หน้า 1 จากทั้งหมด 3
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 11:02 am
โดย ลูกอิสาน
ตั้ง 4 ตัวน่ะครับ
ตัวที่เค้าฮิตๆกันก็มี
ตัวที่ไม่เคยพูดถึงก็มี
แต่ละตัวผมคิดว่าดีๆทั้งนั้น
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 11:06 am
โดย BHT
ถ้าเข้าใจแต่ละโรงพยาบาลเป็นอย่างดี ผมว่าไม่เสี่ยง
เพราะแต่ละโรงพยาบาล ก็อยู่คนละที่ คนละโซน จับกลุ่มลูกค้าต่างกันไป
ผมเองก็สนใจอยู่สองสามแห่ง แต่ไม่ได้ซื้อเลย 55
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 11:15 am
โดย Doramon007
คุณลูกอิสานลงทุนมานาน ผมว่าเพราะคุณลูกอิสานมั่นใจมากน่ะครับว่าธุรกิจจะดีถึงลงทุนในโรงพยาบาลมาก คงไม่กล้าเสนอแนะมากครับ เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นสอนหนังสือสังฆราชไป ผมว่าถ้ามั่นใจมากก็ไม่มีปัญหาครับ :D
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 11:37 am
โดย chatchai
ดูคุณลูกอิสานก็ไม่น่าจะเป็นคนหลายใจ
แต่ทำไมถึงรักพี่เสียดายน้อง เหมาซะ 4 เลยละครับ
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 11:42 am
โดย MarginofSafety
ร.พ. ของพี่ลูกอิสานมีอะไรบ้าง
เผื่อ พี่ๆน้องๆ จะไปช่วยใช้บริการ
(อันที่จริงจะลอกการบ้านเอาไปศึกษาต่อ ... 555)
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 12:07 pm
โดย Frankie
เดาว่าหนึ่งในสี่ของคุณลูกอิสานมี เอกชล ครับ :lol:
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 12:44 pm
โดย ลูกอิสาน
[quote="chatchai"]ดูคุณลูกอิสานก็ไม่น่าจะเป็นคนหลายใจ
แต่ทำไมถึงรักพี่เสียดายน้อง
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 12:57 pm
โดย sittc
ผมว่าจำนวน รพ.ที่ถือจะมากน้อย
ไม่น่าจะตอบได้ว่าเสี่ยงมากหรือน้อย
น้ำหนักในการลงทุนของกลุ่ม รพ. ในพอร์ท ต่างหาก
ที่จะบอกว่ากระจายความเสี่ยงมากหรือน้อยไปหรือเปล่า
ผมเองก็ถือ รพ. สาม ตัว (2 in SET, 1 in MAI)
น้ำหนักรวม 40%
อย่างนี้เสี่ยงพอควรไหมครับ
ส่วนตัวคิดว่าหากน้ำหนักรวมของกลุ่มที่เราลงทุน
ไม่เกิน 40% ก็น่าจะยังถือไม่กระจุกตัว
เป็นการกระจายความเสี่ยงแบบที่เขาว่ากัน
อันนี้ยกเว้นคุณฉัตรชัยนะครับ
ที่ท่านถือว่าการไม่กระจายการลงทุน ถือเป็นความไม่เสี่ยง
(เป็นความสามารถเฉพาะตัว ที่ลอกยากครับ)
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 1:15 pm
โดย ลูกอิสาน
มีเซียนมาคุยหลังไมล์ บอกเคยถือ 5 ตัว
ตอนนี้เหลือ 4 เท่ากับผมเลย ไปดูน้ำหนักในพอร์ตประมาณ 37% ก็ค่อนข้างเยอะ ตอนนี้เหมือน vi จะเป็นโรค HM กันเยอะ..>> hospital mania
หวังว่าหุ้นโรงพยาบาลคงไม่ทำให้ผิดหวัง ไม่อย่างนั้นคนถือคงได้เข้าโรงพยาบาลแทน :lovl:
