บทวิเคราะห์ tnh
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 10:13 am
บล.กรุงศรีอยุธยา : TNH แนะนำ 'ซื้อ' Fair Price ปี 50 ที่ 6.95 บาท
แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 50-51 เติบโตโดดเด่น: AYS คาดการณ์ว่าผลการ
ดำเนินงานปี 50 และ 51 เติบโต 54% YoY และ 16% YoY ตามลำดับ จาก 1) รายได้เติบโต
อย่างต่อเนื่องและอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นจากการประหยัดจากขนาดและการให้บริการการ
แพทย์เฉพาะทางมากขึ้น 2)สัดส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อยอดขายที่ลดลง จากการควบ
คุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น และ 3) อัตราภาษีจ่ายลดลงจาก 30% เหลือ 20% จากการเข้าจดทะเบียนใน
ตลาด MAIฐานะการเงินดีขึ้นต่อเนื่อง: ภายหลังจากการทำ IPO ในปลายปี 48
ฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของ TNH ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราหนี้สิน
สุทธิต่อทุน (Net Debt/Equity) ลดลงจาก1.55 เท่า ในปี 47 เหลือ 0.53 เท่า ในปี 49 และคาด
ว่าจะมีสถานะเป็นเงินสดสุทธิ (Net Cash) ในปี51
แนะนำ ซื้อ หุ้น TNH: ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside Gain ประมาณ 32% จาก Fair
Price ปี 50 ที่ 6.95 บาท (วิธี DCF) และปัจจุบันซื้อขายที่ PE 11.5 เท่า ต่ำกว่า PE เฉลี่ยของ
กลุ่มโรงพยาบาลในประเทศและภูมิภาคที่ 19-20 เท่า ซึ่งนับว่า TNH เป็นหุ้นที่ถูกสุดในกลุ่ม
และยังไม่สะท้อนผลการดำเนินงานปี50 ที่คาดว่าจะเติบโตในอัตราที่สูง ประกอบกับอัตราผลตอบ
แทนเงินปันผลที่สูง 5.2% ในปี 50 และ6.1% ในปี 51
แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 50-51 เติบโตโดดเด่น: AYS คาดการณ์ว่าผลการ
ดำเนินงานปี 50 และ 51 เติบโต 54% YoY และ 16% YoY ตามลำดับ จาก 1) รายได้เติบโต
อย่างต่อเนื่องและอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นจากการประหยัดจากขนาดและการให้บริการการ
แพทย์เฉพาะทางมากขึ้น 2)สัดส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อยอดขายที่ลดลง จากการควบ
คุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น และ 3) อัตราภาษีจ่ายลดลงจาก 30% เหลือ 20% จากการเข้าจดทะเบียนใน
ตลาด MAIฐานะการเงินดีขึ้นต่อเนื่อง: ภายหลังจากการทำ IPO ในปลายปี 48
ฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของ TNH ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราหนี้สิน
สุทธิต่อทุน (Net Debt/Equity) ลดลงจาก1.55 เท่า ในปี 47 เหลือ 0.53 เท่า ในปี 49 และคาด
ว่าจะมีสถานะเป็นเงินสดสุทธิ (Net Cash) ในปี51
แนะนำ ซื้อ หุ้น TNH: ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside Gain ประมาณ 32% จาก Fair
Price ปี 50 ที่ 6.95 บาท (วิธี DCF) และปัจจุบันซื้อขายที่ PE 11.5 เท่า ต่ำกว่า PE เฉลี่ยของ
กลุ่มโรงพยาบาลในประเทศและภูมิภาคที่ 19-20 เท่า ซึ่งนับว่า TNH เป็นหุ้นที่ถูกสุดในกลุ่ม
และยังไม่สะท้อนผลการดำเนินงานปี50 ที่คาดว่าจะเติบโตในอัตราที่สูง ประกอบกับอัตราผลตอบ
แทนเงินปันผลที่สูง 5.2% ในปี 50 และ6.1% ในปี 51