หน้า 1 จากทั้งหมด 1

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 17, 2006 3:16 pm
โดย goldendream26
คือตอนนี้มีหุ้นในดวงใจอยู่ประมาณ3-4 ตัว แต่ว่า ราคาของมันยังไม่สามารถให้ผลตอบแทนในส่วนของเงินปันผลระดับ7-8%ต่อปี(ดูแบบคร่าว ๆ เพราะวิเคราะห์กิจการยังไม่เป็นครับผม อาศัยตัวเลขจากในเวปset น่ะครับ) ซึ่งในแต่ละเดือนผมจะเก็บเงินไว้ซื้อหุ้นประมาณ4,000 บาท ตอนนี้มันก็4-5 เดือนแล้วครับ ที่ยังไม่ได้ซื้อหุ้นเพราะรอให้ราคามันลงมาน่ะครับ ทีนี้เราควรจะใช้วิธีDollar cost everageไปเลย  หรือเราจะควรจะรอให้ราคามันลงมาที่ในจุดเราคิดว่าคุ้มค่ากับเงินลงทุนแล้วค่อยซื้อทีเดียวดีครับ ขอคำชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณมากครับ

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 17, 2006 8:44 pm
โดย สามัญชน
ซื้อไปเลยถ้ามันลงมาต่ำกว่าอีกเราก็เสียดาย
รอให้ลงแล้วมันไม่ลงแต่กลับวิ่งปื๊ดก็เสียดายอีกเหมือนกัน

ลองเอาชื่อหุ้นมาวิเคราะห์ดูก่อนสิครับ

แต่ละตัวก็อาจจะมีจังหวะซื้อที่ไม่เหมือนกันครับ

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 18, 2006 9:29 am
โดย Onokung
ผมเข้าใจว่า ซื้อไปเลยนี่คือหลักของ ดอลล่าคอส (ซื้อทุกเดือนๆ หุ้นขึ้น-ลงไม่รู้แต่ต้องซื้อ)
แต่ สะสมเงินเอาไว้ซื้อที่ราคาเหมาะสม นี่เค้าก็เป็นหลักแบบ วีไอ นี่ครับ
(ซื้อที่คิดว่าราคาเหมาะสมตามคุณค่าที่ประเมิน)


ว่าแต่ตัวไหนเหรอครับ ขอลอกการบ้านมั่ง  :wink:

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 18, 2006 10:06 am
โดย goldendream26
ขอบคุณมากครับ ท่านสามัญชน และ ท่านOnokung ที่เข้ามาตอบกระทู้ ผมเองก็ใช้วิธีดูแบบกว้าง ๆ อาศัยweb set เป็นหลักพร้อมทั้งอ่านการวิเคราะห์ต่าง ๆ ในเวปThaiVI นี่แหละครับ เพราะวิเคราะห์บริษัทไม่ค่อยเป็นเอาซะเลย พอตั้งท่าจะวิเคราะห์จริงๆจังๆ เห็นตัวเลขในงบการเงินผมก็พาลจะเป็นลมซะทุกที สำหรับหุ้นที่ชอบตอนนี้ก็เป็น"ประชาสัมพันธ์คนสวยในกลุ่มมาม่า" นี่แหละครับ หลัก ๆ ก็คงเพราะเห็นหนี้เค้าน้อยมาก ๆ Brand เค้าค่อนข้างจะแข็งแรงดี ราคาต่ำกว่า BV พอประมาณ แต่ ณ ราคาปัจจุบันที่ผมมีอยู่ ปันผลมันไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ผมมันคนขี้กลัวมาก ๆ ก็เลยดูที่หนี้น้อย ๆ ไว้ก่อนน่ะครับ อีกตัวที่ชอบ ๆ แล้วก็มีหุ้นอยู่แล้วนิดหน่อย ก็เป็นเจ้าถัง(หวังว่ามันจะเป็น)ทองคำครับ ตัวนี้ก็หนี้น้อยดี ราคาต่ำกว่า BV พอสมควรเช่นกัน แต่ธุรกิจเค้าเนี่ย ผมก็ไม่ทราบว่าจะมั่นคงแข็งแรงสักแค่ไหน ราคา ณ ปัจจุบัน ปันผลก็ยังไม่ได้อย่างที่ตั้งใจ แต่พอทนไม่ไหวก็ซื้อทุกที(ทีละนิดครับ) กลัวมันไปแล้วไม่กลับมาให้ซื้อ ผมถึงได้งง ๆ กับตัวเองว่าจะเอาไงดี จะรอจังหวะ หรือจะ Dollar Cost Everage ดี ถ้าท่านใดมีหรือสนใจเจ้าสองตัวนี้อยู่ช่วยชี้แนะด้วยครับ

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 18, 2006 10:49 am
โดย สามัญชน
อืม.........

