หน้า 1 จากทั้งหมด 1
มัวแต่เรียนจากคนอื่น จนกระทั่งลืมเรียนรู้จากตัวเอง
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 11, 2006 1:10 am
โดย Jeng
เหอๆ ผมว่า
คนเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน แค่เราพัฒนาขึ้น ในการเล่นหุ้น เมื่อเทียบกับตัวเราเอง ก็พอแล้ว
แบบนี้ไม่เครียดด้วย เราศึกษาแต่ละท่าน ทีเก่งๆ แล้ว อืม ผมว่าลอกเลียนแบบยากทุกคน
ทำไมเราไม่มองจุดดีของตัวเอง และจุดเสีย
แค่พัฒนาจุดดี และลบจุดเสียของตัวเองไปเรื่อยๆ
เรียนกับตัวเองไม่ดีกว่าหรือ
อย่างบัพเฟตเอง ก็ไมได้ทำตาอาจารย์เกรแฮมนี่
แต่อาจารย์เกรแฮมคงเป็นแรงบันดาลใจ ให้เล่นหุ้นมั๊ง
สรุป เราน่าจะหันกลับมามองตัวเองดีกว่า เอาชนะตัวเองดีกว่า
เช่นคนที่หักใจไม่ได้ เมื่อดูจอ ก็ชอบขาย ชอบซื้อ ทำให้เสียค่าคอม และขาดทุน เขกหัวตัวเอง อาจจะต้องปิดจอ
ส่วนคนที่ ดูแล้ว ก็ไม่ต้องซื้อ ต้องขาย ดูแล้วไม่รู้สึกอะไร เพราะ innert พอ
ก็ไม่ต้องปิดจอหรอก
อิอิ
มัวแต่เรียนจากคนอื่น จนกระทั่งลืมเรียนรู้จากตัวเอง
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 11, 2006 8:49 am
โดย nanchan
เรียนรู้ผู้อื่น เพื่อนำมาเรียนรู้ตนเอง
เรียนรู้ผู้อื่น เพื่อนำมาปรับใช้กับตนเอง
เรียนรู้ตนเอง เพื่อหากลยุทธของผู้อื่นมาใช้
สิ่งที่ผู้อื่นทำได้ เราอาจทำไม่ได้ดังเขา
สิ่งที่เราทำได้ ผู้อื่นก็อาจทำไม่ได้ดังเรา
สิ่งที่ทำให้เราทำไม่ได้เหมือนคนอื่น เพราะพื้นฐานด้านจิตใจ
ประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถที่แตกต่างกัน
สิ่งเหล่านี้ จะนำมาให้เกิดซึ่งความเชื่อ ความศรัทธา ในสิ่งที่ตนเองคิด
ผลแห่งกำไรก็เป็นของกำนัลอันล้ำค่าของนักลงทุน นำไปสู่ความเชื่อมั่นของนักลงทุน และผลแห่งกำไร ก็ทำให้นักลงทุนหลงไปกับของกำนัลอันล้ำค่า
จนลืมที่จะเปิดใจรับสิ่งใหม่
เหตุผลไม่เหมือนกัน แต่จุดหมายปลายทาง ไม่ต่างกัน
เหตุผลมันจึงไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน
คิดในสิ่งที่ผู้อื่นคิด และเรียนรู้ในสิ่งที่เราคิด ความแตกต่างไม่ใช่ความคิดที่ผิด
วอร์เรน บอกว่าคุณต้องอดทนให้เห็นหุ้นคุณตกลงไป50% ได้
แต่ผมบอกตัวเองว่าผมทนไม่ได้
ดังนั้นผมจึงต้องพยายามเลือกหุ้นที่มันไม่น่าจะลงไปได้อีกแล้วหรือจะลงก็ไม่มาก ในระยะเวลาที่ผมตั้งใจ
สำคัญที่สุดคืออย่าหลอกตัวเอง
มัวแต่เรียนจากคนอื่น จนกระทั่งลืมเรียนรู้จากตัวเอง
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 11, 2006 8:52 am
โดย HI.ผมเอง
nanchan เขียน:
ดังนั้นผมจึงต้องพยายามเลือกหุ้นที่มันไม่น่าจะลงไปได้อีกแล้วหรือจะลงก็ไม่มาก ในระยะเวลาที่ผมตั้งใจ
สำคัญที่สุดคืออย่าหลอกตัวเอง
มัวแต่เรียนจากคนอื่น จนกระทั่งลืมเรียนรู้จากตัวเอง
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 11, 2006 8:59 am
โดย ต.หยวนเปียว
Jeng
Posted: Wed Oct 11, 2006 1:10 am Post subject: มัวแต่เรียนจากคนอื่น จนกระทั่งลืมเรียนรู้จากตัวเอง
ผมว่ามันต้องพอดีๆ นะครับพี่เจ๋ง :D
หากหลงตัวเอง จนกระทั่งลืมเรียนรู้จากคนอื่น
ก็ไม่ดีเช่นกัน :lol:
มัวแต่เรียนจากคนอื่น จนกระทั่งลืมเรียนรู้จากตัวเอง
