบุญพาเค้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาล หมอก็ตรวจอาการแล้วพบว่าเลือดคั่งในสมอง เราก็ทำการผ่าตัดสมองให้ และให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ปัญหาที่รพ.เจอก็คือ 1) ไม่สามารถเก็บค่ารักษาพยาบาลได้ เนื่องจากคนไข้ไม่มีญาติพี่น้อง ค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่ายา ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าแพทย์ ทางรพ.ก็ต้องรับผิดชอบ แต่เราก็สืบไปสืบมาก็ได้ความว่า คนไข้คนนี้มีญาติพี่น้องอยู่ที่จ.อุดรธานี เราก็เลยตัดสินใจเอาคนไข้ไปส่งให้ที่ญาติเค้า สิ่งที่เราทำไปทั้งหมดมันเรียกว่า การตอบแทนสังคมด้วยหรือเปล่า เพราะเราก็ไม่สามารถเก็บค่ารักษาพยาบาลกับคนไข้คนนี้ได้ แต่เราก็ต้องช่วยให้เค้ามีชีวิตรอด เนื่องจากว่ามันเป็นหน้าที่ของหมอ คือไม่ว่าคนไข้จะรวย หรือว่าจนมา เราก็ต้องช่วยเหลือเค้าให้เท่าเทียมกัน
นอกจากนี้เรายังมีการทำบุญทอดกฐินตามวัดต่างๆด้วย ที่เราเน้นไปในเรื่องของศาสนาก็เพราะว่า ผมเชื่อว่าศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี และเราก็ยังมีการไปออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่รักษาพยาบาลให้คนรายได้น้อย , จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ นั่นก็เป็นการตอบแทนสังคมอีกทางหนึ่งด้วยเหมือนกัน ผมคิดว่าการตอบแทนสังคมมันทำได้หลายทางครับ
คลินิคแพทย์แผนจีน ... บริการใหม่ของ TNH
เรามีหมอแพทย์แผนจีนที่มีความเชี่ยวชาญ และชำนาญอยู่และมีผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นหมอที่มาจากประเทศจีนเลย การรักษาของแพทย์แผนจีนเค้าจะมีการปรับสมดุลของร่างกาย แล้วมันจะค่อยๆรักษาโรคที่มีอยู่ให้หายไปเอง แต่บางคนก็บอกว่ามันหายช้า กว่าการรักษาแผนปัจจุบันซึ่งมันจะหายเร็วกว่า แต่ก็อยากให้คนไทยหันมาลองรักษาโรคด้วยการแพทย์แผนจีนกันดู
แต่ก็มีคนไข้ที่เวลามารักษาแล้ว จะเรียกหาแพทย์แผนจีนมากกว่าการรักษาแผนปัจจุบัน เนื่องจากเค้าไม่อยากให้ร่างกายเค้าได้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายเยอะ
จุดเด่นที่แข็งแรง
โรงพยาบาลเอกชนทุกแห่ง จะมีความเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ในเรื่องของการบริการที่ดี การรักษาทุกแห่งก็เหมือนกันหมด เพราะหมอที่รับเข้ามารักษา ต้องเป็นหมอที่มีความเชี่ยวชาญ จุดเด่นของเราก็เหมือนที่อื่นคือ บริการที่รวดเร็ว สะดวกสบาย และจุดเด่นของเราอีกด้านหนึ่งก็คือ การบริหารภายในต้องดี หมอ พยาบาล อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องมือต้องให้ครบ และทางโรงพยาบาลก็ต้องมีสถานที่ตั้งที่ดี
กับไทยนครินทร์ตอนนี้ก็ถือว่าเราก็มีความพร้อมอยู่พอสมควร เรามีความก้าวหน้ามาโดยตลอด เพราะดูจากคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆประมาณ 700-800 คนต่อวัน ก็ถือว่ามีการเติบโตที่ดีทีเดียว
เป็นห่วงสุขภาพของคนไทย
ส่วนใหญ่สมัยก่อนคนไทยจะเป็นโรคติดเชื้อกันมาก แต่สมัยนี้เป็นโรคเสื่อมมากขึ้นแล้ว เนื่องจากร่างกายใช้ส่วนต่างๆมากขึ้น เช่น โรคไขข้อ มันจะเกิดขึ้นเวลาที่เราเดิน และโรคเสื่อมเส้นหัวใจก็เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เพราะหัวใจของคนเราต้องใช้งานตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้ว เพราะฉะนั้นหัวใจจึงรับหน้าที่ในการทำงาหนักมาก เมื่อหัวใจทำงานหนักขึ้น เส้นเลือดหัวใจก็ต้องเสื่อม เราก็เลยตั้งศูนย์โรคหัวใจขึ้นมาเพื่อที่จะรองรับโรคต่างๆ
ฝากถึงผู้ถือหุ้น
