หน้า 1 จากทั้งหมด 3

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 22, 2006 10:54 pm
โดย ทุ่งทานพระจันทร์
สวัสดีครับ ผมมีเรื่องกลุ้มใจ (ที่น่าสมน้ำหน้า) มาเล่าให้ฟังครับ

ผมเริ่มเข้า Trade ในตลาดหุ้น หลังจากศึกษามาก่นเล่นประมาณ 2 ปี โดยตั้งปนิธานไว้ว่า จะลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานที่ดี แข็งแกร่ง

เมื่อเข้า Trade หุ้นครั้งแรกเมื่อประมาณ 6 เดือนที่แล้ว จนถึงวันนี้ เงินลงทุนผมเหลือเพียง 70% เท่านั้น เนื่องจากลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี แต่...อดทนไม่ไหว ขายออกมาเพื่อเล่นหุ้นปั่นเป็นประจำ ครั้งล่าสุดโดน STPI ลากไปติดดอย ตอนแรกกำไร 20% มั่นใจมากเลยซื้อเพิ่ม หลังจากซื้อเพิ่ม (หลายเท่าตัว) ได้ไม่นานก็เกิดแรงเทขายมหาศาล  พยามปรับพอร์ตโดยการซื้อถัว (น่าตบกะโหลก) ก็ยังร่วงลงเรื่อยๆ สุดท้ายขาย cut loss ก่อมันจะลงหนักไปกว่านี้ ขาดทุนไปร่วมห้าหมื่น (รวมค่าคอม)

นับรวมๆ กันแล้วกำไรผม ทีนึงหลักพัน หลักหมื่นต้นๆ แต่เวลาขาดทุน หลักหมื่นปลายๆ ถึงหลักแสน มันน่าเหยียบย่ำซ้ำเติมยิ่งนัก

ผมพยายามแก้ "สันดาน" ของผมหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล จากที่เคยเล่นเดย์เทรด เริ่มถือ 2-3 วัน 4-5 วันตามลำดับ สุดท้ายก็กลับมาเป็นเหมือนเก่า แต่ก็ยังดีที่หลังๆ ลดการขาดทุนลงได้เยอะเพราะถือยาวขึ้น

แต่ก็ยังจับทิศทางไม่ถูก อ่านงบการเงินไม่เป็น วัดมูลค่าหุ้นไม่เป็น (ไปซื้อหนังสือพี่สุมาอี้มาอ่านก็ยังวิเคราะห์ไม่เป็น)

ว่ากันตรงๆ..ผมไม่รู้ว่า ราคาไหน เรียกว่าถูก ราคาไหนเรียกว่าแพง เวลาเคาะซื้ออยากได้ก็เคาะเลย ทำให้ติดดอยเป็นประจำ


ผมมา TVI เพราะต้องการคำแนะนำ และคำปลอบโยนบ้าง เพราะตอนนี้ผมบอบช้ำมากพอแล้ว ครอบครัวก็ระส่ำระสาย กิจการหลักก็ค้าขายฝืดเคือง

อยากจะเรียนถามว่า "มันสายไปไหม" ที่ผมจะกัดฟัน ลงทุนแบบ VI อย่างน้อยก็ขอทุนคืนบ้างก็ยังดี ภายใน 1 ปีนี้ พอทันไหมครับ และการเข้าลงทุนในช่วงนี้ ยังถือว่าแพงไปไหม หรือต้องรอ effect อะไรนั่นก่อนครับ..

ผมถามแบบภาษาชาวบ้านเลยครับ ถ้าคำพูดไม่เข้าหูก็ต้องกราบขอโทษอย่างสูงครับ ผมเป็นคนจริงใจ ตรงไปตรงมา พูดจาขวานผ่าซาก แต่ไม่เคยคิดร้ายหรือคดโกงใคร ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวพ่อค้าลูกทุ่งตาดำๆ 1 คนด้วยครับ อยากจะลงทุนแต่ไม่มีพี่เลี้ยงเหมือนขับรถไม่มีไฟในเวลากลางคืนเลยครับ ไม่รู้มันจะแหกโค้งเมื่อไหร่

กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องอีกครั้งครับ
อยากเป็น VI ที่ประสบความสำเร็จบ้างครับ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 22, 2006 10:59 pm
โดย สุมาอี้
ถ้าช่วงนี้เพิ่งขาดทุนใหม่ๆ กิจการที่ทำก็ไม่ค่อยดี อาจจะต้องลองใจเย็นลงให้ได้ก่อนครับ ตัดสินใจลงทุนอะไรตอนนี้ไปอาจจะวู่วามได้ครับ

