พอร์ตหุ้นของ เสียปู่
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 09, 2006 12:08 am
'เสี่ยปู่'ฮุบถือปริญสิริ10%
Source - โพสต์ทูเดย์
Saturday, May 20, 2006 10:51
มองโต-เป้าถือหุ้น15% เล็งจังหวะซื้ออีก4-5ตัว หุ้นอาหารหนุนพอร์ตโต
โพสต์ทูเดย์-"เสี่ยปู่" เทหมดหน้าตักเก็บหุ้นปริญสิริเพิ่มยอดถือหุ้นพุ่งเป็น 10% ตั้งเป้าเก็บถึง 15% เล็งเก็บหุ้น 4-5 ตัว หากราคาลงมาต่ำ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)
รายงานแบบการได้มาและจำหน่ายหลักทรัพย์(แบบ 246-4)ว่า นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ได้ซื้อหุ้นบริษัท ปริญสิริ(PRIN)เพิ่มจำนวน 147 ล้านหุ้น หรือ 0.22% จากเดิมที่ถืออยู่ 65.926 ล้านหุ้น หรือ 9.84% รวมถือหุ้น 67.90 ล้านหุ้น หรือ 10.14% โดยราคาสูงสุดที่ได้มาอยู่ที่ 3.28 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2549
สำหรับนายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล เป็นนักลงทุนรายใหญ่ เจ้าของฉายา"เสี่ยปู่" นิยมลงทุนหุ้นพื้นฐานดี และถือลงทุนระยะยาว โดยหุ้นแต่ละตัวที่ลงทุนจะถือจำนวนมาก สัดส่วนไม่ต่ำกว่า 5% ของทุนจะทะเบียน
"เสี่ยปู่"เปิดเผยถึงการเข้าถือหุ้น PRIN 10%เศษ เนื่องจากเห็นว่าเป็นบริษัทที่มีการเติบโตของกำไรดีต่อเนื่อง และคาดว่าปีนี้จะกำไร 60 สตางค์ต่อหุ้น โดย PRIN เปิดโครงการปีนี้จำนวนมากและขายได้ เพราะสร้างบ้านราคาถูกและสวยครองตลาดบ้านราคาถูกได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้บริษัทยังเริ่มทำคอนโดมิเนียม เพิ่มรายได้เข้ามา
"คิดว่าราคาหุ้น PRIN ไม่แพง หรือ 2 เท่าเศษ ของราคาพาณ์ 1 บาท เป็นหุ้นอนาคตดี ถ้าผมมีเงินจะเก็บเพิ่ม หวังไว้ 15% เป็นการถือลงทุน ไม่คิดทำราคา และไม่คิดร่วมเป็นกรรมการ เพราะผู้บริหารทำได้ดีอยู๋แล้ว" เสี่ยปู่กล่าว
นักลงทุนรายใหญ กล่าวว่า นอกจากหุ้นปริญสิริแล้ว ยังมีหุ้นอีกหลายตัวที่ซื้อลงทุน ประกอบด้วย บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น(ประเทศไทย)(SIS),บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์(RPC)บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท(S&P) บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล(MINT)บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น(MINOR)บริษัทอิออน ธนสินทรัพย์(ไทยแลนด์)หรือAEONTS บริษัทท่าอากาศยานไทย(AOT)บริษัทบางจากปิโตรเลียม(BCP)บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีคัลไทย(TPI) บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น(SE-ED)และบริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น(CP7-11)
สำหรับหุ้นที่ถือก่อนหน้านี้และได้ขายออกไปแล้ว ประกอบด้วย บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ (MATCH)บริษัทซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์(CMO) บริษัท อุตสาหกรรมอาหาร ส.ขอนแก่น(SORKON) บริษัท เอ็ม.วี.ที. คอมมิวนิเคชั่น (CMVT)บริษัท อาร์ ซี แอล(RCL)บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง(THANI)บริษัท แอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเมนท์(LPN)
เสี่ยปู่กล่าวว่า การเลือกขายหุ้นจะพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทนั้น ๆ หากเห็นว่ามีแนวโน้มการทำกำไรลดลง หรือกำไรวูบวาบ ก็จะขายหุ้นออกไป โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน ส่วนหุ้นที่ถือลงทุนระยะยาว จะเป็นหุ้นที่ผลประกอบการดีต่อเนื่อง ราคาไม่สูง และผลตอบแทนจากเงินลงทุนดี
"หุ้น RCL ผมขายออกไปหมดแล้ว แม้ว่าผลประกอบการบริษัทจะดี แต่ไม่แน่ใจบริษัทใหม่ ๆ เข้ามาแข่งราคาเฟด (อัตราค่าขนส่งทางตู้คอนเทนเนอร์) แล้วทำให้ราคาเฟดตก" นักลงทุนรายใหญกล่าว
เสี่ยปู่ กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นขณะนี้มีโอกาสปรับตัวลงได้อีกจากแรงขายของต่างชาติ โดยจะถือจังหวะช่วงนี้ปรับพอร์ต เก็บหุ้นดี ๆ ที่ราคาปรับตัวลงมา เพิ่มอีก 4-5 บริษัท
สำหรับมูลค่าหุ้นที่ลงทุนทั้งหมดได้ปรับตัวมากขึ้นจากปลายปีมากกว่า 10% ของเงินลงทุนแม้ว่าภาวะตลาดจะเจอกับปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง ราคาน้ำมันแพง และอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เนื่องจากหุ้นที่ลงทุน เช่น MINT และ MINOR ที่ราคาปรับตัวขึ้นมาก--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