ส่วน 4 ตัวที่ถือมีอตัวอะไรบ้าง ขอดูข้อมูลนิดนึงครับ
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 1:25 pm
โดย nanchan
ผมก็ถือ4ตัวเหมือนกัน
แต่คนละกลุ่ม ผมถือกลุ่ม E ครับ
ผมว่าถือจำนวนหลายตัวในกลุ่มเดียวกันนะไม่เสี่ยงหรอก
(แต่กลุ่มรพ.ตอนนี้เสี่ยงรึเปล่า มิรู้)
แต่ผลตอบแทนอาจจะไม่ได้สูงมากนัก
แต่ผมก็ชอบถือหลายตัวในกลุ่มเดียวกัน
เพราะชอบทั้งกลุ่มอะไรประมาณนี้
แล้วก็บางที อาจจะได้เล่นswinging ได้อีกด้วย
เวลาหุ้นตัวหนึ่งขึ้นก่อนอีกตัว
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 1:59 pm
โดย MarginofSafety
แล้วกลุ่มโรงพยาบาลมีความเสี่ยงอะไรบ้างครับ
ไม่ทราบว่าเคยมีกระทู้ที่คุยกันเรื่องนี้หรือยัง
1. นโยบายรัฐกระทบกับกลุ่มนี้มากน้อยแค่ไหน
30 บาท และ ประกันสังคม
สมมติว่านโยบายรัฐเปลี่ยนไป เช่นยกเลิก 30 บาท
จะมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน
2. การแพทย์เชิงรุก เน้นการป้องกันมากกว่ารักษา
เช่นออกกำลังกายจะได้ไม่เจ็บป่วย
3. ความนิยมหุ้นโรงพยาบาล เป็นกันเฉพาะตลาดหุ้นบ้านเราหรือว่า
ตลาดหุ้นต่างประเทศก็เป็นกัน และมีปัจจัยอะไรที่ทำให้เกิดความแตกต่าง
4. หุ้นกลุ่มนี้ยังมี Margin of Safety อยู่บ้างหรือเปล่า
เราซื้อของดีที่ราคาแพงเกินไปหรือเปล่า
5. ประเด็นความเสี่ยงอื่นๆ (ถ้ามี)
ลองวิเคราะห์แลกเปลี่ยนกันดูครับ จะได้ถือ ร.พ. อย่างสบายใจ และไม่รู้สึกว่าเสี่ยง
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 2:27 pm
โดย MarginofSafety
Rank Sector P/E(Times) P/BV(Times) Dividend Yield(%) Market Cap Turnover Ratio(%) M.Baht %
SET 7.85 1.67 4.28 5,015,530.31 100.00 0.49
1 AGRI 8.50 0.93 9.13 64,076.43 1.28 0.07
2 FOOD 10.67 1.83 3.52 105,353.46 2.10 0.23
3 FASHION 7.77 0.76 4.02 48,222.66 0.96 0.01
4 HOME 5.67 0.80 5.83 12,990.71 0.26 2.61
5 PERSON 10.28 1.52 1.88 6,390.34 0.13 0.53
6 BANK 9.70 1.44 3.29 786,211.84 15.68 0.28
7 FIN 10.77 1.18 4.99 109,897.29 2.19 0.15
8 INSUR 12.69 1.23 5.14 45,558.03 0.91 0.00
9 AUTO 9.73 1.27 3.52 40,234.72 0.80 0.15
10 IMM 8.50 0.71 2.55 67,518.94 1.35 0.21
11 PAPER 8.33 1.08 0.31 21,151.19 0.42 0.01
12 PETRO 6.26 1.41 6.88 158,948.82 3.17 0.18
13 PKG 7.11 0.80 5.18 10,535.03 0.21 0.08
14 CONMAT 9.48 2.31 5.76 397,921.12 7.93 0.87
15 PROP 10.77 1.59 4.02 335,074.03 6.68 0.34
16 ENERG 5.86 2.10 3.70 1,481,098.46 29.53 0.12
17 MINE 6.61 1.94 3.03 8,192.50 0.16 0.12
