อืมม คำถามนี้มีความรู้มากๆครับ
ผมเลยลองไปค้นมาจากเนตครับ
(บทความนี้มาจากเซ็ทเทรด เขียนโดยคุณ Red_devil)
สิ่งที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม คือวิธีการอ่านงบการเงิน
โดยทั่วไปนักลงทุน(รวมทั้งผม)มักจะมุ่งเน้น ในการดู
งบกำไรขาดทุนเป็นหลัก แต่สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคืองบ
ดุลซึ่งจะบอกถึงสถานะความแข็งแกร่งของธุรกิจได้หาก
เราเอามาดูถึงแนวโน้มของารเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์หรือ
การลดลงของหนี้สินหรือแม้แต่การเพิ่มขึ้นของกำไรสะสม
สิ่งที่เราควรจะทราบคือ งบดุลเป็นการ Balance ของ
ส่วนของสินทรัพย์เปรียบเทียบกับหนี้สินและส่วนของผู้
ถือหุ้นโดยมีสมการดังนี้
สินทรัพย์ = หนี้สิน+ส่วนของผู้ถือหุ้น
ในส่วนของสินทรัพย์ก็ประกอบด้วย เงินสด,ลูกหนี้,สินค้า
คงเหลือ,สินทรัพย์หมุนเวียนอื่นๆรวมไปถึงที่ดิน,อาคาร
สิ่งปลูกสร้างและสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนเป็นต้น
หนี้สิน หมายถึง หนี้สินจำพวกเงินเบิกเกินบัญชี,เงินกู้ระยะ
สั้น,เจ้าหนี้การค้า,หนี้สินหมุนเวียนอื่นๆรวมไปถึงเงินกู้
ระยะยาวเป็นต้น
ส่วนของผู้ถือหุ้น = ทุนเรือนหุ้น+กำไร(ขาดทุน)สะสม
หากเราลองสมมุตว่าบริษัทAมีหุ้น1,000หุ้นราคาพาร์10
บาทมีสินทรัพย์ในขณะนั้น10,000บาทหนี้สิน300บาท
ขาดทุนสะสม 300 บาท
เมื่อเรานำมาใส่ในงบดุลจะได้ว่า
สินทรัพย์=หนี้สิน+ส่วนผู้ถือหุ้น จะได้
10,000 = 300 + (10,000-300)
เมื่อ ทุนเรือนหุ้น=1,000หุ้นx10บาท=10,000บาท
หากเราต้องการล้างขาดทุนสะสมทำได้โดยการลดทุน
(ลดพาร์) ตามตัวอย่างดังนี้
10,000 = 300 + (1,000x9.7)+[(1,000x0.3)-300)]
โดยกันตัดส่วนของในวงเล็บหลังสุดออก แล้วลดทุนลง
เหลือหุ้นละ9.7บาทก็จะได้เฉพาะ
10,000 = 300 + (1,000x9.7) เท่านั้น
จะเห็นได้ว่า จำนวนหุ้นเท่าเดิม แต่ราคาพาร์ลดลง
สรุปแล้วการจัดการแบบนี้เป็นการจัดการตัวเลข
ทางบัญชีในงบดุลเท่านั้นเอง ส่วนการจะเพิ่มทุน
ในลำดับต่อไปนั้นก็แล้วแต่ว่ากิจการจะต้องการเม็ด
เงินใหม่เข้ามาหรือไม่.........
ถ้างบดุลของแต่ละบริษัทฯที่ส่งให้ ตลท.
โดยผ่านการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบบัญชีแล้ว
แต่ตัวเลขมีการแต่งขึ้น เช่น SECC
แบบนี้ ทำยังไงดี เราจะเชื่อใครได้อีก
ปล. เป็นคำถามวงกาแฟตอนเช้าที่ทำงานผมเอง
มาเพิ่มข้อมูลให้อีกนิดเรื่องการแตกพาร์ ซึ่งหลายคนอาจ
สับสนระหว่างการลดพาร์กับการแตกพาร์ จึงข้ออธิบาย
เรื่องการแตกพาร์ ไว้ดังนี้
การแตกพาร์หมายถึงการเปลี่ยนราคาพาร์ให้ต่ำลงและเพิ่ม
จำนวนหุ้นตามจำนวนที่เปลี่ยนไปด้วย
ตัวอย่างเช่น..........
บริษัท ABC มีราคาพาร์เท่ากับ100บาท มีจำนวนหุ้น
เท่ากับ1000หุ้นบริษัทนี้ได้เปลี่ยนราคาพาร์จาก 100บาท
ลงมาเหลือ 1 บาท ถามว่าจำนวนหุ้นจะเปลี่ยนเป็นเท่าไหร่?
วิธีหาจำนวนหุ้น ตามสมการดังนี้
ก่อนแตกพาร์ = หลังแตกพาร์
(ราคาพาร์ x จำนวนหุ้น)(ก่อน)=(ราคาพาร์xจำนวนหุ้น)(หลัง)
100 x 1000 = 1x จำนวนหุ้น(หลัง)
จำนวนหุ้น(หลังแตกพาร์) = 100,000 หุ้น
สรุป ความแตกต่าง ของการลดพาร์ และ การแตกพาร์
การลดพาร์ จำนวนหุ้นไม่เปลี่ยนราคาพาร์เปลี่ยนหากเป็น
ตามตัวอย่างคือการเอาส่วนทุนไปลดขาดทุนสะสม
การแตกพาร์คือการเปลี่ยนราคาพาร์ซึ่งส่งผลให้จำนวน
หุ้นแปรผันตามไปด้วย หากเป็นตามตัวอย่างกรณีแตกพาร์
ลงมา100 เท่าจะส่งผลให้จำนวนหุ้นหลังแตกพาร์เพิ่มขึ้น
100เท่าเช่นกัน ทั้งนี้หากเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดที่มีการ
แลกเปลี่ยนซื้อขายเช่นในตลาดหลักทรัพย์จะทำให้เพิ่ม
สภาพคล่องและราคาที่เหมาะแก่การซื้อขายได้ง่ายขึ้น
อ้างอิง
http://www.settrade.com/actions/cust....jsp&tid=17197