Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

สมมติว่าผมเป็นคนเคาะซื้อ ptt-f ที่ราคา 87 บาท แล้วขายไปที่ 238 บาท ได้เงินไป 2 ล้านกว่าบาท

ผมควรทำตัวอย่างไร

1.ทำไม่รู้ไม่ชี้ เพราะไม่ได้ทำผิดกฏหมาย
2.คืนเงินให้มาร์เกตติ้งที่เลินเล่อบางส่วน สักครึ่งหนึ่ง ถือว่าเป็นค่าบทเรียน
3.เสียศักดิ์ศรี ไม่อยากได้เงินก้อนนี้ แต่ขอยืมมาลงทุนก่อน โดยไปตกลงกับบริษัทว่าจะรับผิดชอบให้มาร์เกตติ้ง โดยจะผ่อนคืนให้เฉพาะเงินต้นเป็นเวลา 40 เดือน ถือว่าช่วยมาร์เกตติ้งคนสวย
4.คืนให้ทั้งหมด ขอหักค่าคอมคืนมา
5.อื่นๆ โปรดแนะนำ

ในทางกลับกัน ถ้าผมเป็นผู้เสียหาย จะมีใครคืนให้ผมไหม

Raphin Phraiwal เขียน:ในทางกลับกัน ถ้าผมเป็นผู้เสียหาย จะมีใครคืนให้ผมไหม

เป็นผู้เสียหายในที่นี้หมายถึงใคร
เป็นกรณีคีย์คำสั่งเอง แต่ทำ 0 หายไปตัวนึง เช่นจะขายที่ 100 ดันไปขายที่ 10 บาทหรือครับ  

Raphin Phraiwal เขียน:ในทางกลับกัน ถ้าผมเป็นผู้เสียหาย จะมีใครคืนให้ผมไหม

ถ้าคุณระพิน ไม่ผิด  หลังจากตรวจสอบจากเทปคำสั่งแล้ว...
บ.หลักทรัพย์ที่คุณใช้บริการอยู่จะต้องรับผิดชอบคืนให้ 100% ครับ..

โดยไม่ต้องเกรงว่า บล.จะไล่เบี้ยกับมาร์คู่ใจคนสวย..
เพราะ มาร์ ปฏิบัติหน้าที่ให้กับ บล. โดยสุจริต

ที่ผิดพลาดเพราะอุบัติเหตุ.. ไม่ได้ตั้งใจ
บล. ไม่สามารถฟ้องร้องจากมาร์ได้เช่นกันครับ..

ถึงแม้ว่าจะมีสัญญาร่วมรับผิดชอบกับทาง บล. ก็จริง..
โดยมาร์สามารถอ้างได้ว่า..  สัญญานั้น..  เป็นสัญญาที่ไม่ยุติธรรม

เหมือนนายจ้าง รง. อุตสาหกรรม ให้เซ็นสัญญาก่อนรับเข้าทำงานว่า..
จะไม่รับผิดชอบต่อ  อวัยวะที่ขาดไปของเรา  หากเกิดอุบัติเหตุใดๆ...

ซึ่งทางกฏหมายถือว่า ปัดความรับผิดชอบในส่วนที่ต้องรับผิดชอบ
ถือเป็นโมฆะครับ..  

นลท.บางท่านก็อาจะพูดไปถึงเรื่องมนุษยธรรม
ถึงถูกกติกา แต่โหดร้ายไปก็ว่าไม่เหมาะ

แต่บางท่านก็อาจมองในมุมว่านี่มันเป็นเกม
ไม่มีตัววัดใดจะตัดสินความถูกผิดได้ นอกจากกติกา



ไม่โหวตค่ะ เพราะถ้าเป็นเรื่องจริง ที่ว่ามาร์ภัทรคีย์ผิดเอง และ ลูกค้าบีฟิทเป็นผู้ช่วงชิงเอาประโยชน์ไว้ได้ก่อนใคร (มีกระทู้ขึ้นที่เวบสินธรนะ ว่าเขาเองเป็นคนโชคดีคนนั้น)


ดิฉันโนโหวตดีกั่วค่ะ

[quote="matrix"] โดยไม่ต้องเกรงว่า บล.จะไล่เบี้ยกับมาร์คู่ใจคนสวย..
เพราะ มาร์ ปฏิบัติหน้าที่ให้กับ บล. โดยสุจริต

ที่ผิดพลาดเพราะอุบัติเหตุ.. ไม่ได้ตั้งใจ
บล. ไม่สามารถฟ้องร้องจากมาร์ได้เช่นกันครับ..