ตัวไหนแน่ครับ  "ประชาสัมพันธ์คนสวยในกลุ่มมาม่า"

งง ๆ

ยังกับทายปริศนาธรรมกันเนาะท่าน goldendream26  ผมไม่ค่อยเชี่ยวชาญเสียด้วย

งั้น.... ผมขอผ่านครับ

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 18, 2006 11:04 am
โดย สามัญชน
อ้อ.....ก่อนจากกัน...

มีกระทู้พูดถึงเรื่อง Dollar Cost Averaging อยู่ครับ

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 5%D4%E8%C1

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 18, 2006 11:33 am
โดย nowkung
ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ dollar cost averaging ไปเลยครับ มันจะช่วยให้ต้นทุนไม่แพงและไม่ถูกจนเกินไป
แต่ถ้าใช้แนว VI เค้าจะรอให้มันถูกจริงๆแล้วค่อยซื้อ ซึ่งอาจจะต้องรอหลายเดือนหรือเป็นปีก็ได้

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 18, 2006 12:39 pm
โดย goldendream26
:D ท่านสามัญชนครับ ประชาสัมพันธ์ของมาม่า เนี่ย ผมหมายถึง เจ้า PR ไม่ได้ตั้งจะให้เป็นปริศนาธรรมอะไรหรอกครับ พอดี ช่วงนี้น้อง ที่ทำงาน เขามาเล่นแก้ ปริศนาเกมอัจฉริยะข้ามคืน ผมก็เคลิ้ม ๆ ไป ยังไง อย่าเพิ่งผ่านนะครับ มีข้อแนะนำอะไรช่วยชี้แนะด้วยครับผม อีกตัวก็ TMD ครับ ขอบคุณท่านสามัญชนมากครับ สำหรับการตอบกระทู้ยังไง ก็ช่วยกันต่อไปอีกนะครับ ผมเองก็เพิ่งเริ่มต้นที่จะพยายามเดินในเส้นทาง VI ครับ ขอบคุณครับ

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 18, 2006 12:54 pm
โดย CK
DCA / DCA = ?


เลือกหุ้นที่มี Durable Competitive Advantage
ซื้อด้วยวิธี Dollar Costs Average

จะได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจในระยะยาวครับ

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 18, 2006 4:07 pm
โดย stockms
การลงทุนด้วยเงินประมาณสี่ถึงห้าพันบาทต่อเดือนด้วยวิธี Dollar cost everage จะถูกจำกัดด้วยราคาหุ้นว่าไม่ควรเกินห้าบาทต่อหุ้น จึงจะซื้อได้เต็มล๊อตร้อยหุ้นด้วยจำนวนเงินที่ใกล้เคียงกันในแต่ละเดือน แต่ถ้าเก็บไว้ซื้อทุกไตรมาสน่าจะทำให้มีความยืดหยุ่นในเรื่องราคาหุ้นที่จะเลือกซื้อได้มากขึ้นครับ

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 18, 2006 4:40 pm
โดย สามัญชน
วิธีในการซื้อหุ้น  มีความสำคัญก็จริง  แต่วิธีในการเลือกหุ้นที่จะซื้อมีความสำคัญกว่า  

วิธี Dollar CA ก็เป็นวิธีที่ดีครับไม่เสียหายอะไร  แต่ในกรณีนี้จะมีข้อเสียนิดหนึ่งอย่างที่คุณ stockms บอกไว้ว่าเราจะมีข้อจำกัดในการซื้อว่าซื้อหุ้นที่ราคาเกินห้าสิบบาทไม่ได้  เพราะอย่างน้อยๆเราก็ต้องซื้อร้อยหุ้น และบางโบรคจะคิดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำห้าสิบบาท  แปลว่าเราเสียค่าธรรมเนียมในอัตรา 1%  คนอื่นเสีย 0.21%

ลองมาคุยกันเรื่องวิธีในการเลือกหุ้นดูนะครับ
หลัก ๆ ก็คงเพราะเห็นหนี้เค้าน้อยมาก ๆ Brand เค้าค่อนข้างจะแข็งแรงดี ราคาต่ำกว่า BV พอประมาณ
หลักการนี้ก็เป็นวิธีที่ดีเช่นเดียวกันครับ  แต่ก็ดีในระดับหนึ่งเท่านั้นเอง  ถ้าเรียงลำดับกันแล้วหลักการนี้ไม่ควรจะมีความสำคัญเป็นอันดับที่หนึ่ง แต่ควรจะอยู่ในลำดับรองๆ

ถ้าเราใช้หลักนี้เป็นลำดับที่ 1.  แทนที่จะเป็นตัวช่วย จะกลับกลายเป็นกับดักวีไอด้วยซ้ำไป

ตอนผมเล่นหุ้นใหม่ๆ  ผมก็ยึดหลักนี้เหมือนกันครับ  แต่ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จ  ทำไม ?????

ก็ในเมื่อบริษัทมีหนี้น้อยๆ ก็แปลว่า
1.การจ่ายดอกเบี้ยก็จะน้อยตาม
2.บริษัทคงไม่เจ๊งง่ายๆ  ที่จริงยากมาก
3.โอกาสที่จะเพิ่มทุนก็จะน้อยกว่า
4.ถ้าบริษัทมีหนี้มากๆ  ได้กำไรมาเท่าไหร่เจ้าหนี้ก็กินหมด
5. มีหนี้น้อยๆย่อมหมายถึงว่าในอดีตนั้นบริษัทสามารถทำกำไรได้เรื่อยๆ หนี้จึงค่อยๆหมดไป
6. ฯลฯ


แล้วทำไมถึงไม่ค่อยประสบผลสำเร็จ

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 18, 2006 4:43 pm
โดย สามัญชน
เพราะว่าผมลืมปัจจัยที่สำคัญมากกว่าเรื่องหนี้นั่นเอง

ปัจจัยที่ว่าน่าจะเป็นเรื่องแนวโน้มของธุรกิจในอนาคตว่าจะดีหรือไม่  มีกำแพงกั้นคู่แข่งหรือไม่  ฯลฯ

ผมเคยถือหุ้นหนี้น้อยๆหลายตัว  แต่ราคาก็ไม่ไปไหนอยู่นาน  เพราะแนวโน้มธุรกิจในอนาคตไม่ดี  เพราะแข่งขันกันเรื่องราคา  เพราะราคาวัตถุดิบสูงขึ้น เพราะคู่แข่งใหม่ๆเข้ามาแย่งส่วนแบ่งเรื่อยๆ ฯลฯ  ราคาก็เลยไม่ไปไหนแถมยังร่วงลงด้วยซ้ำ

ผมเคยพลาดหุ้นหนี้เยอะ เพราะคงต้องเสียดอกบานแน่ๆ  แต่ว่าธุรกิจเขากำลังดี ปัจจัยอื่นๆก็กำลังดี  ปรากฏว่าราคาวิ่งไปหลายๆเด้งและทุกวันนี้ราคานั้นก็ยังยืนอยู่ได้  บางตัวอาจจะลงมาบ้างแต่ก็สูงกว่าตอนแรกลิบลับ

ผมติดอยู่ในกับดักนานพอสมควร  นึกๆดูก็น่าเสียดายเวลาเหมือนกันครับ

หวังว่าคงไม่ติดกับเหมือนผมนะครับ

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 18, 2006 5:34 pm
โดย stockms
ไม่เกินห้าบาทครับคุณหมอ

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 18, 2006 5:41 pm
โดย BHT
ผมว่าเก็บเงินเป็นก้อนแล้วหาจังหวะเวลาซื้อดีกว่ามาซื้อเฉลี่ยทีละเดือน

เมื่อก่อนผมก็คิดจะทำ แต่ดูแล้วไม่เวิร์คครับ

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 18, 2006 6:01 pm
โดย stockms
เพราะ DCA จะได้ประโยชน์เมื่อเราได้จำนวนหุ้นมากขึ้นที่ราคาถูกด้วยเงินลงทุนเท่าเดิม ที่จริงการทำ DCA โดยที่พอทราบราคาเหมาะสมโดยประมาณของหุ้นที่จะซื้อก็ได้ประโยชน์พอสมควรนะครับ เช่น ถ้าเราสนใจ CPF ซึ่งเป็นหุ้นเกษตรที่มีวงจรและกำไรขึ้นอยู่กับมาตรการกีดกันต่างๆของต่างประเทศ รวมทั้งการระบาดของไข้หวัดนก พอสมควร แต่เราก็รู้ว่า CPF เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจที่เขาทำอยู่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศถ้าไม่ใช่ของโลก เราอาจประเมินง่ายๆ ให้ CPF มีมูลค่าที่เหมาะสมในช่วง P/BV 0.7-1.0 ตามสถิติที่นายตลาดให้ในช่วงห้าปีที่ผ่านมาซึ่งได้รวมช่วงวิกฤตไข้หวัดนกไว้ด้วย เราก็อาจเริ่มซื้อ CPF ด้วยเงิน 5,000 บาท ในช่วงราคาดังกล่าวแล้วซื้อเพิ่มทุกเดือนด้วยเงินเท่าๆ กัน และควรเริ่มขายด้วยจำนวนหุ้นเท่าๆกันทุกเดือนเมื่อราคาสูงกว่าช่วงดังกล่าว แต่ถ้าราคาลดลงต่ำกว่าช่วงดังกล่าวเราคงต้องประเมินสถาณการณ์ว่ามันเป็นโอกาสในวิกฤต หรือเป็นวิกฤตที่นำไปสู่หายนะ
สรุป DCA: ซื้อด้วยเงินเท่าๆกัน อย่างสม่ำเสมอในช่วงราคาที่เหมาะสมหรือต่ำกว่า ขายด้วยจำนวนหุ้นเท่าๆ กัน เมื่อราคาเกินราคาที่เหมาะสม วิธีนี้ไม่เหมาะกับนักลงทุนที่มีเป้าหมายในการตีแตกหุ้น

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 18, 2006 6:03 pm
โดย Frodo
ความเห็นของผมคือ เล่นหุ้นอย่างไรก็ได้ที่เหมาะกับบุคลิกของเรา
ข้อดีของการซื้อแบบ dollars cost avarage คือเราได้หุ้นที่เราต้องการแน่นอน
ในแบบค่อยๆ สะสม ซึ่งไม่รู้ว่าราคาในอนาคตจะเป็นอย่างที่คาดหรือไม่
หากทำใจที่จะเห็นบางช่วงราคาตกลงมาได้บ้าง และไม่คิดแต่เสียดายก็ซื้อไปเลยครับ
ไม่งั้นจะเข้าข่ายเงื้อง่าราคาแพง

แต่ถ้าจะรอราคาก็ต้องทำใจที่จะรอราคาให้ได้ โดยไม่มีกำหนด ซึ่งอาจจะได้หรือ
อาจจะไม่ได้ก็ได้ครับ ขึ้นอยู่กับเจ้าตัวเป็นคนอย่างไร ทนความรู้สึกอย่างไรได้มากกว่ากันครับ เพราะอนาคตไม่มีใครบอกได้ เราอาจจะต้องถือหุ้นนี้ไปอีกนานกว่าหุ้นจะแสดง
ศักยภาพ ซึ่งความอดทนและความหนักแน่นสำคัญมากครับ

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 18, 2006 8:21 pm
โดย สามัญชน
การลงทุนด้วยเงินประมาณสี่ถึงห้าพันบาทต่อเดือนด้วยวิธี Dollar cost everage จะถูกจำกัดด้วยราคาหุ้นว่าไม่ควรเกินห้าบาทต่อหุ้น จึงจะซื้อได้เต็มล๊อตร้อยหุ้นด้วยจำนวนเงินที่ใกล้เคียงกันในแต่ละเดือน
น่าจะ 50 บาทนะครับ  อิอิ

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 19, 2006 7:29 am
โดย stockms
ถ้าหุ้นราคา 50 บาท และตั้งใจลงทุนทุกเดือนเดือนละไม่เกินห้าพันบาท จะซื้อได้ 100 หุ้น และจะซื้อได้หุ้นที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อล๊อตอีกทีต้องราคา 25 บาทครับ นั่นคือราคาต้องตกลงไปถึง 50% ซึ่งจะได้ 200 หุ้นครับ ผมเลยคิดว่าหุ้นน่าจะมีราคาไม่เกิน 5 บาท เพื่อให้การทำ DCA พอมีประโยชน์บ้างเมื่อราคาหุ้นแกว่งตัวในช่วงไม่ถึง 50%

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 19, 2006 9:54 am
โดย สามัญชน
อา......จริงด้วยครับ

ตอนแรกนึกว่าคุณ stockms คูณเลขผิดเสียอีก แบบว่า 5*100 = 5,000  :rofl:

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 19, 2006 10:02 am
โดย goldendream26
ขอบคุณมาก ๆ ครับสำหรับความคิดเห็นของทุกท่าน สำหรับเรื่อง DCA นั้น คิดไปคิดมามันก็มีข้อจำกัดอยู่บ้างเหมือนกันอย่างที่หลายท่านชี้แนะ และการเลือกดูหุ้นผมคงต้องกลับไปคิดใหม่ให้เยอะ ๆ กว่านี้ กลัวว่าจะติดกับดัก เหมือนที่ท่านสามัญชนบอกแย่เลย ปลอดภัยแต่หุ้นไม่ไปไหนก็ไม่ไหวเหมือนกันนะครับ  :wall:

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 19, 2006 10:55 am
โดย Onokung
stockms เขียน:ถ้าหุ้นราคา 50 บาท และตั้งใจลงทุนทุกเดือนเดือนละไม่เกินห้าพันบาท จะซื้อได้ 100 หุ้น และจะซื้อได้หุ้นที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อล๊อตอีกทีต้องราคา 25 บาทครับ นั่นคือราคาต้องตกลงไปถึง 50% ซึ่งจะได้ 200 หุ้นครับ ผมเลยคิดว่าหุ้นน่าจะมีราคาไม่เกิน 5 บาท เพื่อให้การทำ DCA พอมีประโยชน์บ้างเมื่อราคาหุ้นแกว่งตัวในช่วงไม่ถึง 50%

โอ้ววววว ... ลึกซึ้ง ผมคิดไม่ถึงเลย    :bow:
ตอนแรกอ่านๆ ก็คิดเหมือนพี่หมอสามัญชน

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 19, 2006 11:57 am
โดย stockms
พอดีผมลองใช้วิธีนี้กับหุ้นบางตัวแล้วสามารถถอนเงินลงทุนตั้งต้นออกมาได้หมดจนเหลือไว้แต่กำไรในหุ้นตัวนั้นๆ เลยคิดว่ามันก็พอมีประโยชน์อยู่บ้างสำหรับการลงทุนที่ไม่ต้องอาศัยความแม่นในจังหวะมากนัก และลดความเสี่ยงจากการวิเคราะห์หุ้นผิดพลาดได้พอสมควรครับ ที่สำคัญอาศัยแค่ค่า PE และ PB ย้อนหลัง 5 ปี ที่มีข้อมูลอยู่แล้วใน SET โดยเลือกพิจารณาเฉพาะหุ้นที่คิดว่าเป็นเบอร์หนึ่งหรือสองเท่านั้นในตลาด แต่วิธีนี้คงไม่ช่วยให้กำไรครั้งละมากๆ จากหุ้นตัวเดียวภายในปีสองปี

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 19, 2006 11:59 am
โดย CK
จริงๆ แล้ว การซื้อแบบ $ cost average นั้น
ใช้หลัก "ทดไปเดือนหน้า" ได้ครับ

เช่น (ไม่คิดคอมฯ เพื่อความง่าย)

เดือน    เงินเพิ่ม    เงินสด    ราคาตลาด    ยอดซื้อ   สะสม     เงินคงเหลือ
0           5,000     5,000         51.00           0          0             5,000
1           5,000    10,000        51.50       100      100             4,850
2           5,000      9,850        49.60       100      200             4,890
3           5,000      9,890        48.90       200      400                110
4           5,000      5,110        52.00           0      400             5,110

จะได้ว่า ผ่านไป 5 เดือน ได้หุ้น 400 ห้นุ ราคาเฉลี่ย = 49.725 บาท
มีเงินสดในมือ 5,110 บาท

ต่อไป ได้ปันผลจาก 400 หุ้นมาหุ้นละ 3.00 บาท


เดือน    เงินเพิ่ม    เงินสด    ราคาตลาด    ยอดซื้อ   สะสม     เงินคงเหลือ
5          6,200     11,310       52.50          200     600            810

การเอาเงินปันผลที่ได้เข้ามาซื้ออีก จะช่วยให้ต้นทุนต่ำลง
และเป็นการเพิ่มความเร็วในการซื้อได้อีกด้วย

หลังจาก ผ่านไป 6 เดือนเต็ม เราลงเงินทั้งหมด 6 x 5,000 = 30,000 บาท
ซื้อหุ้นไป 600 หุ้น มีเงินสดเหลือ 810 บาท

ดังนั้น ต้นทุนต่อหุ้นคือ (30,000 - 810) / 600 =48.65 บาท

สรุปว่า การซื้อแบบ DCA สามารถทำได้กับหุ้นราคาเกิน 50 บาทก็ได้ครับ
แต่ leverage ของการซื้อจะลดลง เพราะจะมีเว้นบางเดือน

จริงๆ แล้ว หุ้นราคา 100 บาทก็ทำวิธีนี้ได้ครับ
คือมักจะซื้อได้เดือนเว้นเดือน

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 19, 2006 1:10 pm
โดย stockms
ขอบคุณคุณ CK ที่แสดงตัวอย่างให้เห็นจริงครับว่าหุ้น 50 บาท ไม่เหมาะที่จะซื้อทุกเดือน แต่น่าจะทบเงินไว้ ซึ่งถ้าทำบัญชีอย่างเป็นระบบอย่างที่คุณ CK ทำได้ก็จะช่วยให้ไม่หลงได้ดีครับ
แต่ถ้าจะเอาแบบง่ายๆ คือซื้อสม่ำเสมอทุกเดือนหรือทุกไตรมาส ควรเลือกหุ้นที่มีราคาต่ำกว่า 0.1 % ของเงินลงทุนในแต่ละงวดจึงจะได้ประโยชน์ชัดเจนครับ เช่น งวดละห้าพันก็เลือกที่เป็นแบบสองหุ้นไม่ถึงสิบ ถ้างวดละห้าหมื่นก็เลือกที่ไม่เกิน 50 ถ้าจะซื้องวดละสองแสนก็น่าจะเลือกได้ทั้งตลาดเลยครับ....ผมเองก็อยากมีเงินลงทุนเดือนละสองแสน จะได้ลองทำ DCA หุ้นปูนกับหุ้นน้ำมันทุกเดือนเลย

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 20, 2006 9:36 am
โดย goldendream26
หยั้งงี้แสดงว่าด้วยเงินลงทุนที่มีอย่างจำกัดในแต่ละเดือนของผม ถ้าจะทำ DCA ผมคงจะต้องยึดหุ้นตัวใดตัวหนึ่งที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับผม แล้วก็ซื้อไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าเกิดชอบหุ้น 3-4ตัว คงจะทำไม่ได้เลยอะนะครับเพราะลำพัง 5,000 บาท เนี่ย ผมว่ามันก็ย่อยเต็มที่แล้ว แบ่งลงไปกระจายซื้อคงทำไม่ได้แล้ว ไม่ทราบว่ามีทางออกอย่างไรบ้างครับ

อยากถามเรื่องการซื้อหุ้นแบบDollar cost everage ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 20, 2006 9:50 am
โดย stockms
ถ้าอยากลงทุน 3-4 ตัว แบบง่ายๆ คงต้องสลับกันซื้อมั๊งครับ อย่าหวังกำไรเป็นกอบเป็นกำนะครับ คิดว่าเป็นภูมิคุ้มกันทางการเงินยามแก่ แต่ผลตอบแทนก็คงไม่แพ้การลงทุนในระบบประเภทอื่นครับ