Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

Anyone following up market price of this product ?
Watch the weather in the southern hemisphere and the demand driven market in the next 1 year.

สนใจครับ   ขอศึกษาเพิ่มเติมก่อน
ไม่แน่ใจว่ามีความสัมพันธ์กับราคาถั่วเหลืองด้วยหรือไม่

น้ำมันปาล์ม ทำไมไปสัมพันธ์กับถั่วเหลืองครับ

nanakorn เขียน:น้ำมันปาล์ม ทำไมไปสัมพันธ์กับถั่วเหลืองครับ

สัมพันธ์ทางอ้อมสำหรับตลาดผู้ใช้ครับ

แต่จุดแข็งของน้ำมันปาล์มที่น้ำมันถั่วเหลืองแทนไม่ได้คือ ค่าความร้อนจำเพาะสูงกว่าครับ

แต่จุดที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงราคาจริงๆอยู่ที่ ผลผลิตของเพื่อนบ้านมากกว่าครับ

อ่านจากรายงานที่ประชุมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มที่บาหลีเมื่อเร็ว ๆ นี้ วิทยากรกล่าวไว้ว่า ราคาน้ำมันถั่วเหลืองแพงกว่าน้ำมันปาล์มประมาณ $100/mt ความต้องการน้ำมันพืชในอินเดียสูงขึ้นมาก ขณะที่อุปทานเพิ่มขึ้นในสัดส่วนน้อยกว่ามาก ฉะนั้นการนำเข้าน้ำมันพืชในปีหน้าจะสูงขึ้นมาก และมีการคาดว่ารัฐบาลอินเดียคงต้องลดภาษีนำเข้า และตัวที่ประโยชน์ก็คือน้ำมันปาล์มซึ่งยังคงถูกที่สุด

อุปสงค์ใหม่ที่เพิ่มขึ้น ก็คือBiodiesel ซึ่งหลายประเทศมีการบังคับใช้แล้ว ทำให้ความต้องการน้ำมันปาล์มจะเพิ่มขึ้น เพียงแต่ยังไม่มีตัวเลขที่แน่นอน

ด้านอุปทาน สต๊อคน้ำมันปาล์มในมาเลย์เซียค่อนข้างต่ำ ฉะนั้น ราคาควรเพิ่มสูงขึ้น เพื่อให้จำนวนการส่งออกลดน้อยลง เพื่อให้สต๊อคมีพอเพียงจนถึงฤดูการผลิตใหม่

ปรากฎการณ์ El Nino ก็จะกระทบการผลิตในอินโดนิเซีย

วิทยาการท่านนี้ คาดการณ์การนำเข้าน้ำมันพืชในอินเดีย ควรจะเพิ่มขึ้น ประมาณ 1.5 ล้านตันในปีหน้า เทียบกับปีนี้ และ เขาค่อนข้างจะ bullish มากในเรื่องราคาน้ำมันปาล์ม

ผลดีก็ควรจะมีเอี่ยวถึงไทยด้วยนะ เพียงแต่ในเดือนนี้และน่าจะถึงมกราฯ ได้ยินว่าผลผลิตปาล์มได้ลดน้อยลงมากตามฤดูกาล

lychee เขียน:อ่านจากรายงานที่ประชุมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มที่บาหลีเมื่อเร็ว ๆ นี้ วิทยากรกล่าวไว้ว่า ราคาน้ำมันถั่วเหลืองแพงกว่าน้ำมันปาล์มประมาณ $100/mt ความต้องการน้ำมันพืชในอินเดียสูงขึ้นมาก ขณะที่อุปทานเพิ่มขึ้นในสัดส่วนน้อยกว่ามาก ฉะนั้นการนำเข้าน้ำมันพืชในปีหน้าจะสูงขึ้นมาก และมีการคาดว่ารัฐบาลอินเดียคงต้องลดภาษีนำเข้า และตัวที่ประโยชน์ก็คือน้ำมันปาล์มซึ่งยังคงถูกที่สุด

อุปสงค์ใหม่ที่เพิ่มขึ้น ก็คือBiodiesel ซึ่งหลายประเทศมีการบังคับใช้แล้ว ทำให้ความต้องการน้ำมันปาล์มจะเพิ่มขึ้น เพียงแต่ยังไม่มีตัวเลขที่แน่นอน