18 COMM 12.03 1.82 4.41 133,072.96 2.65 2.03
19 HELTH 19.25 3.61 2.09 81,149.06 1.62 0.24
20 MEDIA 16.72 2.59 3.49 102,612.13 2.05 1.49
21 PROF - 0.69 1.67 1,260.00 0.03 5.59
22 TOURISM 11.11 1.45 2.69 56,458.85 1.13 0.36
23 TRANS 6.15 1.21 4.56 248,764.54 4.96 0.61
24 ETRON 8.75 1.55 5.55 76,200.62 1.52 0.14
25 ICT 12.66 2.19 6.06 461,527.55 9.20 0.82
ปัจจุบันกลุ่ม ร.พ. ซื้อขายกันที่ P/E เกือบ 20 เท่า, P/BV 3.6 เท่า
แพงที่สุดเมื่อเทียบกับ Sector อื่นๆ
ในขณะที่ P/E ตลาดอยู่ที่ประมาณ 8 เท่า เท่านั้นเอง
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 2:27 pm
โดย woody
HVI เขียน:แล้วกลุ่มโรงพยาบาลมีความเสี่ยงอะไรบ้างครับ
ไม่ทราบว่าเคยมีกระทู้ที่คุยกันเรื่องนี้หรือยัง
1. นโยบายรัฐกระทบกับกลุ่มนี้มากน้อยแค่ไหน
30 บาท และ ประกันสังคม
สมมติว่านโยบายรัฐเปลี่ยนไป เช่นยกเลิก 30 บาท
จะมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน
2. การแพทย์เชิงรุก เน้นการป้องกันมากกว่ารักษา
เช่นออกกำลังกายจะได้ไม่เจ็บป่วย
3. ความนิยมหุ้นโรงพยาบาล เป็นกันเฉพาะตลาดหุ้นบ้านเราหรือว่า
ตลาดหุ้นต่างประเทศก็เป็นกัน และมีปัจจัยอะไรที่ทำให้เกิดความแตกต่าง
4. หุ้นกลุ่มนี้ยังมี Margin of Safety อยู่บ้างหรือเปล่า
เราซื้อของดีที่ราคาแพงเกินไปหรือเปล่า
5. ประเด็นความเสี่ยงอื่นๆ (ถ้ามี)
ลองวิเคราะห์แลกเปลี่ยนกันดูครับ จะได้ถือ ร.พ. อย่างสบายใจ และไม่รู้สึกว่าเสี่ยง
1. จากที่ได้ตามดูมาซักระยะ โครงการ 30 บาทนั้นน่าจะถือว่าเป็นโครงการที่ยกเลิกได้ยากไปแล้วนะครับดูจากการสนับสนุนของ TDRI ที่ยังบอกอีกว่าคงต้องเพิ่มงบประมาณในส่วนนี้ ส่วนโครงการประกันสังคมนั้นก็มีหน่วยงานที่ดูแลโดยเฉพาะอยู่แล้วเช่นกันครับ โดยแนวโน้มผมว่าน่าจะมีแต่เพิ่มคนเข้าระบบมากกว่านะครับ
2. ผมเห็นด้วยครับกับการใช้ prevention แต่อย่างว่าครับถ้าดูกันดีๆ คนที่เดี๋ยวนี้หันมาออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่องนั้นยังน่าจะถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยอยู่เมื่อเทียบกับคนส่วนใหญ่ ในทางตรงกันข้ามวิถีชีวิตของคนสมัยนี้เช่นความเร่งรีบ การแข่งขันกัน รวมไปถึงวิธีการบริโภคที่นิยมกันไปกินข้าวนอกบ้านหรือซื้อเข้ามาบ้างก็เพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพได้อย่างมากมาย
3. ตลาดที่อเมริการ p/e เฉลี่ยอยู่แถว 20-30 เช่นกันครับ ยิ่งถ้าได้ไปดูบทวิเคราะห์ของทาง KGI เค้าจะมีเทียบระหว่าง ROE หรือ Growth นี่แหล่ะครับ กับ P/E ของโรงพยาบาลในภูมิภาคเช่นกันครับ
4. อันนี้ผมละไว้ให้เป็นวิจารณญาณของแต่ละบุคคลละกันครับ
5. ...