ยังนึกไม่ออกว่าจะแนะนำอะไรอีกดี

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 22, 2006 11:24 pm
โดย โอ@
ไม่สายแน่นอนครับที่จะเริ่มลงทุนอย่างจริงจัง
แต่ว่า
เปลี่ยนความคิดก่อนนะครับคุณต้องการ 70 บาทกลายเป็น 100 บาทเท่าเดิมภายในเวลาแค่ 1-2 เดือนเนี่ย
มัน 40% ได้เลยนะครับ
ต้องเปลี่ยนครับต้องเปลี่ยน
ที่แล้วๆมาปล่อยมันผ่านไป เรามาเริ่มต้นใหม่ คิดซะว่า ตอนนี้เรามีเงินอยู่ 70 ไม่ต้องไปสนใจเมื่อก่อน
แล้วก็หวังไปซัก 20% ต่อปี หรือไม่ก็มากกว่านี้ แต่อย่าไปหวังเยอะมากครับ เดี๋ยวจะกลับไปเล่นหุ้นด้วยความโลภอีก

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 22, 2006 11:31 pm
โดย woody
ยินดีต้อนรับครับ .... ว่าแต่ถ้าเป็นผมนะครับ จะลองขอหยุดแล้วพิจารณาสิ่งต่างๆ รอบตัวก่อนครับ...ทุกๆ คนที่ผมรู้จักที่ต้องการเริ่มลงทุนในหุ้นผมมักจะแนะนำว่าให้เริ่มต้นอ่านหนังสือต่างๆ เกี่ยวกับการลงทุนและสิ่งอื่นๆ ที่เกียวข้องก่อนซักปีนึง ระหว่างนี้อาจจะเอาเงินไปลงทุนในกองทุนรวมก็ได้เพื่อฝึกฝนเรื่องจิตใจเวลาเห็นพอร์ตขึ้นลง....

อย่างไรก็ดีขอให้คุณทุ่งทานพระจันทร์ประสบความสำเร็จกับแนวทาง VI ครับ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 22, 2006 11:32 pm
โดย ฐิติ
การเป็นVIที่ประสบความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ

กว่าจะซื้อหุ้นได้แต่ล่ะตัว ต้องดูหลายอย่างมาก เชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ แค่นี้ก็ตาลายแล้ว
ผมไม่ได้พูดให้หมดกำลังใจน่ะ แต่อยากให้เข้าใจว่า ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ อ.มนตรีเพิ่งพูดไป

VIก็เป็นแนวทางการลงทุนในหุ้นทางนึง ถ้าคุณไม่เข้าใจมันจริงๆ หรือใช้ไม่ชำนาญ เงินลงทุนก็เสียหายได้เหมือนกัน

ผมอยากบอกแค่นี้แหละ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 22, 2006 11:33 pm
โดย miracle
ไม่มีคำว่าสายไป
เมื่อคุณได้ลงมือทำไปแล้ว
มีแต่เสียใจว่า คุณไม่ได้ทำ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 22, 2006 11:46 pm
โดย nott
มีปัญหาขนาดที่ว่านี่น่าเห็นใจนะครับ ไงก็อย่าท้อสู้ต่อไปนะครับ เรื่องที่พลาดก็ถือว่าเป็นบทเรียน ตั้งหน้าตั้งตาศึกษาวิธีการลงทุนจากในเวบ thaivi นี้ดีกว่าครับ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 12:15 am
โดย worapong
ตอนนี้ผมคิดว่าให้ลืมเรื่องเงินต้นที่หายไป 30% ก่อนครับ เพราะนอกจากจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นแล้ว ยังอาจจะทำให้เครียดที่ต้องทำให้ได้ตามเป้าครับ จากนั้นก็ลองดูหุ้นในพอร์ตว่า ตัวที่เราถืออยู่นั้น เราเข้าใจมันไหม อนาคตของมันจะเป็นอย่างไร ผู้บริหารเป็นอย่างไร ราคาหุ้นแพงไปไหม ถ้าเราไม่เข้าใจมันหรือมันแพงไปก็ขายไปก่อนครับ จากนั้นก็ลองศึกษาดู คัดหุ้นที่เราเข้าใจ มีอนาคตสดใส ราคาไม่แพงเข้าพอร์ต คุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจหุ้นทุกตัวครับ คุณอาจไม่เข้าใจบริษัทที่ผม หรือคนอื่นๆในเวบถือหุ้นอยู่ แต่คุณก็อาจเข้าใจบางบริษัทที่คนอื่นๆไม่เข้าใจก็ได้ จากนั้นก็ค่อยมาดูราคาหุ้น ซึ่งผมคิดว่าวิธีประเมินมูลค่าหุ้น หาอ่านได้จากหลายเล่มครับ ขอโฆษณาให้คุณสุมาอี้แล้วกันครับ คือหนังสือวัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวคุณเอง หรือถ้าคิดง่ายๆสุดนะครับ ว่าถ้าคุณได้ปันผล 5% แล้วบริษัทยังโตได้อีกปีละ 10% ถ้าคุณถือไปนานๆ ก็น่าจะได้ผลตอบแทนปีละ 15% ถึงจะไม่ถูกหลักวิชาการนัก แต่ก็ง่ายๆ และช่วยให้คุณมีไอเดียว่าจะศึกษาต่อดีหรือตัดมันทิ้งซะ สู้ๆนะครับ ยังไงก็อย่าทิ้งงานประจำมาหมกมุ่นกับหุ้นมากเกินไปนะครับ เดี๋ยวคนรอบข้างจะเป็นห่วง แล้วก็หาเวลาไปออกกำลังกายบ้างนะครับ เพื่อสุขภาพดี แล้วก็จะได้ไม่เครียด