ด้านอุปทาน สต๊อคน้ำมันปาล์มในมาเลย์เซียค่อนข้างต่ำ ฉะนั้น ราคาควรเพิ่มสูงขึ้น เพื่อให้จำนวนการส่งออกลดน้อยลง เพื่อให้สต๊อคมีพอเพียงจนถึงฤดูการผลิตใหม่

ปรากฎการณ์ El Nino ก็จะกระทบการผลิตในอินโดนิเซีย

วิทยาการท่านนี้ คาดการณ์การนำเข้าน้ำมันพืชในอินเดีย ควรจะเพิ่มขึ้น ประมาณ 1.5 ล้านตันในปีหน้า เทียบกับปีนี้ และ เขาค่อนข้างจะ bullish มากในเรื่องราคาน้ำมันปาล์ม

ผลดีก็ควรจะมีเอี่ยวถึงไทยด้วยนะ เพียงแต่ในเดือนนี้และน่าจะถึงมกราฯ ได้ยินว่าผลผลิตปาล์มได้ลดน้อยลงมากตามฤดูกาล

แต่ปัญหาที่ผมเดาไม่เคยออก หลังจากเคยเดามาประมาณ3ปีแล้ว เพราะ...

องค์ประกอบมีอยู่2มิติคือ
-ด้านของผู้ปลูกปาล์มส่งโรงงาน เช่น upoic uvan
-ด้านของผู้กลั่นและจำหน่ายน้ำมัน เช่น cpi lst (แต่ก็มีมิติของผู้ปลูกปาล์มอยู่ด้วย)

และปัจจัยที่มีผลต่อกำไรขององค์ประกอบทั้ง2มิติคือ
-ความต้องการหลักๆของตลาดโลก(ต้องจับตาดูจีน กับ อินเดีย)
-ความต้องการแฝงที่ขึ้นกับราคาน้ำมันในตลาดโลก ที่ทำให้เกิดการใช้พลังงานทดแทน(ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนในระยะ1-2ปีนี้)
-สภาวะที่ส่งผลกับผลผลิต(ภัยแล้งทำให้ผลผลิตลดลง ราคาผลผลิตก็เพิ่ม แต่กำไรกลับลดลง) เท่าที่ผ่านมา ถ้าภัยแล้งกับกรา ถึงราคาดี ก็กำไรลด สู้ผลผลิตมากแต่ราคาถูกไม่ได้)

ณ.สถาณะการณ์ตอนนี้ ผลปาล์มดิบขาดแคลน เนื่องจากมีorderที่จีนเข้ามามาก ประจวบกับผลผลิตช่วงนี้น้อยตามฤดูการณ์ ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มได้ถีบตัวขึ้นสูง แต่ก็ไม่มั่นใจว่าโรงกลั่นหรือผู้ปลูกใครจะได้ผลประโยชน์
ถ้าผู้ปลูกไม่มีของส่ง กำไรไตรมาท4ก็ไม่น่าดี แต่ถ้ามีของส่งก็กำไรดีแน่ๆ ส่วนโรงกลั่น ถ้ามีการตุนสต๊อกไว้มาก ก็น่าจะกำไรดี แต่ถ้าไปรับorderไว้ล่วงหน้า กำไรก็หดหาย

สรุปว่า ผมค่อนข้างคลุกคลีกับน้ำมันปาล์ม(เพราะมีการสั่งซื้อสินค้าทุกๆเดือน และมีการคุยกับเซลและผู้จัดการบ่อยครั้ง) ยังคาดการณ์ผิดบ่อยครั้ง ผมก็เลยเป็นแต่ผู้ดูครับ  8)

[quote="naris"]
แต่ปัญหาที่ผมเดาไม่เคยออก หลังจากเคยเดามาประมาณ3ปีแล้ว เพราะ...

