Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ลูกไม่ท้อ เขียน: หุ้นกลุ่มท่อเหล็ก (SAM-PAP-AMC-TMT) พบศึกหนัก หลัง "เสี่ยวิทย์" นำเข้าเครื่องจักรผลิตท่อเหล็ก กว่า 40 เครื่อง หวังกินรวบยันปลายน้ำ..วงในเผย "กลุ่มท่อเหล็ก" นัดรวมพลเจรจา "ควบรวม" หวังต่อกร "สหวิริยาสตีล"

เส้นทางของกลุ่มท่อเหล็กในตลาดหลักทรัพย์ อย่าง บมจ.สามชัย สตีล อินดัสทรี (SAM) บมจ.แปซิฟิกไพพ์ (PAP) บมจ.เอเซีย เมทัล (AMC) รวมไปถึง บมจ.ค้าเหล็กไทย (TMT) ดูเหมือนกำลังถูกวางระเบิดเวลา

เมื่อวันนี้ "พี่ใหญ่" ธุรกิจเหล็ก อันดับ 1 ของประเทศ อย่าง บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) ของ "เสี่ยวิทย์ วิริยประไพกิจ" หันมาขยายไลน์สู่การผลิตท่อเหล็กแข่งกับ "คู่ค้า" เสียเอง

...เป็นการใช้กลยุทธ์การ "กินรวบ" ตั้งแต่..ต้นน้ำยันปลายน้ำ

แหล่งข่าวในวงการค้าเหล็ก ยืนยันกับ กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ว่า ขณะนี้ "เครือสหวิริยา" ได้สั่งเข้าเครื่องจักรผลิตท่อเหล็กมาแล้ว กว่า 40 เครื่อง มีการติดตั้งแล้วมากกว่า 26 เครื่อง โดยคาดว่ามีกำลังการผลิตท่อเหล็ก ถึง "1 ล้านตัน"

ทั้งนี้ท่อเหล็กต้องอาศัย "เหล็กรีดร้อน" เป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งส่วนใหญ่ก็สั่งซื้อมาจาก "เครือสหวิริยา" ถ้าหากเครือสหวิริยาลงมาเล่นในตลาดนี้เสียเอง จะสามารถคุมตลาดได้ทั้งหมด เพราะมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่ามาก ในที่สุดก็จะขาย "ตัดราคา" ไม่ต่างจากการ "ฆ่าตัดตอน" ลูกค้าของตัวเอง

เมื่อ "กลุ่มท่อเหล็ก" รู้ข่าวว่าเครือสหวิริยาสั่งซื้อเครื่องจักรเข้ามา ก็ได้ติดต่อเพื่อขอเจรจาให้ยุติการดำเนินการ แต่ได้รับการปฏิเสธ

"ทางกลุ่มท่อเหล็กขอเข้าพบ เสี่ยวิทย์ แล้วยื่นข้อเสนอว่าขอซื้อเครื่องจักร แต่เสี่ยวิทย์ ไม่ยอม ก็เลยมาคุยกันว่าต้องรวมตัวกันสู้ ซึ่งจริงๆ แล้ว เสี่ยวิทย์ ไม่ควรเข้ามาในไลน์ผลิตนี้ เพราะเขาเป็นผู้ผลิตต้นน้ำ

แต่มาอ้างว่า คุณสมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล (ผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.จี สตีล) ก็มีธุรกิจท่อเหล็ก มันฟังไม่ขึ้น เพราะคุณสมศักดิ์ เขาเติบโตมาจากท่อเหล็ก อยู่แล้ว เท่ากับว่าคุณฆ่าลูกค้าของคุณเอง"

แหล่งข่าว ยังบอกอีกว่า ในกลุ่มท่อเหล็กขณะนี้มีการเจรจากันลับๆ ว่าต้องควบรวมกิจการกัน เพื่อปกป้องตัวเอง

"ลักษณะการควบรวม อาจจะเริ่มจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 4 บริษัท ตั้งแต่เบอร์ 1 อย่าง สามชัย สตีล อินดัสทรี เบอร์ 2 แปซิฟิกไพพ์ เบอร์ 3 เอเซีย เมทัล และ ค้าเหล็กไทย"

นอกจากนี้มีโอกาสที่จะเอาบริษัทนอกตลาดมารวมด้วย ซึ่งตอนนี้มีบางบริษัทเริ่มจ้างที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามาศึกษาแนวทางแล้ว

สำหรับก้าวต่อไปก็อาจจะมีการนำ "บริษัทต่างชาติ" เข้ามาควบรวม โดยเล็งไปที่พาร์เนอร์ที่ทำธุรกิจเหล็กต้นน้ำ เพื่อมาถ่วงดุลไม่ให้เครือสหวิริยาผูกขาดอยู่คนเดียว

"เขาคุยกันเรื่องใหญ่นะ ถ้ารวมกันได้จริงจะมีมูลค่าไม่ใช่น้อย นโยบายของเรารักกันเราต้องชนะ ถ้าคิดไปทะเลาะกับเสี่ยวิทย์เราก็ต้องชนะ หรือเสียหายน้อยกว่า กฎของเราคืออย่างนี้ จากนี้ไปประมาณ 3 เดือน อาจจะได้เห็นอะไรที่เป็นรูปธรรม" แหล่งข่าว แนะให้จับตา