ผิดถูกประการใดกรุณาชี้แนะด้วยนะครับ
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 2:41 pm
โดย MarginofSafety
หุ้น ร.พ. (ไม่รวมหุ้นใน mai)
Symbol P/E(Times) P/BV(Times) Book Value per Share(Baht) Dividend Yield(%) Market Cap (M.Baht) Turnover Ratio(%) Par(Baht) Listed Share('000 Shares)
AHC 8.79 1.63 45.72 2.68 931.25 0.06 10.00 12,500.00
BGH 31.55 3.87 7.30 1.77 33,364.32 0.04 1.00 1,181,037.80
BH 24.25 9.70 3.82 2.03 26,929.54 0.86 1.00 727,825.37
KDH 13.13 0.77 35.56 6.36 412.50 0.00 10.00 15,000.00
KH 20.46 2.88 2.48 2.80 6,792.50 0.60 1.00 950,000.00
LNH 8.89 0.90 17.92 6.21 193.20 0.21 10.00 12,000.00
M-CHAI 10.72 1.26 25.36 4.69 512.00 - 10.00 16,000.00
NEW 0.60 0.35 34.67 - 123.00 - 10.00 10,000.00
NTV 12.13 2.22 38.24 5.29 1,360.00 0.02 10.00 16,000.00
PYT 0.33 0.84 0.09 - 135.00 - 1.00 1,732,047.52
RAM 12.89 3.86 90.57 2.86 4,200.00 - 10.00 12,000.00
SKR 6.98 1.52 5.87 - 890.00 0.10 10.00 100,000.00
SVH 11.16 0.71 24.22 - 3,900.00 - 10.00 100,000.00
VIBHA 22.49 1.17 2.02 3.37 1,405.75 0.12 1.00 600,749.18
ปล. - แปลว่าไม่มีข้อมูลนะครับ ไม่ได้หมายถึงติดลบ
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 2:44 pm
โดย MarginofSafety
อันนี้ใน mai ครับ
Symbol P/E(Times) P/BV(Times) Book Value per Share(Baht) Dividend Yield(%) Market Cap (M.Baht) Turnover Ratio(%) Par(Baht) Listed Share('000 Shares)
TNH 21.15 3.37 1.39 3.85 842.40 0.96 1.00 180,000.00
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 3:21 pm
โดย pongo
ผมว่าถ้าเราวิเคราะห์แล้วว่า รพ แต่ละตัวที่ถือมีความแข็งแกร่งในตัวเองจริงๆ ถึงจะมี 4 ตัวก็ไม่น่าเสี่ยงนี่ครับ ถือ รพ ที่มีที่ตั้งกระจายๆ ไปหลายๆ location ก็ไม่น่าจะแย่งลูกค้ากันเองด้วย
ปกติกลุ่ม รพ ก็เป็น defensive stock อยู่แล้วด้วย (แต่ปีนี้ผมว่า เริ่มๆ จะเป็น growth stock กันบ้างแล้วนะครับ)
ปล. ผมก็มี รพ อยู่ตัวหนึ่ง กอดไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยละครับ กลัวซื้อคืนไม่ได้
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 3:41 pm
โดย ปรัชญา
โดยความเห็นส่วนตัว ผมชอบ4ตัว
KH
BGH
AHC
NTV
ต้องมีตรงกับคุณลูกอีสานสักตัว
แต่ไม่เป็นหลักของพอร์ตครับ
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 4:00 pm
โดย วัวแดง
ทำไมตอนนี้peกลุ่มโรงพยาบาลถึงสูง กว่าเมื่อก่อน
แล้วมีโอกาสมั้ยที่peโรงพยาบาลจะต่ำกว่า10
kh คือขวัญใจผมครับ
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 4:03 pm
โดย woody
[quote="ปรัชญา"]
โดยความเห็นส่วนตัว
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 4:27 pm
โดย ลูกอิสาน
เหตุผลนึงที่คิดว่าโรงพยาบาลน่าจะไปได้ดีคือ
การได้ประโยชน์ของยุคเบบี้บูม ที่มีประชากรเกิดใหม่จำนวนมาก