โรงพยาบาลจัดได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ถือว่าบริหารงานได้ยากมาก เนื่องจากเราขายการบริการ เพราะฉะนั้นคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการกับเราส่วนใหญ่แล้วจะเป็นลูกค้าที่เจ็บไข้ได้ป่วยทั้งนั้น เราเองต้องมีการเตรียมพร้อมอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นบุคคลากร เครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์ต่างๆ เพราะฉะนั้นจะเป็นการบริหารที่ยุ่งยากกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ ถ้าเรามีการบริหารจัดการภายในที่ดีและมีสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลที่ดี ผมคิดว่าจะเกิดความเสี่ยงน้อย เมื่อมากเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ แต่เราโชคดีที่เรามีสถานที่ตั้งที่ดี และเราก็คิดว่าเราจะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆครับ
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 28, 2006 11:49 am
โดย miracle
อยู่ในตลาดใหม่ไม่ใช่หรือตัวนี้
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 28, 2006 12:50 pm
โดย hot
ผมเคยสังเกต
โรงพยาบาลที่ประสบความสำเร็จมาจาก
แผนก หมอสูติ
แผนก หมอเด็ก
ยิ่งเกิด มากเท่าไร หมอเด็กยิ่งทำงานมากเท่านั้น
การที่คนย้ายมาแถวสุวรรณภูมิมากขึ้น
ประชากรแถบนีน่าจะหนาแน่นขึ้นนะผมว่า
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 28, 2006 12:54 pm
โดย pk8
miracle เขียน:
เรื่องของเวลานิดหน่อย
กว่ามันจะขึ้นXDตั้งเดือน พย
จ่ายเงินปลายเดือน
แต่มันประกาศตั้งแต่เดือน กย
เพื่อไปเป็นมติในที่ประชุม
ซึ่งจะประชุมในเดือนหน้าคือเดือน ตค
ใครถืออยู่ควรจะตรวจสอบเรื่องกระแสเงินสดด้วย
เพราะว่า เห็นdelayมากๆๆ
ปิดงบเดือน กค จ่ายปลายเดือน พย
มันตั้งห้าเดือน
5 เดือนสำหรับจ่ายปันผลงวดประจำปี ก็ไม่ได้ช้ากว่า kh เท่าไหร่ครับ
kh ช่วงจ่ายปันผลงวดสิ้นปีก็ 4 เดือน กับ 3 สัปดาห์ ใช้เวลาใกล้เคียงกัน
แต่เป็นข้อสังเกตุที่ดีครับสำหรับนักลงทุน จะได้เพิ่มความระมัดระวัง ขอบคุณครับ
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 28, 2006 1:37 pm
โดย prin
TNH : THAI NAKARIN HOSPITAL PUBLIC COMPANY LIMITED
*Unconsolidated Financial Statement
Balance Sheet As of 30/04/2006 (9 months) (M.Baht)
ASSETS
CASH AND CASH EQUIVALENTS 11.78
TRADE ACCOUNTS AND NOTES RECEIVABLE-NET 25.70
BANK OVERDRAFTS AND SHORT-TERM LOANS FROM FINANCIAL INSTITUTIONS
18.73
TRADE ACCOUNTS AND NOTES PAYABLE-NET 39.02
SHORT-TERM LOANS FROM RELATED PARTIES-NET 26.16
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 28, 2006 2:15 pm
โดย hot
สรุปผลการดำเนินงานของบจ. ประจำปี (F45-1)
บริษัท โรงพยาบาลไทยนครินทร์ จำกัด (มหาชน)
(ตรวจสอบ) (ตรวจสอบ)
งวด 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคม
ปี 2549 2548
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (พันบาท) 53,740 20,520
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.32 0.14
4. กำไร (ขาดทุน) สุทธิ
ใน ปี 2549 บริษัทมีกำไรสุทธิ 53.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.22 ล้านบาท หรือเท่ากับ
ร้อยละ 161.89 เมื่อเทียบกับ ปี 2548 ซึ่งบริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 20.52 ล้านบาท
ซึ่งผลกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละ 20 นั้น เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้
เป็นผลมาจากการเปิดศูนย์ใหม่ เช่น ศูนย์หัวใจ และศูนย์กระดูก และข้อ
ช่วยเสริมในการขยายฐานลูกค้า และฐานรายได้ของบริษัทฯ ในปี 2549
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 28, 2006 2:23 pm
โดย ลุงขวด
สรุปผลการดำเนินงานของบจ. ประจำปี (F45-1)
บริษัท โรงพยาบาลไทยนครินทร์ จำกัด (มหาชน)
(ตรวจสอบ) (ตรวจสอบ)
งวด 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคม
ปี 2549 2548
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (พันบาท) 53,740 20,520
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.32 0.14
..............