ถึงแม้ว่าจะมีสัญญาร่วมรับผิดชอบกับทาง บล. ก็จริง..
โดยมาร์สามารถอ้างได้ว่า..

โหวตแล้วครับ ไม่คิดว่าจะเห็นเหมือนคนส่วนใหญ่  :D

ถ้าผมเป็นผู้เสียหายผมก็ต้องพยายามเอาคืนให้ได้มากที่สุด วิธีไหนก็ได้
ถ้าผมเป็นผู้รับประโยชน์ ผมก็จะทำยังไงก็ได้ให้ไม่ต้องคืน
ถ้าผมเป็นมาร์ ผมก็ต้องหาทางปัดสวะพ้นตัว รับผิดชอบให้น้อยที่สุด
ถ้าผมเป็นโบรกเกอร์ ผมก็ต้องพยายามโยนความเสียหายที่เกิด
ให้มาร์มากที่สุด

สรุปคือทุกคนก็ต้องทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเองสูงสุดตามแต่ position
ที่ตัวเองอยู่ ณ ตำแหน่งนั้นครับ
ผมเองก็ไม่มีข้างและตัดสินไม่ได้ว่าผมจะทำยังไงจนกว่าจะได้เข้าไป
ร่วมเหตุการณ์ด้วยตนเองและเป็นหนึ่งในนั้นครับ

เรื่องผิดพลาดเป็นปกติ  มีเกือบทุกวัน
ตั้งแต่สั่งซื้อผิด
สั่งขายผิด
จนทาง  บล.  ต้องมีเทปไว้เปิดให้คู่กรณีฟัง

บางครั้งลูกค้า  สั่งขายหุ้นสามบาทสิบตังค์
มาร์ไม่ทวนคำสั่งกับลูกค้า   คีย์สามบาท  อีกสิบตังมาร์ต้องรับผิดชอบ
หากมารับผิดชอบไม่ไหว  เมื่อปิดตลาดแล้ว  มีการออมชอมกัน
หากลูกค้า  งอแง  ขอหุ้นคืน
ก็ทำรายงานเบิกหุ้นในพอท์ตบริษัทมาใส่พอท์ตลูกค้า
ส่วนทาง บล.กับมาร์จะไปทำอไรอย่างไร  เราเป็นลูกค้าก็อย่าไปก้าวก่าย

เมื่อ2-3ปีก่อนก็มีการขายปูนใหญ่ผิดพลาด
เรื่องนี้  ถ้าคนเล่นหุ้นมา5ปี10ปี
ไม่มีใครเขาสนใจกันหรอก  ลูกค้าต้องเป็นผู้ไม่เสียเปรียบเสมอ

Raphin Phraiwal = รพินทร์ ไพรวัลย์

ผมอ่านเป็น ราฟฟิน ไฟร์วอล ตั้งนาน  ขำตัวเองจริงๆ

[quote="สามัญชน"]Raphin Phraiwal = รพินทร์ ไพรวัลย์

ผมอ่านเป็น ราฟฟิน ไฟร์วอล ตั้งนาน

ลองมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีตัวละครด้วยกันทั้งหมด 4 ฝ่าย

1. ผู้ซื้อจอมโชคดี
ผมมองว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดกฎการซื้อขายหุ้นในตลาดแต่อย่างใดเลย
เหมือนมีคนขายหุ้นให้เราถูกๆ มีนายตลาดขายให้เราถูกๆ
เราถึงจะซื้อ ใช่มั้ยครับ แล้วผู้ซื้อผู้นี้เขาผิดตรงไหน ถ้ามีคนเสนอขายหุ้นให้เขาถูกๆ
โดยหลักการแล้วเขาทำถูกต้องทุกอย่างครับ
(ไม่ขอให้ความเห็นในแง่จริยธรรม)

