หน้า 1 จากทั้งหมด 2
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 4:10 pm
โดย chatchai
จากส่วนหนึ่งของบทความ
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 4:11 pm
โดย สุมาอี้
ผมเห็นด้วยครับ
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 4:19 pm
โดย nanchan
เห็นด้วยนิดเดียว
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 4:29 pm
โดย CK
ผมเห็นว่า...
แล้วแต่คนครับ
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 4:31 pm
โดย คัดท้าย
ผมสงสัยมานานแล้ว ทำไมเวลายกตัวอย่างต้อง S&P500 ทำไมต้อง Nasdaq ทำไมต้องยกตัวอย่าง ดาวโจน
ทำไมไม่ยกตัวอย่างตลาดยุโรป ทำไมไม่ยกตัวอย่างตลาดไทย SET ว่าถือ 20 ปีมาแล้วเป็นยังไงมั่ง
ทำไมต้องยกแต่ตลาดอเมริกาครับ ???? ทำไมต้องยกตัวอย่างแต่ตลาดที่เติบโตในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา ???
ไม่ใช่ว่าทฤษฏีนี้ผิดนะครับ แต่อยากได้ตัวอย่างที่มันเหมือนกับตลาดไทยซักหน่อย
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 4:35 pm
โดย CK
สงสัยเพราะประวัติศาสตร์ตลาดไทยมันสั้นไปมังครับ
อ่านอีกบทความนึง
บอกว่า ถ้าซื้อ s&p 500 เมื่อราคาปิดวันศุกร์สูงกว่า MA200 วัน
และขาย s&p 500 เมื่อราคาปิดวันศุกร์ ต่ำกว่า MA200 วัน
โดยไม่ต้องใช้สมองวิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจจะดีหรือเลว
จะได้กำไรมากกว่าการถือยาว ประมาณ 2% หรือไงเนี่ย
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 4:36 pm
โดย chatchai
คงเป็นเพราะ บริษัทที่ทำการวิจัย เป็นบริษัทในสหรัฐมั๊งครับ
ในไทยจะมีใครเก็บข้อมูลบ้าง ยกเว้นตลาดหลักทรัพย์
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 4:36 pm
โดย คัดท้าย
ไม่มีตัวอย่างแม้แต่ตลาดยุโรป ครับ ผมว่ายาวนานกว่าเมกานะ อยากรู้ว่าเป็นไงมั่ง
มี วอเรน บัฟเฟต ของยุโรป มั้ย ถ้ามีชื่ออะไร ผลตอบแทนเป้นอย่างไรมั่ง ????
ผมเคยถามคำถามนี้มานานมากแล้ว จำได้ว่าไม่มีใครตอบเลย ไม่รู้รอบนี้จะมีใครตอบมั่งเป่า ???
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 4:38 pm
โดย คัดท้าย
คือ ผมยังกังขา เพราะเราเล่นยกตัวอย่างตลาดที่เป็นเมืองหลวงของทุนนิยม ที่เติบโตตลอด 70 ปีที่ผ่านมา
ผมอยากได้ตัวอย่าง ที่กลางๆ ไม่ใช่ Best Case แบบนี้ครับ
Re: จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 4:41 pm
โดย MisterK
[quote="chatchai"]
เพราะฉะนั้นการลงทุนที่ประสบความสำเร็จจะต้องขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่อยู่ในตลาด
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 4:48 pm
โดย CK
ผมเห็นด้วยกับ มร.เคครับ
วิธีที่ดีที่สุดสำหรับคนนึง ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 4:53 pm
โดย jaychou
มี วอเรน บัฟเฟต ของยุโรป มั้ย ถ้ามีชื่ออะไร ผลตอบแทนเป้นอย่างไรมั่ง ????