และถึงตอนนี้คนยุคนั้นก็เริ่มเข้าสู่วัยกลางคน ซึ่งจะเริ่มจำเป็นต้องใช้บริการทางการแพทย์ ดังนั้นธุรกิจโรงพยาบาลน่าจะได้รับผลดีจากเหตุผลข้างต้นครับ นอกจากนั้นการขยายตัวของชนชั้นกลางก็ส่งผลดีเช่นกัน เพราะส่วนใหญ่ใช้บริการ รพ.เอกชนแทบทั้งสิ้น ทั้งการจ่ายเอง ประกันสังคม หรือประกันสุขภาพ
ข้างต้นมาจากคุณ IH นะครับ
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 5:22 pm
โดย MarginofSafety
ผมคิดว่าเราเห็นกลุ่ม ร.พ. ราคาแพงที่สุด
นั่นหมายถึง นักลงทุนคาดหมายที่จะเห็นการเติบโตที่สูงเมื่อเทียบกับ Sector อื่นๆ
ไม่เช่นนั้นหุ้นกลุ่มนี้จะไม่น่าสนใจเลย เพราะว่าหากหุ้นกลุ่มนี้ไม่โตเลย
ที่ P/E = 20 เท่า, E/P ก็ได้เพียง 5% หรือโดยประมาณเท่ากับผลตอบแทนจากเงินฝากประจำเท่านั้นเอง
แน่นอนว่าต้องมีเหตุผลมารองรับการเติบโต นักลงทุนถึงให้ราคาที่สูงเช่นนี้
ผมคิดว่าเป็นเพราะ
- นโยบายส่งเสริมให้ไทยเป็น Medical Hub
- Baby Boomer
- คนไทยเก่งเรื่องการให้บริการ เนื่องจากอุปนิสัยที่ชอบช่วยเหลือและยิ้มแย้ม
- ความก้าวหน้าทางการแพทย์และความสามารถของแพทย์ไทย
- ราคาค่าบริการที่ถูกเมื่อเทียบกับต่างประเทศ
สมมติว่าเราลงทุนหุ้นโรงพยาบาลเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
โอกาสที่ได้ผลตอบแทนเป็นเท่าตัวมีสูงมาก ถึงแม้จะปาเป้าก็ตาม
แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า
ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ยังคงดีเหมือนเดิม (ณ P/E ของ Sector ที่สูงที่สุดของตลาด)
ดังนั้นปัจจัยเสี่ยง ที่เราต้องระวังเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม
เลยอยากให้วิเคราะห์ความเสี่ยงกันบ้างครับ ผิดถูกไม่เป็นไร จะได้ไม่มองโลกในแง่ดีจนเกินไป
ที่ผมคิดออกอีกประเด็นหนึ่งคือความเสี่ยงจากการถูกฟ้องร้องจากคนไข้ครับ
เดี๋ยวนี้คนไข้ฟ้องหมอกันมาก
แล้วก็อยากทราบว่าสรุปแล้ว
โครงการ 30 บาทที่ทำมา 5 ปีกลุ่ม ร.พ.ได้หรือเสียประโยชน์
หากได้ประโยชน์ทำไมถึงได้ข่าวว่ามีแพทย์จำนวนหนึ่ง(จำนวนมาก?) ไม่เห็นด้วยต่อนโยบายนี้
ยิ่งรัฐบาลสนับสนุนงบตรงนี้มากขึ้น ยิ่งเป็นผลดีต่อภาพรวมของกลุ่ม ร.พ. หรือเปล่าครับ?
หากมีคนไข้ในระบบประกันสังคมมากขึ้น จะส่งผลในด้านบวก/ลบ อย่างไร?
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 7:36 pm
โดย ปรัชญา
woody เขียน:
ไหนๆ ก็มีความเห็นส่วนตัวแล้ว รบกวนพี่ปรัชญาให้เหตุผลส่วนตัวด้วยจะได้ไหมครับ :P
มุมมองเก่าจากจดหมายคุยกับลุงขวดครับ
ที่ชอบหุ้นโรงพยาบาล เพราะเราเข้ารักษาโรงพยาบาลเอกชนไม่เคยเห็นใครต่อรองราคา หมอคิดเท่าไหร่ก็จ่ายกันเท่านั้นจริงไหมครับคุณLOSO
อีกอย่างพอคนเราอายุ40ขึ้น โรคภัยไข้เจ็บก็เริ่มมาเยี่ยมเยียน ไม่อยากเป็นก็ยังยัดเยียดจนเป็นนะครับ
เมื่ออาทิตย์ก่อนผมไปโรงพยาบาลหูตาคอจมูกที่แถวปิ่นเกล้า เพราะมีเสียดังในหัวทั้งวันทั้งคืน คนไข้งี้แน่นเอียดเลย คุณหมอก็สั่งเช็คการรับฟังด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ พูดตามคูณหมอบอกโดยให้ฟังซาเบาร์