2. ผู้ขายจอมซวย
การติดต่อระหว่างนักลงทุนและโบรกเกอร์ จะมีการบันทึกเทปเก็บไว้ครับ
หากลองฟังเทปแล้วปรากฎว่า ไม่ใช่ความผิดของผู้ขาย
แต่เป็นความเลินเล่อของ "น้องมาร์"
ผู้ขายไม่ควรที่จะต้องมารับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ
และทางโบรกต้องชดใช้ให้ครับ
ถ้าไม่ชดใช้ และมีข้อพิพาท นักลงทุนสามารถใช้สิทธิของตัวเอง
โดยการใช้กระบวนการยุติธรรม ผ่านการดำเนินการของอนุญาโตตุลาการ

3. น้องมาร์จอมเลินเล่อ
หากฟังเทปแล้วปรากฎว่านักลงทุนไม่ได้ผิดแต่น้องมาร์คีย์ออเดอร์ผิด
เพื่อนที่เคยเป็นมาร์ เล่าให้ฟังว่าปกติแล้วทางโบรกจะมีเงินสำรองกันไว้ส่วนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือน้องมาร์ในกรณีแบบนี้
แต่ถ้าคีย์ผิดแล้วโดนไปเป็นล้านๆ แบบนี้ก็ไม่ไหวนะจ๊ะน้องมาร์
น้องมาร์ต้องมีส่วนในการรับผิดชอบด้วยค่อนข้างแน่

4. โบรกจอมซวย
ทางโบรกเกอร์คงมีกฎเกณฑ์ในรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้ที่ค่อนข้างชัดเจนแล้ว
เช่นหากคีย์ผิด ไม่เกินกี่บาท หรือกี่ครั้งในช่วงเวลาที่กำหนด
ทางโบรกจะช่วยน้องมาร์

แนวทางการแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ในอนาคต

1. แก้ไขที่ระบบ
เผอิญว่าหุ้นตัวนี้เป็นหุ้นที่ซื้อขายในกระดานต่างประเทศเลยไม่มี Ceiling/Floor
ไม่เช่นนั้นแล้วระบบจะไม่อนุญาติให้คีย์ราคานอกช่วงดังกล่าว
ถึงอย่างไรก็ตามหากมีการคีย์ออเดอร์ที่ผิดปกติ ระบบ Internet Trading จะมีการเตือนเช่น

Warning:
- Order price exceeds 10 spread(s) from projected/last price.
Please confirm if you want to proceed.

ผมคิดว่าในหน้าจอคีย์ออเดอร์ของน้องมาร์ก็คงมีคำเตือนในทำนองเดียวกัน
แต่ด้วยความรีบร้อน น้องมาร์เลยไม่ได้สนใจและกด OK ไป

แนวทางในการปรับปรุงที่ตัวระบบของโบรกเกอร์ หากมีออเดอร์ที่คีย์หลุดช่วง (ไม่ใช่ transaction ปกติ)
อาจจะมีการออกแบบให้คีย์ออเดอร์ได้ยากขึ้น เช่นต้องได้รับการ Approve จาก Supervisor ก่อนเป็นต้น
หรืออาจจะมีการ Warning ด้วย Sound
เช่น คีย์หลุดช่วงเยอะๆ มีเสียง "หวอ" แบบโรงพยาบาลขึ้นให้น้องมาร์สะดุ้งเป็นต้น (ขำๆนะครับ  :D )
เพื่อให้น้องมาร์ได้ตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนส่งคำสั่งนั้นเข้าสู่ระบบของตลาด

2. แก้ไขที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่
อาชีพอย่างน้องมาร์เนี่ย ต้องมีความแม่นยำสูง
คนที่มักจะประมาทเลินเล่น เนี่ยไม่ควรจะมาเป็นผู้คีย์ออเดอร์
(ให้ไปออกบูทเรียกลูกค้าอย่างเดียว  :D )
คนที่ค่อนข้างเลินเล่อ สมาธิสั้น ไม่ควรมาเป็นครับ
เพราะจะทำงานด้วยความเครียด และดีไม่ดี ทำแล้วต้องเป็นหนี้เพราะคีย์ออเดอร์ผิด
ส่วนโบรกก็ควรมีขั้นตอนในการทดสอบที่เหมาะสมก่อนการรับน้องมาร์
เพื่อได้คนที่เหมาะกับงานมาทำงาน

แน่ใจเหรอครับว่า มีคนโชคดี  มีคนโชคร้าย

อิอิอิ  ผมว่า ผมเรียนรู่วิธีการ ไซฟ่อนเงิน   อีกรูปแบบนึงแล้วหล่ะครับ

[quote="san"]แน่ใจเหรอครับว่า มีคนโชคดี

หรืออาจจะมีการ Warning ด้วย Sound
เช่น คีย์หลุดช่วงเยอะๆ มีเสียง "หวอ" แบบโรงพยาบาลขึ้นให้น้องมาร์สะดุ้งเป็นต้น (ขำๆนะครับ   )
เพื่อให้น้องมาร์ได้ตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนส่งคำสั่งนั้นเข้าสู่ระบบของตลาด

เห็นด้วยกะคุณ H นะคะกรณีนี้

เพราะจริงๆแล้ว หลายครั้งเหมือนกัน(ในพอร์ทที่ดิฉันเล่นเองทางเนต)ที่ขึ้นจอมาว่าอะไร ก็จะไม่อ่านเท่าไหร่ เพราะมันชินๆ และก้กดๆโอเคๆไป บางทีรีบมั่งไรมั่ง

พวกกดซื้อเป็นขาย ขายเป็นซื้อนี่ได้ยินกันบ่อยๆ
ที่จริงเขาจะแยกสี ระหว่างขาย กับซื้อ คนละสีกัน
แต่ในทางปฏิบัติ (ยิ่งคนที่เทรดวันละหลายๆตัว) ถ้าเร็วๆนี่ ไม่ได้สะดุดตาเท่าไหร่เลย

อีกหน่อยน่าจะพัฒนาเป็นเสียง เตือนสั้นๆ ก็พอ
เช่น

เซลล์ ...ติ๊ง
บาย...คลิ๊ค
พิ๊ค...อู้ดๆ


อะไรเงี้ยอ่ะค่ะ  :lovl:

[quote="007-s"]
อีกหน่อยน่าจะพัฒนาเป็นเสียง เตือนสั้นๆ ก็พอ
เช่น

เซลล์ ...ติ๊ง
บาย...คลิ๊ค
พิ๊ค...อู้ดๆ


อะไรเงี้ยอ่ะค่ะ

สามัญชน เขียน:Raphin Phraiwal = รพินทร์ ไพรวัลย์

ผมอ่านเป็น ราฟฟิน ไฟร์วอล ตั้งนาน  ขำตัวเองจริงๆ

ลูกอิสาน เขียน:ของผมระยะแรกอ่านเป็น ราฟพี่ แนนซี่ ไปโน่น :lol:

[quote="HVI"]



"ปู่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องคอมเท่าไหร่หรอก
ปกติปู่ก็ใช้คอมแค่เล่นดัมมี่ เอ๊ย เล่นบริดจ์กับเพื่อน
ว่างๆก็ชวนตาเกตส์มาเล่นเป็นเพื่อน
เซลล์ ...ติ๊ง
บาย...คลิ๊ค
ปู่ฟังแล้ว พอจะเข้าใจ
แต่ พิ๊ค...อู้ดๆ เนี่ย... มันเป็นยังไงเหรอหลานเอ้ย... ปู่งง"

:lovl:

เคยรอหุ้นบางตัว ให้มันมีคนสะดุ้ง
โยนมาให้เหมือนกัน

คนซื้อได้นี่ สติ กับ สมาธิเค้าดีจัง

ถ้าได้ เอาไปทำบุญดีกว่าครับ

เสียใจกับผลโพล จริงๆ ถ้าคำตอบออกมาเป็นไม่คืนเงินเค๊า

ผมไม่ได้อ่านรายละเอียดนะครับ แต่ถ้าไม่ใช่เงินเรา มีข้อเดียวครับ คืนไปเลย

เปรียบเทียบกรณี ไปห้าง bigC ให้เงินไป แล้วคิดเงินผิดไป 1000 เราควรคืนหรือไม่

คำตอบคือควรคืนครับ ทั้งๆที่ตอนไปคืน กลับต้องยืนรอนานมาก เนื่องจากต้องปิดเครื่องคิดเงิน แล้วนับเงินทั้งหมด ว่า คิดผิดจริงหรือไม่

สรุปคือ ไม่ใช่เงินเรา คืนไปเลย

ถ้ามัวแต่ยึดตามกฎหมาย กฎระเบียบ

ประมาณว่า ทอนผิดเองนี่ เราไม่ควรคืนหรอก

สังคมมันจะเป็นไงนี่

เราจะรวยขึ้นมาอย่างภาคภูมิใจได้อย่างไร

ลองคิดดูว่า ถ้าดร.นิเวศน์ เป็นคนได้เงินก้อนนี้มาท่านจะคืนหรือไม่ ผมว่าท่านคืนนะ

เปรียบเทียบกรณี ไปห้าง bigC ให้เงินไป แล้วคิดเงินผิดไป 1000 เราควรคืนหรือไม่

ผมคิดว่าไปทำการเปรียบเทียบลักษณะนี้ไม่ค่อยถูกต้องนักครับ
ถ้าจะนำไปเปรียบเทียบแบบนี้
เหตุการณ์จริงน่าจะเป็นลักษณะนี้

เราซื้อหุ้นมูลค่าของหุ้น 1 แสนบาท
แต่โบรกคิดผิด หักบัญชีเราแค่ 1 หมื่นบาท
แบบนี้เราควรคืนครับ เราไม่มีความชอบธรรมที่จะไปเอาส่วนต่าง 9 หมื่น
ทั้งในแง่กฎหมายและจริยธรรม

แต่กรณีการคีย์ออเดอร์ผิดถ้าจะเปรียบเทียบกับการซื้อของในห้างสรรพสินค้า
ผมว่ามันเหมือนกับฝ่ายขายกำหนดราคาสินค้ามาราคานึง
สมมติว่า 1 หมื่นบาท แต่พนักงานติดป้ายผิดว่า Sales 1 พันบาท
มีคนผ่านมาเห็น เลยซื้อของชิ้นนั้น แล้วก็มีการคิดเงินทุกอย่างถูกต้องเรียบร้อย

ภายหลัง ปรากฎว่าห้างนั้นมาทวงสินค้าคืน
เราควรตัดสินผู้ซื้อรายนั้นอย่างไรดีครับ ถ้าผู้ซื้อรายนั้นไม่ยอมคืนของ
สำหรับผม ผมไม่รู้สึกว่าผมต้องไปประนามคนที่เขาซื้อของได้ราคาถูก
เพราะว่าเป็นเป็นความเลินเล่อ ของห้างสรรพสินค้านั้นเอง
แต่ผมก็รู้สึกชื่นชมในแง่คุณธรรม จริยธรรม หากผู้ซื้อรายได้คืนสินค้านั้นไปโดยดี