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 12:49 am
โดย sunrise
ต้องใจเย็นๆครับ

การที่อยากได้กำไรเยอะ มักจะเป็นผลให้เสียเยอะๆ

ผมเชื่อว่าความรู้สำคัญกว่ามากครับ
อยากได้ความรู้เยอะๆ แล้วศึกษาเยอะๆ แล้วเอามาใช้ให้ได้

เดี๋ยวจะเห็นผลเอง

แต่ต้องใช้เวลานะ :D

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 1:00 am
โดย yoyo
อยากจะเรียนถามว่า "มันสายไปไหม" ที่ผมจะกัดฟัน ลงทุนแบบ VI อย่างน้อยก็ขอทุนคืนบ้างก็ยังดี ภายใน 1 ปีนี้ พอทันไหมครับ และการเข้าลงทุนในช่วงนี้ ยังถือว่าแพงไปไหม หรือต้องรอ effect อะไรนั่นก่อนครับ..
ประโยคนี้ทำให้ผมกลัวครับ .. ไม่ได้สนใจเรื่องที่ว่าสายไปไหม แต่ห่วงเรื่อง "จะลงทุน vi เพื่อถอนทุนคืน" .. ผมว่าถ้าเริ่มต้นด้วยความคิดแบบนี้ ก็ยากที่จะใช้หลักการ vi ครับ

การลงทุนแบบ vi ที่ดีคือการลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงยไปเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง ใช้การโตแบบทบต้นที่ละน้อยเพื่อให้กลายเป็นก้อนใหญ่

ถ้าเป็น vi ที่ขยันหน่อย หวังผลตอบแทนซัก 20% กำลังดี ถ้า vi แบบมีเวลาน้อยหน่อย อาจจะหวังซัก 15% แต่ถ้าเป็น vi ใหม่มาก ดูงบไม่เป็น ประเมินราคาหุ้นไม่เป็น ผมว่าหวังซัก 5-10% ก็พอแล้วครับ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 1:01 am
โดย ksnk
ผมว่าสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือ ทัศนะคติการลงทุน กับ ความรู้ครับ ที่ต้องแก้ไขก่อนที่จะคิดลงทุน

Re: ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 1:06 am
โดย Penguins
น่าจะเริ่มจากตรงนี้ก่อน...
ทุ่งทานพระจันทร์ เขียน:เนื่องจากลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี แต่...อดทนไม่ไหว ขายออกมาเพื่อเล่นหุ้นปั่นเป็นประจำ

Re: ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 1:11 am
โดย Penguins
ทุ่งทานพระจันทร์ เขียน:ผมพยายามแก้ "สันดาน" ของผมหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 5:36 am
โดย 2 dogs
สวัสดีครับ เห็นที่pantipนานแล้วครับ ช่วงประมาณ หนูขิงปรากฏตัว  8)
ปัญหาหลักที่ทำให้การเล่นเก็งกำไรผิดพลาดไปหมด
ไม่ใช่เพราะว่าการที่เราวิเคราะห์ผิดเท่านั้นครับ

แต่เพราะว่า มีผู้คุมดูหุ้นตัวนั้น คอยดูแลอยู่ด้วย
การที่เราเคาะซื้อทีละ 1ล้านบาทหรือมากกว่า ในครั้งเดียว
ปรากฏการณ์ที่เป็นเรื่องปกติคือหุ้นจะหักหัวลงทันที และขังเราไว้
แล้วลากตัวอื่นไปเรื่อยๆ พอเราทนไม่ไหวขายขาดทุนออกมา
ผู้คุมก็จะลากหุ้นขึ้นมาเย้ยเรา ให้เราเจ็บใจ
นี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การเก็งกำไรให้รวยมันยากมาก
เพราะ โอกาสที่เราจะรอดไปจากสายตาผู้คุม แทบเป็นไปไม่ได้

และเท่าที่รู้คือคุณทุ่งทานพระจันทร์เล่นด้วยวงเงินหลายล้านบาท
ทำให้โอกาสกำไรมากๆเพราะเจ้ามือลากหุ้นที่เราถือ แทบไม่มี
เขานับหุ้นมาหมดแล้ว  หุ้นเขาหายไป1-2ล้านตัว ก็ต้องมาดูแล้ว
เหยื่อที่ไหนมาติดกับ  ถ้าเหยื่อติดมากๆ หุ้นก็ต้องลง
เหยื่อจะติดตอนไหนมากๆ -> ก็ตอนที่ขึ้นเยอะๆให้เห้นแท่งเขียวเยอะๆแล้ว
เป็นหลักธรรมชาติที่ยังไง คนเก็งกำไรด้วยวงเงินที่มีนัยยะ
(หลัก7-8แสนขึ้นไป)  จะต้องเจอกันทุกคน

ผมก็เคยเป็นผู้เก็งกำไรอย่างหนักก่อนที่จะผันตัวมาVI
สาเหตุหนึ่งก็เพราะว่า มันเป็นไปได้ยากมากที่วงเงิน
2-3ล้านบาทขึ้นไปจะรวยจากหุ้นเก็งกำไรตัวเดียวได้
ถ้ากระจายหลายตัว  โอกาสพลาดก็สูง ตามดูไม่ทันด้วย


ที่หวังจะเอาคืน  ผมคิดว่าไม่ยากมาก
แต่มันใช้เวลาบ้าง และอาจจะมากกว่า1ปี ในช่วงที่เรายังไม่เชี่ยวพอ
ควรอ่านหนังสือมากๆ ลองดูในร้อยคนร้อยเล่ม ก็ได้ครับ
มีหนังสือแนะนำดีๆเยอะ
และเล่มพื้นฐาน A Must สำหรับ VI ทุกท่าน
- ดร.นิเวศน์   ตีแตก
- peter lynch   one up on wall street
- phillip fisher   common stock uncommon profit

Re: ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 6:05 am
โดย naris
[quote="ทุ่งทานพระจันทร์"]สวัสดีครับ ผมมีเรื่องกลุ้มใจ (ที่น่าสมน้ำหน้า) มาเล่าให้ฟังครับ

ผมเริ่มเข้า Trade ในตลาดหุ้น หลังจากศึกษามาก่นเล่นประมาณ 2 ปี โดยตั้งปนิธานไว้ว่า จะลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานที่ดี แข็งแกร่ง

เมื่อเข้า Trade หุ้นครั้งแรกเมื่อประมาณ 6 เดือนที่แล้ว จนถึงวันนี้ เงินลงทุนผมเหลือเพียง 70% เท่านั้น เนื่องจากลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี แต่...อดทนไม่ไหว ขายออกมาเพื่อเล่นหุ้นปั่นเป็นประจำ ครั้งล่าสุดโดน STPI ลากไปติดดอย ตอนแรกกำไร 20% มั่นใจมากเลยซื้อเพิ่ม หลังจากซื้อเพิ่ม (หลายเท่าตัว) ได้ไม่นานก็เกิดแรงเทขายมหาศาล

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 8:20 am
โดย Viewtiful Investor
ที่ขาดทุนไปแล้วก็เป็น Sunk Cost นะครับ ยังไงก็แก้อดีตไม่ได้ น่าจะต้องเริ่มนับ 1 ใหม่

การเป็น VI นี่ก็เกี่ยวกับ Personality เหมือนกัน ไม่งั้นทุกคนในโลกคงเป็น VI กันหมด คุณทุ่งทานพระจันทร์ อาจจะต้องกลับมาดูตัวเองว่า อยากลงทุนแบบไหน เพราะตอนนี้ก็มีให้เลือกตั้งเยอะ เช่น

Commodity Options AFET
SET50 Index Future
Property Fund
Index Fund

พวกหุ้นปั่น ผมว่าก็น่าเล่น ถ้ารู้ว่า ราคาปลายทางเป็นเท่าไหร่ ปัญหาก็คือ มันไม่มีใครรู้ครับ เจ้ามือเองก็ไม่รู้หรอก ได้เหยื่อแล้วก็ไป แล้วจะเล่นทำม้ายยยย

ถ้าผมเกิดเป็น Trader ผมจะเล่น 2 ตัวแรกที่บอก อย่างน้อยก็ยังพอทำนายทิศทางได้ เล่นได้ทั้ง ลง และ ขึ้น หุ้นเล่นได้แต่ขึ้น ถ้าจะ Short ก็ต้อง SET50 อีก ไม่ปลื้มเลย

ดันโชคดีหรือร้ายก็ไม่รู้ที่เลือกมาเป็น VI ชีวิตเลยมีแต่ หุ้นๆๆๆ และ Property Fund ที่น่าเบื่อสุดๆ (แต่ก็กำไรดีนะ :D)

คนเราต้องทำอะไรที่ใจรัก ถึงจะออกมาดี ลองดูนะครับ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 8:27 am
โดย สุมาอี้
จะว่าไป ผมว่าชื่อแนวการลงทุนนี้เก๋ดีนะ

"แนวการลงทุนแบบไร้ทิศทาง"

ชื่อนี้แนวมากๆ ขายสุดๆ  

แซวเล่นครับ อย่าไปเครียด :lol:

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 8:28 am
โดย beammy
เริ่มต้นใหม่ได้ ครับ

ขอให้มีสติ สมาธิ ความอดทน การยับยั้งชั่งใจ การวิเคราะห์ข้อมูล รวมไปถึงการเข้าเวบ TVI  :D

แพ้ศึกย่อยๆ ผมก้อเคย ครับ แต่ผมไม่เคยแพ้สงครามใหญ่ๆ ครับ
_______________________________________

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 9:06 am
โดย HI.ผมเอง
เท่าที่อ่านมา

ลงทุนแบบviก็มีทั้งกำไรและขาดทุนครับ

ไม่ใช่กำไรอย่างเดียว :wink:

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 9:18 am
โดย jaychou
พี่ทุ่งฯครับ

แนะนำให้ลงทุนกับสุขภาพกายใจ ของตนและครอบครัวครับ ไม่มีขาดทุนยิ่งลงทุนยิ่งกำไรครับ ผมสังเกตหลายท่านในที่นี้ให้ความสำคัญกับการฝึกจิตไม่น้อยไปกว่าการลงทุนเลย อ.วิบูลย์ 007 (คาสิโนรอแยล?) ถึงกับแนะนำให้อ่านหนังสือธรรมะก่อนลงทุนด้วยซ้ำไป อ.พรชัยก็ออกหนังสือ "จิตวิทยาการลงทุน" เป็นหนังสือที่น่าอ่านทีเดียวครับ

ไว้หายบอบช้ำแล้วค่อยๆมาลุยหุ้นยังไม่สายครับ

ไม่ทราบวันที่ 2 ธันวาว่างหรือเปล่า ขอเชิญมางาน Meeting กันนะครับ ที่ตลาดหลักทรัพย์ จองได้ที่woody ในกระทู้แรกเลยครับ
สุมาอี้ เขียน:จะว่าไป ผมว่าชื่อแนวการลงทุนนี้เก๋ดีนะ
"แนวการลงทุนแบบไร้ทิศทาง"
คราวนี้ถามจริงๆ ที่เรียกว่า "Random Walk" มันเป็นยังไงครับ เคยได้ยินมานานแล้ว

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 9:26 am
โดย ด๊กดิงด่าง
ถอยไปตั้งหลักก่อน  ขายออกให้หมดไปตั้งสติให้ใจสงบข่มความเสียดายเสียใจให้ได้ก่อน  เงินที่เสียไปก็ถือเป็นค่าวิชาวิธีลงทุนที่ผิดพลาดแล้วไปหาวิชาวิธีลงทุนที่ถูกต้อง  ซึ่งใช้เงินน้อยกว่าแน่นอน  หนังสือไม่กี่เล่มและค่าชั่วโมงอินเตอร์เนตไม่กี่บาทต่อวันกับเวบไซต์เกี่ยวกับการลงทุนดีๆเช่นตลาดหลักทรัพย์ ไทยวีไอ กรมส่งเสริมการส่งออก  ศูนย์วิจัยกสิกรไทย  ประวัติผู้บริหาร ฯลฯอีกมากมาย  ที่ผ่านมาเหมือนคุณปาเป้าไม่ถูกมาตลอดเพราะไม่ได้ฝึกวิธีปาที่ถูกต้อง  เสียแรง(เงิน)ไปเยอะ  เป้าที่ถูกต้องเป็นจุดเล็กๆนิดเดียวแต่บริเวณรอบเป้านี่กว้างใหญ่มหาศาล ขืนทำต่อไปเรื่อยๆคงหมดแรง(เงิน)ซักวัน

ผมมีเทคนิคเล็กๆน้อยแบบมวยวัดที่ผมเคยฝึกตัวเองมานำเสนอ
  1.ประเมินความเปลี่ยนแปลง เริ่มจากตัวเราและคนรอบข้างแล้วค่อยๆกระจายไปสู่วงกว้าง(จุลภาคสู่มหภาค)เช่นเรากินเราใช้อะไรบ้างครอบครัวเราละ  ญาติพี่น้องเราละ  ชุมชนเราละ  เมืองที่เราอยู่ละ  ประเทศเราละ  โลกเราละ  แต่ละอย่างมีโอกาสเติบโตเรื่อยๆมั้ย  มีคนสนใจใช้มากขึ้นมั้ย
      -ตัวเราและครอบครัว ปัจจัยสี่ เสื้อผ้าอาหารเครื่องใช้ไม้สอยส่วนตัวต่างๆ
      -ชุมชนและเมืองที่เราอยู่ ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ  ไฟฟ้าประปาถนนสะพานโทรศัพท์  ห้างสรรสินค้า  สินเชื่อ  ธุรกิจบริการต่างๆ
      -ประเทศและโลก  เครือข่ายขนาดใหญ่ทั้งผลิตและบริการ  วัสดุก่อสร้าง  อาหารสำเร็จรูป  ขนส่งลำเลียง  ยานพาหนะ  ฐานข้อมูล  การเงิน  ฯลฯ(หมวดต่างๆในSET)

  2.ประเมินธุรกิจ(ตัวหุ้น) สินค้าแต่ละตัวใครผลิตใครขายบ้าง  ใครเป็นเจ้าของเทคโนโลยี่  ใครทำมานานกว่าหรือชำนาญกว่า   กิจการมีการเติบโตมาเรื่อยๆหรือปล่าว  ตอนนี้กิจการอยู่ในช่วงไหนของวงจรธุรกิจ  เริ่มลงทุน  ปรับโครงสร้างภายในให้ดีขึ้น  กำลังเป็นขาขึ้นลูกค้าเริ่มนิยมคู่แข่งยังไม่เกิด  หรืออิ่มตัวแล้ว  ปริมาณขายเต็มกำลังผลิต  มีการลงทุนใหม่ๆเพิ่ม

  3.ประเมินผู้บริหาร เทือกเถาเหล่ากอเป็นใครทำมาหากินอะไรมาบ้างความสำเร็จเป็นอย่างไรวิสัยทัศน์เกี่ยวกับธุรกิจยังไง เป็นคนดีมีคุณธรรม  ทะเลาะฟ้องร้องอะไรมาบ้าง

  4.สรุปและตัดสินใจ  ดูข้อมูลเชิงปริมาณ เช่นราคาหุ้นเมื่อเทียบกับกำไรต่อหุ้น อัตราเติบโตตามหนังสือที่หลายท่านได้แนะนำไปนำมาเทียบกับการประเมิน 3 ข้อข้างบน  แล้วถือยาวนะ  ต้องอดทนให้ไหว  ไม่ว่าจะซื้อหรือขาย

หลายท่านในไทยวีไอเคยบอกว่า ไม่รู้คือเสี่ยง

ถ้าไม่ขยันอ่านหาข้อมูลก่อนแต่ขยันคีย์บิด-ออฟเฟอร์ก็เท่ากับขยันเอาเงินไปแจกคนอื่น

ชอบชื่อคุณ  คงหมายถึงดวงจันทร์หลายร้อยดวง  ขอให้สำเร็จเหมือนความสว่างจากแสงจันทร์นะครับ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 9:37 am
โดย กระทิงแดง
สำหรับ คุณบัณฑิต อึ้งรังษี เชื่อว่า

"คนไทยทำอะไรไม่แพ้ชาติใดในโลก ถ้าเราเชื่อมั่นและฝึกฝน เหมือนเส้นทางสู่คาร์เนกี้ฮอลล์าของสุดยอดวาทยกรคนนี้ ซ้อม...ซ้อม...และก็ซ้อม"

ส่วนการลงทุนแนว VI ผมก็คิดว่าต้อง อ่าน อ่าน และก็อ่าน และก็ลองลงทุน ลองลงทุน และก็ลองลงทุน ตามแนวที่เราชอบครับ

ส่วนหนังสือการลงทุนแนว VI ก็ลองหาในกระทู้ที่นี้ดูครับ

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 24&start=0

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=21156

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 9:39 am
โดย Mon money
ผมมียาแก้วิเศษครับ ผมให้เพื่อนลองแล้ว หายไป2คนแล้วครับ
1ขายล้างปอด(ถ้าไม่มั่นใจว่าที่ถืออยู่นั้นดีจริง)
2ให้ติดตามหุ้นเหมือนเดิม แต่ห้ามซื้อขาย จนกว่าเราหายอยากค่อยซื้อขายได้(จุดนี้สำคัญที่สุด ถ้ายังห่วงมันจะวิ่ง แสดงว่ายังไม่พร้อมที่จะลงทุน ถ้ารู้สึกเบื่อราคาหุ้นเมื่อไหร่ ค่อยลงทุน)
3คัดหุ้นที่จะศึกษา(หามันในเวปtviนี่แหละ)พร้อมกับอ่านแนวviที่ประสบความสำเร็จ ถ้ามีความเชื่อศรัทธาในviแล้ว มันจะรักทางเย็นๆนี่เอง
4ให้ซื้อลงทุนเพียงน้อยและไม่เกิน3ตัว และติดตามอยู่เสมอๆ ถ้าคิดว่าเข้าใจธุรกิจและใจเย็นเมื่อไหร่ ค่อยลงเต็มตัวครับ

ปล.แนะนำให้อ่าน จิตวิทยาการลงทุน ของพี่พรชัยแปล และหลักการพนันของคุณสุมาอี้ครับ
นริศนี่มันอภิชาตศิษย์จริงๆ วันไหนแวะมากรุงเทพฯมาเยี่ยมเฮีย จะถ่ายทอดสุดยอดวิชาให้ เอาไหม?

อะ...มาที่คุณทุ่งกันหน่อย...

เรื่องของคุณไม่แปลกหรอก ปกติ...หลายคนในนี้เคยกันทั้งนั้น ผมก็เคย ไม่อยากจะบอกว่าเจ๋งเกือบหมดตัวเลยแหละ

คุณเล่นอยู่ในเกมส์ของเขา คุมเกมส์ทุกอย่าง จะไปเอาชนะเขาได้อย่างไง...

อย่างมากก็เป็นแค่เหาฉลาม โยนชิ้นเล็กชิ้นน้อยให้ก็ดีใจจะแย่

ทำตามคำแนะนำของคุณนริศนั่นแหละดีแล้ว ขายให้หมด กำเงินไว้ ดูเกมส์ต่อไปฝึกให้ใจนิ่งๆ หาความรู้เพิ่มเติม แล้วค่อยลงทุน

อย่าคิดเอาคืนเป็นอันขาด เพราะนั่นมันเป็นความคิดของผีพนัน

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 9:50 am
โดย akekarat
ผมว่าตอนนี้คุณหยุดก่อนดีกว่า ความรู้อะไรก็ไม่มีเลย แล้วจะมาเอาคืน 30% ที่เสียไป มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นนะครับ ตอนนี้คุณมีเงินต้นเหลือ 70% การจะเอาคืนมาได้หมายความว่าต้อง "เก็งกำไร/พนัน" ให้ได้ถึง 43% จากเงินที่เหลืออยู่ พักก่อนเหอะครับ กลับไปศึกษาหาความรู้ให้รู้เท่าทันตลาด แล้วค่อยมาใหม่ อีก 2-3 ปีก็ยังไม่สาย เงินแค่ไม่กี่หมืน ผมว่าเอาเวลาไปทำงาน ให้ครอบครัว คุ้มกว่าที่จะมาเครียด "เอาคืน" จาก "บ่อนถูกกฏหมาย" เยอะแยะ

ที่พูดมา เพราะผมคิดว่า ถ้าใช้ "ฝีมือ" คุณไม่มีทางทำได้ 43% ใน 1 ปี และที่สำคัญ ทุกอย่างก็พิสูจน์แล้วว่า คุณไม่มี "ดวง" ในการพนัน ณ บ่อนแห่งนี้ คุณใจไม่นิ่งพอ อดทนไม่ได้ รีบร้อนเกินไป อย่าว่าแต่ได้ 1% คืนมาเลย ผมกลัวว่า 70% ที่เหลือ ครอบครัวที่เหลือ สภาพจิตใจที่เหลือ งานของคุณ จะพังไปด้วยซะเปล่า ๆ

อย่ารีบร้อนเลยครับ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 10:25 am
โดย MO101
มีคนเป็นแบบคุณอีกหลายคนครับ
พึ่งเข้ามาเล่น จะให้กำไรกันเป็นกอบเป็นกำมันคงเล่นง่ายไปนิดครับ
ตอนนี้ก็ฝึกพัฒนาฝีมือไปก่อน วิชากล้าแข็งค่อยออกไปบู้ใหม่

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 10:43 am
โดย adi
Viewtiful Investor เขียน:ที่ขาดทุนไปแล้วก็เป็น Sunk Cost นะครับ ยังไงก็แก้อดีตไม่ได้ น่าจะต้องเริ่มนับ 1 ใหม่
x2

ท่องไว้ครับ sunk cost

ไม่ควรเอากำไร ขาดทุนในอดีตมาตัดสินใจลงทุน ต้องเริ่มตรงนี้ให้ได้ครับ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 10:44 am
โดย ลูกไม่ท้อ
เพิ่งจะอ่านหนังสือพิมพ์กรุงเทพ ธุรกิจที่สัมภาษณ์ คุณเกรียงไกร ศิระวณิชการ ที่เป็นผู้ที่ชนะรายการแฟนพันธุ์แท้ ตอนตลาดหุ้นไทย แกก็มีประโยคเด็ดๆอยู่ประโยคนึงนั้นคือ  เดิมก็ลงทุนแบบลองผิดลองถูกมาเหมือนกัน แล้วในที่สุดก็เปลี่ยนมาเป็นการลงทุนแบบเน้นคุณค่าซึ่งจะทำให้เอาชนะตลาดได้ในระยะยาว วิธีการในการลงทุนคือ ศึกษาทฤษฎีการลงทุนในอดีต และ อัพเดทข้อมูลที่เกิดขึ้นในปัจจุบันแล้วเอาสิ่งที่ได้จากในอดีตและปัจจุบันมาผนวกกันเป็นมูลค่าที่ควรจะเป็น ( แจ๋วไหมครับ )

(ทราบมาว่า แกขาดทุนไป 8,000 บาทจากการลงทุนในช่วงแรกที่เริ่มต้นที่เงิน 50,000 บาท ซึ่งก็ถือว่าไม่น้อยสำหรับการเริ่มต้นในตอนนั้นซึ่งเป็นช่วงที่อยู่ตอนชั้น ป.6 (อายุ 12 ปี )  แล้วในที่สุดแกทำให้เงินดังกล่าวกลายมาเป็นเงินล้านได้ในที่สุด แต่ไม่ใช่ในระยะเวลาสองสามปีนะครับ )