ผมว่าพวกรวยจริงมักจะเงียบๆ และที่สำคัญต้องนับไม่ค่อยถูกว่าทั้งหมดมีเท่าไหร่
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 4:58 pm
โดย คัดท้าย
jaychou เขียน:
ผมว่าพวกรวยจริงมักจะเงียบๆ และที่สำคัญต้องนับไม่ค่อยถูกว่าทั้งหมดมีเท่าไหร่
คือ ผมกำลังสงสัยว่า นี่ถ้าผม Long TFEX ติดต่อกัน 20 ปี ผมจะได้ผลตอบแทน 13% หรือเปล่าเนี่ย จากบทความนี้ :lol: :lol: :lol:
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 5:00 pm
โดย jaychou
แต่ผลตอบแทนจะลดเหลือครึ่ง หากนักลงทุนพลาดการถือครองในวันที่ดัชนีขึ้นสูงสุด 15 วัน ในตลอดระยะเวลา 10 ปี
และผลตอบแทนจะติดลบทันที หากพลาดการถือครองในวันที่ดัชนีขึ้นสูงสุด 40 วัน
สรุปง่ายๆว่า ถ้าจะเล่นรอบก็อย่าตกรถ เดี๋ยวไม่รวย
ท่านคัทท้าย ใครเค้าลอง S50 ยาวๆกัน
ผมว่าลองเทอมแทงลงน่าจะกำไร (ถ้ามีนะ)
เอ..พูดไปจะไม่ค่อยวีไอ ..ไปดีก่า หุๆ
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 5:11 pm
โดย Boring Stock Lover
ฝากว่าลองดูวิธีคำนวณหรือวิธีลงทุนด้วย ส่วนใหญ่ที่พูดว่าลงทุนตามดัชนีแล้วในระยะยาวจะมีผลตอบแทนอย่างนั้นอย่างนี้ มักจะเป็นการลงทุนลักษณะนี้
- ลงทุนเฉลี่ยทุกๆช่วงเวลา เช่น ทุกปี ปีละครั้ง
- การนำเงินปันผลมาลงทุนทันที
- ไม่มีภาษี
คุณคัดท้าย ลองดูเรื่อง Total Return from Investment (TRI) งานวิจัยของตลท. จำได้ว่าผมหรือใครก็เคยพูดถึงในเวบนี้ หรือลองหาที่เวบตลท. คร่าวๆ 30 ปีที่ผ่านมา ถ้าใครลงทุนตามแบบผลวิจัยในตลท. ผลตอบแทนประมาณ 8% หรือ 11% หว่า ? ทบต้นต่อปี
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 5:25 pm
โดย CK
Boring Stock Lover เขียน:จำได้ว่าผมหรือใครก็เคยพูดถึงในเวบนี้ หรือลองหาที่เวบตลท. คร่าวๆ 30 ปีที่ผ่านมา ถ้าใครลงทุนตามแบบผลวิจัยในตลท. ผลตอบแทนประมาณ 8% หรือ 11% หว่า ? ทบต้นต่อปี
9.5% ละกัน ตรงกลาง
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 5:51 pm
โดย ครรชิต ไพศาล
เวลาเราดูกราฟ ย้อนหลัง เราก็ เห็นจุดต่ำสุด จุดสูงสุดได้
เราก็บอกว่า
ถ้า
ซื้อที่จุดต่ำสุด ได้ทุกครั้ง ทุกรอบ
แล้ว
ขายที่จุดสูงสุด ได้ทุกครั้ง ทุกรอบ
โอ..อย่างนี้เรารวยแย่เลย
คนดูกราฟย้อนหลังในอตีด ก็เหมือนคนแก้ใบ้หวยออก ตอนหวยออกแล้ว
แต่พอเอาเข้าจริงๆ
ในวันที่เราซื้อ เราก็ว่ามันต่ำสุดๆแล้วมันเด้งแน่ๆ มันดันมีต่ำกว่าอีก ให้เราช้ำใจ
ในวันที่เรารอ ว่ามันลงต่ำยังไม่พอ มันดันเด้งไปหน้าตาเฉยโดยที่เราไม่ทันได้ซื้อ
