หน้า 1 จากทั้งหมด 1

Back to the future

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 4:04 pm
โดย por_jai
8) ได้อ่านบทความล่าสุดของดร.แล้ว
     ยกนิ้วโป้งให้2นิ้วเลยครับ
     สำหรับ วีไอ ที่ไม่รู้จักโลกของวีเอสซักเท่าไหร่อย่างผม
     กระจ่างจริงๆครับ

ปั่นหุ้นคุณค่า โดย ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

ในระยะหลัง ๆ นี้ หุ้น คุณค่า หลาย ๆ ตัววิ่งเหมือนติดจรวดจนดูคล้ายกับเป็น หุ้นปั่น  หุ้นเหล่านั้น จะถูกปั่นจริงหรือไม่คงจะบอกได้ยาก  แต่ถ้าถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการปั่นหุ้น Value  คำตอบของผมก็คือ  ลองฟังคำสารภาพของ  Jesse Livermore นักเก็งกำไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงปี 1923 ก่อนที่จะมีกฎหมาย กลต. ที่ห้ามการปั่นหุ้น คำบอกเล่าของเขาปรากฏอยู่ในหนังสือคลาสสิคเรื่อง Reminiscences of a Stock Operator  หรือ บันทึกความทรงจำของนักเล่นหุ้น และต่อไปนี้คือเรื่องราวและเท็คนิคที่เขาใช้ในการปั่นหุ้นคุณค่า



               หุ้นที่พูดถึงคือหุ้น Imperial Steel (IS) ซึ่งเป็นหุ้นที่เพิ่งเข้ามาจดทะเบียนในตลาด มีการทำ IPO โดยการขายหุ้นให้กับประชาชนคิดเป็น 30 % ของหุ้นทั้งหมด เจ้าของกิจการเป็นคนที่มีชื่อเสียงดีและหุ้นมีราคาไม่แพง  อย่างไรก็ตาม  หลังจากเข้าเทรดแล้ว  หุ้นก็เงียบเหงา  และแม้ว่าโบรกเกอร์ผู้จัดจำหน่ายหุ้นจะบอกว่ากำไรของบริษัทจะดีกว่าที่คาดและแนวโน้มน่าจะดีแต่มันก็ไม่หวือหวา   ความน่าสนใจในแง่ของการเก็งกำไรยังไม่มี  ในด้านของนักลงทุนเอง  ก็ยังไม่แน่ใจในด้านของความแน่นอนของกำไรและเงินปันผลเพราะเป็นหุ้นใหม่  ราคาหุ้นจึงค่อนข้างนิ่ง  ไม่ขึ้นและไม่ลง  ที่สำคัญกว่าคือ แทบไม่มีการซื้อขาย เรียกว่าเป็นหุ้นตาย  คุณซื้อแล้วก็เหมือนเก็บศพ  ขายไม่ได้ เพราะราคาจะตกมาก



               วันหนึ่ง  เจ้าของมาติดต่อ Livermore ขอให้ช่วยทำตลาดให้หุ้นมีการซื้อขายคึกคักและมีราคาสูงขึ้นเพื่อที่ว่ากลุ่มเจ้าของเดิมที่ถือหุ้นอยู่ 70% จะได้สามารถขายหุ้นได้ในราคาที่ดีขึ้น   หลังจากตรวจดู  ศึกษา และวิเคราะห์ข้อมูลของกิจการอย่างละเอียดและพบว่ากิจการมีคุณค่าคุ้มกับราคาหุ้นในขณะนั้น Livermore ก็ตอบตกลงโดยมีเงื่อนไขว่า  ข้อแรก เขาจะได้รับสิทธิ์ที่จะซื้อหุ้น IS 100,000 หุ้นที่ราคา 70-100 เหรียญ ซึ่งเขาคิดว่าถึงจะเป็นค่าจ้างที่ดูเหมือนจะมาก  แต่ถ้าเจ้าของจะขายเองในตลาดคงจะขายมากขนาดนั้นไม่ได้  อย่างมากก็ขายได้แค่ 50,000 หุ้นที่ 70 เหรียญ  ข้อสอง  เจ้าของหุ้นทั้งหมดจะต้องนำหุ้นมาเก็บไว้ในทรัสต์เพื่อกันไม่ให้คนใดคนหนึ่งแอบขายหุ้นในระหว่างที่เขาจะ ปั่น  เจ้าของหุ้นตอบตกลง  



               สิ่งที่ Livermore จะต้องทำก็คือ  เขาจะต้องทำตลาดให้หุ้นมีการซื้อขายคล่องและมีราคาที่สูงกว่า 70 เหรียญเพื่อที่เขาจะได้ใช้สิทธิ์ซื้อหุ้น 100,000 และขายทำกำไรในตลาดได้  เขาต้องตรวจสอบดูว่าจะมีหุ้นออกมาขายมากน้อยเท่าไรจากโบรกเกอร์ซึ่งในสมัยนั้นเป็นคนที่จะรู้ออเดอร์ที่อยู่ในมือ  เมื่อเขาพบว่ามีไม่มาก  เขาก็กวาดซื้อไล่ราคาที่เริ่มจาก 70 เหรียญ  เขารู้ว่าการที่หุ้นวิ่งอย่างถูกต้องจะนำให้มีออเดอร์ซื้อหุ้นตามมา เช่นเดียวกับออเดอร์ขาย ที่จะเข้ามาเหมือนกัน  



               Livermore ไม่ได้ปล่อยข่าวอะไรเลยเกี่ยวกับหุ้น IS แต่เขารู้ว่าเขาจะต้องสร้างกระแสโดยวิธีการประชาสัมพันธ์ที่ดีที่สุดเพื่อ โฆษณา ราคาหุ้น  เขาคิดว่าข้อมูลที่เที่ยงตรงและน่าเชื่อถือจะต้องถูกเผยแพร่สู่สาธารณชน  แต่เขาไม่ต้องทำเอง  ราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นไปจะทำหน้าที่นั้นเอง  นั่นคือ  เมื่อหุ้นวิ่ง  คนก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  หนังสือพิมพ์ก็จะต้องวิ่งไปหาข้อมูลเพื่อจะอธิบายว่าทำไมหุ้นขึ้น  ดังนั้น  คนปั่นหุ้นจริง ๆ แล้วไม่ต้องพูดหรือทำอะไร  หนังสือพิมพ์จะเป็นคนเผยแพร่ข้อมูลทั้งหมด รวมทั้งข่าวลือต่าง ๆ  Livermore ไม่ต้องพูดเอง  แต่ถ้ามีใครมาถาม  เขาก็จะแสดงความเห็นสนับสนุน



               เมื่อหุ้น IS วิ่งขึ้นก็มีคนเริ่มซื้อตาม  Livermore จะขายหุ้นเพื่อดูแลให้ราคาวิ่งขึ้นอย่างมีจังหวะจะโคน  หลักการก็คือ  การดูความต้องการซื้อและขายให้สัมพันธ์กันตลอดเวลา เพื่อสร้างแนวโน้มให้เห็นว่าหุ้นกำลังเป็นกระทิง  เมื่อหุ้นขึ้นไปถึงจุดหนึ่งมันก็จะหยุดโดยเฉพาะเมื่อเขาหยุดซื้อและนี่ทำให้คนที่เข้ามาเล่นผิดหวังและเริ่มขายซึ่งทำให้ราคาเริ่มตกลง   เมื่อราคาตกลงถึงจุดหนึ่ง  เขาก็จะเริ่มเข้าไปไล่ซื้อใหม่เพื่อลากราคาขึ้นมาโดยการทำซ้ำแบบเดิมอีก  การทำราคาในรอบหลังนั้น  เขาจะลากราคาให้สูงกว่าการขึ้นในรอบก่อนหน้าเสมอ    การไล่ราคานั้นในบางครั้งเมื่อไม่มีออเดอร์ขายเหลือเขาก็จะ กระชาก  ราคาให้หุ้นวิ่งไปแรงมากเพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับหุ้น  ซึ่งเขาคิดว่านี่เป็นการประชาสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม



               ในการทำดังกล่าว  เขาได้สร้างตลาดให้กับหุ้น IS ทำให้หุ้นมีสภาพคล่องที่ทำให้คนมั่นใจที่จะเข้ามาเล่นเพราะหุ้นนั้นซื้อง่ายขายคล่อง  คนไม่กลัวว่าซื้อแล้วจะติดหุ้นขายไม่ได้  ถึงจุดนี้ ราคาหุ้นวิ่งขึ้นไปเป็น 100 เหรียญและคนก็เชื่อว่ามีแนวโน้มว่าจะขึ้นไปได้อีก 30% อย่างไม่ยากเย็น ก็ทำไมจะไม่ได้  มันเป็นหุ้นดี คนจำนวนมากคิดอย่างนั้น  และการที่จะขายหุ้นสัก 100,000 หุ้นก็ไม่น่าจะมีปัญหา  Livermore ทำสำเร็จ  อย่างไรก็ตาม  ถึงจุดนี้  หุ้นเริ่มติดตลาด  นักลงทุนสถาบันบางรายต้องการหุ้นล็อตใหญ่เพื่อการลงทุน  ดังนั้น  แทนที่จะขายในตลาด เขาก็ใช้สิทธ์ซื้อหุ้นราคาต่ำ  100,000 หุ้นและขายให้กับนักลงทุนสถาบันแทน  เขาทำกำไรมหาศาลโดยใช้เงินเข้าไปเสี่ยงปั่นหุ้นเพียงเล็กน้อย  นั่นคือ เขาซื้อหุ้นไปเพียง 7,000 หุ้นในราคาเฉลี่ย 85 เหรียญ  



               ทั้งหมดนั้นก็คือการปั่นหุ้นของเซียนคนหนึ่งในตลาดหุ้นอเมริกันเมื่อกว่า 80 ปีที่ผ่านมา  ตลาดหุ้นไทย ในวันนี้  เท่าที่ผมดู มีอะไรหลายอย่างใกล้เคียงกับตลาดอเมริกันในวันนั้น  และแม้ว่าในวันนี้ของเราจะมี กลต. และมีกฎหมายห้ามปั่นหุ้น  แต่ผมเชื่อว่ามีหุ้นหลายตัวที่อาจจะมีการปั่นในลักษณะคล้ายคลึงกันอยู่  การปั่น หุ้นคุณค่า อาจจะดูว่าไม่น่ากลัวมองจากสายตาคนทั่วไป  แต่สำหรับนักลงทุนแล้ว  ความเสียหายก็อาจจะหนักไม่แพ้การปั่นหุ้นเน่า  เหตุผลก็คือ  คนมักจะไม่ตระหนักว่าหุ้นนั้นมีการปั่นและคนเข้าไปลงทุนอาจจะไม่ได้ระวัง  ในขณะที่หุ้นเน่านั้น  คนที่เข้าไปเล่นต่างก็ระวังตัวกันมาก

Back to the future

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 4:14 pm
โดย beammy
แสดงว่า

Margin of Safety

ก้อยังใช้ได้ในทุกสถานการณ์

ใช่ไหมครับพี่พอใจ ...