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงค่าตรวจ350บาท เราอยู่ไกลจากกรุงเทพเรามันเด็กภูธร ขอยามากิน1เดือน
รู้สึกว่ามียาแก้ภูมิแพ้ยารักษาปลายประสาทหู ยากันบ้านหมุน ยากล่อมประสาท รวมเข้าไปเฉียดพัน ไม่ได้ต่อเลยซักบาท จ่ายบัตรเครดิตคิดราคาเต็ม จ่ายเงินสดลด3%เดือนหน้าก็คงต้องเอาเงินไปให้เขาอีก
ญาติที่บ้านขอนแก่นป่วยเข้าโรงพยาบาลขอนแก่นรามค่าห้องวันละ1200บาท มันโหดกว่าโรงเเรมอีก ปรึกษาแพทย์ครั้งละ2-3ร้อย กว่าจะวินิจฉัยโรคอีกจ่ายอย่างต่ำก็2-3หมื่นแค่นอน4-5วัน รับเละครับโรงพยาบาล
อีกอย่างประกันก็เข้าโรงพยาบาล อุบัติเหตุเมื่อก่อนชนแล้วทิ้ง พาส่งโรงพยาบาลเอกชนก็ไม่รับสมัยก่อน เดี๋ยวตั้งแต่มีประกันบุคคลที่3รับทันทีเพราะเบิกได้
นักวิเคราะห์ว่าโรงพยาบาลไม่ดีหุ้นกลุ่มนี้ แต่ผมมองกับกันว่าดี เพราะ30บาทพอไปก็ให้ยาแก้ปวดแล้วไล่กลับ ชนชั้นระดับกลางที่มีประกันสุขภาพ ประกันสังคม
อย่างท่านที่เบื่อการเข้าคิวรับรองมาเอกชนรวมถึงผมด้วยและหลายๆคนก็เป็นเช่นนั้น
อย่างนายแพทย์รุ่งธรรม ลัดพลี แพทย์ประจำพระองค์ท่านที่ขับรถชนท้ายรถเหล็กตายที่เพชรบุรีก็ถือหุ้นโรงพยาบาลเอกชน ชลบุรีAHC 6หมื่นกว่าหุ้นถ้าจำไม่ผิดผมถึงซื้อหุ้นโรงพยาบาลไว้ลง
ทุน
องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ถือหุ้นโรงพยาบาลกรุงเทพฯเลยครับ ลองไปค้นรายนามผู้ถือหุ้นย้อนหลังดูได้ หากล่วงเกินเบื้องสูงก็ขออภัยโทษที่กล่าวพาดพิงแต่นี่คือความจริงครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=886
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 7:47 pm
โดย ปรัชญา
ข้อความข้างบนของปี43-45ครับ
มาปี49-52
โดยส่วนตัวไม่เห่อตามกระแสนักวิเคราะห์ เพียงเหตุผลที่ยกมาประกอบ
ก็ดีใจครับที่มีคนชอบโรงพยาบาล
หากเป็นหมอศรรามรูปหล่อ
พ่วงดีกรี ปอโทคงวิเคราะห์เจาะลึกได้ดีกว่าผม
เพราะเป็นสายงานโดยตรง
ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ผู้ทำประกันชีวิต ก็เป็นลูกค้าหลัก
ช่วงรัฐบาลทักษิณ ก็มีผลดีกับโรงพยาบาลทั้งนโยบายและอื่นๆ
ก็ตั้งความหวัง จะเป็น ฮับ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หลายโรงพยาบาลก็ขยายไปลงทุนต่างแดน
พูดไปหมอไทยเก่ง หลายๆด้านต่างชาติเชื่อใจในคุณภาพและบริการ
แต่การลงทุนมีความเสี่ยง
ไม่ได้เสี่ยงในแง่ธุรกิจ ค่าบริหารหรือต้นทุนด้านอื่น
เพราะค่ายาปรับขึ้น ค่าแพทย์+พยาบาลปรับขึ้น อื่นจิปาถะที่ปรับขึ้น
ก็โยนภาระให้กับผู้ป่วยได้ทั้งหมด
แต่ความเสี่ยงที่ผมเห็นคือผู้บริหาร
ในกลุ่มนี้มี หุ้นตัวเดียวที่ไม่น่าลงทุน
ควรหลีกเลี่ยง อยู่ติดขอนแก่นด้านทิศเหนือ
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 8:04 pm
โดย chatchai
โรงพยาบาลก็เหมือนโรงงานที่ต้องมีกำลังการผลิต
ถ้าผลิตเต็มกำลังแล้ว ก็ต้องซื้อเครื่องจักรเพิ่ม ขยายโรงงานเพิ่ม ซึ่งถ้ามีเงินก็สามารถทำได้