ในวันที่เราขาย เราว่ามันขึ้นมามากแล้ว เราขาย มันดันขึ้นต่อแบบสุดๆ ให้เราเจ็บใจ
ในวันที่เราไม่ขาย เราว่ามันจะขึ้นต่อ มันดันปักหัวทิ้มดินเฉยเลย
ดูหุ้น ITD พอได้ กกต. คนคิดว่าจะมีเลือกตั้ง ได้รัฐบาลใหม่แน่ๆ
โครงการก่อสร้าง อภิมหาโปรเจ็ก จะตามมา ITD ขึ้นเอา ขึ้นเอา
เดือนเดียว จาก 5 บาท เป็น 7 บาท
เจอเหตุการณ์ 19/09/49 ร.9 เข้าไปที่เดียว คนที่ซื้อของไว้ ได้แต่นั่งซ้ำใจ
ต่างบ่นว่า โอ..ถ้าเรารู้ล่วงหน้า เราขายเสียในวันที่ 18/09/49 ร.9 ก็คงดี
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 6:02 pm
โดย 007-s
ทำไมนักลงทุนส่วนใหญ่จึงล้มเหลว
ดิฉันว่า เป็นที่ ไปยึดกะวิธีที่ไม่ใช่ทางที่ตนถนัดและเข้าใจ มากกว่า
คำกล่าวเฮีย คค. ตอบได้ดีมาก "คนเรามันเชี่ยวผิดกันเว้ยไอ้ศร.." ประมาณนั้นอ่ะค่ะ :lol:
คือ ถ้าลงทุนถือยาว แต่ไม่เข้าใจในมูลค่า ก็ไม่ต่างกะการพลาดจังหวะ เช่นไปซื้อเอาซะแพง ดอยเลย แต่ไปถือยาวซะงั้น ไปซื้อหุ้นที่มีแต่จะถดถอย แล้วถือยาวสิ มันก็ไม่ช่วยอะไร
หรือคนที่ ไม่ถนัดจังหวะ แต่เข้าๆออกๆ ผิดจังหวะทุกวี่ทุกวัน ก็สลับกันแค่ ไม่ขายหมู ก็ติดดอยได้ ก็คล้ายๆ การไม่รู้ว่าควรซื้อ หรือขายอะไร ที่ตรงไหน เท่าไหร่ อยู่ดี อ่ะค่ะ
ดิฉันชอบเที่ยวไปทุกเวบ หลายๆเวบแปลกๆ ยังเจอ เวบ ดรปัญญา
ท่านก็มาอีกแนวเลย ท่านเป็นนักสถิติ ระดับที่คิดค้นโปรแกรมได้ด้วยตัวเองเลยล่ะ แล้วก็มีนับคลื่นนะ แต่คนละหลักการกะเอเลียตเวฟของฝาหรั่ง เพราะเป็นการคิดค้นประมวลออกมาจากประวัติศาตร์ตลาดไทยแท้ๆ
แล้วก็ไม่เล่นรอบเล็ก จะเล่นรอบใหญ่ (รายปี) เอาปีละ ประมาณ 15% ต่อปี(แต่ละปีก็ไม่เท่ากันแล้วแต่ตลาดคึกมากน้อย) ก็เก็บร้านนอน รอคลื่นปีรอบใหม่ถึงจุดเก็บของก็เอาใหม่
แล้วท่านก็ยังบอกว่า จะเล่นรอบใหญ่ยักษ์ แล้วถือยาวรวดเลยก็ย่อมได้ (แต่คงไม่สนุกกระมัง :lol: ) ในพอร์ทท่านก็มีอยู่ตัวนึง ที่ถือยาวทำตย.รอบใหญ่ให้ดู(รอบเศรษฐกิจ) ก็คือ se-ed
ที่ยกตย ดร ปัญญามากล่าวถึง ก็เพียงจะย้ำคำที่ว่า คนเรามันเชี่ยวผิดกัน
อย่างท่านเป็นนักสถิติ ท่านก็ถนัดที่จะใช้สถิติ ในแนวของท่าน แทนที่จะมานั่งแกะงบ ซึ่งท่านคงมึนๆน่ะค่ะ ว่ามะคะ
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 6:10 pm
โดย คัดท้าย
007-s เขียน:
ดิฉันชอบเที่ยวไปทุกเวบ หลายๆเวบแปลกๆ ยังเจอ เวบ ดรปัญญา
ท่านก็มาอีกแนวเลย ท่านเป็นนักสถิติ ระดับที่คิดค้นโปรแกรมได้ด้วยตัวเองเลยล่ะ แล้วก็มีนับคลื่นนะ แต่คนละหลักการกะเอเลียตเวฟของฝาหรั่ง เพราะเป็นการคิดค้นประมวลออกมาจากประวัติศาตร์ตลาดไทยแท้ๆ