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 11, 2006 9:18 am
โดย miracle
ขอเสริมพี่ๆๆทุกท่านครับ
การที่เราดูว่าใครเป็นต้นแบบนั้นไม่ใช่ว่าเราจะcopyได้เลย
ส่วนใหญ่มองเป็นผู้ประสบความสำเร็จแล้วเราอยากที่จะเป็นแบบเขา
เขาทำอย่างไงถึงจะไปจุดนี้ได้ นั้นคือความอยากรู้อยากเห็น
เมื่อมีความอยากรู้อยากเห็นแล้ว คนเราก็เริ่มการศึกษาว่าเขาทำอย่างไง
ลองผิดลองถูกว่า แบบอย่างที่ต้นแบบนั้นทำมาให้กับเราได้ผลหรือไม่
อันนี้สอดคล้องกับหลักของพุทธศาสนาเรื่อง ไม่เชื่อทั้ง 10 อย่างนั้นเอง
เมื่อลองถูกลองผิดเสร็จมันจะได้สูตรของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน
แล้วก็นำมาสู่การสำเร็จหรือล้มเหลว
ซึ่งสูตรของแต่ละคนที่ใช้ มันต้องได้รับการพิสูจน์จนเป็นที่แน่ใจ แล้วคนทั่วไปยกย่อง ซึ่งกว่าจะถึงจุดนั้นได้ต้องใช้เวลาพอควร บ้างครั้งอาจจะใช้เวลาทั้งชีวิต หรือบ้างคนใช้เวลาชั่วข้ามคืน ต้องทำใจไว้บ้าง
แต่ทุกคนในสังคมก็ย่อมมีจุดของเขา ไม่ใช่ว่า เราจะลบจุดเขายืน จุดที่เขาเชื่อไม่ได้ จะทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้น
นั้นคือ สิ่งที่อยากจะชี้แจง
มัวแต่เรียนจากคนอื่น จนกระทั่งลืมเรียนรู้จากตัวเอง
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 11, 2006 11:05 am
โดย edd
พี่ jeng คนอื่นเป็นยังไงผมไม่รู้
สำหรับผมคิดแบบนี้ ตั้งแต่เข้ามา TVI ได้แค่ 3 เดือนเอง
ถ้าจะทำแบบคนอื่น แต่ไม่รู้จักตังเอง สงสัยเละ
มัวแต่เรียนจากคนอื่น จนกระทั่งลืมเรียนรู้จากตัวเอง
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 11, 2006 12:17 pm
โดย bandi
เป็นกระทู้ที่น่าสนใจครับ พี่Jeng
ตัวผมเองก็มักจะเรียนรู้จากผู้อื่นเสมอๆ
แต่จะดูส่วนที่คิดว่าดี แล้วนำมาฝึกฝนตนเอง
ทำให้ผมรู้มากขึ้น รอบครอบมากขึ้น
ผมต้องขอบคุณพวกพี่ๆทุกท่านที่ให้ความรู้ และความคิดเห็นถึงแม้จะแตกต่างไปบาง
แต่ก็ได้เห็นอีกมุมมองหนึ่ง
ผมรู้สึกอบอุ่นมากใน TVI ขอบคุณครับ
มัวแต่เรียนจากคนอื่น จนกระทั่งลืมเรียนรู้จากตัวเอง
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 11, 2006 12:30 pm
โดย moo
อันที่จริง คนเราก็เป็นมนุษย์ก๊อปปี้กันทั้งนั้น
เราถูกสอนว่า โลกกลมมาตั้งแต่เล็กๆ
เราถูกสอนว่า 2+2 เป็น 4
ที่จริงเราก็ไม่ได้คิดเองแทบทุกเรื่องครับ
เรียนรู้จากตนเอง คือ เพื่อพัฒนาตนเอง
เป็นสุดยอดแล้วครับ
เห้นด้วยกับพี่เจ๋งครับ
มัวแต่เรียนจากคนอื่น จนกระทั่งลืมเรียนรู้จากตัวเอง
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 11, 2006 1:03 pm
โดย คนเรือ VI
เราถูกสอนว่า โลกกลมมาตั้งแต่เล็กๆ
เราถูกสอนว่า 2+2 เป็น 4
ที่จริงเราก็ไม่ได้คิดเองแทบทุกเรื่องค
เป็นเรื่องที่ผมเคยคิดนะครับว่าเราจำได้ว่า 2+2 =4
ถ้าเราไม่จำ เราจะทำยังไง
ถ้าเราคิดค้นว่า 2+2=5 จะทำได้มั้ย อะไรคือความจริงกันแน่
ความจริงคือสิ่งที่คนยอมรับต่อๆกันมา (ที่เค้าเรียกว่าภูมิปัญญาหรือปล่าว)
อะไรคือความจริง
so on so on so on
ผมว่าผมบ้า
ผมเรียนรู้จากตัวเองที่เจ้านายเก่าผมบอกว่า
i told you so, but you wanted to learn .....hard way.