Back to the future

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 4:53 pm
โดย por_jai
แต่สำหรับนักลงทุนแล้ว  ความเสียหายก็อาจจะหนักไม่แพ้การปั่นหุ้นเน่า  

8) แม่นแล้วครับพี่บีม
    ที่โค้ดไว้เป็นคำตอบสุดท้ายยย

Back to the future

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 4:55 pm
โดย moonkiss
อ่านดูก็ไม่เห็นว่าคนซื้อจะแย่ตรงไหน ถ้าหุ้นมีมูลค่าของมันตามราคาที่มันเป็น
คนปั่นขึ้นเป็นเพียงคนปลุกคนในตลาดว่ามองมาที่หุ้นตัวนี้หน่อยซิ คนถือชอบ คนซื้อถูกใจ คนปั่นรวย ไม่ใช่ วิน-วิน แต่เป็น วิน-วิน-วิน
ตราบใดยังประเมินราคาเหมาะสมในใจได้ ไม่หลงไปกับความฝันถึงราคาในอนาคตตามกระแสตลาด ผมว่าหุ้นนั้นๆก็ยังปลอดภัยพอจะลงทุน
ไม่รู้จิครับ
ผมชอบความเสี่ยงหน่อยๆอะ สนุกเร้าใจดี

Back to the future

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 5:07 pm
โดย moonkiss
ไปหาอ่านฉบับ eng มาแล้วครับ หาไม่เจอว่าตอน Livingston ถอนตัว ราคาหุ้นเป็นไปอย่างไร
อยากรู้จัง
:?:  :?:  :?:

Back to the future

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 5:26 pm
โดย moonkiss
พี่อีโต้ แปลหน่อยก๊าบ
ไม่เก๊ท

Back to the future

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 5:32 pm
โดย moonkiss
อ่อออ พิมพ์ชื่อผิด มั่วไปโลด อิอิ

Back to the future

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 6:59 pm
โดย ดร.โหน่ง
Reminiscences of a Stock Operator  ได้ยินชื่อหนังสือเล่มนี้เป็นครั้งที่สองแล้วครับในเว็บนี้ พรุ่งนี้จะไปkinokuniya เก็บมาเข้ากรุครับ น่าสนใจมากครับ สิ่งๆดีจากพี่พอใจอีกเช่นเคย   :wink:  นี่ใกล้ปีใหม่แล้ว ถ้าน้องๆอย่างผมอยากจะไปสวัสดีปีใหม่ พี่พอใจจะอนุญาตไหมครับ กระเช้าสำหรับพี่ผมเตรียมเรียบร้อยแล้ว ขาดแค่อย่างเดียวไม่รู้จะไปหาพี่ยังไง  :lol:

Back to the future

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 7:44 pm
โดย matrix
เรื่องที่ดร.และพี่พอใจเอามาลงนี้...

ตลาดบ้านอื่นเค้าเรียก Market Maker
ถ้าขึ้นทะเบียนไว้อย่างถูกต้อง สามารถทำได้ครับ

Market Maker สามารถซื้อขายหุ้นเพื่อชี้นำตลาดได้
แต่ต้องรายงานกลต.  และสามารถตรวจสอบได้ด้วย

เพราะซื้อนำด้วยพื้นฐานที่เป็นจริง   ให้ข่าวที่ถูกต้อง  
ไม่ได้ให้ข่าวเพื่อหลอกลวง...  เพื่อหวังประโยชน์อื่นแอบแฝง


บ้านเราก็มีครับ...  

ปัจจุบันตลท.แต่งตั้ง Market Maker ที่ถูกต้องตามกฏหมาย
ในตลาด TFEX ไว้ 4 ราย มีใครบ้างลองหากันดูครับ
ทั้งนี้เหตุผลเพื่อกระตุ้นการซื้อขายให้คึกคัก


ส่วนนักลงทุนจะขาดทุนหรือกำไรนั้น
ไม่ใช่หน้าที่ของ Market Maker ครับ
เป็นความสามารถส่วนตัวของ นลท. เอง   :shock:


เค้าเรียกปั่นแบบได้รับอนุญาตตามกฏหมาย
เหมือน " หวยบนดิน "   ทำนองนั้นแหละครับ....    :wink:

Re: Back to the future

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 7:59 pm
โดย chatchai
[quote="por_jai"]เมื่อหุ้นวิ่ง

Back to the future

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 8:07 pm
โดย jaychou
พี่อิโต้อ่านโจนาทาน ลิฟวิงสตัน:นกนางนวล ด้วยเหรอครับ

Back to the future

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 9:47 pm
โดย atsu
[quote="Eto Demerzel"][quote="moonkiss"]ไปหาอ่านฉบับ eng มาแล้วครับ หาไม่เจอว่าตอน Livingston ถอนตัว ราคาหุ้นเป็นไปอย่างไร
อยากรู้จัง
:?:

Thanks,

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 10:16 pm
โดย Pinola
Thank you so much krub.

This is really help during the time where you can't find any reasons of surging.

Gold is gold..

Back to the future

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 10:43 pm
โดย por_jai
[quote="ดร.โหน่ง"]Reminiscences of a Stock Operator

Back to the future

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 11:05 pm
โดย por_jai
รูปภาพ

8) มือถือผม 08-1807-6943
    ถ้าดร.โหน่งอยากทราบว่าข้อมือตัวเองดีหรือเปล่า
    ก็มา5โมง
    ถ้ามาจิบเบียร์จิบไวน์ก็ทุ่มนึงเป็นต้นไปครับ

Back to the future

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 19, 2006 12:25 am
โดย bigshow
เปรียบเทียบประมาณหุ้นโรงพยาบาลตอนนี้หรือเปล่า

Back to the future

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 19, 2006 6:19 am
โดย ดร.โหน่ง
ขอบคุณครับ  :pray: ผมไปครับพี่  :wink:

Back to the future

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 19, 2006 6:43 am
โดย aot
ผมไปด้วยตน  ดูแผนที่แล้วยังงงๆ

หุ้นที่เหมือนตามที่ ดร. เขียน ในอดีด เคยมีให้เห็น
ตอนนั้นตลาดไม่ดี แต่หุ้น v..g (ณ.ขณะนั้น) ถือว่าเป็นหุ้นพื้นฐานดีมาก
เจ้าของ(ปัจจุบันเสียชีวืตแล้ว)ได้ตกลงกับนักปั่นกลุ่มหนึ่ง
ให้ทำราคา พร้อมกับจะออก warrant  

หุ้นได้วิ่งขึ้นจากราคา 6 บาทไปราคา 13 บาทเพื่อ xw หลัง xw
แล้วอยู่ราคานั้นจน warrantเข้า trade แล้วราคาก็ปรับลดลง  ไม่นานมันก็กลับขึนไป trade ที่ประมาณ 15 บาทเพราะพื้นฐานดี และได้มีการขาย big lot .ให้กองทุน ทำให้ ชาว vi ในห้องนี้ไปติดอยู่หลายคน
เพราะหลังจากนั้น ราคาปรับลงตลอด จาก 15 บาทไป 4 บาทต้นๆ
จากพื้นฐานที่ค่อย ๆ เปลื่ยนไป

สำหรับปัจจุบัน ดร. หมายถึงหุ้นตัวไหนให้พี่ por_jai ไปนอน+คิด+เอา

Back to the future

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 19, 2006 11:05 am
โดย por_jai
aot เขียน:
สำหรับปัจจุบัน ดร. หมายถึงหุ้นตัวไหนให้พี่ por_jai ไปนอน+คิด+เอา
8) หมอนี่เหมือนเป็นเอ็นไซโคพีเดียเคลื่อนที่เลย
    สำหรับเรื่องที่ดร.ว่าไว้
    ส่วนที่หมอว่า ปัจจุบัน เป็นตัวไหน
    ผมว่าผมไม่ต้องคิดมาก หรอกครับ
    มีมากกว่าหนึ่งบริษัทครับที่เข้าข่าย
    ก็อย่างนี้แหละ
    ธรรมดาโลก
    สิ่งเหล่านี้ทำให้ตลาดหุ้นมีเสน์ห์อย่างน่าประหลาด....