แล้วก็ไม่เล่นรอบเล็ก จะเล่นรอบใหญ่ (รายปี) เอาปีละ ประมาณ 15% ต่อปี(แต่ละปีก็ไม่เท่ากันแล้วแต่ตลาดคึกมากน้อย) ก็เก็บร้านนอน รอคลื่นปีรอบใหม่ถึงจุดเก็บของก็เอาใหม่
แล้วท่านก็ยังบอกว่า จะเล่นรอบใหญ่ยักษ์ แล้วถือยาวรวดเลยก็ย่อมได้ (แต่คงไม่สนุกกระมัง :lol: ) ในพอร์ทท่านก็มีอยู่ตัวนึง ที่ถือยาวทำตย.รอบใหญ่ให้ดู(รอบเศรษฐกิจ) ก็คือ se-ed
ที่ยกตย ดร ปัญญามากล่าวถึง ก็เพียงจะย้ำคำที่ว่า คนเรามันเชี่ยวผิดกัน
อย่างท่านเป็นนักสถิติ ท่านก็ถนัดที่จะใช้สถิติ ในแนวของท่าน แทนที่จะมานั่งแกะงบ ซึ่งท่านคงมึนๆน่ะค่ะ ว่ามะคะ
ดร ปัญญา ผมติดตามมาหลายปีครับ จนเลื่อมใส ได้ไปขอเรียนด้วย ผมยืนยันครับ ว่าคนทำนายตลาดได้ถูกเกิน 60% มีอยู่จริงในโลกครับ
ดร ปัญญา เป็น 1 คนในนั้น และแกเล่นหุ้นนี่ แกดูพื้นฐานเล็กน้อย คือแค่ตัดหุ้นปั่นทิ้งไปเล่นแต่หุ้นใน set50 แค่นั้นเอง
แกซื้อขายหุ้น ปีละ 1 ครั้งครับ กำไรทุกปี ไม่มีปีไหนขาดทุนครับ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจครับ
วิธีการผมว่ามีมากมายนะครับ VI ผมก็เชื่อว่ามีหลายวิธี คนดูกราฟเองก็มีวิธีนับไม่ถ้วนครับ
จนบัดนี้ ผมก็ยังทำตามวิธีของ ดร ปัญญาไม่ได้เลยครับ หัวใจผมไม่เข้มแข็งเพียงพอครับ ผมเพียงแต่ดูประกอบเพื่อการลงทุนแบบของผมเท่านั้นเองครับ
ผมทำในแบบที่ผมทำได้ครับ คงไม่สามารถทำตามท่านได้ ผมลองแล้วครับ นอนกลิ้งไปกลิ้งมาด้วยความทรมาน แต่ท่านกลับไม่ได้รู้สึกกังวลแบบผม :lol: :lol: :lol:
สรุป คือ ทำแล้วดี ทำไปเถอะครับ เรียนรู้วิธีเยอะๆ แล้วเลือกที่มันเหมาะกับเราครับ
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 6:14 pm
โดย คัดท้าย
อีกท่านนึงคือ ลุงโฉลก ครับ
วิธีของท่านผมก็ศึกษามาครับ คนนับร้อยๆคนเรียน (เพราะท่านสอนฟรี) และใช้วิธีของท่าน แต่เชื่อมั้ยครับ มีไม่ถึง 10% (ผมว่าอาจไม่ถึง 5% ด้วย)ที่ทำตามวิธีนั้นได้ครับ :lol: :lol: :lol:
และผมเองก็ไม่ใช่คนที่ทำตามวิธีของลุงโฉลกไหวครับ แต่ลุงโฉลกทำได้ และก็กำไรหาเลี้ยงตัวเองได้
สรุป คือ วิชากราฟ 2 วิธีแล้วเห็นมั้ยครับ ที่คนเล่นกราฟอย่างผมก็ทำตามไม่ได้ รู้หมดครับ แต่ทำตามไม่ได้
ใจตะหากครับที่มันยาก ความเชื่อในหลักการ และความมีวินัยในหลักการ พูดเหมือนง่ายแต่ทำยาก เวลาเล่นหุ้นจำลองกำไรหมดครับ แต่เวลาทำจริง หัวใจบีบคั้นแค่ไหน เหอๆ ต้องลองถึงจะรู้
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 6:26 pm
โดย 007-s
คุณคัดท้ายเซย์ว่า...