องค์ประกอบมีอยู่2มิติคือ
-ด้านของผู้ปลูกปาล์มส่งโรงงาน เช่น upoic uvan
-ด้านของผู้กลั่นและจำหน่ายน้ำมัน เช่น cpi lst (แต่ก็มีมิติของผู้ปลูกปาล์มอยู่ด้วย)

และปัจจัยที่มีผลต่อกำไรขององค์ประกอบทั้ง2มิติคือ
-ความต้องการหลักๆของตลาดโลก(ต้องจับตาดูจีน กับ อินเดีย)
-ความต้องการแฝงที่ขึ้นกับราคาน้ำมันในตลาดโลก ที่ทำให้เกิดการใช้พลังงานทดแทน(ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนในระยะ1-2ปีนี้)
-สภาวะที่ส่งผลกับผลผลิต(ภัยแล้งทำให้ผลผลิตลดลง ราคาผลผลิตก็เพิ่ม แต่กำไรกลับลดลง) เท่าที่ผ่านมา ถ้าภัยแล้งกับกรา ถึงราคาดี ก็กำไรลด สู้ผลผลิตมากแต่ราคาถูกไม่ได้)

ณ.สถาณะการณ์ตอนนี้ ผลปาล์มดิบขาดแคลน เนื่องจากมีorderที่จีนเข้ามามาก ประจวบกับผลผลิตช่วงนี้น้อยตามฤดูการณ์ ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มได้ถีบตัวขึ้นสูง แต่ก็ไม่มั่นใจว่าโรงกลั่นหรือผู้ปลูกใครจะได้ผลประโยชน์
ถ้าผู้ปลูกไม่มีของส่ง กำไรไตรมาท4ก็ไม่น่าดี แต่ถ้ามีของส่งก็กำไรดีแน่ๆ ส่วนโรงกลั่น ถ้ามีการตุนสต๊อกไว้มาก ก็น่าจะกำไรดี แต่ถ้าไปรับorderไว้ล่วงหน้า กำไรก็หดหาย

สรุปว่า ผมค่อนข้างคลุกคลีกับน้ำมันปาล์ม(เพราะมีการสั่งซื้อสินค้าทุกๆเดือน และมีการคุยกับเซลและผู้จัดการบ่อยครั้ง) ยังคาดการณ์ผิดบ่อยครั้ง ผมก็เลยเป็นแต่ผู้ดูครับ

อีกตัวที่น่าสนใจก็น่าจะเป็นคู่แข่งน้ำมันพืชชนิดอื่นที่น่าจะได้รับอานิสงค์ไปด้วย ใช่มั้ยครับพี่lychee ....แต่ก็คงเน้นไปที่เจ้าของสวน หรือคนที่มีสต็อกเยอะในช่วงราคาถูก(ถั่งเหลืองคงไม่สามารถเก็บสต็อกได้นานเท่าไหร่มั้งครับ)

วันก่อนดู CNBC เค้าพูดกันเรื่อง Trans fat ดูแล้วก็งงๆ วันนี้ เลยลอง google ศึกษาดูว่ามันคืออะไร ก็เลยรู้ว่ามันเป็น fat ที่มนุษย์สร้างขึ้น ทำให้เกิดเส้นเลือดอุดตัน ดูเหมือนว่าในสหรัฐกำลังเป็นประเด็น ว่าจะไม่ให้ใช้น้ำมันแบบเดิมๆ ที่มี Trans fat ทำอาหาร มันก็เลยมีทางเลือก อีกทาง ก็คือใช้น้ำมันปาล์ม ยังไงลองอ่านข่าวนี้ดู สำหรับคนที่สนใจ น้ำมันพืช หรือ สวนปาล์ม

http://www.croklaan.com/News_events/New ... PageId=938

จากข่าวเรื่อง trans fat น้ำมันถั่วเหลืองกับน้ำมันปาล์มจะได้ประโยชน์ครับ
จริงๆแล้ว น้ำมันถั่วเหลืองก็ยังมีคุณภาพที่ดีกว่าน้ำมันปาล์มในเชิงสุขภาพ
แต่ไม่แน่ใจว่าเวลาทำอาหารทอด  น้ำมันปาล์มน่าจะทอดได้กรอบและ
น่าทานกว่าใช้น้ำมันถั่วเหลืองหรือเปล่า

ผมกำลังหาข้อมูลเรื่องนี้เช่นกันครับ
อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของอุตสหกรรมปาล์มเลยทีเดียว



ประเด็นแรก

* ในอดีตปาล์มมักใช้อุปโภคและใช้ในอุตสากรรมอาหาร เครื่องสำอางค์  แต่การที่น้ำมันแพงขึ้น มีการส่งเสริมให้เผาน้ำมันพืชเพื่อสร้างพลังงาน ดังนั้นหาก biodiesel มีการส่งเสริมอย่างแพร่หลาย พืชน้ำมันที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดคือปาล์ม เพราะมีราคาถูกที่สุด

น้ำมันปาล์ม(ไตรกลีเซอร์ไรด์,fatty acid) +เอทธิล-เมธิลแอลกอฮอร์ = เอทธิล-เมธิลเอสเทอร์ หรือ biodiese นั่นเองl +กรีเซอรอล เป็นผลพลอยได้

หากมีการส่งเสริมการใช้ biodeisel จริงจัง ความต้องการน้ำมันพืช จะเพิ่มขึ้นมหาศาล ยุโรปกำลังตื่นตัวเรื่องนี้ ในขณะที่มาเลเซียออกข่าวว่าจะสร้างโรงงานผลิตไปโอดีเซล 75 โรง  ส่วนไทยโรงงานผลิตขนาดใหญ่ของ ptt  ไทยโอลิโอเคมี จะเสร็จในอีก 1-2 ปีหน้า กำลังการผลิต 600,000 ลิตรต่อวัน ไม่รวมโรงงานของบางจาก และอื่นๆ อีก

น่าเชื่อได้ว่าในอนาคตนำมันปาล์มน่าจะราคาสูงขึ้นครับ  เพราะความต้องการเพิ่ม แต่ผลผลิตเพิ่มขึ้นน้อยกว่า เนื่องจากราคาไม่จูงใจให้ปลูก เนื่องจากยางพารายังทรงตัวราคาสูง นอกจากนั้นการปลูกปาล์มต้องอาศัยฝนมาก ไทยมีพื้นที่ที่เหมาะสมไม่กี่จังหวัดเท่านั้น (3-4 จังหวัดเช่น กระบี่ พังงา ระนอง สุราษ ตราด) เท่านั้น พื่นที่อื่นปลูกได้ แต่เปอร์เซนต์น้ำมันน้อย ไม่คุ้ม

ประเด็นที่ 2

ตลาดหลักของน้ำมันปาล์มคือยุโรป จีน อินเดีย ปากี ซึ่งเศรษกิจกำลังรุ่งเรื่องทำให้มีการบริโภคน้ำมันมากขึ้น และจากข่าวที่คุณ BKP นำมาให้อ่าน น่าสนใจมากครับ ที่ว่าตลาดน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกในอเมริกา กำลังหันมาใช้น้ำมันปาล์มแทนน้ำมันถั่วเหลือง เหตุผลคือมีความปลอดภัยมากกว่าการใช้นำมันถั่วเหลืองที่เติมไฮโดรเจนเพื่อให้อยู่ในรูปที่เหมาะสมในการผสมอาหาร ต้องติดตามประเด็นนี้ดีๆครับ


หุ้นตัวไหนในตลาดหุ้นได้รับประโยชน์ก็ดูดีๆครับ
ผมสนใจแต่ยังไม่ได้ซื้อ และคงไม่ซื้อในเร็วๆนี้ครับ รอดูความชัดเจนก่อนดีกว่าครับ...

ขอรบกวนถามหน่อยคับว่า ข่าวที่ว่าโรงงานน้ำมันปาล์มทิ้งนำเสียลงแม่น้ำตาปี ทำให้แม่น้ำตาปีเน่าเสีย ปลาตายจำนวนมาก ทราบรึยังคับว่าเป็นโรงงานของ บ. อะไร และต้องจ่ายค่าปรับ และชดเชยแก่ผู้เลี้ยงปลาเท่าไรคับ

โรงงานที่โดนสั่งปิดปรับปรุงเป็นโรงงานขนาดเล็ก ของคนในพื่นที่ครับ สถานะการณ์ไตรมาศ 4 ผลผลิตปาลม์จะน้อยกว่าไตรมาศสามเล็กน้อยแต่จะดีกว่า ปีก่อนเป็นอย่างมาก เรื่องสต๊อกสินค้าน้ำมันปาลม์ดิบเก็บได้ประมาณสองเดือน ก็อาจจะทำให้ช่วยได้ในการรักษาระดับยอดขาย และ margin ในไตรมาศ4ได้ สถานะการณ์ในปีหน้า น่าจะดีจากภาวะฝนที่ดีในปีนี้ รวมทั้งบริษัทบางแห่งที่มีสวนเอง ก็จะมีผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจากปาลม์ที่เริ่มให้ผลได้มากขึ้นด้วย โดยส่วนใหญ่เขาจะให้น้ำหนักกับคุณภาพของผลปาลม์มากกว่า เพราะสถานะการณ์ ต้องถือว่าวัตถุไม่ค่อยเพียงพออยู่แล้ว ราคาน้ำมันปาลม์เพิ่มขึ้นคนที่ได้ประโยชน์จริงๆคือเจ้าที่มีสวนเองมากกว่า

ขอความรู้คับ เห็นว่าผลปาล์มสดควรนำไปบีบให้ได้น้ำมันปาล์มดิบภายใน 7วัน (ไม่แน่ใจคับว่าถ้าหลัง 7 วัน จะมีผลต่อคุณภาพหรือปริมาณน้ำมันปาล์มดิบ ใครรู้ช่วยบอกด้วยคับ และเพราะอะไร) แล้วถ้าเป็นน้ำมันปาล์มดิบล่ะคับ ต้องกลั่นเป็นน้ำมันปาล์มภายในกี่วัน หรือไม่จำเป็นกี่วันก็ได้ไม่มีผลต่อคุณภาพน้ำมันปาล์ม ขอบคุณคับ

tatandchin เขียน:ขอความรู้คับ เห็นว่าผลปาล์มสดควรนำไปบีบให้ได้น้ำมันปาล์มดิบภายใน 7วัน (ไม่แน่ใจคับว่าถ้าหลัง 7 วัน จะมีผลต่อคุณภาพหรือปริมาณน้ำมันปาล์มดิบ ใครรู้ช่วยบอกด้วยคับ และเพราะอะไร) แล้วถ้าเป็นน้ำมันปาล์มดิบล่ะคับ ต้องกลั่นเป็นน้ำมันปาล์มภายในกี่วัน หรือไม่จำเป็นกี่วันก็ได้ไม่มีผลต่อคุณภาพน้ำมันปาล์ม ขอบคุณคับ

เท่าที่ทราบต้องหีบภายใน 24 ชม. ครับ ดังนั้นสวนควรอยู่ใกล้โรงงาน โรงงานควรอยู่ใกล้สวน ถ้านานกว่า 24 ชม คงจะเกิดปฎิกิริยาออกซิเดชั่น และเกิดจากเอนไซร์ในตัวผลปาล์มเอง ทำให้เกิดกลิ่นหืนและองค์ประกอบทางเคมีเปลี่ยนไปครับ

แต่หากหีบเป็นน้ำมันปาล์มดิบแล้ว สามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 2-3 เดือนครับ ถ้าเกินนี้จะทำให้ค่า fatty acid เกินมาตรฐาน ประมาณนี้ครับ

ข้อมูลจากที่เคยศึกษา uvan นะครับ ลองตรวจสอบอีกครั้ง

ต้องขอโทษคับ 24 ชม. (ไม่ใช่ 7 วัน)    อย่างที่พี่ลูกอิสานว่านั่นแหละคับ ต้องขอบคุณพี่ลูกอิสานคับที่ช่วยแก้ไขที่ผิดและให้ความรู้เพิ่มคับ

ผลปาล์มสด ตามทฤษฎีคือ 24 ชม. ต้องรีบนำมาหีบ นีว่ากันถึงผลปาล์มที่สุกเต็มที่ พร้อมจะหีบได้ แต่ในหลักความเป็นจริงขึ้นอยู่กับฤดูการณ์ ในหน้าฝนผลปาล์มจะสุกเต็มที่ ต้องหีบภายใน 24 ชม. ไม่งั้นจะมีผลกับค่าของ FFA (free fatty acid) จะสูงขึ้น และอัตราการสูญเสียจากการขนย้ายก้อจะมากขึ้น แต่ในหน้าแล้งทิ้งไว้สัก 7 วัน ก้อยังไม่เป็นปัญหา

