Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาที่น้ำมันขึ้นราคาจาก 25 บาท ไปเป็น 30 บาท (พึ่งจะเริ่มลงเมื่อเร็วนี้ๆ) ราคาน้ำมันค่อยๆ ขยับขึ้นไปแบบขั้นบันไดทีละ 40-50 สต. นับได้ก็หลายสิบครั้งอยู่

ทุกครั้งที่เรารู้ว่าพรุ่งนี้น้ำมันจะขึ้นราคา เราก็จะรีบเต็มทันทีในคืนนั้นให้เต็มถัง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับโชคด้วยว่าวันนั้นถังน้ำมันของเราเหลือที่ว่างขนาดไหน

แต่มาคิดดูอีกที การพยายามทันอย่างนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์มากเท่าไร ถ้าเทียบกับคนที่น้ำมันหมดเมื่อไรก็เติมโดยไม่สนใจว่าเมื่อไหรจะขึ้นราคาจะพบว่าได้ซื้อถูกกว่าแค่ถังสุดท้ายถังเดียวเท่านั้นตลอดทั้งปีที่พยายามทำมา

ว่ามั้ยครับ

ใช่ครับ.......ถ้าความถี่ในการใช้รถคงเดิม  และความถี่ในการขึ้นราคาของน้ำมันมีความสม่ำเสมอ

แต่ถังสุดท้ายที่แพงกว่านั้นไม่ใช่แพงกว่าแค่สี่สิบสตางค์/ลิตร  แต่อาจจะแพงกว่าถึงสี่บาท/ลิตร

ยกตัวอย่าง

คนที่1.
เติมที่ราคา 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คือเขาเติมเต็มถังก่อนขึ้นราคาทุกครั้ง

คนมี่2.
เติมที่ราคา 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 เพราะเขาเติมเต็มถังหลังขึ้นราคาทุกครั้งเช่นกัน

ถ้าเอาตัวเลข 2 3 4 5 6 7 8 9 10 มาเทียบกัน  สองคนนี้ก็ไม่ได้จ่ายแพงกว่ากันเลย  

แต่ถ้าเอาครั้งสุดท้ายของคนที่ 2. กับครั้งแรกของคนที่ 1. มาเทียบกัน  อืม......1 กับ 11 ต่างกันเยอะอยู่ครับ

ขอบคุณครับ คุณหมอสามัญชนที่แสดงวิธีพิสูจน์ให้ดูด้วย

ถ้าเช่นนั้น

ตอนน้ำมัน 25 บาท เต็มถังก็ 1000 บาท
ตอนน้ำมัน 30 บาท เต็มถังก็ 1200 บาท

เช่นนั้นก็ถูกกว่า 200 บาทตลอดความพยายามหนึ่งปี

เช่นนั้นก็ถูกกว่า 200 บาทตลอดความพยายามหนึ่งปี

ครับ เครียดด้วย  และถ้าเป็นการเจาะจงขับรถไปเติมก็จะเสียค่าน้ำมันในส่วนนี้อีกต่างหาก  ไปกลับห้ากิโลก็หมดไปสิบห้าบาท  ทั้งปียี่สิบครั้งก็สามร้อยไปแล้ว  ขาดทุนจ้อย......

แต่ถ้าจะเติมถูกกว่านั้น ก็อย่าลืมใข้บัตรเครดิตที่มี Promotion ด้วยก็จะประหยัดยิ่งขึ้นครับ เพราะตอนนี้สู้กันถึงให้ส่วนลดสูงสุด 4% เลยครับ

ก็เลยสงสัยว่า ที่ราคาน้ำมันราคาแพงอยู่ปัจจุบัน เพราะเราจ่ายค่าการตลาดแพงกว่าปกติหรือไม่ ทำไมคนใช้บัตรเครดิตบางรายจึงได้ส่วนลดสูงถึงขนาดนั้นครับ

อย่าลืมใข้บัตรเครดิตที่มี Promotion ด้วยก็จะประหยัดยิ่งขึ้นครับ

  :lol:  :lol:   ข้อเตือนให้ระวังไว้น่ะครับ  พี่ผมเพิ่งเจอมา  เติมนำมัน 800 กว่า บาทใช้บัตรเคดิต  ปกติพี่ผมเค้าจะเซ็นโดยไม่ค่อยได้ดู  แต่คราวนี้ดันเข้าปั๊มที่ไม่ค่อยเข้าพอดีวันนั้นเค้าไม่รีบเลยเช็กสักหน่อยเจอ  มาเป็น 8000 กว่าบาทเลยครับ  แถมถามเด็ก ดันเจอลูกพี่ มันไล่เด็กคนนั้นไป แล้วบอกเดียวคนนี้เคลียร์ให้เอง  เสร็จพี่ผมเค้าก้อโวยดิครับ  เค้าก้อจัดการพิมให้ใหม่แค่เค้าพูดจาบ่ายเบี่ยง  พี่ผมเค้ามาเล่าให้ฟังยังไงก้อระวังๆๆไว้น่ะครับ  :twisted:

ผมว่า เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถดีที่สุด ครับสมมติ เดือนหนึ่งใช้ สามถัง ลดลงมาเหลือ สองถังก็ประหยัดไปเยอะมากเลยครับ

itti_peak เขียน:ผมว่า เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถดีที่สุด ครับสมมติ เดือนหนึ่งใช้ สามถัง ลดลงมาเหลือ สองถังก็ประหยัดไปเยอะมากเลยครับ

   ถูกต้องครับ

ที่ตลก คือ บางทีกลับบ้านแล้ว รู้ข่าวว่าพรุ่งนี้ น้ำมันจะขึ้นราคา ยังต้องขับรถออกไปหาปั๊มเพื่อเติมน้ำมันอีกรอบ  บางที เงินที่ประหยัดได้ไม่กี่บาท ยังไม่คุ้มกับค่าน้ำมันเที่ยวนั้นเลย

ผมคิดว่าถ้าเติมแล้วมีความสุขหรือไม่ทุกข์หลังเติมก็เติมครับ  ถ้าเติมแล้วมีความทุกข์ไม่สนุกก็อย่าไปเติม

คุณพ่อผมนะ  ตื่นตั้งแต่ตี5เพื่อมาปิดไฟรั้วบ้านเพื่อช่วยผมประหยัดไฟ  ทั้งๆที่เดือนนึงแกก็อยู่ที่บ้านแค่ประมาณ10วัน

ผมห้ามหลายครั้งว่าไม่คุ้มกับสุขภาพ  แกก็ยังอยากทำและยังคงทำอยู่  ผมก็เลยปล่อย  แต่มาคิดดูแล้ว  แกอาจจะมีความสุขที่ได้ทำตัวให้เป็นประโยชน์กับผม  เดี๋ยวนี้ก็เลยไม่ได้ห้ามแกแล้ว

เรื่องน้ำมันผมเคยพยายามไปเติมสมัยน้ำมันขึ้นราคาใหม่ๆ หลังๆมาขี้เกียจ

น้ำมันขึ้นราคามากๆ  ทำให้ผมไปเที่ยวไกลๆน้อยลง  อยากให้น้ำมันราคาถูกลง  อยากให้รถยนต์เติมB100ได้  ถึงจะแพงเงินผมก็อยู่ในประเทศไทย

สามัญชน

ยกตัวอย่าง
คนที่1.
เติมที่ราคา 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คือเขาเติมเต็มถังก่อนขึ้นราคาทุกครั้ง
คนมี่2.
เติมที่ราคา 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 เพราะเขาเติมเต็มถังหลังขึ้นราคาทุกครั้งเช่นกัน
ถ้าเอาตัวเลข 2 3 4 5 6 7 8 9 10 มาเทียบกัน  สองคนนี้ก็ไม่ได้จ่ายแพงกว่ากันเลย  
แต่ถ้าเอาครั้งสุดท้ายของคนที่ 2. กับครั้งแรกของคนที่ 1. มาเทียบกัน  อืม......1 กับ 11 ต่างกันเยอะอยู่ครับ

ใช้วิธีคิดแบบ LIFO นิครับเลยต่างกันเยอะ  ถ้าใช้วิธี FIFO ก็จะต่างกันไม่เยอะขนาดนั้นนะครับ

ผมเติมทุกครั้งเมื่อหมด เพราะผมว่า เราเสียเวลานะครับ กับการไปรอเติมน้ำมัน เมื่อมีประกาศจะขึ้นราคา

ถ้าคิดค่าเสียเวลา + ค่าเสื่อมสภาพ +ค่าน้ำมัน + ค่าเสียอารมณ์ ระหว่างที่รอคิวตามแห่ไปเติมน้ำมัน (ซึ่งบางครั้งผมไม่รู้หรอกว่าน้ำมันจะขึ้น แต่สังเกตได้จากจำนวนรถที่รอคิวเติมน้ำมัน) ผมคิดว่าไม่คุ้มกัน

apichai214 wrote

ใช้วิธีคิดแบบ LIFO นิครับเลยต่างกันเยอะ  ถ้าใช้วิธี FIFO ก็จะต่างกันไม่เยอะขนาดนั้นนะครับ

สุดท้ายได้คำตอบเท่ากันครับทั้ง LIFO และ FIFO

คือต่างกัน 10 (มาจาก 11-1)อันนี้ใช้  LIFO
ถ้าใช้ FIFO ก็จะเท่ากับ 1+1+1+1+1+1+1+1+1+1  = 10 เหมือนกัน

รถผมเติมน้ำมันครั้งละ 50 ลิตร

ถ้าเติมเต็มถังก็ต่างกันเท่ากับ 0.40 บาท x 50 ลิตร = 20 บาท

ผมว่าช่างมันไปเถอะครับถ้าเทียบกับที่เราต้องเจาะจงออกไปเติมน้ำมันแล้วต้องรอคิวยาวกว่าวันปกติ

สามัญชน

สุดท้ายได้คำตอบเท่ากันครับทั้ง LIFO และ FIFO

จิงด้วยครับ  :idea:
ขอบคุณที่ให้การชี้แนะ