ถ้ามัวแต่ยึดตามกฎหมาย กฎระเบียบ

ประมาณว่า ทอนผิดเองนี่ เราไม่ควรคืนหรอก

สังคมมันจะเป็นไงนี่

ผมกลับคิดตรงข้าม ถ้าไม่ยึดกฎระเบียบสิครับ สังคมมันจะเป็นยังไง
ถ้าคนขายหุ้นปรากฎว่าคีย์ซื้อเป็นขาย ขายเป็นซื้อ
แล้วไปขอทวงคืน เอ่อ... คีย์ผิดนะ ขอหุ้นคืนหน่อย
หรือในตลาด Futures คนจะ Short ดันไป Long
แล้วพอดัชนีร่วงมาบอกว่า เอ่อ... ขอโทษทีคีย์ผิด อันที่จริงจะ Short
ขอยกเลิกสัญญาล่วงหน้านั้นให้เป็นโมฆะได้มั้ย
ถ้าเขาไม่คืนให้หรือไม่ยอม เราก็ไปประนามเขาว่าเขาเป็นคนที่น่าผิดหวังมาก
ตลาดหุ้นจะเป็นยังไงเนี่ย...

ไม่มีใครรู้จริงกับเรื่องเงินในกระเป๋าใครหรอก

ดีลที่ match จบแล้ว ต้องจบเลย ไม่งั้นยุ่งตาย

ใครจะรู้ว่าไม่ได้โอนระหว่างเครือญาติกัน หรือ ดรีมทีม
ใครจะรู้ว่าคิดผิด เลยอยากปลี่ยนใจคิดใหม่ ไม่ขายราคานี้
ใครจะรู้ว่าที่ให้เหตุผลมา เป็นจริงอย่างที่สงสารกัน
ไม่งั้นจะรอราคาคนทิ้งตอนสงครามอิรัก 911 กันทำไม
เงินไม่ใช่ของเรา ก็กรณีเดียวกัน

ถ้าไม่รับผิดชอบเงินในกระเป๋าตัว (มาร์ที่คีย์ผิด)
ใครจะรับผิดชอบแทนให้

8) ส่วนตัวคิดแตกต่างจากน้องหวีนะว่า
    คนที่ซื้อไปน่าจะรู้อยู่ว่ารายการส้มหล่นพวกนี้
    ไม่มีทางเป็นเรื่องปกติไปได้
     ผมว่าถ้ามีหลักฐานpracticalว่าเป็น error จริง
     ก็น่าจะคืนเงินทางผู้ขายไปนะครับ
     เพราะไม่ใช่สิ่งที่พึงมีพึงได้อยู่แล้ว
     จะไปทำให้ชาวบ้านเค้าเดือดร้อนเปล่าๆ

     อย่างที่น้องหวียกตัวอย่างเรื่องซื้อของผิดราคา
     จากหมื่นนึงติดป้ายพันนึง
     แล้วซื้อไปแล้ว
     ถ้ายังตามตัวกันเจอ มาบอกกันก็น่าจะคืนกันไปนะครับ
     อย่าไปฉกฉวยประโยชน์จาก human err กันเลย

     แต่ก็อย่างว่าก็ต้องดูกันเป็น caseๆไปนะครับ
     บางเรื่องๆ long ๆ shortๆ
     ถ้ามั่วกันไปเรื่อย
     ตลาดนี้ก็วายไม่มีใครไปเล่นแน่นอนครับ

อันที่จริงไม่ได้ต่างหรอกครับพี่พอใจ เพียงแต่มองคนละมุม
สำหรับดีลทางธุรกิจในระบบทุนนิยมแล้ว เราตัดสินกันด้วยกฎเกณฑ์ทางด้านกฎหมาย
แต่สำหรับผู้ที่มีคุณธรรม จริยธรรมสูง ก็เป็นเรื่องที่น่ายกย่องครับ
ทำตามมโนธรรม ซึ่งมักจะสูงกว่ามาตรฐานของกฎหมาย ...

เหมือนกฎเกณฑ์ขั้นพื้นฐานสำหรับการอยู่ร่วมกันโดยสันติสุขของชาวพุทธคือศีล 5
แต่ถ้าจะมีคนยึดศีล 8 ศีล 10 หรือ ศีล 227 ข้อก็เป็นเรื่องที่น่ายกย่อง
แต่คงไปว่าผู้ที่ถือเพียงศีล 5 ไม่ได้เนื่องจากเขาไม่ได้ทำผิดกฎเกณฑ์พื้นฐานสำหรับการอยู่ร่วมกันโดยสันติสุข ...

เว็บเราคนเลือก ข้อ 1 เยอะจริงๆ ผมเลือกข้อ 4 ครับ

ผมว่า case นี้
อันดับแรกภัทรต้องจ่ายค่าเสียหายให้ลูกค้าก่อนเลย แล้วค่อยไปไล่เบี้ยเอากับน้องมาร์เอง แต่ก็คงได้คืนไม่ครบอยู่แล้ว แต่ก็ต้องทำเพราะไม่งั้นชื่อเสียงเละแน่ๆ

ส่วนน้องมาร์ก็ทำใจ ว่าเป็นความผิดพลาด เวลา Key คำสั่งอย่ามัวคุยเพลินทำให้ Key ผิดแบบนี้

อย่างไรก็ตามทั้งภัทรกับน้องมาร์ ไม่มีสิทธิไปเรียกร้องกับผู้โชคดีคนนั้นใดๆทั้งสิ้น เพราะเค้าก็ไม่ได้ทำผิดอะไรถ้าไม่คืนเงินให้

ผู้โชคก็คิดเอาตามวิจารณาณของตัวเองว่าจะคืนหรือไม่คืน ถ้าเอาไปแล้วยังนอนหลับดีอยู่ก็เก็บเงินไว้ แต่ถ้าเอาเงินไปแล้วมัวคิดไม่สบายใจ คิดสงสารภัทรกับน้องมาร์จนนอนไม่หลับ เอาเงินไปคืนเค้าก็น่าจะดี นอกจากจะทำให้นอนหลับดีแล้วยังเท่  8)  อีกด้วย อาการคงคล้ายๆกับ มีคนลืมเงินไว้บน Taxi 2.85 ล้าน ขึ้นอยู่ว่าจะคืนหรือไม่คืนเท่านั้นเอง

อยากคิดอะไรก็คิดไป

แต่สรุปว่า ถ้าไม่ตะคิดตะขวงใจ ใครจะมาตั้งกระทู้

สำหรับผมนะ ถ้ามันต้องคิด ก็ต้องคืนแล้วครับ

gray zone แม่ผมสอนว่าให้คืนก่อน

อยากคิดอะไรก็คิดไป

แต่สรุปว่า ถ้าไม่ตะคิดตะขวงใจ ใครจะมาตั้งกระทู้

สำหรับผมนะ ถ้ามันต้องคิด ก็ต้องคืนแล้วครับ

gray zone แม่ผมสอนว่าให้คืนก่อน

ครับ... คนเรามีสิทธิที่จะคิดต่างกันอยู่แล้ว
เกมส์การลงทุน ผู้เล่นก็มีแต่คนที่จ้องจะซื้อถูกแล้วก็ขายแพง
ขึ้นอยู่กับว่าเอาอะไรมาแบ่งว่าเป็น gray zone แล้วมีเหตุผลแค่ไหน
โลกใบนี้มันก็มักจะมีแต่สีเทาๆซะด้วยสิ  ถึงต้องมีเส้นมาแบ่งถูก ผิด
ถ้าคิดว่าเส้นแบ่งนี้ยังดีไม่พอ ก็น่าจะมีการตีเส้นใหม่
แต่ถ้าทุกคนคิดได้แบบนี้ก็ดีครับ มีเส้นแบ่งถูกผิดที่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่สมมติขึ้น
โลกจะได้เป็นสีเทาน้อยลง สังคมน่าอยู่ขึ้น ...

สำหรับผม อย่างน้อยทุกคนต้องยึดกฎเกณฑ์
แต่ถ้าจะทำมากกว่านั้น ก็เป็นเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ของแต่ละบุคคล
ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่เราคงไปว่านักลงทุนที่ซื้อถูกไม่ได้
เพราะเกมส์การลงทุน ผู้ที่อยู่ในเกมส์ก็จ้องที่จะซื้อถูกขายแพงด้วยกันทุกคน