นโยบาย ไบโอดีเซล ยังไม่ชัดเจน

ปีนี้ เท่าที่ลงไปใต้ คุยกับคนที่ขาย ต้นกล้ายางและปาล์ม แถว ชุมพร ถึงสุราษณธานี
 
 บอกว่า ขายได้แต่กล้ายาง กล้าปาล์ม แทบขายไม่ได้เลย  
ได้คุยกับคนมาซื้อกล้ายาง ก้บอกว่า นี่ฉันโค่น ยาง มาปลูกปาล์มเลยนะ เป็นร้อย ไร่  ปาล์มไม่ไหว  ไม่คุ้ม ขาดทุนตลอด หากได้ กิโลละ3 บาทกว่ายังพอสู้ได้ ตอนนี้ เลยเอายางก่อน

 ผมสงสัยว่าเค้าลืมอะไรไปหรือเปล่า  ว่า  ยางน่ะ  7 ปี ถึงเปิดกรีด  ปาล์ม 3ปี ก็ เก็บเกี่ยวได้แล้ว  

 ผมกำลังกลัวว่า เกิด ภายใน สองปี นี้ นโยบายไบโอดีเซล เป็นจริง  เค้าจะโค่นสวนยางที่เพิ่งปลูก ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว มา ปลูกปาล์มแทนจริงๆเล้ยย

 แต่ เห็น ชุมพร น้ำมันปาล์ม สนับสนุนคนให้ปลูก อยู่ครับ จะมาขอเช่าที่บ้านผมตรงระนอง ปลูกด้วย

ราคาน่ะขึ้นแน่ครับ น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบตรงอย่างหนึ่งของผม ตอนนี้ผมซื้อตุนไว้เรียบร้อยแล้วครับ

ตอนฝ่ายจัดซื้อบอกผมว่าราคาน้ำมันปาล์มขึ้นต้องสต๊อกไว้ ผมก็มาดู uvan กับ lst ครับ

ปัญหาคือว่าผมไม่รู้ว่าใครได้ผลประโยชน์จากการขึ้นราคาครับ
UVAN หรือ LST ดูไม่ออกครับ

UVAN ถ้าผลผลิตดีถึงกำไรเยอะ ดูเหมือน Qจะมีผลมากกว่า P
LST ผลิตถ้าราคาต้นทุนขึ้น ราคาขายก็ขึ้นมันจะได้ประโยชน์ตรงไหน ยกเว้นว่าเป็นเคส ราคาสต๊อคเก่า แต่ราคา LST ก็ขึ้นมาเยอะซะจนน่ากลัว

ไม่รู้จริงๆแหะ

พี่คนเรือ VI ทำไมดูแค่ uvan กับ lts เท่านั้นล่ะคับ
upoic ก็ทำเหมือน uvan มีสวนตนเอง+สัมปทาน และบีบนำมันปาล์มดิบ
ส่วน CPI ก็เป็นทั้งผู้ปลูก บีบน้ำมันปาล์มดิบ และกลั่นน้ำมันปาล์ม เองเลย
ขอความรู้ด้วยคับ

[/quote][/code]

ไม่ได้มีความรู้มากครับ แค่ดูตัวที่คุ้นเคยมากที่สุด ผมถือ UVAN นิดหน่อยตั้งแต่ IPO พึ่งขายไปก่อนหน้านี้ เพราะต้องการเคลียร์พอร์ต ตัวนี้ปันผลดีจริงๆแต่มีน้อยครับเลยขายไป ไม่ได้สนใจเรื่องปาล์มเลย เคยศึกษาก่อนuvan ทำ IPOพอดีเพื่อนเคยอยู่ บัวหลวงทำดีลนี้เลยขอความรู้จากเค้าแล้วซื้อ IPO มานิดหน่อย หลังจากนั้นไม่ได้ตามอีกเลย

ส่วน LST รู้ว่าเป็นผู้ผลิต และถือ UPOIC อยู่ด้วยเลยเค้าไปดู แต่ดูไม่ออกน่ะเลยไม่ได้ซื้อสักตัว

ท่านที่ bid LST ตอนนี้ค่อยๆก็ได้ครับ ไก่ตื่นหมดแล้ว