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 11:15 am
โดย น้ำครึ่งแก้ว
ไม่สายแน่นอนครับ คุณ ทุ่งทานพระจันทร์

อย่างที่พี่ๆหลายท่านแนะนำมา แล้ว ล้วนเป็นข้อคิดดีๆทั้งนั้นครับ
อย่ารีบร้อนจนลนลานครับ เพราะ ถ้าคุณมีเงิน 1 ล้านบาท แล้วทำให้
พอร์ตโตปีละ 30%ทุกปี   15 ปีผ่านไป    คุณจะมีเงิน 53 ล้านบาท
เพราะฉะนั้นอย่ารีบร้อนจะโต ปีละ 200-300 % นะครับ เพราะจะทำให้
เราจำต้องเลือกหุ้น ร้อน ( จนไหม้ ) เพื่อทำให้ได้ตามเป้า

แต่ถ้าห้ามใจ ไม่ได้ชอบความหวือหวา ก็ กันออกมา สัก 4-5 หมื่นมาจิ้ม
เล่นกับตัวที่ต้องการ ตั้งจุด cut และจุด profit ไว้ในใจ พอถึงก็ขาย
 
ส่วนเรื่องเสียค่าเล่าเรียนจากตลาดหลักทรัพย์ เป็นเรื่องธรรมดามากๆครับ
คิดว่าหลายๆคน มักจะเป็นอย่างคุณ ทุ่งฯ เหมือนกันตอนแรกๆที่เข้าตลาด

ขอให้โชคดี มีความสุขกับการลงทุนนะครับ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 11:20 am
โดย MarginofSafety
jaychou เขียน:คราวนี้ถามจริงๆ ที่เรียกว่า "Random Walk" มันเป็นยังไงครับ เคยได้ยินมานานแล้ว
ไปค้นมาฝากคุณเจย์
The theory that stock price changes have the same distribution and are independent of each other, so the past movement or trend of a stock price or market cannot be used to predict its future movement.  
 
In short, this is the idea that stocks take a random and unpredictable path. A follower of the random walk theory believes it's impossible to outperform the market without assuming additional risk. Critics of the theory, however, contend that stocks do maintain price trends over time - in other words, that it is possible to outperform the market by carefully selecting entry and exit points for equity investments.

This theory raised a lot of eyebrows in 1973 when author Burton Malkiel wrote "A Random Walk Down Wall Street", which remains on the top-seller list for finance books.
 


สำหรับเจ้าของกระทู้
ผมแนะนำว่าพยายามปรับเปลี่ยนทัศนคติครับ
นักลงทุนส่วนใหญ่แล้วเป็นเหมือนคุณคือขาดทุน
และก็เดินออกจากตลาดหลักทรัพย์ไป
นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมีน้อยมาก ไม่ถึง 10%
ดังนั้น ความสำเร็จในตลาดหลักทรัพย์ไม่ใช่อะไรที่จะได้มาง่ายๆ
แต่ผมคิดว่าสิ่งที่ยากกว่าก็คือ
การรักษาอัตราผลตอบแทนที่ดีให้ต่อเนื่องตลอดระยะเวลาการลงทุน

เริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนทัศนคติก่อน ซึ่งเริ่มได้จากการอ่านหนังสือการลงทุนดีๆ
และศึกษาจากผู้ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว และนำมาปรับให้เข้ากับตัวเรา
หากไม่เชื่อมั่นในแนวทางหรือความสามารถในการลงทุนของตัวเอง
กองทุนรวมน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าครับ
โชคดีครับ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 11:41 am
โดย tt
การเล่นแบบ VI นี่ยากมาก เพราะเราประเมินราคาหุ้นไม่เป็นถึงเป็นก็ใช่ว่าจะถูก สำหรับผมแนะนำให้ให้ DSM โดยใช้ผสมกันกับการเรื่องหุ้นที่ดีนะครับ
คุณก็จะได้ trade ด้วย มีหุ้นทีดีด้วย แน่นอนว่าผมตอบแทนอาจจะสู้ VI พันธ์แท้ไม่ได้หรอก แต่มันลดความเสี่ยงเราได้เยอะ เช่น ผมไม่รู้หรอกว่าผมควรขาย ILINK ราคาไหน จะถือหรือขาย ลองศึกษาดูนะครับ แนะนำหนังสือ เรื่อเล่าของคนล่าหาร นะครับ
     อ้อ แล้วก็อย่าซื้อหุ้นตามคนในนี้นะครับ บางทีมันขึ้นมามากแล้วพอคุณซื้อมั่งมันลง แล้วจะมาช้ำใจตัวเองว่าเป็น VI ก็ไม่ work อีก