อาจจะเป็นความโง่เขลา ทิฐิ .......
การลงทุน(หรือการเล่นหุ้น เรียกอะไรก็ตามแต่) ก็เหมือนสิ่งอื่นๆในชีวิตนั่นแหละ เป็นสิ่งสมมุติ
แล้วเราก็ไปติดอยู่กับมัน
เฮ้อ.....
มัวแต่เรียนจากคนอื่น จนกระทั่งลืมเรียนรู้จากตัวเอง
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 11, 2006 2:26 pm
โดย moo
การลงทุน(หรือการเล่นหุ้น เรียกอะไรก็ตามแต่) ก็เหมือนสิ่งอื่นๆในชีวิตนั่นแหละ เป็นสิ่งสมมุติ
แล้วเราก็ไปติดอยู่กับมัน
เห็นด้วยครับ
มันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวสำหรับการลงทุน
ท่องๆจำๆ นำมาใช้ตามสูตรแบบเป๊ะๆแบบตายตัว
อาจพลาดได้
มัวแต่เรียนจากคนอื่น จนกระทั่งลืมเรียนรู้จากตัวเอง
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 11, 2006 3:09 pm
โดย pongo
ผมคิดว่า หากเราเรียนรู้จากคนอื่นเท่ากับว่าเรามีทุนรอนก่อนส่วนหนึ่ง เรานำมาพัฒนาต่อยอดแตกแขนงออกไป เราน่าจะก้าวไปได้เร็วกว่าคนอื่นและลดความผิดพลาดที่่ผู้อื่นได้ทดลองและผิดพลาดมาแล้ว
สำคัญที่ต้องขยันอ่าน ขยันเรียนรู้และหมั่นคิดอย่างสม่ำเสมอ สงสัยทุกๆ อย่าง อย่าไปคิดว่าสิ่งที่เห็นคือสิ่งที่เป็น สิ่งทีไม่เห็นใช่ว่าสิ่งนั้นไม่มี
มัวแต่เรียนจากคนอื่น จนกระทั่งลืมเรียนรู้จากตัวเอง
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 11, 2006 3:53 pm
โดย thawattt
เรียนรู้วิธีการคนอื่น ๆ ที่เก่งและฉลาด เป็นคนดี ก็เหมือนคบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล เพียงแต่ต้องเลือกลอกการบ้านให้ถูกคน และถูกกับสไตล์ของเราครับ
รู้จักลอกการบ้าน ก็ลดข้อผิดพลาดไม่ต้องลองถูกลองผิด
เหมือนตอนเรียนมหาวิทยาลัย
เพื่อนคนไหนเรียนเก่ง ๆ เราก็ชอบลอกการบ้าน
หรือเวลา Lecture เราก็ขอเอา Lecture ที่เขาจดไป Copy
พอเอาการบ้าน + Lecture ของคนเรียนเก่ง มาบวกกับ ความรู้ที่เราไปเรียนรู้เพิ่มเติม ผลลัพธ์ ที่ได้คือ เราก็เรียนได้เก่งตามเพื่อนที่เราลอกเหมือนกันครับ หลายคนคงเคยใช้บ่อยนะครับวิธีนี้ :D
สำคัญที่เวลาลอกการบ้าน ไม่ใช่ลอกแบบนกแก้วนกขุนทอง แต่ต้องลอกโดยรู้ถึงเหตุผลเบื้องหลังของวิธีการคิด และการหาคำตอบของการบ้านข้อนั้นด้วย ถ้าไม่เข้าใจก็ต้องรู้จักสอบถามครับ สุดท้าย เมื่อเราเข้าใจโจทย์ และวิธีการหาคำตอบแบบหลาย ๆทาง เราก็จะรู้จักประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับ Style ของเราครับ :P
มัวแต่เรียนจากคนอื่น จนกระทั่งลืมเรียนรู้จากตัวเอง
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 9:58 am
โดย วัวแดง
ดังนั้นผมจึงต้องพยายามเลือกหุ้นที่มันไม่น่าจะลงไปได้อีกแล้วหรือจะลงก็ไม่มาก ในระยะเวลาที่ผมตั้งใจ
สำคัญที่สุดคืออย่าหลอกตัวเอง
แล้วเศษเหล็กของผมมันน่าจะลงอีกหรือปล่าวครับ
หรือผมหลอกตัวเองว่ามีเวลาลงแค่เดือน11/49 ปีหน้าจะขาดทุนน้อยลงหรือไม่ขาดทุนเลย หลังจากประหยัดดอกเบี้ยได้500ล้าน
ผมหลอกตัวเองไหมครับ