ผมทำในแบบที่ผมทำได้ครับ คงไม่สามารถทำตามท่านได้ ผมลองแล้วครับ นอนกลิ้งไปกลิ้งมาด้วยความทรมาน แต่ท่านกลับไม่ได้รู้สึกกังวลแบบผม
ตรงนี้ละค่ะ ที่ดิฉันตีความได้เลยว่า ท่านเป็นนักสถิติระดับเซียนของแท้
สังเกตุได้อีกอย่าง ดูวิธีในการประเมินเรื่องราวต่างๆ เหตุการ์ต่างๆของท่านแล้ว จะพบได้อย่างนึงว่า ท่านมีนิสัยนักสถิติ จริงๆ
ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ท่านมักจับเอามาคำนวนถอดรหัส ออกมาด้วยวิธีการเชิงสถิติแทบทั้งสิ้น เช่น อ่านบทความอะไรมา ท่านจะกรองแยกออกเป็นส่วนๆหมด คำไหนเลอะเทอะ คำพูดไหนไม่มีมูลความเป็นไปได้ จุดไหนมีน้ำหนัก ถ้ามีๆเท่าไหร่ อะไรประมาณนี้
ท่าทางท่านจะเหมือน คุณปู่ดุๆ ซักหน่อย(ชอบพูดสั้นๆ ชัดเจน) บางทีท่านชี้เลย พาดหัวอย่างนี้มั่ว เป็นไปไม่ได้เพราะ....งี้ๆ เอานี่คูณนี่ได้นี่ ไรของท่าน ตัวเลขเต็มเลยค่ะ :lovl:
ดิฉันซื้อหนังสือท่านมาอ่าน อ่านรู้เรื่องแค่ครึ่งเล่ม (เพราะอีกครึ่งเป็นตัวเลขไรเต็มพรืดไปหมด คงมีไว้สำหรับพวกนักสถิติดูแล้วจะรู้เรื่อง :oops: ส่วนดิฉันมึนตึ๊บ)
แต่แค่ครึ่งเล่มนั้น สำหรับดิฉันแล้ว คุ้มค่ามากๆ ค่ะ
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 6:33 pm
โดย naris
[quote="007-s"]คุณคัดท้ายเซย์ว่า...
[quote]ผมทำในแบบที่ผมทำได้ครับ คงไม่สามารถทำตามท่านได้ ผมลองแล้วครับ นอนกลิ้งไปกลิ้งมาด้วยความทรมาน แต่ท่านกลับไม่ได้รู้สึกกังวลแบบผม
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 6:40 pm
โดย 007-s
ชื่อหนังสือ มาเล่นหุ้นให้รวยกันเถอะ โดย ดร.ปัญญา เปรมปรีดิ์
ออกมานานแล้วนะคะ ไม่น่าจะมีวางแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่ายังหาได้ที่ไหนหรือเปล่า
ลองเข้าเวบดูก็ได้ค่ะ
http://www.drpunya.com/
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 6:40 pm
โดย คัดท้าย
[quote="007-s"]คุณคัดท้ายเซย์ว่า...
[quote]ผมทำในแบบที่ผมทำได้ครับ คงไม่สามารถทำตามท่านได้ ผมลองแล้วครับ นอนกลิ้งไปกลิ้งมาด้วยความทรมาน แต่ท่านกลับไม่ได้รู้สึกกังวลแบบผม
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 6:52 pm
โดย 007-s
คัดท้าย เขียน:
เข้าเรื่องหัวข้อกระทู้ ที่ผมถามว่ามีสถิติที่ตลาดอื่นหรือไม่ ผมไม่ได้หมายความว่า วิธีการนี้ ไม่เป็นความจริง แต่ผมว่าก่อนที่จะเชื่อในหลักการไหน หลักการนั้นๆ ต้องได้รับการพิสูจน์ คือ ทำ Test อย่างดีก่อน เช่น ทำกับตลาดหลักทรัพย์ในโลก 20 ตลาด เป็นต้น
เรื่องพวกนี้ สำคัญมากครับ ต้องรู้ที่มาที่ไป และมีสถิติ ที่แน่นอนก่อนครับ
อิอิ เชื่อแระค่ะ ลุกศิษยอาจารย์จารย์ปัญญาจริงๆ :lol:
ทุกอย่างต้องมีที่มาที่ไป และพิสูจน์ทางสถิติได้
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 8:25 pm
โดย BHT
มี วอเรน บัฟเฟต ของยุโรป มั้ย ถ้ามีชื่ออะไร ผลตอบแทนเป้นอย่างไรมั่ง ????
ผมจำได้ว่ากระทู้เก่าได้ตอบแล้วนะครับ เห็นว่าอยู่ในอังกฤษ แต่ว่าไม่ดังเท่า บัฟเฟตต์ เพราะยังคงไม่ติดอันดับรวยที่สุดในโลก
ถ้าเกิดติดขึ้นมาคงดังแน่ๆๆ
เหมือนสมัยที่อยู่ดีๆ ปู่แกก็มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นโค้ก ก็เลยเป็นที่สนใจ
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 9:47 pm
โดย สามัญชน
แต่ผลตอบแทนจะลดเหลือครึ่ง หากนักลงทุนพลาดการถือครองในวันที่ดัชนีขึ้นสูงสุด 15 วัน ในตลอดระยะเวลา 10 ปี
และผลตอบแทนจะติดลบทันที หากพลาดการถือครองในวันที่ดัชนีขึ้นสูงสุด 40 วัน
ประโยคนี้......ปีเตอร์ ลินช์ ก็พูดทำนองเดียวกันครับ
เขาบอกว่า หุ้นนั้น บทจะขึ้นจะลงก็เกิดขึ้นได้ปุบปับและไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ บางทีอยู่ดีๆก็เด้งขึ้นไปสิบเปอร์เซนต์เฉยๆหรือลงไปเฉยๆเช่นเดียวกันโดยไม่มีปัจจัยอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อวานเท่าไหร่
และก็เป็นทั้งตัวหุ้นและตัวดัชนี
การรอจังหวะว่า ยังไม่ซื้อหรอกเพราะหุ้นคงยังไม่ขึ้นช่วงนี้ อาจจะทำให้เสียโอกาสสำหรับหุ้นตัวนั้นๆไปตลอดชีวิตเลยทีเดียว
เขาจึงไม่ให้ความสำคัญกับจังหวะในการเข้าซื้อนัก หมายถึงจังหวะในทางเทคนิคนะครับ แต่จังหวะทางพื้นฐานเขายังคงให้ความสำคัญอยู่ เช่น ถ้าบริษัทสามารถพิสูจน์ตัวเองว่า สามารถ copy ความสำเร็จได้แล้วก็เป็นจังหวะที่ดีที่จะเข้าซื้อ และถ้ายังไม่สามารถ copyก็จะไม่ใช่จังหวะในการกระโจนลงไปเก็บเช่นเดียวกัน
ส่วนตัวผมเองนั้นมีความเห็นคล้ายๆทั้งปีเตอร์ ลินช์และบัฟเฟตต์ว่า การลงทุนระยะสั้นนั้นมีโอกาสที่จะได้กำไรและขาดทุนพอๆกัน 50/50 ไม่สามารถบอกได้แน่นอนว่าจะกำไรชัวร์ๆ ไม่ว่าหุ้นตัวนั้นจะดีเลิศประเสริฐศรีเพียงใด เพราะปัจจัยขณะนั้นย่อมมีทั้งคนคิดจะซื้อและคิดจะขาย ถ้าคนคิดจะขายมีมากกว่าทั้งจำนวนคนและจำนวนหุ้น ก็ย่อมมีโอกาสที่หุ้นจะลง
แต่การลงทุนระยะยาวค่อนข้างจะมีโอกาสสูงมากกว่าที่จะบอกว่าหุ้นจะขึ้น เพราะผลการดำเนินงานของบริษัทจะเป็นเหมือนกับคำเฉลยข้อสอบ และเมื่อคำเฉลยนั้นเป็นไปในทางเดียวกันติดต่อหลายๆไตรมาสหรือหลายปีและจะยังคงเป็นอีกในอนาคต ราคาหุ้นก็มี
โอกาสสูงมากที่จะยอมปรับตัวไปตามผลการดำเนินงาน(ถ้าผลการดำเนินงานดีจริงและไม่มีพายุรออยู่ข้างหน้า)
ผมจึงใช้การวิเคราะห์พื้นฐานเป็นตัวหลักในการเลือกหุ้น ส่วนจังหวะที่จะเข้าซื้อหุ้นตัวนั้นอาจจะใช้ทางเทคนิคบ้างนิดๆหน่อยๆ ซึ่งเป็นเพราะทางพื้นฐานไม่มีบอกไว้ว่าจังหวะการเข้าซื้อจะเป็นอย่างไรนั่นเอง
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 10:11 pm
โดย por_jai
8) จังหวะ
พูดง่าย ทำยาก
เกิดจากฟ้าบันดาล หรือ ฝึกฝน
ใครเคยดู หมอนี่ ชกบ้างไหมครับ
มาร์โค แอนโตนิโอ บาร์เรร่า
แชมป์122หรือ126 ของWBC ไม่รู้ไม่แน่ใจ
จังหวะ
ของไอ้หมอนี่ มันที่สุดแล้วนะครับ
ตั้งกะดูมวยมา40กว่าปี
เอ ผมโพสผิดกระทู้หรือเปล่าครับนี่
ขอโทษด้วยครับ
ผมว่าผมได้จังหวะลาจากทีวีไอซะที
ไปชวนคุณเจ๋งไปเที่ยวต่างจังหวัดดีกว่า
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 10:50 pm
โดย nanchan
มันอยู่ที่ความเข้าใจ ความเชื่อ ความถนัด ความศรัทธา
หรือ จะเรียกว่า รางวัล อย่างที่หมอสามัญชนเคยว่าไว้
จังหวะอาจไม่ใช่สิ่งสำคัญ ถ้าคุณมีโอกาสมากมายเหลือเฟือ
จริงๆ ผมก็เชื่อแบบปีเตอร์ลินซ์ ว่าจังหวะทางพื้นฐานนั้นสำคัญ
แต่ผมก็เชื่อจังหวะในราคาเป็นสำคัญด้วยเช่นกัน
เพราะผมเป็นแค่รายย่อย ถ้าลงทุนตัวนี้ไม่ได้ ไม่ทัน
ก็ไปหาตัวใหม่ลงได้
และผมก็คิดว่าผมซื้อสูงกว่าได้ถ้าคิดว่าหุ้นตัวนั้นคู่ควร
จังหวะในการลงทุน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 25, 2006 11:58 pm
โดย ฐิติ
คนส่วนใหญ่ ชอบจับจังหวะเข้า-ออก
เพราะคิดว่าทำด้ายยยยยยย.........
แต่การจับจังหวะเข้า-ออกนั้น ยากๆๆๆๆๆๆๆ
เลยต้องเสียค่าปรับเป็นคอมมิสชั่น เป็นเงินส่วนต่างราคาหุ้น ค่าเสียโอกาสเมื่อตกรถ
แต่การถือหุ้นยาวๆแบบผิดตัวก็เสียหาย
สรุปว่าการเล่นหุ้น ลงทุนในหุ้น ยากยิ่งกว่าสิ่งใด
ผมเคยได้ยินประโยคนี้ตั้งแต่เด็กๆ ในละครเจ้าพ่อตลาดหุ้น
"ถ้าเล่นหุ้นแล้วรวย ฮ่องกงคงไม่มีคนจน" :lol: :lol: :lol: