Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

สำหรับท่านที่ยังไม่รู้จักท่านเฟยหง หรืออยากจะทบทวนครับ

เรียนเชิญครับ

แนะนำเสร็จแล้วผมขออนุญาตเรียบเรียงไปไว้เป็นบทความหน้าเว็บด้วยนะครับ

ผมจองแถวหน้า

จองที่นั่งติดกับพี่ Jaychou คับ  :P

จองติดกับท่าน woody ครับ  :D

\ 8)      :)
   J \ /W\ / R\

แถวหน้าเต็มหรือยังฮะ  

ขอจองด้วยคนครับ  นั่งตรงไหนก็ได้ 1 ที่

ขอแอบอยู่หลังด้วยครับ

เข้ามามุงด้วยคน  :?

เอาเก้าอี้ไปนั่งหน้าพี่ทั้งหลายละกัน  :lol:

ถ้าไม่ได้แอบอยู่หลังห้องดีกว่า

มากันแต่ผู้ชมครับ ผู้บรรยายไม่โผล่สักทีครับ  8)

ขอแถว 2 ครับ

มาเข้าคิวรอฟังด้วยคน

กดดันคุณเฟยหงเกินไปหรือปล่าวครับ

ขอสองแถวครับ
แถวเดี๋ยววิ่งไม่ได้ครับ

ขอบคุณครับ   ขอเพิ่มส่วนที่ไม่มีในหนังสือเข้าไปสักหน่อย
ผมคิดว่า  "หุ้นเงา" ต้องมีส่วนประกอบ 4 ส่วนหลัก  นั่นก็คือ
1. เล็ก  ต้องมีขนาดเล็กพอที่จะไม่อยู่ในจอเรดาร์ของ นักลงทุนต่างชาติ และ นักลงทุนสถาบันในช่วงต้น  ดังนั้นขนาดควรจะเล็กกว่า 0.5% ของ mkt.cap ตลาดรวม
2. ถูก  ควรจะมีค่า p/e ที่ต่ำกว่าเฉลี่ยของตลาด
3. โต   มีการเติบโตของยอดขาย และ อัตรากำไรในช่วง 1-2 ปี
4. แกร่ง  มีความแข็งแกร่งทางการเงิน และ แข็งแกร่งในธุรกิจของตัวเอง

ดังนั้นก่อนลงทุนให้ท่อง "เล็ก ถูก โต แกร่ง"  เข้าไว้   ดูว่าหุ้นที่เลือกนั้นเข้าข่ายทั้ง 4 ข้อนี้หรือไม่....

ผมฟันธงได้เลยว่า  หากหุ้นอย่าง ILINK, TRC  ซึ่งมีการเติบโตสูงมากนั้น
มี mkt.cap สูงกว่า 1 หมื่นล้าน ซึ่งอยู่ในจอเรดาห์ของสถาบันทั้งในและต่างประเทศ  จะแทบไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่หุ้นแบบนี้จะซื้อขายกันที่เพียง p/e 4-5 เท่า  เท่านั้นเองก่อนจะวิ่งขึ้นกว่าเท่าตัว  

ส่วนที่เหลือคือ ตามหนังสือ

เราควรจะคาดหวัง  การลงทุนจากการหวังกำไร 2 เด้ง คือ p/e ที่เพิ่มขึ้น และ ค่า e ที่สูงขึ้น  ดังนั้น  กำไรสองเด้งจึงมาลงที่ตัว P

การที่เป็นหุ้นเงา ก็เพราะ ยังมีคนสนใจอยู่น้อย  มีบทวิเคราะห์ไม่มาก  และ หุ้นมีขนาดเล็ก  ราคาหุ้นจึงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นได้มาก  แต่เมื่อได้รับความสนใจมากขึ้น  มีบทวิเคราะห์มากขึ้น  นั่นก็เหมือนกับแสงที่สาดส่องเข้ามาทำให้ราคาหุ้นสะท้อนสิ่งที่ควรจะเป็น  

และนั่นทำให้ผมมีมุมมองเชิงบวกกับตลาด mai มาเกือบ 2 ปีแล้ว  ด้วยเห็นว่ามีหุ้นขนาดเล็กที่ราคายังไม่สะท้อนต่อกำไรอยู่เป็นจำนวนมาก  ประกอบกับ  การที่กองทุนต่างๆ เริ่มๆ จะเข้ามาลงทุนได้บ้าง.... นั่นเป็นสัญญาณที่ดีด้านดีมานด์ที่จะเพิ่มขึ้นมานอกจากนักลงทุนรายย่อย  

ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ ที่ได้ผลตอบแทนดีมากในปีนี้   ส่วนใหญ่แล้วลงทุนในสไตล์แบบ "หุ้นเงา" และมีหลายตัวอยู่ในตลาด mai  ขอให้ประสบความสำเร็จทุกๆ ปีไป (รวมทั้งตัวผมด้วยก็ดี)  ครับ

อย่าถือว่าเป็นการกดดันเลยครับ พี่เฟยหง

คิดซะว่าเป็นการเข้าแถวต้อนรับก็แล้วกันนะจ้ะ

เฟยหง เขียน: ขอให้ประสบความสำเร็จทุกๆ ปีไป (รวมทั้งตัวผมด้วยก็ดี)  ครับ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้  :P

ขอบคุณครับ    เห็นภาพชัดขึ้นมากครับ

ขอบคุณครับ  :D
สงสัยต้องรื้อหนังสือหุ้นเงา
มาปัดฝุ่นแล้วเก็บ  เอ๊ย อ่านทบทวนครับ  :lol:

ถามท่านเฟยหงครับ

ตอนนี้มองหุ้น MAI เท่านั้นเหรอครับ พวกหุ้น SET จะมีหุ้นเงาหรือเปล่า

แนวคิด "หุ้นเงา" ของคุณเฟยหง  สอดรับกันกับ "หุ้นน่าเบื่อ" ของปีเตอร์ ลินช์เลยครับ

ท่านเจย์ถามว่า

ถามท่านเฟยหงครับ

ตอนนี้มองหุ้น MAI เท่านั้นเหรอครับ พวกหุ้น SET จะมีหุ้นเงาหรือเปล่า

จากการที่ผมอ่านหุ้นเงากำไรพันเท่าของคุณเฟยหงเป็นสิบๆรอบจนแทบจะจำได้หมด  ขออณุญาตตอบแทนนะครับ

ว่า  ...ไม่จำเป็นต้องอยู่ในตลาดใหม่เท่านั้น  ใน set ก็มีเยอะครับ  สังเกตุง่ายๆก็คือ ตัวที่มีวอลุ่มน้อยๆ  มืดๆ น่าเบื่อหน่าย  ประมาณนี้ครับ

ปล.หุ้นเงาอย่างเดียวก็ไม่เวิร์คนะครับ  ต้อง เงา เล็ก ถูก โต  แกร่งด้วยครับ

เอ๊ะ.......ในเมื่อเล็กๆแล้วบริษัทจะแกร่งได้อย่างไร

ได้ครับ  บางธุรกิจตลาดรวมก็ไม่ได้ใหญ่โตมาก  ดังนั้นบริษัทเล็กก็สามารถเป็นยักษ์ใหญ่และแกร่งได้  ตามที่ลุงขวดว่าไว้  ใหญ่ในเล็กยอมดีกว่าเล็กในใหญ่............

ขอบคุณครับ
 :shock:  :shock:

"เงา เล็ก ถูก โต แกร่ง"

จำง่ายดีครับ

ขอบคุณครับ

jaychou เขียน:อย่าถือว่าเป็นการกดดันเลยครับ พี่เฟยหง

คิดซะว่าเป็นการเข้าแถวต้อนรับก็แล้วกันนะจ้ะ

เห็นด้วยครับ  :D

ขอบคุณ สำหรับความชัดเจนครับ ท่านปรมาจารย์

ขอบคุณพี่เฟยหงและพี่สามัญชนครับ ง่ายๆ ได้ใจความดี

เพื่อความครึกครื้นนะครับ  ขอยกตัวอย่าง  UEC  ให้เพื่อนๆลองวิพากษ์วิจารณ์ด้วยครับ  

ถ้าเวิร์คผมจะได้ซื้ออ่ะครับ  :oops:

มาเข้าแถวขอบคุณด้วยคนครับ