ในขณะที่เมื่อขยายเพิ่ม โรงพยาบาลก็ต้องเพิ่มคุณหมอ
ปัญหาคือ คุณหมอเก่งๆก็มีเพียงพอไหม
แล้วเมื่อขยายมากๆ จะควบคุมคุณภาพได้ดีดังเดิมไหม ในเมื่อค่าบริการอยู่ในระดับแพงถึงแพงมาก ความคาดหมายก็ย่อมสูงตาม
ซื้อหุ้นที่มี PE สูง ก็แสดงว่าตลาดย่อมคาดการณ์ผลการดำเนินงานที่เติบโตสูง
ถ้าผลการดำเนินงานเติบโตสูงพอ ราคาก็ไม่ลด แต่ถ้าผลการดำเนินงานเติบโตไม่พอ ราคาก็ย่อมลดลงมา
ปล. ในอดีต เราเคยมีธุรกิจที่เป็นที่คาดหวังของคนในตลาดมากๆ เช่น สื่อสาร เอ็นเตอร์เทน อสังหาริมทรัพย์
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 8:18 pm
โดย ลูกอิสาน
ขอบคุณพี่ปรัชญา คุณ HVI เพื่อนๆครับ พูดถึงความเสี่ยงบ้างก็ดีครับ จะได้ไม่ลอยเกินไปครับ
หุ้น 4 ตัวทีว่าขอเริ่มตัวแรกเลยคือ KH ครับ
ตัวนี้ต้องยกเครดิตให้คุณ Invisible hand ที่แนะนำเป็นคนแรกประมาณเดือนมีนาปีนี้ หลังจากนั้นราคาก็ขึ้นมาประมาณ 1.5 เท่า ทำให้ vi หลายท่านรวยไปตามๆกัน อย่าลืมขอบคุณคุณ IH นะครับ
ข้อดีตัวนี้ มีจุดดีที่สุดคือการกระจายความเสี่ยงของกลุ่มลูกค้า หากเศษรกิจไม่ดี รพ ที่รับลูกค้าเงินสดอาจจะได้รับผลกระทบมาก แต่ kh ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เพราะมีฐานลูกค้าประกันสังคม และ 30 บ.รักษาทุกโรค อีกทั้งงบการเงินก็แข็งแกร่งมาก
ถึงแม้ pe จะค่อนข้างสูงแล้ว แต่ปีหน้าจะมีการเปิดส่วนขยายเพิ่ม และที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือการปรับค่าบริการของประกันสังคมและ 30 บ. ซึ่งผมเข้าใจว่าส่วนที่ปรับนี้จะทำให้กำไรเพิ่มขึ้นโดยตรง โดยที่ KH มีลูกค้าประกันสังคมมากกว่า 400,000 ราย และ 30บ. ประมาณ 360,000 ราย
ลองคำนวณเงินที่ได้เพิ่ม คูณกับจำนวนผู้ใช้บริการ ซึ่งส่วนนี้จะทำให้กำไรเพิ่มโดยตรง พีอีที่ว่าแพงอาจจะไม่แพงก็ได้ครับ
ที่ว่างบที่เพิ่มจะทำให้กำไรเพิ่มโดยตรงเพราะว่า ส่วนใหญ่ รพ.ใหญ่ๆจะไม่รับลูกค้าประกันสังคม และ 30 บ. เพราะกำไรน้อยหรือขาดทุน และเพื่อภาพพจน์ แต่ KH สามารถบริหารในส่วนนี้จนมีกำไรได้ ดังนั้นงบที่ได้รับเพิ่ม จะไปเพิ่มกำไรทันที และสาเหตุที่ต้องเพิ่มงบ ก็เพราะมี รพ.จำนวนมากขาดทุน จนต้องออกจากระบบ 30 บ. และประกันสังคม การเพิ่มงบจะทำให้ รพ.เอกชนอยู่ได้
ข้างต้นหากผมเข้าใจผิด ช่วยทักท้วงด้วยนะครับ
ส่วนข้อเสีย มีน้อยมากครับ ประเด็นเรื่องวิธีการเบิกจ่ายค่าคลอดบุตรและทำฟันของประกันสังคมที่จะเปลี่ยนแปลง ก็มีผลต่อกำไรไม่มาก ผู้บริหารว่ามาอย่างนั้น อีกส่วนก็ความความเสี่ยงของโครงการศูนย์พยาบาล KH ที่จะจับลูกค้าอีกกลุ่ม ซึ่งไม่ใช่กลุ่มลูกค้าเดิม ผมไม่แน่ใจว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จ แต่การลงทุนในส่วนนี้ก็ไม่มากนัก
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 8:41 pm
โดย naris
ปล.ขอเสริมของคุณลูกอิสานอยู่นิดหนึ่งว่า เงินที่เพิ่มมาจากประกันสังคมและ30บาทอย่าลืมหักในส่วนผู้ถือหุ้นส่วนน้อย(ที่มีอยู่เฉลี่ยประมาณ50%)ออกก่อนนะครับ
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 9:00 pm