Source - โพสต์ทูเดย์
Saturday, May 20, 2006 10:51
มองโต-เป้าถือหุ้น15% เล็งจังหวะซื้ออีก4-5ตัว หุ้นอาหารหนุนพอร์ตโต
โพสต์ทูเดย์-"เสี่ยปู่" เทหมดหน้าตักเก็บหุ้นปริญสิริเพิ่มยอดถือหุ้นพุ่งเป็น 10% ตั้งเป้าเก็บถึง 15% เล็งเก็บหุ้น 4-5 ตัว หากราคาลงมาต่ำ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)
รายงานแบบการได้มาและจำหน่ายหลักทรัพย์(แบบ 246-4)ว่า นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ได้ซื้อหุ้นบริษัท ปริญสิริ(PRIN)เพิ่มจำนวน 147 ล้านหุ้น หรือ 0.22% จากเดิมที่ถืออยู่ 65.926 ล้านหุ้น หรือ 9.84% รวมถือหุ้น 67.90 ล้านหุ้น หรือ 10.14% โดยราคาสูงสุดที่ได้มาอยู่ที่ 3.28 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2549
สำหรับนายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล เป็นนักลงทุนรายใหญ่ เจ้าของฉายา"เสี่ยปู่" นิยมลงทุนหุ้นพื้นฐานดี และถือลงทุนระยะยาว โดยหุ้นแต่ละตัวที่ลงทุนจะถือจำนวนมาก สัดส่วนไม่ต่ำกว่า 5% ของทุนจะทะเบียน
"เสี่ยปู่"เปิดเผยถึงการเข้าถือหุ้น PRIN 10%เศษ เนื่องจากเห็นว่าเป็นบริษัทที่มีการเติบโตของกำไรดีต่อเนื่อง และคาดว่าปีนี้จะกำไร 60 สตางค์ต่อหุ้น โดย PRIN เปิดโครงการปีนี้จำนวนมากและขายได้ เพราะสร้างบ้านราคาถูกและสวยครองตลาดบ้านราคาถูกได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้บริษัทยังเริ่มทำคอนโดมิเนียม เพิ่มรายได้เข้ามา
"คิดว่าราคาหุ้น PRIN ไม่แพง หรือ 2 เท่าเศษ ของราคาพาณ์ 1 บาท เป็นหุ้นอนาคตดี ถ้าผมมีเงินจะเก็บเพิ่ม หวังไว้ 15% เป็นการถือลงทุน ไม่คิดทำราคา และไม่คิดร่วมเป็นกรรมการ เพราะผู้บริหารทำได้ดีอยู๋แล้ว" เสี่ยปู่กล่าว
นักลงทุนรายใหญ กล่าวว่า นอกจากหุ้นปริญสิริแล้ว ยังมีหุ้นอีกหลายตัวที่ซื้อลงทุน ประกอบด้วย บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น(ประเทศไทย)(SIS),บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์(RPC)บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท(S&P) บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล(MINT)บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น(MINOR)บริษัทอิออน ธนสินทรัพย์(ไทยแลนด์)หรือAEONTS บริษัทท่าอากาศยานไทย(AOT)บริษัทบางจากปิโตรเลียม(BCP)บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีคัลไทย(TPI) บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น(SE-ED)และบริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น(CP7-11)
สำหรับหุ้นที่ถือก่อนหน้านี้และได้ขายออกไปแล้ว ประกอบด้วย บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ (MATCH)บริษัทซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์(CMO) บริษัท อุตสาหกรรมอาหาร ส.ขอนแก่น(SORKON) บริษัท เอ็ม.วี.ที. คอมมิวนิเคชั่น (CMVT)บริษัท อาร์ ซี แอล(RCL)บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง(THANI)บริษัท แอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเมนท์(LPN)
เสี่ยปู่กล่าวว่า การเลือกขายหุ้นจะพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทนั้น ๆ หากเห็นว่ามีแนวโน้มการทำกำไรลดลง หรือกำไรวูบวาบ ก็จะขายหุ้นออกไป โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน ส่วนหุ้นที่ถือลงทุนระยะยาว จะเป็นหุ้นที่ผลประกอบการดีต่อเนื่อง ราคาไม่สูง และผลตอบแทนจากเงินลงทุนดี
"หุ้น RCL ผมขายออกไปหมดแล้ว แม้ว่าผลประกอบการบริษัทจะดี แต่ไม่แน่ใจบริษัทใหม่ ๆ เข้ามาแข่งราคาเฟด (อัตราค่าขนส่งทางตู้คอนเทนเนอร์) แล้วทำให้ราคาเฟดตก" นักลงทุนรายใหญกล่าว
เสี่ยปู่ กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นขณะนี้มีโอกาสปรับตัวลงได้อีกจากแรงขายของต่างชาติ โดยจะถือจังหวะช่วงนี้ปรับพอร์ต เก็บหุ้นดี ๆ ที่ราคาปรับตัวลงมา เพิ่มอีก 4-5 บริษัท
สำหรับมูลค่าหุ้นที่ลงทุนทั้งหมดได้ปรับตัวมากขึ้นจากปลายปีมากกว่า 10% ของเงินลงทุนแม้ว่าภาวะตลาดจะเจอกับปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง ราคาน้ำมันแพง และอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เนื่องจากหุ้นที่ลงทุน เช่น MINT และ MINOR ที่ราคาปรับตัวขึ้นมาก--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์