เรื่อง คำชี้แจงผลการดำเนินงานประจำปี 2549 เปลี่ยนแปลงมากกว่าร้อยละ 20
เรียน กรรมการ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัท โรงพยาบาลไทยนครินทร์ จำกัด (มหาชน) (?บริษัท?) ขอชี้แจง
ผลการดำเนินงานจากงบการเงินสำหรับปี 2549 สิ้นสุด 31 กรกฎาคม 2549 ซึ่งผ่าน
การตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี และคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว
โดยในปี 2549 บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 53.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.22
ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 161.89 จากกำไรสุทธิ 20.52 ล้านบาทใน ปี 2548
อันเป็นผลสืบเนื่องจากปัจจัยหลัก ดังนี้
1. รายได้
ใน ปี 2549 บริษัทมีรายได้รวม 727.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129.02 ล้านบาท
หรือเท่ากับร้อยละ 21.55 เมื่อเทียบกับ ปี 2548 ซึ่งบริษัทมีรายได้รวม 598.62
ล้านบาท โดยมีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล 719.41 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 133.39 ล้านบาท หรือเท่ากับร้อยละ 22.76 เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยนอก
และผู้ป่วยในเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 11.76 และ 4.27
2. ต้นทุนการให้บริการ
ใน ปี 2549 บริษัทมีต้นทุนในการประกอบกิจการโรงพยาบาลเท่ากับ 516.24 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 73.59 ล้านบาท หรือเท่ากับร้อยละ 16.62 เมื่อเทียบกับปี 2548 ซึ่งมีต้นทุนใน
การประกอบกิจการโรงพยาบาลเท่ากับ 442.65 ล้านบาท จะเห็นว่า ต้นทุนในการประกอบ
กิจการโรงพยาบาลเทียบกับรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาลในปีนี้มีจำนวน
ร้อยละ 71.76ต่ำกว่าช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาซึ่งมีจำนวนร้อยละ 75.53
เนื่องจากบริษัทมีการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
3. ค่าใช้จ่ายในการบริหาร
ใน ปี 2549 บริษัทฯ มีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารเทียบกับรายได้รวมคิดเป็นร้อยละ 16.62
น้อยกว่า ปี 2548 คิดเป็นร้อยละ 18.24 เนื่องจากมีการจัดการควบคุมค่าใช้จ่าย และการวาง
แผนบริหารทรัพยากร มีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. กำไร (ขาดทุน) สุทธิ
ใน ปี 2549 บริษัทมีกำไรสุทธิ 53.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.22 ล้านบาท หรือเท่ากับ
ร้อยละ 161.89 เมื่อเทียบกับ ปี 2548 ซึ่งบริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 20.52 ล้านบาท
ซึ่งผลกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละ 20 นั้น เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้
เป็นผลมาจากการเปิดศูนย์ใหม่ เช่น ศูนย์หัวใจ และศูนย์กระดูก และข้อ
ช่วยเสริมในการขยายฐานลูกค้า และฐานรายได้ของบริษัทฯ ในปี 2549
.....................
ดูงบเคร่า ๆ แล้ว รพ นี้ ไม่มีเงินสดเหลือเท่าไหร่ แต่ ก็ จะมีการจ่ายปันผลปลายปี นี้ ที่กำหนดจ่ายหุ้นละ 0.18 บาท หรือ ประมาณ 32 ล้านเศษ คงมีเงินหมุนเวียนเข้ามา ส่วนหนี้ระยะยาว มีประมาณ 104 ล้านบาท ทะยอยจ่ายได้ถึงปี 2552 สรุปก็คงไม่มีปัญหาเรื่องเงินหมุนเวียนเท่าไหร่ ก็คงสามารถเติบโตได้ปีละสัก 20-30% ก็พอใจแล้ว โรงพยาบาลนี้ดีตรง ที่ตั้งบางนาตราด ผมชอบทำเลที่ตั้งของเขา ดีครับ แต่ยังไม่เคยแวะเข้าไปใช้บริการเลย และคงยังไม่อยากไปใช้บริการ
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 28, 2006 2:24 pm
โดย hot
และคงยังไม่อยากไปใช้บริการ
ขอให้ลุงขวดสุขภาพแข็งแรงคับ
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 28, 2006 2:29 pm
โดย ลุงขวด
ขอบคุณครับ คุณ hot มาแย่ง กัน post ในหัวข้อหุ้นตัวนี้ ผมว่า จะไปตั้งใหม่ใน ร้อยคนร้อยหุ้น เพื่อจะได้เก็บไว้ดู ในภายหลัง :lol: :lol:
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 28, 2006 3:23 pm
โดย SAFARI
ลองประมาณกำไรกันคร่าวๆนะครับ
2549 กำไร 53.74 ล้าน กำไรต่อหุ้น 0.30
2550 กำไรโตจาก2ส่วน คือ ภาษีที่ลดลงจาก30% เป็น 20%เท่ากับกำไรจะโตประมาณ 15% ส่วนที่สองคือ growthของตัวโรงพยาบาล ถ้าซัก20-30% อย่างที่ลุงขวดว่าไว้
20% growth ดังนั้นกำไรก็น่าจะ=53.74*1.15*1.2=74.16ล้าน
EPS=0.412 Price 4.1 PE=9.95
PE กลุ่มโรงพยาบาล แล้วแต่ใครจะให้นะครับ สำหรับผมประมาณ15เท่า Target Price ของปีหน้าก็น่าจะประมาณ 6บาท
ในภาวะอย่างนี้โรงพยาบาลก็เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย และให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจอย่างที่เราเห็นจากโรงพยาบาลตัวอื่นๆนะครับ
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 29, 2006 9:24 am
โดย sittc
ที่น่าสนใจอีกอย่างคือนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 60%
ผมว่าเป็นการใส่ใจต่อผู้ถือหุ้นดีนะ
แต่การถือครองเงินสดทำไมต่ำจัง หรือว่าธุรกิจ รพ.เขารับเงินสดกัน
เลยไม่จำเป็นต้องถือครองเงินสดกันมาก
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 29, 2006 10:50 am
โดย ดร.โหน่ง
โรงพยาบาลที่ผมไปหาประจำ เคยไปนั่งกับคุณหมอเรื่อง30 บาท ท่านบอกว่ารายได้หายไปเยอะก็เพราะโครงการนี้ จริงๆผมเห็นด้วยนะครับเป็นข้อดีของประชาชนรายได้น้อย แต่อีกมุมหนึ่งเป็นข้อเสียของโรงพยาบาล ไม่ทราบอนาคตโครงการนี้จะเป็นอย่างไรครับ และทาง TNH มีคนไข้ระดับ 30 บาท เป็นสัดส่วนเยอะไหมครับ
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 29, 2006 10:55 am
โดย woody
ดร.โหน่ง เขียน:โรงพยาบาลที่ผมไปหาประจำ เคยไปนั่งกับคุณหมอเรื่อง30 บาท ท่านบอกว่ารายได้หายไปเยอะก็เพราะโครงการนี้ จริงๆผมเห็นด้วยนะครับเป็นข้อดีของประชาชนรายได้น้อย แต่อีกมุมหนึ่งเป็นข้อเสียของโรงพยาบาล ไม่ทราบอนาคตโครงการนี้จะเป็นอย่างไรครับ และทาง TNH มีคนไข้ระดับ 30 บาท เป็นสัดส่วนเยอะไหมครับ
TNH ไม่ได้รับโครงการ 30 บาทครับ :P
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 29, 2006 11:09 am
โดย ดร.โหน่ง
อย่างงั้น คนไข้ส่วนใหญ่ก็เป็นระดับกลาง-บน ซิครับ
อืม!....ไปเดิน Seacon ก็เห็นกลุ่มนี่มีเยอะที่สุด และก็เยอะขึ้นทุกปี ผมคงไม่แปลกใจถ้าคนกลุ่มนี้จะไปใช้บริการโรงพยาบาลที่ไหน.......
มีการจัดลำดับ top 10 Thai hospitals ไม่ทราบ TNH จะอยู่ที่เท่าไรครับ.......
งบtnh ออกช้าจังคับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 29, 2006 11:14 am
โดย woody
[quote="ดร.โหน่ง"]อย่างงั้น คนไข้ส่วนใหญ่ก็เป็นระดับกลาง-บน ซิครับ
อืม!....ไปเดิน Seacon ก็เห็นกลุ่มนี่มีเยอะที่สุด และก็เยอะขึ้นทุกปี ผมคงไม่แปลกใจถ้าคนกลุ่มนี้จะไปใช้บริการโรงพยาบาลที่ไหน.......