Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ตอนนี้มีธนาคารแห่งหนึ่งในประเทศไทย
ได้เปลี่ยนแปลงระบบการกดATM ทุกครั้งที่กดเงินออกจากตู้ATM
จะมีการถามเสมอว่า ต้องการSlipหรือไม่ และมีหน้าจอการยืนยันยอดเงินที่กดและยอดเงินคงเหลือในบัญชี
อันนี้เป็นการลดต้นทุนของธนาคารหรือเปล่า

แต่ทำไมถึงได้ยังเก็บค่าธรรมเนียมในการใช้บัตรเท่าเดิมคือปีละ 100-200 บาทต่อ1บัตรต่อ1ปี ด้วยล่ะ

แถมสลิปที่กดได้กระดาษก็เริ่มหดสั้นลงเรื่อยๆๆๆ งานนี้จะลดcostไปถึงไหน

ที่สำคัญอีกประเด็นคือ เวลาต่อครั้งในการกดตังค์เพิ่มขึ้นเพราะ คนต้องมองดูยอดจากหน้าจอไม่ใช่ดึงกระดาษออกมาดูแล้วทิ้งไปเหมือนเมื่อก่อนนี้
ทำให้ตอนแรกในการเปลี่ยนระบบสำหรับผู้ไม่ชินต้องอ่านหน้าจอเสียเวลาประมาณ 1-5 นาทีต่อคนในการทำรายการ อีกต่างหาก

แล้วคุณคิดเห็นอย่างไงกับการลดต้นทุนของธนาคารดังกล่าวด้วย
น่าจะมีคนเรียกร้องหน่อยน่า แค่กระดาษเล็กๆๆๆ ยังให้ไม่ได้เลย

ATM เร็วกว่า SLIP เยอะครับ

คนละเรื่องเลย เอา BackBone ไปเทียบกับ Modem

แต่ตอนนี้ ATM ไม่เห็นมีใครใช้แล้วนะครับ พวก 10GBASE มาแรง

เอ้อ..ขอโทษครับ เข้าใจผิด

กระดาษลดลงก็ดีครับ ทำลายป่าไม้ลดลง เห็นด้วยๆ

คนต้องมองดูยอดจากหน้าจอไม่ใช่ดึงกระดาษออกมาดูแล้วทิ้งไปเหมือนเมื่อก่อนนี้

ก็เพราะอย่างนี้แหละครับ
ไม่ยอมเก็บ slip ไว้ ทิ้งกันเกลื่อนนน

ก็ดีครับ เห็นแต่เศษ สลิปหน้าตู้เอทีเอ็ม
ถามก่อนก็ดีครับ เพราะว่าบางทีอาจต้องใช้ เช่นโอนเงิน แล้วแฟกซ์ใบสลิปตาม หรือว่า ต้องการเลขสลิปการโอนจากตู้

 เรื่องเงิน 100-200 บาท/ปี ผมว่าก็ต้องเก้บเป็นธรรมดาถ้าจะใช้ ATM
แต่ว่า เปิด บ/ช.ธนาคารใหม่แล้วต้องบังคับทำบัตรทุก บ/ช.นี่ก็รับไม่ได้เหมือนกัน (ก็ตูไม่อยากได้ บัตรนี่หว่า)  8)

Eto Demerzel เขียน: :lovl:

ผมเชียร์ FDDI ละกันครับ ผมว่า Metro LAN น่าจะมานะครับ

นึกว่าจะไปใช้ไร้สายกันหมดซะอีก

ถ้าคนส่วนใหญ่ไม่เอา slip ผมว่ากดเลือกไม่เอา เสียเวลาน้อยกว่าพิมพ์ slip นะครับ

Eto Demerzel เขียน:เรื่องลดกระดาษ เมื่อไหร่ผมจะถอนเงินสดผ่าน Internet ได้นะครับ
สะดวกดี จะได้ไม่ต้องเดินหาตู้เอทีเอ็ม กดจากที่บ้านได้เลย

แล้วจะให้เงินมันไหลออกมาทางไหนครับ คงผ่านสายโทรศัพท์มากับคลื่นความถี่อินเตอร์เนตมาไม่ไหวแน่  :lol:  :lol:

Eto Demerzel เขียน:เรื่องลดกระดาษ เมื่อไหร่ผมจะถอนเงินสดผ่าน Internet ได้นะครับ
สะดวกดี จะได้ไม่ต้องเดินหาตู้เอทีเอ็ม กดจากที่บ้านได้เลย

พี่ eto อย่าลืมซื้อ print ดีๆซักเครื่องด้วยนะครับ ... เดี๋ยว print ไม่สวย  :lol:

[quote="Onokung"]แต่ว่า เปิด บ/ช.ธนาคารใหม่แล้วต้องบังคับทำบัตรทุก บ/ช.นี่ก็รับไม่ได้เหมือนกัน (ก็ตูไม่อยากได้ บัตรนี่หว่า)

Eto Demerzel เขียน:เรื่องลดกระดาษ เมื่อไหร่ผมจะถอนเงินสดผ่าน Internet ได้นะครับ
สะดวกดี จะได้ไม่ต้องเดินหาตู้เอทีเอ็ม กดจากที่บ้านได้เลย

ส่วนมากผู้เป็นภรรยามีความสามารถพิเศษในการกดจากที่บ้านเลยครับ โดยเฉพาะวันที่เงินเดือนสามีออก  :lol:

ผมว่าที่ใกล้เคียงก็น่าจะเป็นเงินยี่ห้อ"อาม่า" อ่ะครับ
คงพัฒนาระบบให้เติมผ่าน Internet Banking ได้ไม่ยาก ...  :lol:
(หรือว่ามีแล้ว ไม่เคยใช้ ...  :D )

----------------

เรื่อง ATM กับ Slip ผมเห็นว่าดีแล้วครับ
คนที่ไม่สนใจที่จะเก็บ Slip ทิ้งเกลื่อนตามตู้ ก็จะได้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพด้วย
ส่วนคนที่รอบคอบที่กดเงินสดทุกครั้งต้องมีหลักฐาน
ก็สามารถเลือกให้พิมพ์ Slip ได้ตามปกติ
ธนาคารก็ประหยัดต้นทุน และ(คิดว่า) น่าจะให้บริการได้เร็วขึ้น
ต้นทุนสังคมหรือ External Cost ที่ทำให้บ้านเมืองสกปรกก็ลดลง
สรุปว่าน่าจะ win - win ด้วยกันทุกฝ่าย ...  :D

เรื่องค่าธรรมเนียมของธนาคารพาณิชย์ไทย  เป็นรายได้ที่ธนาคารส่วนใหญ่พยายามที่จะเพิ่ม

เพียงแต่.....  เป็นการเพิ่มค่าธรรมเนียมที่ไม่ยุติธรรมต่อลูกค้าเท่าไร

ธนาคารพาณิชย์ที่เก่าแก่ที่สุดของไทย  เก็บค่าธรรมเนียมในการรักษาบัญชีกระแสรายวันที่ไม่มีการเดินบัญชี  เดือนละ 100 บาทครับ

ขอย้ำว่าเดือนละ 100 บาท  จะแพงอะไรขนาดนั้น

มีเงินในบัญชี 2,000 บาท  ไม่ได้ดอกเบี้ยสักสตางค์เดียว  ยังโดนหักเงินเดือนละ 100 บาท

ไม่แฟร์ครับ

เอาเชคไปขึ้นจ่างสาขา คิด 1% เฉยเลย (ค่าเนตเวิร์คหรือไง)
เชคก็แพงขึ้น 3 เท่าตัว
ทำรายการผ่านอินเตอร์เนตมันก็ยังจะคิด fee อะไรกันต้องไปทำที่สาขาให้มันวุ่นวาย คนแน่นๆหรือไงถึงไม่เสียตังค์ งั้นมันจะลงทุนทำเครือข่ายไปทำไม

พยายามกันจนน่าเกลียด

ดีครับ ประหยัดต้นทุน ค่าธรรมเนียมแพงนิดแพงหน่อยน่า อย่าคิดมาก (ถือหุ้นแบ้งค์อยู่  :lol:  )

ผมใช้ ATM แบงค์ที่นี่ มีนานแล้วครับ ที่ถามว่า จะเอา slip หรือไม่เอา

แต่เท่ไปกว่านั้น หลังจากคำถาม จะเอา slip หรือเปล่า

เค้าจะถามว่า ยินดีบริจาคให้กาชาด (Red Cross) 1 AED (ประมาณ 10 บาท) หรือเปล่า  ถ้า Yes เค้าก็จะหักบัญชีให้เลย


ส่วน internet banking แต่ก่อน ก็ login user กับ password เฉยๆ

ตอนนี้ เค้าไล่แจก secureID (ฟรี) ให้กับลูกค้าแต่ละราย คือมันจะเป็น device เล็กๆ run ตัวเลข 6 หลัก เปลี่ยนทุกนาที  ของใครของมัน  สำหรับพกติดตัว คล้ายพวงกุญแจ  เวลา login ต้องเพิ่มกรอกเลข 6 ตัวให้ตรงด้วย

[quote="ปุย"]
ตอนนี้ เค้าไล่แจก secureID (ฟรี) ให้กับลูกค้าแต่ละราย คือมันจะเป็น device เล็กๆ run ตัวเลข 6 หลัก เปลี่ยนทุกนาที

[quote="HVI"][quote="ปุย"]
ตอนนี้ เค้าไล่แจก secureID (ฟรี) ให้กับลูกค้าแต่ละราย คือมันจะเป็น device เล็กๆ run ตัวเลข 6 หลัก เปลี่ยนทุกนาที

เอ้อ... เอ่ยถึง FDDI ก็น่าจะเก่าไม่แพ้กันนะครับท่านอีโต้ เด๋วนี้เค้ากิ๊ก(กะบิต)กันหมดแร้ว :lovl:

เนี่ยและนับวันมันจะยิ่งซับซ้อนเพราะคนมันขาดเรื่อง จริยธรรมและคุณธรรม ขาดในส่วนของเรื่องการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เอาแต่เงินทองของนอกกาย แต่สุดท้ายลืมไปว่า เงินที่ได้นั้นเราเอาไปแล้วได้ใช้หรือเปล่า รวยไปอาจจะไม่แผ่นดินให้อยู่ก็ได้

ถ้าไม่มีแผ่นดินให้อยู่นี่ลำบากครับ จะเดินสายพวกนี้จะให้เนี๊ยบก็ต้องฝังดิน โผล่ออกมาก็ต้องขึ้นเสาปักดินอีก สรุปว่าแผ่นดินจำเป็นมากๆครับ

TRAFFIC ขนาดสมัยนี้ ถ้าต้อง Wireless กันหมด กลัวว่า EMI จะกินสมองเอาครับ

ควรดูแลกันดีๆครับ ถ้าอยากเล่นเน็ตแรงๆ

jaychou เขียน: ถ้าไม่มีแผ่นดินให้อยู่นี่ลำบากครับ จะเดินสายพวกนี้จะให้เนี๊ยบก็ต้องฝังดิน โผล่ออกมาก็ต้องขึ้นเสาปักดินอีก สรุปว่าแผ่นดินจำเป็นมากๆครับ

TRAFFIC ขนาดสมัยนี้ ถ้าต้อง Wireless กันหมด กลัวว่า EMI จะกินสมองเอาครับ

ควรดูแลกันดีๆครับ ถ้าอยากเล่นเน็ตแรงๆ

มิน่า... น้องลิ้งค์ขึ้นเอาๆ ...ฮ่า

ที่สังเกต  ส่วนใหญ่ถามยอดคงเหลือก่อนทำรายการ ถ้าเสียบบัตรใส่รหัสผ่านแล้วแสดงยอดที่ถอนได้ให้ที่หน้าจอมาเลยจะดีไม่น้อย
ซึ่ง bank คงไม่บริการจุดนี้ให้ เพราะต้องส่งข้อมูลผ่านศูนย์switching สองเที่ยว เอาเป็นว่าถ้าสั่งถอนหรือโอนแล้วเงินไม่พอ ให้แจ้งยอดที่ถอนได้มาด้วย

เรื่อง Slip  ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
เเต่อยากให้เน้นเรื่องค่าธรรมเนียมในการกด ATM  
อย่างที่  USA เวลากดATM เขาจะเเจ้งค่าธรรมเนียมในการกด ก่อนว่ายอมรับหรือไม่ ถ้าเรากดOK เเล้วเราจึงกดเงินได้ โดยเฉพาะกดข้าม bank หรือ ข้าม รัฐ จะโดน charge เยอะมาก

อย่างของเราหลับหูหลับตา เก็บเราเลย ไม่ถามซักคำ

 :?  :?  :?  :?  :?  :?

[quote="Raphin Phraiwal"][quote="Onokung"]แต่ว่า เปิด บ/ช.ธนาคารใหม่แล้วต้องบังคับทำบัตรทุก บ/ช.นี่ก็รับไม่ได้เหมือนกัน (ก็ตูไม่อยากได้ บัตรนี่หว่า)

เด๋วนี้พนง.แบงก์มีแรงกดดันเรื่องเพิ่ม fee income มาก แบงก์พยายามมุ่งหารายได้ทางนี้เป็นหลักแทน interest income

มองในแง่ต้นทุนของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์แล้ว การเก็บค่าธรรมเนียมการถอนข้ามเครือข่ายถือเมื่อใช้เครื่องเอทีเอ็มเกินกี่ครั้งๆต่อเดือนครั้งละสามบาทนั้นไม่แพงนะครับ เพราะระหว่างธนาคารกันเองก็มีการเก็บเงินกันจริง แพงกว่าสามบาทด้วยซ้ำ
แต่ละธนาคารจึงพยายามเพิ่มจำนวนเครื่องเอทีเอ็มกันเต็มที่ไงครับ
สำหรับค่าธรรมเนียมบัญชีกระแสรายวัน นั่นก็อีก ถ้าเทียบกับที่สหรัฐฯแล้ว ต้องบอกว่าถูกว่ากันอย่างไม่น่าเชื่อ

การที่ธนาคารไทยเก็บค่าธรรมเนียมพวกนี้ได้น้อย เค้าก็จะเลี่ยงไปเก็บค่าธรรมเนียมอื่นๆที่อาจจะ sensitive กับลูกค้าน้อยกว่าครับ