ด้าน "พัชวัฏ คุณชยางกูร" รองประธานกรรมการบริหาร บมจ.สามชัย สตีล อินดัสทรี ยอมรับว่า ทราบข่าวที่ "เครือสหวิริยา" สั่งซื้อเครื่องจักรเข้ามาเมื่อไม่นานนี้เอง ซึ่งประเมินแล้วจะกระทบกับผู้ประกอบการธุรกิจท่อเหล็กค่อนข้างมาก ไม่เพียงเขาได้เปรียบในด้านต้นทุนแล้ว เครื่องจักร 40 เครื่องที่นำเข้ามาจะทำให้เกิด "โอเวอร์ซัพพลาย" จะยิ่งทำให้การแข่งขันทางด้านราคารุนแรงมาก

พัชวัฏ กล่าวว่า ที่ผ่านมาจะมีกฎ (มารยาท) ในวงการเหล็กว่า ถ้าใครทำต้นน้ำจะไม่ทำปลายน้ำ เราก็ยังแปลกใจว่าเครือสหวิริยาไม่ควรทำ แต่วันนี้เขาติดตั้งเครื่องจักรแล้ว คาดว่าภายใน 3-6 เดือน ก็จะมีผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด

"ทางชมรมผู้ประกอบการท่อเหล็กก็เข้าไปคุย ในฐานะที่เขาเป็นผู้จำหน่ายวัตถุดิบให้เรา อย่ามาแตกกันเลย จึงต้องพยายามเจรจาหาข้อยุติ

...ส่วนทางออกที่คิดไว้ก็มีหลายทาง เช่น ควบรวมกัน แต่ก็ต้องมาดูผลดี-ผลเสีย หรือไม่ก็สั่งซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศ แต่ยังไงผมคิดว่าทางออกดีที่สุด ก็คือ มาคุยกัน"

เช่นเดียวกับ "สมชัย เลขะพจน์พานิช" กรรมการผู้จัดการ บมจ.แปซิฟิกไพพ์ วิเคราะห์ว่า เสี่ยวิทย์ อาจจะเห็นว่าตลาดนี้ยังมีช่องว่าง และกำไรดีกว่าธุรกิจหลักจึงโดดเข้ามา นั่นก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของเขา

แต่ยอมรับการเข้ามาครั้งนี้ของ เครือสหวิริยา จะทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัว "ใครอ่อนแรง...ในที่สุดจะถูกกลืน"

สมชัย บอกว่า เฉพาะหน้าบริษัทจะจัดโครงสร้างองค์กรใหม่ให้มีประสิทธิภาพ ส่วนการควบรวมนั้น มันก็คงจะต้องแล้วแต่สถานการณ์ (พาไป)

"จะสร้างความแข็งแกร่งของกลุ่ม หรือแข็งแกร่งของตัวเอง เป็นไปได้ทั้งนั้น ซึ่งมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับว่าผู้บริหารจะกำหนดกลยุทธ์องค์กรไปอย่างไร"

ทั้งนี้การควบรวมถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องถามว่า ทำได้หรือไม่ เนื่องจากวัฒนธรรมองค์กร ค่อนข้างแตกต่างกัน แต่ถ้าสามารถเข้าไปเสริมจุดแข็งระหว่างกันก็น่าจะดี

สมชัย ให้แง่คิดว่า เครือสหวิริยาเขามีต้นทุนต่ำ แต่เราก็มีความเชี่ยวชาญด้านการค้า คุณคิดดูสิ!ว่า อย่างเซียงกงขายของเก่า ขายร้านเดียวหรือขายติดๆ กันหลายร้าน ดีกว่ากัน ผมเชื่อว่าการแข่งขันตรงนี้ จะทำให้เราแข็งแรงขึ้น

ขณะที่ "ชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์" กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเซีย เมทัล ในฐานะประธานชมรมอุตสาหกรรมท่อเหล็กไทย บอกกับ กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ว่า ที่ผ่านมาในฐานประธานชมรม ได้เข้าไปคุยกับ คุณวิทย์ บ้างแล้ว แต่ยังไม่มีข้อสรุป ยังต้องเจรจากันอีก

ส่วนตัวบริษัทก็จะต้องเร่งพัฒนาศักยภาพของเราให้มากที่สุด ที่ผ่านมาก็ได้ลงทุน กว่า 600 ล้านบาท ผลิตท่อเหล็ก 60 นิ้วหนีการแข่งขันในตลาด ซึ่งอนาคตจะมีการใช้ค่อนข้างสูง แต่ทั้งนี้การเข้ามาของเครือสหวิริยา คาดว่าจะส่งผลกระทบกับบริษัทไม่มาก เพราะสัดส่วนกว่า 60% ของรายได้นั้น มาธุรกิจเทรดดิ้ง

ก่อนหน้านี้ ชูศักดิ์ เคยให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางของบริษัทว่า อาจจะมีการควบรวมเกิดขึ้นก็ได้ แต่เมื่อ กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ถามย้ำอีกครั้งท่ามกลางศึกหนักจากเครือสหวิริยา เขากลับตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่า เป็นเรื่องของอนาคต แต่ขณะนี้ยังไม่มีการควบรวม

"เรื่องการควบรวม ก็มีคุยกันบ้าง แต่เป็นการแหย่กันมากกว่า ขณะนี้ผมขอยืนยันว่าไม่มีการควบรวม ที่เคยพูดคราวก่อนเป็นเรื่องของอนาคต ความคิดเรื่องนี้ต้องให้คนเข้าใจมากขึ้นก่อน"

ประธานชมรมฯท่อเหล็กไทย สรุปว่า อุตสาหกรรมท่อเหล็กในปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น ประมาณ 2 ล้านตัน แต่วันนี้มีดีมานด์เพียงแค่ "ล้านกว่าตัน" ถ้าเครือสหวิริยาจะเข้ามา ก็ต้องมาคุยกัน ไม่ให้ความใหญ่ของเขามาเบียดพวกเรามากเกินไป