โดย naris
naris เขียน:ปล.ขอเสริมของคุณลูกอิสานอยู่นิดหนึ่งว่า เงินที่เพิ่มมาจากประกันสังคมและ30บาทอย่าลืมหักในส่วนผู้ถือหุ้นส่วนน้อย(ที่มีอยู่เฉลี่ยประมาณ50%)ออกก่อนนะครับ
โทษทีครับ KH มีบริษัท3แห่ง คือ บางแค-ประชาชื่น-สุขาภิบาล3-และบริษัทย่อยอีก3แห่ง คือ รัตนาธิเบศน์-สระบุรี-ศรีบุรินทร์
ข้อมูลที่ว่าหักผู้ถือหุ้นส่วนน้อยประมาณ 50% นั้นไม่ถูกต้องครับ (ยังไงก็ไม่ถึงแน่)
แล้วคุณลูกอิสานพอจะมีข้อมูลบ้างครับว่า จำนวน30บาท และประกันสังคมนั้น อยู่ที่โรงพยาบาลไหนบ้างครับ
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 9:14 pm
โดย ลูกอิสาน
naris เขียน:
โทษทีครับ KH มีบริษัท3แห่ง คือ บางแค-ประชาชื่น-สุขาภิบาล3-และบริษัทย่อยอีก3แห่ง คือ รัตนาธิเบศน์-สระบุรี-ศรีบุรินทร์
ข้อมูลที่ว่าหักผู้ถือหุ้นส่วนน้อยประมาณ 50% นั้นไม่ถูกต้องครับ (ยังไงก็ไม่ถึงแน่)
แล้วคุณลูกอิสานพอจะมีข้อมูลบ้างครับว่า จำนวน30บาท และประกันสังคมนั้น อยู่ที่โรงพยาบาลไหนบ้างครับ
ถ้าแยกแต่ละโรงพยาบาล ผมไม่มีข้อมูลเลยครับ แต่ถ้าดูงบงวด 6 เดือนมีส่วนแบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 16% ครับ
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 9:17 pm
โดย ตาหมูอ้วน.
มีกับเขาอยู่ตัวหนึ่งครับ
ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 04, 2006 9:29 pm
โดย ลูกอิสาน
ตัวที่ 2 TNH หุ้นฮิตช่วงนี้
แม้ราคาจะเพิ่มขึ้นมามากกว่าเท่าตัว แต่ผมก็ยังเชื่อคำพูดของ Peter Lynch ที่ให้ดูกำไรในอนาคต เสมือนว่าไม่มีราคาในอดีต ตัวนี้มีข้อดีตามที่รู้ๆกัน
1.ประชาการแถบบางนาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งจากการขยายของชุมชนปกติและจากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ และประชากรในวัยทำงานเหล่านี้ ก็เป็นลูกค้าของ tnh เพราะเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กับสนามบินมาก และคู่แข่งก็แทบไม่มี ( เว้นแต่ skr ) โดยที่ลูกค้าส่วนหนึ่งเป็นลูกค้าเงินสด และอีกส่วนน่าจะเป็นลูกค้า องกรค์ บริษัท ที่เกี่ยวข้องกับสนามบินใหม่
2. tnh มี capacity รองรับลูกค้าได้อีกมาก โดยไม่ต้องลงทุนในอาคารเพิ่มเติม เข้าใจว่ามีกำลังการใช้งานประมาณ 40% เท่านั้น
งบการเงินก็ค่อนข้างดี ที่ดินที่เช่าก็ไม่มีปัญหาในระยะยาวแล้ว งวดปีหน้า (เริ่มสิงหาปีนี้) จะได้รับลดภาษีอีก 8 ล้าน เท่ากับว่าปีหน้าไม่ต้องทำอะไร กำไรก็เพิ่มอย่างน้อย 8 ล้าน (54 ล้าน+8 ล้าน) ประกอบกับลูกค้ามีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง ผมคาดว่าน่าจะทำกำไรปีหน้าประมาณ 80 ล้าน หรือคิดเป็นพีอี 10 เท่า ที่ราคาตลาด 4.74 บ. และใครที่ซื้อตอนนี้ยังได้รับเงินปันผลพร้อมเครดิตภาษีอีก 43% ของเงินปันผล
ข้อเสียที่พอนึกออก น่าจะเป็น รพ.สาขาเดียว ทำให้มีความเสี่ยงมากกว่า รพ.ที่มีหลายสาขา และยังทำให้อำนาจการต่อรองกับผู้ขายอุปกรณ์ เวชภัณฑ์ ต่ำกว่า รพ.ใหญ่ๆครับ