หน้า 1 จากทั้งหมด 1

บริษัทแบบนี้น่าสนไหมครับ !!!!

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 27, 2006 9:29 pm
โดย LOSO
ในระหว่างปี 2547 บริษัทฯได้ตกลงรับงานก่อสร้างจากคู่สัญญาซึ่งเป็นบริษัทแห่งหนึ่งในต่างประเทศ  (“บริษัทคู่สัญญา”) โดยบริษัทฯได้เริ่มดำเนินงานก่อสร้างแล้วบางส่วน ต่อมาในไตรมาสที่หนึ่งของปี 2548 บริษัทฯได้ตกลงกับคู่สัญญาในการคืนงานดังกล่าว และบริษัทฯได้เรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับงานที่บริษัทฯได้ดำเนินการไปแล้ว อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังไม่ได้รับชำระหนี้จากคู่สัญญา ในไตรมาสที่สองของปี 2548 บริษัทฯได้ยื่นฟ้องคู่สัญญาเพื่อให้ชำระหนี้ค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นจำนวนเงินประมาณ 17.3 ล้านบาท และในไตรมาสที่สามของปี 2548 บริษัทคู่สัญญาได้เรียกร้องเงินค้ำประกันการปฏิบัติงานและเงินค้ำประกันการจ่ายเงินล่วงหน้าตามหนังสือค้ำประกันธนาคารซึ่งคิดเป็นจำนวนรวมประมาณ 0.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และยื่นฟ้องบริษัทฯให้จ่ายชดเชยค่าเสียหายที่เกิดจากการคืนงานดังกล่าว คิดเป็นจำนวนรวมประมาณ 6.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ วันที่ในงบดุล คดีดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล ซึ่งฝ่ายบริหารและที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทฯ ยังไม่สามารถคาดการณ์ถึงแนวโน้มของผลคดีได้

บริษัทแบบนี้น่าสนไหมครับ !!!!

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 27, 2006 9:34 pm
โดย Capo
อ่านแล้วแปลก ๆ ครับ
เหมือนขัดแย้งกันเอง
บริษัทฯได้ตกลงกับคู่สัญญาในการคืนงานดังกล่าว
บอกว่า "ตกลง" กันแล้ว
และยื่นฟ้องบริษัทฯให้จ่ายชดเชยค่าเสียหายที่เกิดจากการคืนงานดังกล่าว
แต่อันนี้บ.คุ๋สัญญษฟ้องเรียกค่าเสียหาย

ทำให้รู้สึกได้ว่า เขาไม่ได้ตกลงกันหรือเปล่าครับ

หรือว่าผมจุกจิกกับคำพูดมากเกินไป  :lol:

บริษัทแบบนี้น่าสนไหมครับ !!!!

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 27, 2006 10:05 pm
โดย LOSO
* รายได้จากการรับจ้างผลิต, การขายและบริการ เท่ากับ 290.96 ล้านบาท ลดลง
     60.13% เมื่อเทียบกับ 729.85 ล้านบาท สำหรับระยะเวลาเดียวกันในปี 2548
              * กำไรขั้นต้นจากการผลิต, การขายและบริการ เท่ากับ 104.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
     60.35%  เมื่อเทียบกับ 65.24 ล้านบาท สำหรับระยะเวลาเดียวกันในปี 2548
              * กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นในขณะที่รายได้ลดลงมาก มีสาเหตุหลักเนื่องมาจากโครงการ
     ที่บริษัทและบริษัทย่อยเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างร่วมกันโครงการหนึ่งซึ่งส่วนใหญ่ได้ดำเนินการ
     แล้วเสร็จไปในไตรมาสที่ 2 แต่เพิ่งมีการปิดโครงการกับลูกค้าเสร็จสิ้นในไตรมาสที่ 3
     ส่งผลให้บริษัทและบริษัทย่อยสามารถรับรู้กำไรทั้งจำนวนในไตรมาสนี้

บริษัทแบบนี้น่าสนไหมครับ !!!!

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 27, 2006 10:07 pm
โดย LOSO
การรับรู้รายได้   - การรับรู้กําไร ........................................

บริษัทแบบนี้น่าสนไหมครับ !!!!

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 27, 2006 10:15 pm
โดย ผู้ติดตาม
เอ้อแล้วคุณโลโซคิดว่า น่าสนใจมั้ยครับ ผมก็สงสัยในเรื่องการฟ้องร้องเหมือนกัน
เป็นปัญหาแรกๆ ที่ผมจะต้องไปถามในการประชุมผู้ถือหุ้นถ้ามีโอกาส
เพราะ ผมสนใจหุ้นตัวนี้

STPI

บริษัทแบบนี้น่าสนไหมครับ !!!!

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 27, 2006 10:57 pm
โดย LOSO
การรับรู้รายได้   - การรับรู้กําไร ........................................

Re: บริษัทแบบนี้น่าสนไหมครับ !!!!

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 28, 2006 3:21 pm
โดย key
[quote="LOSO"]ในระหว่างปี 2547 บริษัทฯได้ตกลงรับงานก่อสร้างจากคู่สัญญาซึ่งเป็นบริษัทแห่งหนึ่งในต่างประเทศ

บริษัทแบบนี้น่าสนไหมครับ !!!!

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 28, 2006 4:58 pm
โดย key
ROGERRABBIT007



Joined: 16 Nov 2006
Posts: 20

Posted: Tue Nov 28, 2006 12:13 pm    Post subject:    

--------------------------------------------------------------------------------

ประเด็นนี้ อยู่ท้ายสุดของ footnote ในงบสงสัยเพื่อนคงจะอ่านงบจนจบแล้วนะครับ
ประเด็นนี้ ผมเคยกังวลแล้วสอบถามไปที่บริษัท รับทราบมาว่าเป็นงานที่กลุ่มผู้บริหารชุดเก่ารับงานนี้ไว้ พอผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาเห็นว่าเป็นงานที่มีปัญหาและ มีความไม่ชัดเจนของแบบมาก รวมถึงแบบล่าช้า ถ้า stpi รับงานนี้คงจะขาดทุนค่อนข้างสูง ( เหมือน stec รับงาน airport link ที่โชว์ขาดทุนกว่า 2000 ล้าน ) จึงได้เจรจากับลูกค้า แต่ลูกค้าไม่ยอมให้ชะลอโครงการเนื่องจากหาคนทำไม่ได้ จึงฟ้องมาค่อนข้างจะมาก
เห็นทาง stpi ฟ้องกลับด้วยครับ
เรื่องคงจะต้องใช้เวลาอีกนานครับ คิดน่าจะเกือบ 5 ปี เพราะว่ายังต้องมีการกีฏา กันอีกคงไม่มีใครยอมกันนะครับ

ส่วนใหญ่บริษัทรับเหมา มีปัญหาแบบนี้ค่อนข้างมากนะครับ ค่อนข้างมาก เพื่อนลองไปcheck ดูนะครับ เพียงแต่จะบอกหรือเปล่า
ณ ปัจจุบัน ผู้บริหารมีการตั้งสำรอง ฉุกเฉิกไว้สูงนะครับ 100 กว่าล้านได้ เรื่องถ้าเป็นเหมือนทีม ผู้บริหารใหม่เมื่อ 3-4 ปี ที่แล้วน่ากลัวครับ เพราะว่า ล้มละลายไปเลย บริษัทน่าจะพิจารณาผลดีผลเสียเรียบร้อยแล้วนะครับ

ผู้บริหารทีมใหม่ ตั้งแต่เข้ามาบริหารจะมีการตั้งสำรองไว้ตลอดเวลา ถ้าเพื่อนสังเกตในงบ ผมจึงรู้สึกสบายใจในการถือหุ้นตัวนี้ และ 3-4 ปีที่แล้วกับปัจจุบัน ต้อง เรียกว่านรก กับ สวรรค์  ราคาที่เห็นในอดีตมีแต่เก็งกำไร เงินสดก็ไม่มี เทียบกับปัจจุบัน เงินสด 700 ล้าน และยังไม่รวมทรัพย์สินต่าง ทั้งที่ดิน ที่ราคาแสนถูก แถวบางนา
โอกาส ทางธุรกิจอีกมาก
ตอนนี้ผมทิ้งประเด็นเรื่องการฟ้องร้องนี้ไปเรียบร้อยแล้ว

ผมเพียงปล่อยให้บริษัทแสดงศักยาภาพ หลังจากที่ฟื้นตัวมา 100 % แล้ว

พอดีก๊อปที่คุณ roger ตอบไว้อีกกระทู้หนึ่งครับ   :lol: